November 22, 2024

มนุษยชาติเผาผลาญทรัพยากรที่โลกผลิตได้ของปีนี้หมดแล้วในวันที่ 1 สิงหาคม 2567 โดยเครือข่ายรอยเท้านิเวศโลก หรือ Global Footprint Network (GFN) กำหนดวัน Earth Overshoot Day เพื่อสร้างความตระหนักถึงการใช้ทรัพยากรเกินขีดจำกัดในแต่ละปี ซึ่งปีนี้ GFN คำนวณว่าต้องใช้โลกถึง 1.75 ใบ เพื่อรองรับความต้องการของประชากรทั่วโลก 

ทรู คอร์ปอเรชั่น ชวนคืนสมดุลทรัพยากร เลื่อนวันหนี้นิเวศโลก คืนทรัพยากรในอนาคตที่หยิบยืมจากคนรุ่นหลัง กับ 3 ตัวอย่างใกล้ตัวที่ทำได้ทันที 

  1. หยุด พลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง” (End Single Use Plastics)

 

ที่ผ่านมาทรู คอร์ปอเรชั่น ลดการใช้ถุงพลาสติกไปแล้วกว่า 356,650 ใบ จากการใช้บรรจุภัณฑ์ที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ ในการให้บริการลูกค้าที่ทรูช้อป ทรูสเฟียร์ และศูนย์บริการดีแทค รวมถึงลดการใช้ขวดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว (Single-use) ได้ 1,017,673 ขวด เพื่อรักษามาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมที่ดีและร่วมกันลดขยะพลาสติกสำหรับคนทรู 

  1. รีไซเคิล (Recycling)

 

แคมเปญ ทิ้งถูกที่ ดีต่อใจ รวบรวมมือถือและอุปกรณ์ IT ขนาดเล็กมากกว่า 2 ล้านเครื่อง เพื่อนำเข้าสู่ระบบรีไซเคิลตามมาตรฐานสากล ไม่ฝังกลบ 100% นอกจากนี้ ยังรวบรวมมือถืออีก 30,000 เครื่อง จากแคมเปญการตลาดที่เชิญชวนให้ลูกค้านำโทรศัพท์มือถือเก่ามาแลกซื้อโทรศัพท์มือถือใหม่ เพื่อเพิ่มการใช้งานมือถือเครื่องเก่าด้วยการหมุนเวียนและนำกลับมาใช้ใหม่ได้ 100% 

  1. ลดการใช้กระดาษ เพื่อลดการตัดไม้ทำลายป่า (Stop Deforestation)

 

ศูนย์บริการลูกค้าทรูและดีแทคเปลี่ยนเอกสารสู่ดิจิทัล เลิกใช้กระดาษ 100%” และลดกระดาษได้มากกว่า 255 ล้านแผ่นจากการเปลี่ยนมาใช้ใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bill, e-Tax) คิดเป็นน้ำหนักราว 1,278,754 กก. ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 2,688 tonCO2e 

มันนิกซ์ (MONIX) ฟินเทคสตาร์ทอัพผู้ให้บริการ “แอปฟินนิกซ์” (FINNIX) แพลตฟอร์มสินเชื่อดิจิทัลคู่คนทำมาหากิน ประกาศความสำเร็จคว้าเงินลงทุนมูลค่ากว่า 700 ล้านบาท หรือ 20 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ จากบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX และลอมบาร์ด เอเชีย (Lombard Asia) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจนาโนไฟแนนซ์ ทะยานสู่ผู้นำสินเชื่อดิจิทัลด้วยผลงานการเติบโตที่โดดเด่น ตอกย้ำภารกิจลดความเหลื่อมล้ำเรื่องเงินให้สังคมไทย เตรียมพร้อมธุรกิจสู่ IPO ในอนาคต

