

เป็นอีกปีที่ เคทีซี หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด(มหาชน) ยังรักษาสถิติการสร้างผลกำไรปี 2564 แตะที่ 6,251 ล้านบาท ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อหลายต่อหลายส่วน ทั้งทางตรงและทางอ้อม ส่งผลให้พอร์ตลูกหนี้โดยรวมเติบโตไม่มากดั่งคาดหวัง แต่ภายใต้ความเข้มแข็งของทีมงานและเครือข่าย ประกอบกับเศรษฐกิจเริ่มขยับฟื้นตัวในช่วงปลายปี และเป็นแนวโน้มที่ดีต่อทิศทางและโอกาสของตลาดสินเชื่อ โดยผู้บริหารเคทีซี มองเห็นโอกาสสำหรับตลาดสินเชื่อในปี 2565 ที่คาดว่าจะสามารถดันพอร์ตลูกหนี้ให้เติบโตไปได้อย่างต่อเนื่อง
นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” ได้เผยถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2564 ที่เริ่มขยับตัวดีขึ้นเล็กน้อย จากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ทำให้หลายธุรกิจในภาคเอกชนมีแนวโน้มดีขึ้น มีการใช้จ่ายเม็ดเงินในประเทศ สร้างรายได้หมุนเวียนจากการท่องเที่ยว ส่งออกสินค้าและบริการ อย่างไรก็ดี ก็ยังคงต้องจับตาความเสี่ยงของหนี้ครัวเรือนและหนี้ธุรกิจใน ปี 2565 ที่ยังอยู่ในระดับสูงพอๆ กับความเสี่ยงของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่แพร่ระบาดรวดเร็วในหลายพื้นที่ ซึ่งกระทบการบริโภคในประเทศ และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง
“ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เคทีซีได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และการลดเพดานอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อต่อเนื่อง ทำให้แผนการขยายธุรกิจบางอย่างต้องชะลอตัวลง พอร์ตลูกหนี้รวมโตไม่มากนัก บริษัทฯ จึงได้ปรับแผนกลยุทธ์หลายอย่างเพื่อให้ธุรกิจผ่านพ้นวิกฤติต่างๆ ไปได้ ทั้งการบริหารพอร์ตลูกหนี้ให้มีคุณภาพดีต่อเนื่อง รวมถึงการควบคุมค่าใช้จ่ายให้ลดลง ล้วนเป็นปัจจัยหลักให้ผลกำไรสุทธิของเคทีซีในปี 2564 เพิ่มขึ้น และนับเป็นสถิติใหม่ของเคทีซีที่ทำกำไรสูงสุดอีกครั้ง ทั้งงบการเงินเฉพาะ 6,251 ล้านบาท และงบการเงินรวม 5,879 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 17.2% และ 10.2% ตามลำดับ โดยกำไรในงบการเงินรวมมีมูลค่าต่ำกว่างบการเงินเฉพาะ เนื่องจากราคาซื้อขายในบริษัท กรุงไทยธุรกิจ ลีสซิ่ง จำกัด (KTBL) ที่เกิดขึ้นจริงต่ำกว่าที่คาดการณ์ และเพื่อให้สะท้อนมูลค่าจริงของพอร์ตลูกหนี้ จึงมีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นใน KTBL เป็นจำนวน 539 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว”

“สำหรับผลประกอบการของเคทีซี ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 บริษัทฯ มีเงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้และดอกเบี้ยค้างรับรวม 92,636 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 2.8% ส่วนปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตทั้งปีอยู่ที่ 195,727 ล้านบาท ลดลง -0.7% รายได้รวม 21,442 ล้านบาท ลดลง -2.8% รายได้ดอกเบี้ยลูกหนี้บัตรเครดิตและลูกหนี้สินเชื่อบุคคลที่ลดลง จากการถูกปรับลดเพดานอัตราดอกเบี้ยของทั้งสองธุรกิจและผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 แต่ก็สามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายรวมให้ลดลง -7.8% อยู่ที่ 14,197 ล้านบาท โดยค่าใช้จ่ายทางการเงิน และผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลงในอัตรา -7.7% และ -17.4% ตามลำดับ และยังมีอัตรารายได้หนี้สูญที่ได้รับคืนเพิ่มขึ้น 4.7% อัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) รวมลดลงที่ 3.6% จาก 3.8% ในไตรมาส 3”
