

ธนาคารไทยพาณิชย์ โดย ดร.ยรรยง ไทยเจริญ Chief Economist and Sustainability Officer รับมอบใบรับรองคาร์บอนเครดิต จำนวน 2,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ จาก โครงการ “คุณดูแลป่า เราดูแลคุณ: การจัดการคาร์บอนเครดิตในป่าเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” กับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งเป็นโครงการที่ธนาคารได้เข้าร่วมตั้งแต่ปี 2563 เพื่อวางระบบการวัดประเมินและจัดการคาร์บอนเครดิตในพื้นที่ป่าชุมชน และสนับสนุนให้ชุมชนดูแลป่าตลอดจนพัฒนาคุณภาพชีวิตคนให้ชุมชนอย่างสมดุลและยั่งยืน คาร์บอนเครดิตจำนวน 2,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นปริมาณที่คำนวณจากการสนับสนุนพื้นที่ป่าชุมชนเป้าหมาย ระหว่างปี 2563-2567 ได้แก่ ป่าชุมชนบ้านป่าซางดอยแก้ว จ.เชียงราย และป่าชุมชนบ้านห้วยหมากเอียกเหนือ จ.เชียงราย รวมพื้นที่ป่าทั้งสิ้นกว่า 1,390 ไร่ ซึ่งธนาคารได้นำคาร์บอนเครดิตที่ได้รับมาใช้ในการชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมของธนาคาร ภายใต้แนวทาง กิจกรรมที่เป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral Event) ซึ่งมีส่วนช่วยในการบรรเทาปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ทั้งยังได้สร้างชุมชนเข็มแข็ง สร้างแหล่งสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่
การได้รับใบรับรองคาร์บอนเครดิตจากมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ในครั้งนี้ ยังตอกย้ำความมุ่งมั่นของธนาคารไทยพาณิชย์ที่จะเป็นผู้นำในการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทยผ่านกิจกรรมเพื่อสังคมที่ช่วยดูแลสิ่งแวดล้อม ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคม ภายใต้แนวคิด “อยู่ อย่าง ยั่งยืน” ซึ่งธนาคารเชื่อมั่นว่าความยั่งยืนเป็นเรื่องของทุกคน ที่ต้องร่วมกันตั้งเป้าหมาย สร้างแรงกระเพื่อม ประสานความร่วมมือ เพื่อสร้างอนาคตให้เราทุกคนได้อยู่ต่อไปอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ คาร์บอนเครดิตจำนวน 2,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ เทียบเท่ากับกิจกรรมที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระดับที่สามารถประเมินได้ ดังนี้
· การดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์โดยต้นไม้กว่า 210,500 ต้นต่อปี (คำนวณตามอัตราการเก็บกักคาร์บอน 9.5 กก./ต้น/ปี ตามมาตรฐาน T-VER ของ TGO)
· การปล่อยคาร์บอนจากการจัดงานคอนเสิร์ตหรือเอ็กซิบิชันขนาดใหญ่ 2–3 งาน ที่มีผู้เข้าร่วมหลายหมื่นคนต่อครั้ง
· การใช้รถยนต์ส่วนบุคคลกว่า 400 คันตลอดหนึ่งปี (คำนวณจากการขับขี่เฉลี่ย 15,000 กิโลเมตร/คัน/ปี)
นายนภดล รมยะรูป กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปูนซีเมนต์เอเซีย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึง การเปิดตัว ปูนบัว GO GREEN ปูนรักษ์โลก ลดโลกร้อน
นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “พฤกษา มุ่งสู่การเป็นองค์กรที่มีการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development) ด้วยการสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของคนในสังคม ควบคู่กับความใส่ใจและคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (Heart to Earth) พฤกษาจึงดำเนินการในหลากหลายมิติ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทยในการลดปัญหาภาวะโลกร้อน ซึ่งการเลือกใช้พลังงานทางเลือก (Renewable Energy) ด้วยการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นหนึ่งในแนวทางเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่ได้ดำเนินการไปแล้ว เนื่องจากเห็นว่าเมืองไทยเป็นเมืองร้อน และมีแดดแรงเกือบตลอดปี จึงได้นำแผงโซล่าเซลล์มาติดตั้งในส่วนกลางของโครงการที่อยู่อาศัยของบริษัทฯ แม้ว่าจะใช้การลงทุนติดตั้งที่ค่อนข้างสูง แต่หากมองในระยะยาวก็จะเป็นประโยชน์ต่อลูกบ้านในการประหยัดค่าไฟฟ้า และรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย โดยพฤกษาได้เริ่มทะยอยติดตั้งโซล่าเซลล์ในโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์มาแล้วตั้งแต่ปี 2562 จนถึงปัจจุบัน รวมทั้งหมดราว 100 โครงการ โดยได้แปลงพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อใช้บริเวณ บ่อบำบัดน้ำเสีย ไฟสวนสาธารณะ คลับเฮาส์ และสำนักงานนิติบุคคล เป็นต้น

จากการเก็บข้อมูลในปี 2563 ที่ผ่านมา พบว่าในบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ 12 โครงการ ที่ได้มีการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ในพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปได้ถึง 85% และ ประหยัดการใช้ไฟฟ้าไปได้ถึง 239,940 กิโลวัตต์ต่อปี (คิดเป็น 62%) ในปีนี้จึงมีแผนขยายการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ในพื้นที่ส่วนกลางของโครงการอย่างต่อเนื่อง แบ่งเป็นโครงการทาวน์เฮาส์ 13 โครงการ โครงการบ้านเดี่ยว 7 โครงการ พร้อมทั้งขยายการติดตั้งการใช้พลังงานสีเขียวนี้ไปยังโครงการคอนโดมิเนียมอีก 7 โครงการด้วย

เพราะปัญหาโลกร้อนในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องไกลตัวของเราอีกต่อไป นอกจากการใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางสังคมคุณภาพแล้ว ในเรื่องการอยู่อาศัยที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมก็เป็นสิ่งสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน นอกจากการติดตั้งโซล่าเซลล์ในโครงการแล้ว พฤกษายังมีโครงการเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอีกหลายโครงการที่ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ โครงการ “วน @PRUKSA” เชิญชวนลูกบ้านร่วมกันคัดแยกพลาสติกที่ยืดได้ รวบรวมและนำกลับมารีไซเคิลใหม่, โครงการการลดการเผาขยะในไซต์ก่อสร้าง เพื่อลดการเกิดมลภาวะฝุ่นละออง PM 2.5 และโครงการใช้โบรชัวร์ทางอิเลคทรอนิก (E-Brochure) เพื่อลดการใช้กระดาษ สร้างขยะให้กับสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ในบ้านที่ช่วยลดการใช้พลังงาน เช่น หลอดไฟ LED ก็อกและโถสุขภัณฑ์ประหยัดพลังงาน เป็นต้น ซึ่งพฤกษาจะดำเนินโครงการเหล่านี้อย่างต่อเนื่องเรื่อยไปตามนโยบายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ตั้งไว้”
พฤกษาตอกย้ำจุดยืนด้านความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม (Heart to Earth) เล็งเห็นปัญหาภาวะโลกร้อนที่กำลังส่งผลกระทบต่อมนุษยชาติทั่วโลก