นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ในฐานะประธานกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ครั้งที่ 5/2566 ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบกรอบทิศทางการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ของสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ปี 2567 – 2569 ซึ่งมีการปรับเพิ่มภารกิจสำคัญที่สมาชิกสมาคมฯ จะร่วมมือกันผลักดันการแก้ไขปัญหาหนี้อย่างยั่งยืน ควบคู่กับการสร้างงาน สร้างอาชีพ เพื่อเพิ่มรายได้ รวมถึงส่งเสริมความรู้การบริหารจัดการเงินแก่ประชาชน โดยดำเนินการภายใต้กรอบ ESG ที่คำนึงถึงประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคม และหลักธรรมาภิบาล เพื่อให้สถาบันการเงินของรัฐซึ่งมีบทบาทสำคัญในภาคการเงินของประเทศ ได้ร่วมกันสนับสนุนนโยบายรัฐบาลที่มุ่งใช้การพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ รวมถึงสนับสนุนภาคการผลิตและภาคบริการในการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป

ทั้งนี้ ทิศทางการดำเนินงานดังกล่าวจะขับเคลื่อนผ่านแผนยุทธศาสตร์ 3 ด้าน (3S) ได้แก่ 1.Sustainability การขับเคลื่อนงานตามนโยบายภาครัฐและหน่วยงานกำกับดูแล โดยสนับสนุนมาตรการแก้ปัญหาหนี้อย่างยั่งยืน การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบ เป็นธรรม และการดำเนินงานที่คำนึงถึง ESG พร้อมสร้างเครือข่ายที่เข้มแข็งซึ่งมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายภาครัฐ 2.Synergy การยกระดับความร่วมมือเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็ง อาทิ ความร่วมมือทางด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศ เพื่อสนับสนุนการให้บริการทางการเงินที่สะดวก ปลอดภัย รวมถึงความร่วมมือด้านการพัฒนาบุคลากร การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และประสบการณ์ของสมาชิกสมาคมฯ และ 3.Strong การพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน ด้วยการปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ การบริหาร และพัฒนาทรัพยากรบุคคล เพื่อยกระดับการบริหารงานของสมาคมฯ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

สำหรับการประชุมครั้งนี้ มีบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม โดยมีผู้บริหารระดับสูงจากสถาบันการเงินของรัฐ ผู้แทนจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และธนาคารแห่งประเทศไทย ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมกมลทิพย์ บอลรูม 3 โรงแรมเดอะ สุโกศล กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2566

นายตัน ฮาค เลห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารระดับภูมิภาค กลุ่มบริษัทเอไอเอ ร่วมบรรยายในงานสัมมนาวิชาการ Thailand InsurTech Fair 2023 ในหัวข้อ ‘ESG - เครื่องมือสำคัญในขับเคลื่อนองค์กรอย่างยั่งยืน’ โดยได้ร่วมแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ด้านการบริหารจัดการธุรกิจโดยประยุกต์ใช้หลักการ ESG (Environmental, Social and Governance) ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล ซึ่งเป็นปรัชญาที่เอไอเอยึดถือในการดำเนินธุรกิจมาตลอดกว่าศตวรรษ ตอกย้ำถึงการเป็นผู้นำด้าน ESG ในภูมิภาคเอเชีย สอดคล้องตามคำมั่นสัญญาของเอไอเอ ที่มุ่งมั่นดูแลผู้คนทั่วเอเชียให้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น - ‘Healthier, Longer, Better Lives’ ณ ห้องฟินิกซ์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อวันศุกร์ที่ 8 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา

เอสซีจีได้รับการยอมรับจากดัชนีความยั่งยืนชั้นนำของโลกหรือ ESG Risk Rating เป็น ESG Industry Top Rated ในกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรม (Industrial Conglomerates) จาก Morningstar Sustainalytics และได้รับ MSCI ESG Rating ระดับ AA (Leader) กลุ่มอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง (Construction Materials) จาก Morgan Stanley Capital International (MSCI) ผลการประเมินดังกล่าวมาจากการดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG 4 Plus มุ่งแก้วิกฤตภาวะโลกเดือด ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ปี 2593 พร้อมเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมโซลูชัน เทคโนโลยีดิจิทัลใส่ใจสังคม-สิ่งแวดล้อม บริหารงานตามมาตรฐานสากล โปร่งใส เปิดเผยข้อมูล มีกลยุทธ์เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจท่ามกลางความผันผวนของวิกฤตซ้อนวิกฤต ควบคู่กับการสร้างคุณค่าให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

เอสซีจีมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์ ESG 4 Plus “มุ่ง Net Zero – Go Green – Lean เหลื่อมล้ำ – ย้ำร่วมมือ” โดยยึดหลักเชื่อมั่นและโปร่งใส ตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2593 เร่งพัฒนานวัตกรรมโซลูชัน เทคโนโลยีดิจิทัล ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์เมกะเทรนด์โลก อาทิ SCG Cleanergy ผู้ให้บริการซื้อ-ขายไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดครบวงจร สำหรับภาครัฐ ธุรกิจและอุตสาหกรรม ด้วยระบบเทคโนโลยีอัจฉริยะ (Smart Grid) ให้ซื้อ-ขายไฟฟ้าพลังงานสะอาดได้สะดวก รวดเร็ว ขณะเดียวกัน ได้ลงทุนกับ Rondo Energy สตาร์ทอัพด้านพลังงานสะอาดระดับโลก ผู้พัฒนานวัตกรรมแบตเตอรี่กักเก็บความร้อน (Thermal Energy Storage) อุณหภูมิสูงที่สุดในโลก เพื่อจ่ายพลังงานความร้อนให้โรงงานทดแทนการใช้บอยเลอร์ (Boiler) หรือเครื่องผลิตไอน้ำในโรงงานอุตสาหกรรม ทำให้ลดการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ นวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตพร้อมใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม อาทิ นวัตกรรมอัจฉริยะ เพื่อคุณภาพอากาศและประหยัดพลังงาน SCG Active AIR Quality, SCG Bi-ion และ SCG Air Scrubber โซลูชันจัดการคุณภาพอากาศ กำจัดเชื้อโรค ลดการใช้พลังงานในอาคาร SCGC GREEN POLYMERTM นวัตกรรมเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสินค้าภายใต้ฉลาก Green Choice กว่า 250 รายการ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมสุขอนามัยที่ดี ขณะเดียวกันยังมุ่งลดความเหลื่อมล้ำในสังคมด้วยการพัฒนาทักษะอาชีพ สร้างรายได้ให้ชุมชนและ SMEs ให้โอกาสทางการศึกษา และยกระดับสุขภาวะ รวม 50,000 คน เช่น อาชีพช่างก่อสร้าง พนักงานขับรถบรรทุก การแปรรูปและการขายสินค้าทางออนไลน์ ทั้งยังร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ ทั้งไทย อาเซียนและโลก ให้ดำเนินงานด้วย ESG เพื่อส่งต่อโลกที่ยั่งยืนให้คนรุ่นถัดไป

X

Right Click

No right click