

เดือนมีนาคม 2562 ซีอีโอของบริษัทพลังงานแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษได้รับสายด่วนจากเจ้านายซึ่งเป็นผู้บริหารของบริษัทแม่ที่เยอรมนี โดยเจ้านายชาวเยอรมันสั่งให้ลูกน้องของเขาโอนเงินจำนวน 220,000 ยูโร (ประมาณ 8.5 ล้านบาท) ให้กับตัวแทนซัพพลายเออร์ในฮังการี ซึ่งต้องโอนเงินเป็นกรณีเร่งด่วนและต้องแล้วเสร็จภายใน 1 ชั่วโมง เนื่องจากซีอีโอชาวอังกฤษจำสำเนียงเยอรมันที่โดดเด่นของเจ้านายได้ดี เขาจึงรีบอนุมัติการโอนเงินในทันที ทว่าโชคร้ายที่ซีอีโอชาวอังกฤษไม่ได้คุยกับเจ้านายของเขา แต่กลับคุยกับปัญญาประดิษฐ์ที่เลียนเสียงและแอบอ้างตัวเป็นเจ้านายชาวเยอรมัน
องค์กรธุรกิจควรต้องตระหนกกับเหตุการณ์นี้หรือไม่? คำตอบคือทั้งใช่และไม่ใช่ ที่ธุรกิจต้องกังวลคือรูปแบบความซับซ้อนในการหลอกลวงที่ดูแนบเนียนและที่สำคัญเป็นการโจมตีที่ประสบความสำเร็จ แต่ที่ยังเบาใจได้คือมันยังต้องใช้ความพยายามและทรัพยากรอย่างมากในการจู่โจมรูปแบบนี้และเป้าหมายใหญ่อย่างบริษัทข้ามชาติ ซึ่งสิ่งนี้กำลังจะเปลี่ยนไป โดยเครื่องมือที่ใช้บิดเบือนข้อมูลสามารถขยายเป็นสองทางอย่างน่าทึ่ง อย่างแรก คือ มันทำให้ผู้ที่ไม่หวังดีใช้วิธีนี้จู่โจมได้ง่ายมากขึ้น แม้จะมีเปอร์เซ็นต์ความสำเร็จน้อยแต่สิ่งที่ได้มาก็คุ้ม อย่างที่สองเมื่อเทคโนโลยี Deep-Fake หรือการปลอมแปลงอัตลักษณ์ของบุคคลด้วยปัญญาประดิษฐ์ที่ทรงพลังและใช้ง่ายตกอยู่ในมือคนจำนวนมากที่ทำให้ใครก็ได้สามารถโจมตีเป้าหมายที่ต้องการไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม
เทคโนโลยีเอไอ (AI) และแมชชีนเลิร์นนิ่ง (Machine Learning) แทรกซึมอยู่ในธุรกิจและการสื่อสารสมัยใหม่ ซึ่งไม่น่าแปลกใจที่จะมีการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ไปในทางที่ผิดกฎหมาย การล่อลวงแบบดีปเฟก (Deepfakes) สามารถเป็นได้ทั้งเสียง รูปภาพ และวิดีโอที่ดูเสมือนจริงแต่กลับเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่สร้างขึ้นด้วยเอไอ เหล่านี้เป็นปรากฏการณ์ครั้งล่าสุดของการบิดเบือนข้อมูลในแบบที่ RAND Corporation หน่วยงานด้านนโยบายระดับโลกของอเมริกา ได้อธิบายไว้ว่าเป็น “วัฒนธรรมการเสื่อมสลายของความจริง” (หรือ Truth Decay) เป็นพลวัตที่มีการถกเถียงอย่างมากถึงขอบเขตในด้านการเมืองและทฤษฎีสมคบคิด ในขณะที่บริบทของธุรกิจการสูญเสียความสัตย์จริงทางออนไลน์กลับได้รับความสนใจน้อยกว่า ขณะที่บริษัทต่าง ๆ พยายามป้องกันการโจมตีของแรมซัมแวร์พวกเขากลับไม่ได้ทำอะไรเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับการจู่โจมจากสื่อสังเคราะห์เหล่านี้
เทคโนโลยี Deep-fake ได้พัฒนาก้าวหน้าไปอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ซีอีโอชาวอังกฤษคนนั้นถูกหลอกโดยเอไอที่เลียนเสียงพูดเจ้านายของเขา และยังส่งผลให้เครื่องมือต่าง ๆ ที่จำเป็นในการสร้างดีปเฟกเข้าถึงได้มากขึ้นเช่นกัน ซึ่งการสร้างภาพหรือวิดีโอปลอม ๆ ขึ้นมาให้ดูน่าเชื่อถือขอเพียงมีคอมพิวเตอร์คุณภาพดี (ซึ่งอุปกรณ์ที่ลูก ๆ วัยรุ่นของคุณใช้เล่นเกมก็เพียงพอแล้ว) และคอลเลกชันรูปภาพดี ๆ ของเป้าหมายเท่านั้น สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้บริหารองค์กรธุรกิจต้องเผชิญกับความเสี่ยงมากขึ้นเป็นพิเศษ
ซีอีโอและผู้บริหารแถวหน้าคนอื่น ๆ ในองค์กรล้วนเป็นที่รู้จักในสาธารณะ และโดยปกติจะมีภาพและบันทึกกิจกรรมของบุคคลเหล่านี้ในบริบทต่าง ๆ เผยแพร่ในสื่อสาธารณะ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้นักต้มตุ๋นดีปเฟก (Deepfakers) มีเครื่องมือทั้งหมดที่จำเป็นในการสร้าง “ตัวตนเสมือน” เพื่อเลียนแบบอัตลักษณ์ต่าง ๆ ของผู้บริหารเหล่านั้น
![]()
การปลอมแปลงในลักษณะดังกล่าวนี้เกิดขึ้นแล้วกับบุคคลสาธารณะมากมาย บ่อยครั้งเกิดกับคนดัง ๆ ที่มักถูกนำภาพไปใช้ในทางอนาจารโดยที่ไม่ได้รับความยินยอม รูปสาธารณะของดารารวมกับเนื้อหาลามกอนาจารถูกนำมาผลิตใช้เสมือนของจริงจนน่าตกใจ ลองจินตนาการถึงเรื่องอื้อฉาวและการควบคุมความเสียหายหากเกิดเรื่องแบบนี้กับซีอีโอขององค์กร หรือจัดฉากการติดสินบนโดยมีนักแสดงยื่นเงินให้กันแล้วเอาใบหน้าของนักการเมืองหรือผู้บริหารด้านการเงินขององค์กรคุณมาสวมแทน แรนซัมแวร์อาจเป็นเรื่องน่ากลัวของวันนี้แต่พรุ่งนี้สิ่งที่จะมาแทนคือการใช้ดีปเฟกเพื่อการขู่กรรโชกหรือการให้ร้ายแก่กัน
เกี่ยวกับการ์ทเนอร์
บริษัท การ์ทเนอร์ (Gartner, Inc.) (NYSE: IT) คือบริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาชั้นนำของโลก และมีรายชื่ออยู่ในดัชนี S&P 500 บริษัทฯ ให้ข้อมูลเชิงลึก คำแนะนำ และเครื่องมือต่าง ๆ แก่ผู้บริหารองค์กรธุรกิจ เพื่อรองรับการดำเนินภารกิจสำคัญที่มีอยู่ในปัจจุบันและสร้างองค์กรให้ประสบความสำเร็จในอนาคต
การ์ทเนอร์นำเสนองานวิจัยที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญ และใช้แหล่งข้อมูลจากผู้ปฏิบัติงานจริง เพื่อชี้นำลูกค้าสำหรับการตัดสินใจที่ถูกต้องเหมาะสมในเรื่องที่สำคัญที่สุด การ์ทเนอร์ทำหน้าที่เป็นแหล่งข้อมูลที่เป็นกลางและเป็นที่ปรึกษาที่ได้รับความไว้วางใจจากองค์กรต่าง ๆ กว่า 14,000 แห่งในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมทุกส่วนงานสำคัญ ๆ ในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมและองค์กรทุกขนาด