ซีอีโอของ เคทีซียังเผยถึง ฐานสมาชิกรวม ณ สิ้นปี 2564 มีจำนวน 3,266,786 ล้านบัญชี แบ่งเป็นธุรกิจบัตรเครดิต 2,515,110 บัตร เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้บัตรเครดิต 60,201 ล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (NPL) ลูกหนี้บัตรเครดิต 1.2% ธุรกิจสินเชื่อบุคคล 751,676 บัญชี เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้สินเชื่อบุคคล 29,235 ล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (NPL) ลูกหนี้สินเชื่อบุคคลเท่ากับ 2.9%
“เคทีซียังเน้นการบริหารต้นทุนทางการเงินให้มีประสิทธิภาพ โดยสิ้นปี 2564 บริษัทฯ มีเงินกู้ยืมทั้งสิ้น 54,403 ล้านบาท ลดลง 5.3% เป็นโครงสร้างแหล่งเงินทุนจากเงินกู้ยืมระยะสั้นและระยะยาว คิดเป็นสัดส่วน 17% ต่อ 83% ตามลำดับ โดยเป็นเงินกู้ยืมจากธนาคารกรุงไทย 6,230 ล้านบาท สถาบันการเงินอื่น 4,400 ล้านบาท และการออกหุ้นกู้จำนวน 43,773 ล้านบาท โดยมีต้นทุนการเงินที่ 2.5% อัตราส่วนของหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 2.3 เท่า ซึ่งต่ำกว่าภาระผูกพันที่กำหนดไว้ที่ 10 เท่า และมีวงเงินสินเชื่อคงเหลือ (Available Credit Line) จำนวน 24,009 ล้านบาท”
สำหรับแผนกลยุทธ์ในปี 2565 เคทีซีเล็งเห็นโอกาสในการเติบโตของสินเชื่อมีหลักประกันที่ได้วางรากฐานมากว่า 2 ปี อีกทั้งการฟื้นตัวของสภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ประกอบกับมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐ และผู้บริโภคเริ่มมีการใช้จ่ายมากขึ้น ทำให้บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะสามารถผลักดันพอร์ตลูกหนี้รวมให้โตเกิน 100,000 ล้านบาท และทำกำไรสูงสุดสร้างสถิติใหม่อีกครั้งในปี 2565 โดยจัดสรรงบประมาณด้านการตลาดที่มากขึ้น และขับเคลื่อนโมเดลธุรกิจสำคัญที่แตกต่างจากเดิมคือ ธุรกิจบัตรเครดิต สร้างโอกาสเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) จากการขยายฐานบัตรร่วมกับพันธมิตรรายใหญ่ ออกผลิตภัณฑ์ใหม่และพัฒนาบัตรเครดิตร่วม (Co-brand) เน้นสิทธิประโยชน์ที่ตรงใจเพื่อผูกความสัมพันธ์กับสมาชิกบัตรในระยะยาว และตั้งเป้าปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรขยายตัว 10% หรือประมาณ 220,000 ล้านบาท ธุรกิจสินเชื่อเคทีซี พี่เบิ้ม และ KTBL เป็นแกนธุรกิจเป้าหมายที่จะสร้าง New S Curve ผลักดันให้เคทีซีมีรายได้เติบโตแบบก้าวกระโดดและยั่งยืน โดยตั้งเป้ายอดลูกหนี้สินเชื่อเติบโตที่ 11,500 ล้านบาท ผ่านความร่วมมือกับเครือข่ายธนาคารกรุงไทยและกรุงไทยลีสซิ่งทั่วประเทศ ธุรกิจสินเชื่อบุคคล มุ่งขยายฐานสมาชิกใหม่ที่มีศักยภาพ เน้นผู้มีรายได้ประจำและมีฐานรายได้ที่สูงขึ้น โดยประมาณอัตราการเติบโตที่ 7%
นอกเหนือไปจากแผนงานและกลยุทธ์ธุรกิจในผลิตภัณฑ์หลักเดิมของ เคทีซี ที่ต้องขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายแล้ว นายระเฑียร ยังได้เผยถึง ก้าวใหม่ของยุทธศาสตร์ธุรกิจ เคทีซี ที่หวังให้เป็น ก้าวแห่งอนาคต คือ
