นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด (J Ventures) ผู้พัฒนา JNFT Marketplace เปิดเผยว่า “อาจารย์ศักดิ์วุฒิ วิเศษมณีเป็นศิลปินร่วมสมัยระดับแนวหน้าของเมืองไทยที่มีผลงานเป็นเอกลักษณ์ในการวาดภาพบุคคล ซึ่งเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการร่วมทำโปรเจกต์ NFT พิเศษนี้ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยี JNFT  ได้ร่วมกับพันธมิตร PixelPaint ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญแห่งวงการศิลปะ นำพาศิลปินแถวหน้าของประเทศมาร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานในรูปแบบ Digital Art โดยไม่ได้ละทิ้งคุณค่าของศิลปะในรูปแบบดั้งเดิม แต่เทคโนโลยีจะมาช่วยให้ผลงานมีเสน่ห์มากขึ้น และทำให้นักสะสมได้เข้าถึงผลงานที่ง่าย และรวดเร็วกว่าที่เคย” 

นายพิริยะ วัชจิตพันธ์ ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท พิกเซลเพ้นท์ จำกัด (PixelPaint) และ สมาคมนักสะสมงานศิลปะไทย กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “เราปฏิเสธไม่ได้ว่าศิลปะรูปแบบ NFT เข้ามามีบทบาทมากขึ้น แต่หลายครั้งพบว่าศิลปินในโลก NFT ไม่สามารถติดตามหาผลงานว่าเป็นศิลปินมายาวนาน เหมือนโลกศิลปะดั้งเดิมที่ผลงานศิลปะจะมีค่าไปกับตัวศิลปินจริงๆ จึงมีความท้าทายว่าถ้าหากนำศิลปินมาสร้างสรรค์งานแบบ Virtual ดูจะเป็นอย่างไร ซึ่งที่ผ่านมาเราได้จัดประมูลผลงาน NFT ของศิลปินเหล่านั้น และได้รับการตอบรับที่ดีจากนักสะสมงานศิลปะ จึงต่อยอดมาถึงโปรเจกต์นี้ ที่มีความท้าทายว่าในประวัติศาสตร์ศิลปะของเมืองไทย ศิลปินภาพพอร์เทรตมักจะเป็นชาวต่างประเทศ ศิลปินของไทยที่มีชื่อเสียงในบ้านเรามีน้อยมา ที่รู้จักกันได้แก่ พระสรลักษณ์ลิขิต จำรัส เกียรติก้อง และอ.จักรพันธ์ โปษยกฤต มาจนถึงยุคปัจจุบันศิลปินพอร์เทรตอันดับหนึ่งก็คือ อ.ศักดิ์วุฒิ วิเศษมณี ซึ่งไม่ใช่ศิลปินที่ว่าจะวาดภาพให้ใครได้ง่ายๆ ดังนั้น จึงเกิดเป็นโปรเจกต์ “Portraits by Sakwut” ที่ต้องการเปิดให้ทุกคนได้มีโอกาสได้ครอบครองภาพพอร์เทรตของตัวเอง หรือคนที่คุณรักได้ ด้วยลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ที่สุดของอ.ศักดิ์วุฒิ ในรูปแบบที่เป็นทั้ง NFT และภาพจริง” 

ด้านนายศักดิ์วุฒิ วิเศษมณี ศิลปินภาพเหมือนบุคคลร่วมสมัยที่ทรงอิทธิพล และได้รับการยอมรับระดับแถวหน้าของเมืองไทย กล่าวว่า “NFT จะทำให้ศิลปะเข้าถึงคนรุ่นใหม่ ๆ แม้ว่าขณะนี้กระแสของ NFT ทั่วโลกจะอยู่ในช่วงที่ท้าทายก็ตาม อย่างไรก็ตาม การทำ NFT สำหรับศิลปิน คือ ความสนุกบนความท้าทาย  เพราะการได้เห็นการลงเส้นตั้งแต่เส้นแรก การทับเป็นเลเยอร์ จนออกมาเป็นชิ้นงาน มันเกิดเป็นความสนุกในการทำงาน มีเทกเจอร์อะไรบางอย่างที่เราเคยหลงลืมไปแล้ว เราก็ได้เรียนรู้ไป เป็นความแปลกใหม่ที่สนุกมาก แตกต่างโดยสิ้นเชิงกับการสร้างสรรค์ผลงานในแบบเดิม ทุกอย่างที่ทำล้วนเป็นเสน่ห์  ผมตั้งใจอยากให้ศิลปะเข้าถึงกลุ่มคนใหม่ ๆ ได้มากขึ้น โดยงาน NFT ที่จะสร้างขึ้นมาครั้งนี้ จะเริ่มต้นจากมุมมองของผมที่มีต่อแบบ และก็จะออกแบบมาให้เห็นถึงเทคนิคการวาดตั้งแต่ลายเขียนเส้นแรกจนถึงเส้นสุดท้าย และจะเพิ่มเติมด้วยศิลปะแนวดั้งเดิมโดยมีงาน Physical เป็นภาพพิมพ์พิเศษมอบให้ทางผู้สะสมร่วมด้วย รวมถึงกรอบที่มีดีไซน์พิเศษเป็นสัญลักษณ์ของตัวผมเอง  ซึ่งผมเองก็น่าจะเป็นคนแรกที่ทำแบบนี้ สำหรับวงการศิลปะทั้งสองโลกควบคู่กันไป” 

สำหรับโปรเจกต์ “Portraits by Sakwut” ของ “ศักดิ์วุฒิ วิเศษมณี” มีความตั้งใจจะเป็นสะพานเชื่อมระหว่างศิลปิน นักสะสม และนักลงทุน ซึ่งจากนี้ต่อไปงานศิลปะของศักดิ์วุฒิ จะไม่ได้อยู่เฉพาะแค่เพียงกลุ่มนักสะสม หรือผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะอีกต่อไปแล้ว เพราะจะเริ่มขยายตัวออกไปสู่กลุ่มนักลงทุน กลุ่มคนรุ่นใหม่มากยิ่งขึ้น  

“Portraits by Sakwut” จะเปิดขายในวันที่ 12 สิงหาคม 2565 ในรูปแบบ NFT Ticket ผู้ที่สนใจสามารถจับจองสิทธิ์การให้ศิลปินรังสรรค์ภาพวาดตัวเอง หรือบุคคลที่ได้รับความยินยอม ทางเว็บไซต์ www.portraitsbysakwut.io โดยเปิดคอลเลกชันแรกจำนวนเพียง 33 ท่าน (33 ชิ้นงาน) ผู้ที่จองสิทธิ์ได้จะได้รับภาพวาดพอร์เทรตจากลายเส้นของศักดิ์วุฒิ วิเศษมณี ทั้งรูปแบบ NFT และภาพจริงที่พิมพ์บนผืนผ้าใบพร้อมกรอบรูปที่จัดทำเป็นพิเศษ และโลโก้ Sakwut อันเป็นเอกลักษณ์ของศิลปิน ซึ่งเป็นกรอบรูปที่สั่งทำเฉพาะไม่มีจำหน่ายทั่วไป และพิเศษยิ่งกว่าผลงานภาพจริงจะถูกศิลปินใช้เทคนิคพิเศษวาดทับลงบนผืนผ้าใบเพิ่มเติมอีกขั้นตอน และถ่ายทอดอารมณ์จากภาพคนแปลกหน้าสู่ภาพสเกตช์ที่เป็นตัวตนของ “คุณ” ผ่านการตีความของศิลปิน จนเป็นภาพวาดหนึ่งเดียวในโลกที่ประเมินค่าไม่ได้