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางของการ์ทเนอร์ในการช่วยให้ผู้บริหารตัดสินใจอย่างถูกต้องเพื่อขับเคลื่อนอนาคตของธุรกิจได้ที่ gartner.com
![]()
แดริน สจ๊วต
รองประธานฝ่ายวิจัย การ์ทเนอร์ อิงค์
แดริน สจ๊วต ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับแนวทางการนำข้อมูลเชิงลึกและความรู้ที่ไร้โครงสร้าง โดยมีความเชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ มากมาย ประกอบด้วย การจัดการความรู้ สถาปัตยกรรมข้อมูล เครื่องมือค้นหาและข้อมูลเชิงลึก การวิเคราะห์ข้อมูลและการประมวลผลภาษาธรรมชาติ และบริการเนื้อหาอื่น ๆ งานวิจัยและการให้คำปรึกษาของ ดร.สจ๊วต มาจากประสบการณ์จริงในอุตสาหกรรมและการทำงานในด้านวิชาการที่กว้างขวาง เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้สื่อสารที่มีประสิทธิภาพในการแปลเทคโนโลยีและแนวคิดที่ซับซ้อนให้เป็นโซลูชั่นทางธุรกิจที่นำไปบริหารจัดการและนำไปใช้ได้อย่างเหมาะสม
ประสบการณ์ที่ผ่านมา
ก่อนร่วมงานกับการ์ทเนอร์ ดร.สจ๊วตเคยเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการวิจัยและการทำงานร่วมกันของระบบให้กับ มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สุขภาพโอเรกอน (Oregon Health & Science University) รับผิดชอบด้านการวิจัยและการบริหารระบบสารสนเทศ กลยุทธ์ในการสร้างเว็บและการริเริ่มการใช้งานอินทราเน็ต เขาเป็นหนึ่งในสมาชิกของคณะการจัดการและประยุกต์ข้อมูลที่มหาวิทยาลัยโอเรกอน (University of Oregon) ตั้งแต่ปี 2547 และเคยดำรงตำแหน่งผู้นำการจัดการข้อมูลในองค์กรต่าง ๆ ตั้งแต่ บริษัทสตาร์ทอัพด้านอินเทอร์เน็ตไปจนถึงมหาวิทยาลัยชั้นนำ นอกจากนี้เขายังเป็นผู้เขียนหนังสือ "Building Enterprise Taxonomies"
· นินจาแวน ประเทศไทย ร่วมสนับสนุนธุรกิจ SME ช่วยโปรโมทร้านค้าออนไลน์
· ลงทะเบียนเพื่อลุ้นรางวัลโฆษณาบน Facebook และเพจชื่อดังฟรี!
กรุงเทพฯ ประเทศไทย – 8 ตุลาคม 2564: นินจาแวน ประเทศไทย ผู้นำบริการโลจิสติกส์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดตัวแคมเปญ “นินจา พาดัง” กิจกรรมสุดพิเศษเพื่อช่วยสนับสนุนธุรกิจ SMEs และผู้ค้ารายย่อยในการโปรโมทโปรไฟล์ร้านค้าออนไลน์เพื่อเพิ่มการเข้าถึงและช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่ แคมเปญนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม ถึง 16 ธันวาคม พ.ศ. 2564 โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลโฆษณาบน Facebook และโปรโมทบนเพจชื่อดังฟรี รางวัลรวมมูลค่ากว่า 1.7 ล้านบาท
ร้านค้าออนไลน์ทั่วประเทศไทยสามารถเข้าร่วมกิจกรรม “นินจา พาดัง” ได้ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าเดิมที่ใช้บริการนินจาแวนอยู่แล้ว หรือลูกค้าใหม่ที่อยากเข้าร่วมกิจกรรม สามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ลุ้นรางวัลได้ที่ http://ninjapadung.appninca.co/ หลังจากลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ทุกครั้งที่จัดส่งพัสดุกับนินจาแวน จะได้รับนินจา ชาร์ม (Ninja Charm) 1 สิทธิ์ ต่อการการส่งพัสดุ 1 กล่อง ยิ่งส่งมากยิ่งมีสิทธิ์ลุ้นมาก การจับรางวัลร้านค้าผู้โชคดีจะทำการจับฉลากและประกาศผลทุก 2 สัปดาห์ บน Facebook ของนินจาแวน
ผู้โชคดีจะได้รับรางวัลในการโปรโมทร้านค้าออนไลน์บน 4 เพจยอดนิยม ได้แก่ เซลเฮียร์ (Sale Here) จำนวน 6 รางวัล, ปันโปร (PunPro) จำนวน 12 รางวัล, รู้ยัง (Rooyoung) จำนวน 12 รางวัล และ อีเวนท์ พาส (Event Pass) จำนวน 2 รางวัล ซึ่งแต่ละเพจมีผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้านคน ถือเป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงและเป็นที่รู้จักของลูกค้ารายใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้นินจาแวนยังมีรางวัลเป็นเงินช่วยสนับสนุนค่าโฆษณาบน Facebook ให้กับร้านค้าออนไลน์ที่ได้รับรางวัลอีก 100 ร้านค้า เป็นเงินรางวัลรวมทั้งสิ้น 500,000 บาท
มร. เพียซ เอิง กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ กล่าวว่า “ปัจจุบันมีร้านค้าออนไลน์เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เราต้องการการสนับสนุนธุรกิจ SMEs ให้เติบโต การหาลูกค้าใหม่อาจเป็นเรื่องยาก เมื่อมีทรัพยากรที่จำกัด เราเชื่อว่าแคมเปญนี้จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจ SME ได้เป็นที่รู้จักมากขึ้น นินจาแวนได้ร่วมมือกับเพจยอดนิยม เพื่อช่วยยกระดับร้านค้าและผลิตภัณฑ์SMEs นอกจากนี้ เรายังจัดสรรเงินทุนจำนวนมาก เพื่อช่วยโปรโมทร้านค้าออนไลน์บูสต์โพสต์โฆษณาทางโซเชียลมีเดียอีกด้วย”
แคมเปญ “นินจา พาดัง” เปิดให้ร่วมลุ้นรางวัลตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม โดยผู้เข้าร่วมต้องลงทะเบียนให้เสร็จสิ้นภายใน 14 วันก่อนการประกาศผลแต่ละครั้ง การประกาศผลรางวัลผู้โชคดีครั้งแรกจะจัดขึ้นในวันที่ 27 ตุลาคม และจะมีขึ้นทุกสองสัปดาห์จนถึงวันที่ 22 ธันวาคม สามารถดูข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับเต็มได้ที่ http://ninjapadung.appninca.co/