“MAAI BY KTC ซึ่งจะเป็นแพลตฟอร์มที่เคทีซีพัฒนาขึ้นใหม่ จากการต่อยอดความแข็งแกร่งของเคทีซีในการทำระบบคะแนนสะสม และความเชี่ยวชาญในการบริหารคะแนน KTC FOREVER ที่ตอบโจทย์หลากหลายความต้องการของลูกค้า โดย แพลตฟอร์ม MAAI จะเข้ามาส่งเสริมและสนับสนุนพันธมิตรธุรกิจในเรื่องการบริหารลอยัลตี้ โปรแกรม (Loyalty Program) แบบครบวงจร จากความเชี่ยวชาญในเรื่องระบบบริหารจัดการสมาชิก (Membership Management) ระบบบริหารจัดการคะแนน (Point System Management) และระบบบริหารจัดการสิทธิประโยชน์ในรูปแบบคูปองอิเล็กทรอนิก (e-Coupon Management) โดยแพลตฟอร์ม MAAI จะเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญในการสร้าง Eco-system ของเคทีซี โดย MAAI กำหนดเปิดตัวเพื่อทดสอบระบบในเดือนมกราคม 2565 โดย MAAI จะเดินหน้าพัฒนาและโชว์ความก้าวหน้าอย่างเนื่อง โดยเคทีซี กำหนดงบประมาณการใส่ทุนหมุนเวียนใน MAAI จาก คะแนน KTC Forever จำนวน 300 ล้านคะแนน และคาดหวังเป้าหมายผู้ใช้งาน 1 ล้านบัญชีสมาชิกภายในสิ้นปี 2565”
CHESTER’S FAST CAFÉ ชวนเปิดประสบการณ์ POWER PAUSE พักเติมพลัง ด้วยเมนูฟิวชั่น “ถึงใจ” แบบไทย ผสาน “ความพิถีพิถัน” แบบญี่ปุ่น พร้อมอิ่มอร่อยอารมณ์ดี Good Food Good Mood ไปกับเมนูใหม่กว่า 30 รายการ ที่รังสรรค์โดยเชฟมิชลินชื่อดังของไทย พร้อมประสบการณ์และบรรยากาศร้านรูปแบบใหม่ ได้แล้ววันนี้ ที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว ชั้น G

บริษัท เชสเตอร์ฟู้ด จำกัด ธุรกิจร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดในเครือ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เปิดตัว "CHESTER’S FAST CAFÉ" (เชสเตอร์ ฟาสต์ คาเฟ่) ร้านอาหารฟิวชั่นสไตล์ไทยญี่ปุ่น ด้วยการอัพเกรดเมนุไฮไลท์ของร้านเชสเตอร์ปัจจุบัน ให้เป็นเมนูที่มีความพิเศษ รสชาติจัดจ้านถึงใจ แบบไทย ผสมผสานความพิถีพิถันแบบญี่ปุ่น กว่า 30 เมนู ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นมาใหม่อย่างเป็นเอกลักษณ์ และเพิ่มความอร่อยยิ่งขึ้น โดยเชฟมิชลินชื่อดังของเมืองไทย ทุกเมนูปรุงด้วยวัตถุดิบคุณภาพดี และ การจัดจานอย่างประณีตพิถีพิถัน ในแบบญี่ปุ่น เพื่อให้ทุกเมนูมีคุณค่า ในราคาที่เข้าถึงได้ โดยมี นางสาวลลนา บุญงามศรี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธุรกิจร้านอาหาร ซีพีเอฟ และผู้บริหารเชสเตอร์ฟู้ด ร่วมเปิดร้าน ณ เซ็นทรัล ลาดพร้าว ชั้น G

ใครเป็นสาวก CHESTER’S รับรองไม่ผิดหวังกับเมนู Signature ของร้าน CHESTER’S FAST CAFÉ อย่างแน่นอน เริ่มที่ เมนูข้าวไก่ย่างหนังกรอบ เพสโตเคอรี่ไข่ออนเซ็น ที่นำเอาไก่ย่างสูตรลับเฉพาะของเชสเตอร์มาย่างให้หนังกรอบหอมเกรียม และราดด้วยซอสเพสโต้เข้มข้น ให้ความหอมอร่อย รสชาติจัดจ้าน เผ็ดกำลังดี เสิร์ฟพร้อมไข่ออนเซ็น ทานคู่กันอย่างลงตัว หรือเมนูข้าวไก่เผ็ดหนังกรอบ เชสเตอร์บิทส์ ไข่ออนเซ็น ที่นำไก่ย่างสูตรเผ็ดที่ลูกค้าเชสเตอร์ชื่นชอบมาย่างให้หนังกรอบหอมเกรียม เสิร์ฟพร้อมซอสโชยุหวานแบบญี่ปุ่น สูตรพิเศษ พร้อมด้วยผงโรยข้าวที่เป็นหนังไก่กรอบ ทานคู่กับผักสลัดและไข่ออนเซ็น อร่อยเกินคำบรรยาย นอกจากนี้ยังมีเมนูรับประทานเล่น ที่ไม่เหมือนใคร อาทิ ชิกโกะยากิ เนื้อไก่บดทอดมีความนุ่มกรอบ ราดด้วยซอสทาโกะยากิและมายองเนส โรยด้วยปลาโอและสาหร่าย ที่ให้ความหอมอร่อยยิ่งขึ้น หรือจะเป็น คริสปี้ชิก หนังไก่บางเฉียบที่นำไปอบแบบไร้น้ำมันจนกรอบ โรยด้วยผงหนังไก่กรอบ เพิ่มความหอม อร่อยน่าทานมากขึ้น ทุกเมนูในร้านปรุงด้วยวัตถุดิบคุณภาพดี พรีเมียม สด สะอาด ปลอดภัยจากซีพีเอฟ นอกจากนี้ ยังเอาใจสายหวานด้วยเมนูขนมหวานสุดฟิน 'สตรอว์เบอร์รี่ โมจิ วาฟเฟิล' มาพร้อมวาฟเฟิลที่กรอบนุ่ม สอดไส้โมจิสไตล์ญี่ปุ่น ราดด้วยซอสสตรอว์เบอร์รี่ หรือบัตเตอร์สก็อต ที่หอมหวานกำลังดี เสิร์ฟพร้อมกับเครื่องดื่ม มัทฉะลาเต้ ที่ให้รสชาติหอมของชาเขียวมัทฉะ ผสมกับรสชาติหอมๆของเมล็ดกาแฟ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในคาเฟ่ที่ญี่ปุ่น