นายชินบิน ฟาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มันนิกซ์ จำกัด และนางสาวถิรนันท์ อรุณวัฒนกูล ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท มันนิกซ์ จำกัด กล่าวว่า “มันนิกซ์รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้พันธมิตรใหม่เข้ามาร่วมลงทุนและสร้างโอกาสให้กับคนทำมาหากินที่ยังเข้าไม่ถึงการเงิน ซึ่งการได้รับเงินลงทุนเพิ่มในครั้งนี้ ตอกย้ำให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่ทาง SCBX และลอมบาร์ดเอเชียมีต่อวิสัยทัศน์และการเป็นผู้นำธุรกิจสินเชื่อดิจิทัลของเราได้เป็นอย่างดี โดยเราจะเดินหน้ายกระดับแพลตฟอร์มผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินให้เป็นเพื่อนซี้ที่ดีที่สุด ด้วยพลังของเทคโนโลยีเอไอและแมชชีนเลิร์นนิงอันชาญฉลาดที่สุด เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและช่วยให้คนไทยการเงินดีมีสุขได้ยั่งยืนอย่างแท้จริง”

มันนิกซ์คือผู้นำแพลตฟอร์มสินเชื่อดิจิทัลพลังเอไอที่เข้าใจลูกค้าที่สุด จัดตั้งบริษัทเมื่อปี พ.ศ. 2563 จากการร่วมทุนของกลุ่มเอสซีบี เอกซ์ (SCBX Group) และกลุ่มอบาคัส (Abakus Group) ฟินเทคยูนิคอร์น จากประเทศจีน ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นในการสร้างโอกาสให้คนไทยได้การเงินดีมีสุข บริษัทให้บริการแอปพลิเคชัน “ฟินนิกซ์” เพื่อช่วยเหลือคนไทยกว่า 36 ล้านคนที่ไม่สามารถขอสินเชื่อจากธนาคารหรือสถาบันการเงิน ให้เข้าถึงสินเชื่อที่ถูกกฎหมายและเป็นธรรมได้ แอปฟินนิกซ์สามารถอนุมัติสินเชื่อได้ไวสุดใน 5 นาที จากการใช้ข้อมูลทางเลือก (Alternative Data) โดยไม่ต้องค้ำประกันหรือส่งเอกสาร ซึ่งช่วยลดปัญหาหนี้นอกระบบได้เป็นอย่างดี

ปัจจุบัน มันนิกซ์มียอดปล่อยสินเชื่อแล้วทั้งสิ้นกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท มีลูกค้าสินเชื่อรวมกว่า 650,000 ราย และมีผลกำไรสุทธิเป็นบวกแม้ในสภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทาย จากการลงทุนในครั้งนี้ทำให้มีเงินทุนสะสมรวมทั้งสิ้นแล้วราว 1,400 ล้านบาท หรือ 40 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ และด้วยการสนับสนุนที่ดีจากพาร์ทเนอร์ บริษัทมีความพร้อมอย่างยิ่งที่จะเดินหน้าเร่งการเติบโตทางธุรกิจ ยกระดับแพลตฟอร์มผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ จากนี้บริษัทเตรียมแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (IPO) โดยมีเป้าหมายจะเป็นแอปทางการเงินที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำเรื่องเงินให้ประเทศไทย

 

ดร.อารักษ์ สุธีวงศ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "การลงทุนในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่อง และเชื่อมั่นในโอกาสการเติบโตในระยะยาวของมันนิกซ์ ในฐานะบริษัทแม่ของกลุ่ม ทาง SCBX ยังคงให้การสนับสนุนบริษัทลูกอย่างต่อเนื่องและไปในทิศทางที่เหมาะสมกับแต่ละบริษัท ซึ่งรวมถึงการระดมทุนจากภายนอกของมันนิกซ์ในรอบนี้ เพื่อสร้างการเติบโตและเตรียมความพร้อมในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (IPO) ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า มุ่งเพิ่มมูลค่าของบริษัทและสร้างผลตอบแทนสูงสุดให้กับผู้ถือหุ้น นอกจากนี้ จากความสามารถและประสบการณ์ของทีมงานผู้เชี่ยวชาญของลอมบาร์ดเอเชียและกลุ่มอบาคัส ทำให้เรามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่ามันนิกซ์จะสามารถบรรลุเป้าหมายตามแผนที่วางไว้ ซึ่งจะช่วยเสริมแกร่งให้หนึ่งในเป้าหมายสำคัญของ SCBX นั่นคือการแสวงหาโอกาสและความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในบริการทางการเงิน และเพิ่มมูลค่าสูงสุดให้กับบริษัทในพอร์ตโฟลิโอ โดยเราจะเดินหน้ายกระดับกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อปลดล็อกมูลค่าที่ซ่อนอยู่จากการลงทุนด้านฟินเทคของเรา และพร้อมตั้งตารอความสำเร็จอื่นๆ อีกมากมายที่จะตามมาในอนาคต"