นางสาวสิรีรัตน์ คอวนิช ผู้อำนวยการ – ธุรกิจบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เอาใจสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีที่สนใจปรับลุคให้ดูเพอร์เฟ็กต์ มอบสิทธิผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน และรับเครดิตเงินคืนไม่จำกัด เมื่อใช้บริการ ณ สถาบันความงามชั้นนำที่ร่วมรายการ และลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.ktc.co.th/beauty นอกจากนี้สมาชิกยังสามารถเปลี่ยนยอดชำระเต็มจำนวน ให้เป็นผ่อนชำระในอัตราดอกเบี้ย 0.74% ต่อเดือน เมื่อใช้บริการที่สถาบันความงามทั่วประเทศ โดยทำรายการได้ด้วยตนเองผ่าน KTC PHONE 02 123 5000 กด 4 หรือผ่านแอป KTC MOBILE และลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.ktc.co.th/beautyinstallment ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 - 31 มกราคม 2565
![]()
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่ KTC PHONE โทรศัพท์ 02 123 5000 หรือที่เว็บไซต์ www.ktc.co.th สมัครบัตรเครดิตได้ที่ศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือคลิกลิงค์เพื่อสมัครบัตรเครดิตได้ที่นี่ https://ktc.today/apply-card
การติดกับสถานะการณ์วิกฤตโควิด-19 ที่ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าจะจบลงเมื่อไหร่ กลายเป็นแรงกดดันให้ทุกคนและทุกองค์กรต้องเปลี่ยนผ่านตัวเองสู่ยุคดิจิทัลอย่างรวดเร็วเพื่อความอยู่รอด...แต่ใช่ว่าจะทำได้อย่างราบรื่น เพราะการปรับเปลี่ยนการดำเนินธุรกิจท่ามกลางสภาพแวดล้อมไอทีใหม่ ๆ เช่น คลาวด์ เอดจ์คอมพิวติ้ง เวอร์ช่วลไลเซชัน คอนเทนเนอร์ ไมโครเซอร์วิส เป็นต้น ทำให้หลายองค์กรต้องเผชิญกับความเสี่ยงระหว่างช่องว่างของการเปลี่ยนผ่าน (Transformation Gap) โดยความเสี่ยงที่ว่า ได้แก่ Cost (ต้นทุน) Cyber (ภัยคุกคาม) Cloud (คลาวด์) และ Compliance (กฎระเบียบ) หรือ 4Cs นั่นเอง
Cost – ต้นทุนข้อมูล
ว่ากันว่าต้นทุนสำคัญของธุรกิจยุคดิจิทัล คือ ข้อมูล ซึ่งจริงที่สุด ปัจจุบัน องค์กรส่วนใหญ่ต้องปวดหัวกับปัญหาการจัดการข้อมูล แอปพลิเคชัน และบริการที่ทำงานภายใต้สถาปัตยกรรมไอทีแบบ Virtualization อาทิ Virtual Machine การใช้งานในแบบ on-prem หรือคลาวด์ประเภทต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่ง
Gartner คาดว่า จากนี้จนถึงปี 2567 องค์กรธุรกิจมากกว่า 80% มีแนวโน้มใช้จ่ายงบประมาณที่มากขึ้นโดยเฉลี่ย 20-50% ไปกับจัดหาโซลูชั่นเพื่อ Protect ข้อมูลเหล่านี้ที่มีอาจอยู่ในหลากหลายแหล่ง ทำให้งบประมาณในการบริหารจัดการใช้มากขึ้น
ทางออก – ข้อมูลในองค์กรจำเป็นต้องได้รับการ Protect อย่างครบถ้วย ดังนั้นเทคโนโลยี Backup ต้องมีความสามารถในการจัดการกับข้อมูลทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นระบบงานแบบ Virtualization, Physical, Cloud และ โดยเฉพาะองค์กรที่มีการนำ DevOps มาใช้ในการพัฒนาและส่งมอบแอปพลิเคชัน แพลตฟอร์มบริการ หรือการบริหารจัดการปริมาณงานต่าง ๆ อาทิ Openstack, Docker, Kubernetes เป็นต้น อีกทั้งต้องมีความสามารถในการสำรองที่รวดเร็ว และประหยัดพื้นที่ในการใช้งาน
Cyber – ปัญหาไซเบอร์
การโจมตีของ Ransomware ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นเป็น 715% ในปี 2563 ส่งผลให้ 38% ขององค์กรที่โดนโจมตีเกิดการชะงักงันของระบบเป็นเวลานาน 5 วัน หรือมากกว่า และมีบางองค์กรไม่ได้ทำการ Protect ข้อมูลตามกฎ 3-2-1 (การสำรองข้อมูล 3 ชุดบนอุปกรณ์จัดเก็บที่แยกจากกัน 2 ประเภท และแยก 1 ชุดเก็บต่างสถานที่กัน) รวมถึงการการกู้คืนเพื่อนำ Business ทั้งหมดกลับมาทั้งหมดยังมีความยุ่งยาก และไม่ตอบโจทย์ SLA ในการกู้คืน
ทางออก – ระบบป้องกันภัยคุกคามแบบอุปกรณ์ 1 ชนิด ต่อ 1 ปัญหาภัยคุกคาม (Pointed Products) ไม่ตอบโจทย์ต่อสถานการณ์ปัจจุบัน การสร้างมาตรฐานความปลอดภัยข้อมูลด้วย “แพลตฟอร์ม” หนึ่งเดียวในรูปแบบ Data Services Platform แต่ครอบคลุมทั่วทั้งระบบกลับให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า ด้วยเหตุนี้ สิ่งที่ทุกองค์กรตามหาคือ แพลตฟอร์มป้องกันภัยที่มีความยืดหยุ่นสูง (Resiliency) ที่พร้อมใช้งาน (Availability) ชนิด 24x7 วัน โดยไม่ต้องกลัวการชะงักงันของระบบ การปกป้องและกู้คืนข้อมูล (Protection) ได้ทุกสเกล และการวิเคราะห์เจาะลึก (Insight) ถึงทุกข้อมูลและทุกอินฟราสตรัคเจอร์ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการจัดการต้นทุนรวมถึงการปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านข้อมูลต่าง ๆ นอกจากนี้ ต้องตอบโจทย์การทำงานสอดคล้องกับเทคโนโลยีปัจจุบัน อาทิเช่น เอดจ์คอมพิวติ้ง ระบบงานหลักขององค์กร (Core) ระบบแบบ on-prem และคลาวด์ สามารถบูรณาการการทำงานแบบ API driven เพื่อเชื่อมการทำงานของแอปพลิเคชันหรือโมดูลต่าง ๆ ได้อัตโนมัติ หรือ รองรับความปลอดภัยให้กับการทำงานที่ค่อนข้างไดนามิคอย่างคูเบอร์เนเตสได้ เป็นต้น
Cloud – การจัดการคลาวด์
นับวันองค์กรธุรกิจเริ่มมองแผนกลยุทธ์ที่ผสมผสานการทำงานแบบมัลติคลาวด์มากขึ้น ซึ่งจำเป็นที่ต้องมีการบริหารจัดการข้อมูลที่เป็นมาตรฐานเพื่อให้เกิดการใช้งานข้ามไปมาระหว่างคลาวด์แต่ละประเภท