นอกจากเมนู Good Food อร่อยขั้นสุด ที่ CHESTER’S FAST CAFÉ แล้ว ดีไซน์ของร้านก็ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมดในรูปแบบและบรรยากาศร้านที่ทันสมัย ภายในร้านตกแต่งด้วยโทนไม้และไลท์ติ้ง ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สบาย และ อบอุ่น เหมือนนั่งอยู่ในร้านคาเฟ่ที่ญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีโซน “POWER PAUSE” ที่เป็นมุมไฮไลท์ ตกแต่งด้วยโทนสีเขียว และประดับด้วยต้นไม้ เพื่อเพิ่มความสดชื่น มีชีวิตชีวา ช่วยเติมเต็มช่วงเวลาพักสั้นๆของคุณให้มีค่า และยังสามารถแชะแอนด์แชร์ กับเพื่อนๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน
สำหรับโปรโมชั่นพิเศษ ช่วงฉลองเปิดร้าน CHESTER’S FAST CAFÉ ได้แก่ เซ็ตข้าวไก่ย่างหนังกรอบเพสโต้เคอร์รี่ ไข่ออนเซ็น ซุปมิโซะต้มยำ พร้อมเป๊บซี่รีฟิล ในราคา 189 บาท (จากราคา 234 บาท) และเช็ตข้าวไก่ย่างหนังกรอบเชสเตอร์บิทส์ ข้าวไก่ย่างหนังกรอบเพสโต้เคอร์รี่ ชิกวิงส์มาโยดิบ วาฟเฟิลฟรายส์ ไซส์ M ไข่ออนเซ็น 2 ที่ เป๊บซี่รีฟิล 2 แก้ว เพียง 399 บาท (จากราคา 518 บาท) สำหรับทานที่ร้านหรือนำกลับ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถสั่งเมนูอร่อยผ่านเดลิเวอรี่ทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น Grab Food, Lineman, Foodpanda, Shoppee Food, Robinhood และ True Food หรือติดตามรายละเอียดและโปรโมชั่นดีๆ ได้ที่ Facebook Fanpage : https://web.facebook.com/ChestersFastCafe

ร้าน CHESTER’S FAST CAFE’ พร้อมเสิร์ฟความอร่อย ปลอดภัย และการให้บริการอย่างมั่นใจ ด้วยมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวดตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข โดยขอความร่วมมือจากลูกค้าสวมหน้ากากอนามัย วัดอุณหภูมิ และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ก่อนเข้าร้าน ตลอดจนการเว้นระยะในระหว่างเข้าแถวสั่งอาหาร รวมทั้งเพิ่มช่องทางการชำระเงินแบบไร้สัมผัส True Money Wallet เพื่อสร้างความมั่นใจในสินค้าและบริการ สะอาด ปลอดภัยแก่ผู้บริโภค
บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด (DTN) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (มหาชน) จำกัด หรือดีแทค ได้ลงนามสัญญาสินเชื่อระยะยาวอายุ 5 ปี ที่เชื่อมโยงกับ สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social, and Governance) เป็นครั้งแรก โดยมีอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรภาคเอกชนระยะข้ามคืนระหว่างธนาคาร THOR (Thai Overnight Repurchase Rate) กับ ธนาคาร มิซูโฮ จำกัด
เงินกู้ระยะยาวที่เชื่อมโยงกับ ESG โดยมีอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง THOR มูลค่า 6 พันล้านบาทนี้ มีการปรับอัตราดอกเบี้ยที่เชื่อมโยงกับคะแนน ESG ของดีแทค ซึ่งเงินกู้นี้ถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการพัฒนาตลาดการเงินทั้งในแง่การส่งเสริมการใช้อัตราอ้างอิง THOR ใหม่และเครื่องมือทางการเงินที่เชื่อมโยงกับ ESG ให้แพร่หลายมากยิ่งขึ้น