 

นายเอกลักษณ์ หวังชูเชิดกุล กรรมการผู้จัดการ ลอมบาร์ดเอเชีย กล่าวว่า “มันนิกซ์คือผู้นำธุรกิจสินเชื่อดิจิทัลที่มีความน่าสนใจและกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว การลงทุนครั้งนี้เป็นไปตามแผนกลยุทธ์ของเราที่ต้องการสนับสนุนธุรกิจที่มุ่งสร้างประโยชน์ให้กับสังคมควบคู่ไปกับการสร้างผลตอบแทนในการลงทุนที่ดี ซึ่งมันนิกซ์เป็นแพลตฟอร์มการเงินชั้นนำที่เปิดโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงินที่มีคุณภาพให้กับกลุ่มลูกค้าผู้มีรายได้น้อย จึงตอบโจทย์ข้อนี้ได้เป็นอย่างดี ในฐานะนักลงทุน ทางลอมบาร์ดเอเชียจะผนึกพลังกับผู้บริหารของมันนิกซ์ในการขับเคลื่อนธุรกิจและเร่งอัตราการเติบโตให้ก้าวกระโดด เพื่อมุ่งสู่การ IPO ให้สำเร็จ”

บริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับโรงเรียนโสตศึกษาทุ่งมหาเมฆจัดกิจกรรม AXA Hearts in Action สื่อใจเพื่อน้อง” เพ้นท์กระเป๋าผ้ารักษ์โลก เพราะแอกซ่าเชื่อมั่นในพลังของทุกคนจึงส่งเสริมให้นักเรียนเชื่อมั่นในพลังของตัวเอง ซึ่งสอดคล้องกับพันธสัญญาของแบรนด์ “Know You Can” ที่คอยสนับสนุนและสร้างความมั่นใจให้ทุกคนก้าวเดินต่อไปในชีวิตและประสบความสำเร็จได้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้

กิจกรรมนี้ นอกจากน้องๆ จะรู้สึกภาคภูมิใจกับการเพ้นท์กระเป๋าผ้าฝีมือตนเองที่มีเพียงใบเดียวในโลกแล้ว ยังเป็นการช่วยลดการใช้ถุงพลาสติก ซึ่งตรงกับเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมและการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ รวมถึงแอกซ่ายังได้บริจาคทุนการศึกษาและเลี้ยงอาหารแก่นักเรียน จำนวน 60 คน ซึ่งแสดงออกถึงความใส่ใจและปรารถนาดีต่อชุมชน

แอกซ่ามุ่งบำเพ็ญประโยชน์ใน ด้านหลัก ได้แก่ 1. ด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (Environment and climate change) 2. ด้านสุขภาพและการป้องกันโรค (Health and disease prevention) และ 3. ด้านความไม่เท่าเทียมและการมีส่วนร่วมในสังคม (Inequalities and social inclusion)

 

ปี ค.ศ.2020 ที่เริ่มต้นขึ้น ถือเป็นปีแรกเริ่มของทศวรรษ 2020 ที่โลกต้องเผชิญกับความท้าทายในหลายด้าน

จากการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลสำหรับปี 2562 (World Digital Competitiveness Ranking)

X

Right Click

No right click