ทางออก – การใช้เครื่องมือ Data Protection ที่สามารถรองรับการทำงานร่วมกับทุกประเภทของ Worklaod ไม่ว่าจะเป็น Physical, Virtualization, Private Cloud, Cloud, และ Hybrid Cloud ด้วยการ
บริหารจัดการแบบมาตราฐาน เข้ามาช่วยเสริมความปลอดภัยเมื่อต้องมีการเคลื่อนย้ายแอปพลิเคชัน ฐานข้อมูล และอินฟราสตรัคเจอร์ขึ้นไปอยุ่บนคลาวด์ประเภทใดก็ได้ ค่ายใดก็ได้ โดยทำหน้าที่ตั้งแต่การคัดแยกข้อมูลที่จำเป็นในการย้ายขึ้นสู่คลาวด์ผ่านเทคโนโลยีการบีบอัดข้อมูลเพื่อส่งผ่านไปยังคลาวด์ในจุดต่าง ๆ ที่ควรประหยัดได้ทั้งแบนด์วิธ เนื้อที่ในการจัดเก็บ และต้นทุนดำเนินการ
Compliance – กฎของข้อมูล
การ์ทเนอร์กล่าวว่า ในปี 2566 ข้อมูลส่วนบุคคลของประชากรโลกกว่า 65% จะได้รับการดูแลโดยกฎระเบียบด้านความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าที่มีในปัจจุบันอย่างน้อย 10% ดังนั้น องค์กรต้องหมั่นติดตามและเตรียมพร้อมไว้เสมอ โดยเฉพาะจำนวนข้อมูลที่จะเพิ่มมากขึ้นบนรูปแบบการใช้งานคลาวด์แบบไฮบริด อีกทั้งการเก็บรักษาข้อมูลให้ตรงตาม Compliance จะเป็นเรื่องยากและวุ่นวายมากขึ้นในการบริหารจัดการ
ทางออก – เครื่องมือวิเคราะห์ในอนาคต ตัวอย่างเช่น Aptare Script โดยเวอร์ริทัส จะต้องมีมุมมองที่หลากหลายและเจาะลึกถึงพฤติกรรมการใช้งานข้อมูลทุกประเภทในทุกอินฟราสตัคเจอร์ และทุกอุปกรณ์จัดเก็บและสำรองข้อมูล ไม่ว่าจะเป็น Virtualization, on-prem, Hybrid Cloud หรือ Multi Cloud รวมถึงการจัดระเบียบข้อมูลให้ถูกต้องตรงตามกฎการคุ้มครองข้อมูลและมาตรฐานด้านการบริการ (SLA Compliance) ต่าง ๆ เป็นต้น
การรู้เท่าทัน 4 จุดเสี่ยงในโลกยุดดิจิทัล จึงนับเป็นข้อได้เปรียบสำคัญที่ต่อยอดสู่การวางนโยบายและกลยุทธ์ทางเทคโนโลยีและการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าในอนาคต
8 ตลุาคม 2564 – บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค จัดกิจกรรมส่งมอบ iPhone 13 Pro, iPhone 13 Pro Max, iPhone 13 และ iPhone 13 mini ใหม่ ให้ลูกค้ากลุ่มแรกในไทยได้สัมผัส iPhone รุ่นล่าสุดก่อนใคร นำโดยคาราวานทีมงานส่งเครื่องให้ถึงมือลูกค้าที่บ้านอย่างปลอดภัย และรวดเร็วตรงเวลานัดหมาย พร้อมจัดทีมพนักงานให้บริการที่ศูนย์บริการดีแทคทั่วประเทศอย่างเต็มกำลัง ให้เพียงพอรองรับลูกค้าที่เข้ามารับเครื่องใหม่ในวันแรกของการวางจำหน่ายอย่างคึกคักพร้อมคุมเข้มมาตรการเว้นระยะห่างอย่างปลอดภัย โดยยอดจอง iPhone 13 ในปีนี้ ได้รับการตอบรับจากแฟนๆ iPhone อย่างล้นหลาม
ไฮไลท์ของการส่งมอบ iPhone 13 ของดีแทคในปีนี้ คือการจัดขบวนคาราวานส่งมอบเครื่องให้ถึงมือลูกค้าที่บ้านอย่างปลอดภัย ในทุกพื้นที่ ทั้งในกรุงเทพ ปริมณฑล ต่างจังหวัด และพื้นที่ห่างไกล รวมถึงเกาะต่างๆทั่วประเทศ โดยออกสตาร์ทส่งมอบเครื่องตั้งแต่เช้าของวันที่ 8 ต.ค. ให้ถึงมือลูกค้าภายในเวลานัดหมายไม่เกิน 24 ชั่วโมง พร้อมกันนี้ยังการันตีราคาดีที่สุดพิเศษสำหรับลูกค้าดีแทค Platinum Blue Member ที่จะได้เป็นเจ้าของสุดยอด iPhone ด้วยส่วนลดค่าเครื่องเพิ่มเติมอีก 3,000 บาท
สำหรับการส่งมอบเครื่องให้ลูกค้าดีแทค Platinum Blue Member 5 ท่านแรกในกรุงเทพและปริมณฑลในวันนี้ ดีแทคได้ส่งทีมพนักงานและน้องตัวดี ไปร่วมแสดงความยินดีกับลูกค้าถึงบ้าน สร้างความตื่นเต้นดีใจให้กับลูกค้าที่ได้เป็นเจ้าของ iPhone 13 รุ่นใหม่ ด้วยบรรยากาศอบอุ่นและปลอดภัยภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19
![]()
และในวันเดียวกัน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ลูกค้าบางส่วนเดินทางมารับเครื่อง iPhone 13 เป็นวันแรก ท่ามกลางความตื่นเต้นของที่ได้เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดเป็นกลุ่มแรก บรรยากาศที่ศูนย์บริการดีแทค สาขาเซ็นทรัลเวิร์ดจึงเต็มไปด้วยความคึกคัก ซึ่งดีแทคได้จัดสรรคิวอย่างเป็นระเบียบ โดยคำนึงถึงความปลอดภัย ให้บริการลูกค้าตามมาตรการรักษาความปลอดภัยและสุขอนามัยที่ดีให้ปลอดภัยจากโควิด-19
![]()
ดีแทคขอแสดงความขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจอย่างดีกับดีแทคมาโดยตลอดและตอกย้ำความมุ่งมั่น ตั้งใจที่จะดูแล การบริการลูกค้าอย่างจริงใจและดีที่สุด ลูกค้าที่สนใจสามารถดูรายละเอียดราคาและแพ็กเกจราคาได้ที่ www.dtac.co.th ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของ Apple ได้ที่ www.apple.com/th
OMEN 16 ก้าวข้ามขีดจำกัดของเกมมิ่งแล็ปท็อปผสมผสานวัสดุที่ยั่งยืน ด้วยฝาเครื่องวัสดุรีไซเคิลจากอลูมิเนียม
Victus by HP 16 ออกแบบเพื่อไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่นในสองสี ได้แก่ สีดำไมก้าซิลเวอร์และสีน้ำเงินดุดัน มาพร้อมสเปกรองรับการเล่นเกมและการทำงาน
![]()
กรุงเทพฯ - 8 ตุลาคม 2564 — เอชพี ประเทศไทย เปิดตัวเกมมิ่งพอร์ตโฟลิโอในแล็ปท็อป OMEN 16, Victus by HP 16 ที่มาพร้อมซอฟต์แวร์ OMEN Gaming Hub1 ในโหมดงานเสมือนจริง (Virtual Event) นำโดย มร. ลิม ชุน เต็ก กรรมการผู้จัดการของเอชพี ประเทศไทย พร้อมเกมเมอร์ชื่อดัง Pinkunotori และ Dreplay ร่วมถ่ายทอดประสบการณ์การเล่นเกม
