บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) (TPIPL) ผู้ผลิตและจำหน่ายปูนซีเมนต์ คอนกรีตผสมเสร็จ และ Specialty Polymer ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในบริษัทกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 ที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental Social and Governance: ESG) จากการประเมินหลักทรัพย์จดทะเบียน ในปี พ.ศ.2567 โดยสถาบันไทยพัฒน์
นายขันธ์ชัย วิจักขณะ ประธานกรรมการ บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สถาบันไทยพัฒน์ประกาศให้ บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) (TPIPL) ติดอันดับ ESG100 ประจำปี 2567 ด้วยการคัดเลือกจาก 920 หลักทรัพย์จดทะเบียน ให้เป็นบริษัทที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และ ธรรมาภิบาล (ESG) ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง และบริษัทเข้าอยู่ในทำเนียบ ESG100 ได้เป็นปีที่ 3 (2565-67)
บริษัทฯ มุ่งมั่นในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจที่ยั่งยืน ใส่ใจถึงการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม TPIPL กับเทคโนโลยีนวัตกรรมสีเขียวตลอดห่วงโซ่คุณค่า เช่น Green Mining /Green Quarry: เปลี่ยน รถเจาะ รถตัก รถดัมพ์ รถขุด ในเหมืองที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในมาเป็นรถไฟฟ้าทั้งหมด Green Cement Process: ใช้ขยะเป็นเชื้อเพลิงทดแทนถ่านหินประมาณ 25% ในกระบวนการผลิตปูนซิเมนต์ Green Logistics: เปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้าขนส่งปูนซิเมนต์ และคอนกรีตผสมเสร็จ Green Manufacturing:ผลิตวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ช่วยลดโลกร้อน Green Marketing / Management: ใช้รถไฟฟ้าในการปฏิบัติงานของฝ่ายขายและฝ่ายการตลาด รวมทั้งรถสำหรับผู้บริหารแทนรถยนต์สันดาป Green Packing Line / Warehouse: ใช้รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า 100% ซึ่งทั้งหมดนี้ ช่วยส่งผลให้เกิดความมั่นคงให้แก่องค์กร ชุมชน และประเทศชาติ
ทั้งนี้ การจัดอันดับของสถาบันไทยพัฒน์ พิจารณาข้อมูลจากการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) และผลประกอบการของบริษัทควบคู่ไปพร้อมกัน
สำหรับสถาบันไทยพัฒน์ เป็นผู้ริเริ่มพัฒนาข้อมูลด้านความยั่งยืนของธุรกิจ ได้เปิดเผยรายชื่อหลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้าน ESG จำนวน 100 บริษัท หรือที่เรียกว่ากลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 เป็นครั้งแรกในปี 2558 และได้มีการเก็บรวบรวมข้อมูลด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนและดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นปีที่สิบในปีนี้
ขณะที่ การจัดอันดับบริษัทจดทะเบียนด้านการพัฒนาความยั่งยืนของธุรกิจนี้ ถือเป็นแหล่งข้อมูลด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียน เพื่อรองรับความต้องการของผู้ลงทุนที่ให้น้ำหนักการลงทุนในบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ และเป็นทางเลือกให้ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีคุณภาพและได้รับผลตอบแทนที่มิได้ด้อยไปกว่าการลงทุนในแบบทั่วไป