การเล่นเกมเป็นช่องทางสำหรับความบันเทิงและการเชื่อมต่อกับเพื่อนฝูง จากสถิติพบว่า 2 ใน 3 ใช้เวลาเล่นเกมและดูวิดีโอเพิ่มขึ้นมากกว่าก่อนการระบาดใหญ่ และ 1 ใน 4 ของเกมเมอร์ เล่นเกมมากขึ้น 3-4 ชั่วโมง โดยเกือบ 1 ใน 5 ยังใช้เวลาเล่นเกมเพิ่มขึ้น 6 ถึง 10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์2 เอชพี ออกแบบเกมมิ่งพอร์ตโฟลิโอเจเนอเรชันรุ่นใหม่สำหรับเหล่าเกมเมอร์มากประสบการณ์และระดับมืออาชีพที่ต้องการทั้งความบันเทิง การเชื่อมต่อ เพิ่มประสิทธิภาพ และยกระดับการเล่นในเกมที่ชื่นชอบ อุตสาหกรรมเกมในประเทศไทยเป็นตลาดที่เติบโตอย่างเร็วเป็นอันดับสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีมูลค่า 29 พันล้านบาทในปี 2020 ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ย 14% ต่อปี3
มร. ลิม ชุน เต็ก กรรมการผู้จัดการของเอชพี ประเทศไทย กล่าวว่า “เอชพีให้ความสำคัญต่อการเล่นเกม ด้วยการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับการเล่นเกมให้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเหล่าเกมเมอร์สายจริงจังในเกมระดับเครื่อง OMEN หรือผู้เล่นหน้าใหม่ที่ถูกดึงดูดเข้าสู่สังคมของอุตสาหกรรมเกมที่กำลังเติบโตที่สร้างความบันเทิงอย่างไม่มีขีดสุด เอชพี จึงได้เปิดเส้นทางต้อนรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นเล่นเกมบนพีซีด้วยรุ่น Victus by HP ที่เปี่ยมไปด้วยขุมพลังและประสิทธิภาพ เป็นสมาชิกใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ OMEN
ออกแบบและยกระดับเพื่อการเล่นที่ก้าวหน้า
เหล่าเกมเมอร์มองหาความก้าวหน้าที่ผลักดันพวกเขาได้สัมผัสประสบการณ์การเล่นเกมที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุดตามที่นักพัฒนาเกมต้องการ โดยอีโคซิสเต็มของ OMEN ล่าสุดเพิ่มประสบการณ์ใหม่ที่เหนือความคาดหมาย เพื่อให้นักเล่นเกมสามารถเชื่อมต่อ เพลิดเพลินและตื่นเต้นเร้าใจไปกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น
เปิดตัว OMEN 16 ด้วย
· ประสิทธิภาพขั้นสูงสุด: สัมผัสประสบการณ์กราฟิกอันน่าทึ่งเพื่อทำให้การเล่นเกมมีชีวิตชีวาด้วย NVIDIA® GeForce® RTX™ 3070 8 GB แสดงรายละเอียดได้ชัดด้วยประสิทธิภาพระดับเดสก์ท็อปจาก Intel Core™ i7-11800H4 หรือโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen™ 9 5900HX ซีรีส์5ที่สูงขึ้นไป ใช้หลายแอพได้รวดเร็วด้วยแรม DDR4 3200 MHz ความจุสูงสุด 32GB และเข้าถึงเกมได้รวดเร็วด้วย PCIe Gen 4x4 SSD6 ด้วยความจุสูงสุด 1TB หรือ PCIe SSD ด้วยความจุสูงสุด 1TB สองตัวที่รองรับ Raid 07
· แหล่งพลังงาน: นวัตกรรมการระบายความร้อนของเอชพี ผลักดันข้อจำกัดให้เป็นไปได้ด้วยใบพัดที่บางลง 2.5 เท่า และพัดเร็วขึ้นกว่า 200% เมื่อเทียบกับ OMEN 158 ในขณะเดียวกัน ความจุของแบตเตอรี่ได้รับการอัปเกรดจาก 52.5Whr ไปถึง 70Whr สำหรับความจุแบตเตอรี่เพิ่มขึ้น 17%-33%9ที่อยู่ภายใน
คุณสมบัติของแล็ปท็อป OMEN 16
· ภาพที่สมจริง: เล่นเกมไหลลื่นผ่าน IPS สูงสุดถึง QHD10 165Hz เวลาตอบสนอง 3 มิลลิวินาที11และ sRGB 100% ครั้งแรกบนแล็ปท็อป OMEN ที่ลดแสงสีฟ้าได้อย่างแม่นยำซึ่งผ่านการรับรอง Eyesafe®12 โดย TÜVRheinlan ช่วยถนอมสายตาตลอดการเล่นเกมที่ยาวนาน จอแสดงผลที่คมชัดสามารถสั่งการใช้งานคีย์บอร์ดไฟ RGB ที่มาพร้อมกับ OMEN Gaming Hub Light Studio
· พัฒนาระบบระบายความร้อน: ระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยี OMEN Tempest Cooling มาพร้อมกับ Dynamic Power, ควบคุมประสิทธิภาพของการเล่นเกมด้วย OMEN Gaming Hub และ Undervolting13 ที่อยู่ในตัวเครื่อง
· เพิ่มประสิทธิภาพได้ง่ายและรวดเร็ว: อัปเกรดได้ง่ายด้วยการใช้เพิ่ม SSD กับ RAM แบบแผงเดียวโดยใช้น็อตยึดบนฐานของแล็ปท็อปและทำให้การเล่นเกมออนไลน์ไม่พลาดในทุกจังหวะด้วยการเชื่อมต่อที่ไม่ยุ่งยากผ่าน Wi-Fi 6E14 และพอร์ต 1x Thunderbolt 4 ที่มากับตัวเครื่อง
· การเล่นเกมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: เอชพี ขยายศักยภาพในการเป็นผู้นำในการนำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์พีซีที่มีความยั่งยืนมากที่สุดในโลก15 ด้วยแล็ปท็อป OMEN ที่ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมที่ยั่งยืนที่สุด ได้รับการรับรอง และการรับรอง EPEAT ระดับ Silver®16 ตัวแล็ปท็อปใช้อลูมิเนียมรีไซเคิลสำหรับฝาครอบ C ส่วนกล่องลำโพงได้ผสมผสานจากวัสดุรีไซเคิลทั้งพลาสติกและขยะจากทะเลและแป้นกด KB จากพลาสติกรีไซเคิล ตัวแล็ปท็อปถูกบรรจุด้วยกล่องด้านนอกและที่รองไฟเบอร์กันกระแทกที่ผลิตจากวัสดุที่สรรหาจากแหล่งทรัพยากรที่ยั่งยืนและรีไซเคิล 100%
ทุกการเดินทางมีจุดเริ่มต้น
นักเล่นเกมแต่ละคนมีจุดเริ่มต้นที่มีความหมายเมื่อเดินทางเข้าสู่การเล่นเกมบนพีซี การพัฒนา Victus by HP เพื่อหนุนให้เกมเมอร์ได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์การเล่นเกมอย่างที่เป็นจุดเด่น ของ OMEN ในฐานะที่ Victus เป็นน้องเล็กของแบรนด์ OMEN จึงเป็นการที่เตรียมพร้อม ให้ผู้เล่นที่มีพื้นฐานการเล่นทั่วไปได้ค้นพบตัวตนว่าอยากจะก้าวเข้าสู่มืออาชีพในเกมประเภทใด
Victus by HP 16 เครื่องแรกในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Victus มีดีไซน์สะท้อนไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่น มีสีที่ทรงพลังให้เลือก 2 สี ได้แก่ ดำไมก้าซิลเวอร์และ น้ำเงินดุดัน ทั้งหมดนี้มีคีย์บอร์ดเรืองแสงแบบมาตรฐานที่พิมพ์แบบอักษรเหมือน OMEN และคุณสมบัติอื่นๆ ได้แก่
· ทรงพลังในขนาดกะทัดรัด: จอแสดงผลขนาด 16 นิ้ว มีตัวเลือกสูงสุด QHD17 165 Hz18และ Eyesafe®19 ที่ลดแสงสีฟ้า และเข้ากันพอดีกับพื้นที่เกือบ 15 นิ้ว สำหรับการพกพาในชีวิตประจำวัน พิกเซลดูดีขึ้นกว่า เดิมด้วยกราฟิก NVIDIA® GeForce® RTX™ 3060 6 GB เล่นเกมคอมพิวเตอร์ได้เร็วยิ่งขึ้นด้วยตัวเลือก Intel® Core™ i7-11800H20 หรือโปรเซสเซอร์ตระกูล AMD Ryzen™ 7 5800H21 ที่สูงขึ้น มาพร้อมกับหน่วยความจำ DDR4 3200 MHz ความจุสูงสุด 32 GB
· จัดการความเย็นได้ดี: ช่องระบายอากาศด้านหลังกว้างช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายความร้อน เพิ่มการไหลเวียนของอากาศทั้งห้าทิศทางและมี Heat Pipe ระบายความร้อนอีกสี่ท่อ SSD จัดเก็บข้อมูล PCIe ความจุสูงสุด Gen4 1TB22 หรือ Dual SSD รองรับตัวเลือกการจัดเก็บข้อมูล RAID 023 ที่รวดเร็วและง่ายดายสำหรับการเล่นเกมหรือเพื่อเป็นงานอดิเรก
· ผสมผสานซอฟต์แวร์: มาพร้อมกับ OMEN Gaming Hub ที่ติดตั้งไว้แล้วเพื่อประสิทธิภาพการเล่นเกมด้วยคุณสมบัติที่ทรงพลัง เช่น Undervolting24, Performance Mode, Network Booster และ System Vitals พร้อมกับการเข้าถึงฟีเจอร์อื่นๆ เช่น Coaching และ Rewards
![]()
Victus by HP 16 สร้างขึ้นบนแนวคิดที่ยั่งยืนด้วยวัสดุรีไซเคิลพลาสติกและขยะจากทะเล ในการประกอบตัวลำโพงและฝาครอบ D25 และกล่องบรรจุด้านนอก รวมถึงที่รองไฟเบอร์ทำจากวัสดุที่สรรหาจากแหล่งทรัพยากรรีไซเคิลอย่างยั่งยืน 100%
เปิดตัวแล้วในประเทศไทย กับ โครงการ “Bilibili UP NEXT Animator Award 2021” เวทีแสดงผลงานแอนิเมเตอร์ไทย เมื่อวันที่ 21 กันยายน ที่ผ่านมา ผ่านระบบ Zoom meeting
งานนี้ได้รับเกียรติจาก คุณ Gan Xinhan (甘信汉) หรือ คุณตะวัน ตำแหน่ง Country Manager (Thailand) จาก Bilibili เป็นประธานในงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “Bilibili UP NEXT Animator Award 2021” กล่าวเชิญชวนแอนิเมเตอร์ไทยส่งผลงานเข้าประกวด โดยมี คุณนพ ธรรมวานิช นายกสมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชันและคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ไทย (TACGA) คุณสันติ เลาหบูรณะกิจ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิธิตา แอนิเมชั่น จำกัด และ คุณนิธิพัฒน์ สมสมาน รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะมั้งค์ สตูดิโอ เข้าร่วมการแถลงข่าวด้วย
Bilibili ตั้งเป้าที่จะเป็นแพลตฟอร์มวิดิโอคอนเทนต์ที่สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์และชีวิตประจำวันของคนรุ่นใหม่ยุคดิจิทัลในประเทศไทย ด้วยแพลตฟอร์มแบบไฮบริดที่มีทั้งวิดีโอคอนเทนต์ลิขสิทธิ์เพื่อความบันเทิง (Occupationally generated videos: OGVs) และวิดีโอคอนเทนต์โดยผู้บริโภค (User generated videos: UGVs) โครงการ “Bilibili UP NEXT Animator Award 2021” มีจุดประสงค์เพื่อมองหาผลนักสร้างสรรค์แอนิเมชันในประเทศไทยที่มีผลงานที่โดดเด่น พร้อมสนับสนุนและผลักดันวงการแอนิเมชันไทย คุณสมบัติของผู้ประกวด โครงการ Bilibili UP NEXT Animator Award 2021 แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทนิสิต/นักศึกษา และประเภทประชาชนทั่วไป สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถสมัครเข้าร่วมได้จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2564 ที่ https://forms.gle/XBaTySHKeXU6ryUx5
![]()
นอกจากนี้ โครงการ “Bilibili UP NEXT Animator Award 2021” ยังได้มีการจัดเตรียมกิจกรรมพิเศษ อื่น ๆ ที่ช่วยจะส่งเสริมศักยภาพของครีเอเตอร์ไทยทุกคนได้นำไปต่อยอดและพัฒนาตนเองอย่างมืออาชีพ ได้แก่
1. กิจกรรม Online Workshop of Bilibili UP NEXT Animator Award 2021 จะจัดขึ้นในวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เวลา 13:30 น. - 14:00 น. กิจกรรมเวิร์กชอปเป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้สมัครเข้าร่วมการประกวด ได้พบปะกับ 3 ผู้เชี่ยวชาญในวงการแอนิเมชันของไทย ที่จะมาแบ่งปันแนวคิดและประสบการณ์เกี่ยวกับการออกแบบแอนิเมชันและโมชันกราฟิก ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมเวิร์กชอปจะได้แลกเปลี่ยนความรู้และได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อนำไปพัฒนาการสร้างผลงานของตนเองให้กลายเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
2. กิจกรรม Online Animator Talk และการประกาศผลผู้เข้ารอบชิงชนะเลิศ 24 ทีม ของโครงการประกวดสื่อแอนิเมชัน Bilibili UP NEXT Animator Award 2021 จะจัดขึ้นใน วันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2564 เวลา 14:00 - 15:00 น. กิจกรรม Online Animator Talk ได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญด้านแอนิเมชัน มาร่วมแบ่งปันความรู้ที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการพัฒนาฝีมือและทักษะให้แก่ผู้เข้าแข่งขันได้พัฒนาตนเอง เมื่อกิจกรรมเสวนาสิ้นสุดลงจะประกาศผู้เข้ารอบ 24 คนสุดท้าย
สำหรับการประกาศผล Bilibili UP NEXT Animator Award 2021 จะประกาศอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2564 เวลา 20.00 น. ในรูปแบบการถ่ายทอดสดผ่านทางช่องทาง Bilibili ตัดสินโดยคณะกรรมการตัดสินผู้เชี่ยวชาญ และผู้ทรงคุณวุฒิ จากวงการแอนิเมชันและคอมพิวเตอร์กราฟิก รวมถึงตัวแทน จากสตูดิโอด้านแอนิเมชัน ชั้นนำของเมืองไทย
ติดตามข่าวสารของกิจกรรมได้ที่ Facebook: Bilibili UP NEXT Animator Award
เพื่อเฟ้นหาผลงานชั้นยอดของนักสร้างแอนิเมชันชาวไทย ในโครงการ Bilibili UP NEXT Animator Award 2021
#Bilibili #BilibiliUpNextAnimatorAward
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อรับข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรม

INFINOX ประกาศแล้ววันนี้ ขณะนี้แพลตฟอร์มการซื้อขาย MetaTrader (MT5) พร้อมให้ลูกค้าใช้งานเพื่อซื้อขายสินทรัพย์ที่หลากหลายแล้ว
แพลตฟอร์ม MT5 เปิดตัวแล้วทั่วโลก นั่นหมายความว่าลูกค้าจากทั่วทุกมุมโลกสามารถเพลิดเพลินกับฟีเจอร์มากมายที่พร้อมให้คุณได้ซื้อขาย
MT5 เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของผลิตภัณฑ์ชุด MetaTrader ที่ให้คุณซื้อขายคู่สกุลเงิน สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนี ฟิวเจอร์ส และหุ้น รวมไปถึงหุ้นบริษัทชื่อดัง อาทิ Facebook และ Apple
INFINOX รู้ดีว่าแพลตฟอร์มที่สามารถซื้อขายสินทรัพย์ได้หลากหลาย จะมอบความได้เปรียบอย่างมืออาชีพให้กับลูกค้า โดยแนะนำเครื่องมือการซื้อขายระดับสถาบัน ซึ่งรวมไปถึง
· สามารถซื้อขายได้มากกว่า 21 ไทม์เฟรม
· ปฏิทินเศรษฐกิจที่สร้างขึ้นเพื่อนำเสนอข่าวสารจากทั่วโลกที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาด
· ให้คุณได้ใช้ประเภทคำสั่ง 9 คำสั่งที่แตกต่างกัน
· เข้าถึงฟีเจอร์ความลึกของตลาด
MT5 ยังสามารถใช้ได้ทั้งบนเดสก์ท็อปและบนอุปกรณ์มือถือ หมายความว่าคุณสามารถเชื่อมต่อได้จากทุกที่
ด้วยประสิทธิภาพของ MT5 ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ลูกค้าของ INFINOX ในตอนนี้มีตัวเลือกการซื้อขายที่มากขึ้น คุณสามารถซื้อขายหุ้นมากกว่า 150 ตัวกับ INFINOX ได้ หุ้นบริษัทที่รู้จักกันเป็นอย่างดี อาทิ Netflix, Visa, Amazon และ Tesla ทั้งหมดนี้พร้อมให้คุณซื้อขายแล้ว
ความคิดเห็นที่มีต่อ INFINOX:
INFINOX มีความภาคภูมิใจในการให้บริการลูกค้าระดับพรีเมียมและเครื่องมือการซื้อขายที่หลากหลายในกลุ่มสินทรัพย์ต่าง ๆ การเพิ่มแพลตฟอร์ม MT5 ลงในข้อเสนอผลิตภัณฑ์ของเรา ยังคงความมุ่งมั่นของเราในการมอบเทคโนโลยีในการซื้อขายที่ทันสมัยให้กับลูกค้าทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่fafa
เอไอเอ ประเทศไทย ร่วมกับ ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป มอบบริการพบแพทย์ออนไลน์ (Telemedicine) สำหรับการดูแลสุขภาพใจ แก่ลูกค้าเอไอเอทั่วประเทศ เนื่องในวันสุขภาพจิตโลก
กรุงเทพฯ, 7 ตุลาคม 2564 – เอไอเอ ประเทศไทย ผู้นำในอุตสาหกรรมประกันชีวิตและประกันสุขภาพของไทย ร่วมกับ ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป ผู้ให้บริการดิจิทัลครบวงจร ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมทำแบบประเมินความเครียดและภาวะซึมเศร้า เนื่องในวันสุขภาพจิตโลก หรือ World Mental Health Day ซึ่งตรงกับวันที่ 10 ตุลาคมของทุกปี พร้อมมอบสิทธิเข้ารับบริการพบแพทย์ออนไลน์ (Telemedicine)[1] ผ่านแอปพลิเคชันทรู เฮลท์ (True HEALTH) แก่ลูกค้าเอไอเอ เพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจ ตอกย้ำคำมั่นสัญญาที่มุ่งสนับสนุนให้คนไทยให้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ‘Healthier, Longer, Better Lives – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น’
นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังคงมีผลกระทบต่อผู้คนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตทั้งในด้านความเป็นอยู่จากการถูกจำกัดพื้นที่ หรือจำกัดการเดินทาง ไม่ได้ออกไปพบปะเพื่อนฝูงหรือแม้แต่ครอบครัว และการต้องทำงานจากที่บ้าน (Work from home) รวมถึงการต้องปรับตัวกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทั่วโลก ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดภาวะความเครียดและเสี่ยงต่อการเกิดโรคซึมเศร้าได้นั้น เอไอเอ ประเทศไทย ในฐานะบริษัทประกันชีวิตอันดับ 1 ของประเทศไทย มีความมุ่งมั่นในการสนับสนุนให้ผู้คนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งเรามีโปรแกรมเอไอเอ ไวทัลลิตี้ (AIA Vitality) ที่คอยดูแลและส่งเสริมในด้านสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อให้ลูกค้ามีสุขภาพในองค์รวมที่ดีอย่างยั่งยืน เราตระหนักถึงความกังวลและความตึงเครียดที่ผู้คนส่วนใหญ่กำลังเผชิญอยู่ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจของลูกค้า จึงได้ร่วมมือกับทรู ดิจิทัล กรุ๊ป ส่งมอบบริการพบแพทย์ออนไลน์ (Telemedicine) แก่ลูกค้าเอไอเอที่มีกรมธรรม์ประกันชีวิตรายเดี่ยวกว่า 5.19 ล้านคน[2] รวมถึงสมาชิกเอไอเอ ไวทัลลิตี้ ในการทำแบบประเมินความเครียดและภาวะซึมเศร้า เพื่อตรวจสอบความแข็งแรงของสุขภาพใจ สำหรับลูกค้าท่านใดที่มีผลการทดสอบที่แสดงว่ามีภาวะเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้า เอไอเอจะมอบโค้ด (Code)[3] เพื่อนำไปลงทะเบียน พร้อมพูดคุยและรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ฟรี ผ่านทางแอปพลิเคชัน ทรู เฮลท์ (True HEALTH) โดยบริการพิเศษนี้ จัดขึ้นเนื่องในวันสุขภาพจิตโลก ซึ่งเป็นการผสานความร่วมมือในการนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพ มุ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้ายุคดิจิทัลด้วยการยกระดับประสบการณ์ด้านสุขภาพแก่ลูกค้าเอไอเอ”
ดร.อดิภัทร ชัยชนะสกุล กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจดิจิทัล เฮลท์ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า “ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป ผู้ให้บริการดิจิทัลครบวงจร ได้พัฒนาแพลตฟอร์มดูแลสุขภาพอัจฉริยะ “ทรู เฮลท์” โดยผสานความล้ำสมัยของเทคโนโลยีดิจิทัลกับบริการทางการแพทย์ เพื่อร่วมยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้สามารถดูแลสุขภาพและเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้อย่างทั่วถึง สะดวก รวดเร็ว ประหยัด และปลอดภัย หลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการติดเชื้อจากการเดินทางไปโรงพยาบาล ปรึกษาเรื่องสุขภาพเบื้องต้นผ่านระบบออนไลน์ได้ทุกที่ กับทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญจากชีวีบริรักษ์คลินิกเวชกรรม ซึ่งให้บริการครอบคลุมกว่า 20 สาขา ทั้งสุขภาพกายและใจ ล่าสุด เราได้มีการขยายความร่วมมือกับเอไอเอ ประเทศไทย ร่วมดูแลสุขภาพใจของคนไทย เนื่องในวันสุขภาพจิตโลก โดยมอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้าเอไอเอที่มีกรมธรรม์ประกันชีวิตรายเดี่ยว และสมาชิกเอไอเอ ไวทัลลิตี้ ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าจากการทำแบบประเมินฯ เข้ารับบริการปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพใจผ่านแอปพลิเคชัน True HEALTH ฟรีตามเงื่อนไขที่เอไอเอกำหนด โดยลูกค้าเอไอเอสามารถใช้บริการได้ง่ายๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน True HEALTH แล้วเลือกแพทย์ในแผนกสุขภาพใจและนัดหมายขอรับคำปรึกษาได้ตามวันและเวลาที่สะดวก พูดคุยกับแพทย์แบบเรียลไทม์ได้หลายรูปแบบทั้ง แชต โทร หรือ วิดีโอ คอล (VDO Call) พร้อมบริการส่งยาตามที่แพทย์สั่งถึงหน้าบ้านทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทั่วประเทศ[4] เราเชื่อมั่นว่า “ทรู เฮลท์” จะเป็นอีกหนึ่งบริการที่ช่วยให้คนไทยมีสุขภาพกายและใจที่เข้มแข็ง เพื่อก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน”
นพ.ณัฐพล พิพัฒฐาดร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านจิตเวช จากทรู เฮลท์ กล่าวว่า “การดูแลสุขภาพใจให้แข็งแรงถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะสุขภาพใจมีผลต่อความรู้สึก ความคิดและการตอบสนองต่อสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น การมีสุขภาพใจที่ดีจะช่วยให้สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข ส่งผลให้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้างและครอบครัว ซึ่งการดูแลสุขภาพใจให้ดีสามารถทำได้หลายวิธี การปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยบรรเทาปัญหาสุขภาพทางใจได้ หลายคนอาจจะคิดว่าการปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพใจเป็นเรื่องน่าอาย แต่ในปัจจุบันเราสามารถปรึกษาแพทย์ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ซึ่งเป็นวิธีที่ง่าย รวดเร็ว และปลอดภัย ไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาล สามารถนัดหมายขอรับคำปรึกษา พูดคุยได้แบบเรียลไทม์ตามวันและเวลาที่สะดวก ยิ่งในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทุกคนมีความเครียดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ เด็ก หรือวัยรุ่น ไม่ว่าจะเจอความเครียดอะไร มากน้อยแค่ไหน ก็ไม่ควรมองข้าม สามารถเข้ามาปรึกษากับทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพใจของ True HEALTH ได้ตลอด การได้รับคำแนะนำที่ดี แก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดจะช่วยให้มองเห็นทางออกของปัญหาได้ดีขึ้น อีกทั้งยังสามารถป้องกันไม่ให้อาการที่เป็นอยู่ทวีความรุนแรงขึ้น เพราะสามารถเข้าถึงการปรึกษาแพทย์ได้เมื่อต้องการ และมีความต่อเนื่องของการรักษา”
ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถทำแบบประเมินผ่านลิงค์ https://bit.ly/3Dou0gj หรือแอปพลิเคชัน AIA iService ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2564 และสามารถศึกษารายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ www.aia.co.th/vitality หรือติดต่อ AIA Call Center 1581 และหากสนใจผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและสุขภาพ รวมถึงบริการต่างๆ จากเอไอเอ สามารถติดต่อตัวแทนประกันชีวิตเอไอเอ ประเทศไทย กว่า 55,000 คนทั่วประเทศ