ธุรกรรมที่ไม่เหมือนใครนี้แสดงถึงหมุดหมายใหม่ในการร่วมส่งเสริมแนวทางของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ด้วยการใช้ THOR เพื่อปรับปรุงเสถียรภาพของตลาดการเงินควบคู่ไปกับการรับรู้ถึงความสำคัญของด้าน ESG ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
นายนกุล เซห์กัล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการเงิน บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมลงนามสัญญาณสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมภิบาล กับธนาคารมิซูโฮ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจการเงินชั้นนำในประเทศญี่ปุ่น นี่เป็นโอกาสอันดีสำหรับดีแทคในการตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม เราจะยังคงเดินหน้าบูรณาการแนวคิดด้านความยั่งยืนหรือ ESG ในการดำเนินงานของเราในมิติต่างๆ เนื่องจากเราเชื่อว่านี่เป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่จะสร้างผลกระทบในวงกว้างในสังคมไทย และในการสร้างอนาคตที่แข็งแกร่งยั่งยืน อีกทั้งเรามีความยินดีที่ได้ร่วมส่งเสริมอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงใหม่ THOR ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยธนาคารแห่งประเทศไทย และถือเป็นหมุดหมายสำคัญของพัฒนาการตลาดการเงินไทย”
นาย เคอิ ชิโรตะ ผู้จัดการทั่วไปของ ธนาคาร มิซูโอ จำกัด สาขากรุงเทพ กล่าวว่า “มิซูโฮขอแสดงความยินดีต่อความสำเร็จครั้งแรกของ DTN สำหรับสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับ ESG ที่ใช้ THOR เป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง และเราภูมิใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จนี้
เราประทับใจในนโยบายการพัฒนาที่ยั่งยืนของดีแทค ตลอดจนความพยายามที่จะนำอัตราอ้างอิง THOR ที่เพิ่งเปิดตัวไปใช้ในธุรกรรมทางการเงินของบริษัท ซึ่งจะกระตุ้นการพัฒนาตลาดการเงินของประเทศไทยในอนาคตให้สอดคล้องกับแนวโน้มของโลก
นางอลิศรา มหาสันทนะ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ความเห็นว่า “ธุรกรรมสินเชื่ออ้างอิงอัตราดอกเบี้ย THOR และเชื่อมโยงกับคะแนน ESG ที่ ธนาคาร มิซูโฮ จำกัด สาขากรุงเทพ ได้ทำสัญญาร่วมกับ บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด แสดงให้เห็นวิสัยทัศน์ของทั้ง 2 หน่วยงานที่มุ่งเน้นความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล รวมถึงความพร้อมของธนาคารในการทำธุรกรรมอ้างอิงอัตราดอกเบี้ย THOR ขณะเดียวกันยังเอื้อให้ภาคธุรกิจมีแหล่งเงินทุนเพื่อขับเคลื่อนให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนด้วยต้นทุนที่ลดลง ธปท. จึงขอขอบคุณในความร่วมมือที่ได้ส่งเสริมให้มีเครื่องมือระดมทุนที่ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศในระยะยาวทั้งในด้านการสนับสนุนอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง THOR และการร่วมสร้างสมดุลทางด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม”
ลูกค้าของเอมิเรตส์ที่เดินทางสู่นครดูไบ สามารถเพลิดเพลินกับข้อเสนอพิเศษ เมื่อจองบัตรโดยสารพร้อมกัน สำหรับการเดินทางตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2565
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด หนุนเกษตรกรรายย่อยจากภาคอีสาน ผลักดันสินค้าเกษตรคุณภาพดีประจำจังหวัดกาฬสินธุ์
KKP Research โดยเกียรตินาคินภัทร ออกรายงาน “จับตาความเสี่ยงเศรษฐกิจไทย 2022: Omicron กระทบเศรษฐกิจไทยมากแค่ไหน?”
ในช่วงนี้เราจะได้เห็นกระแสและการเติบโตของตลาดใหม่ๆ เกิดขึ้นทั้งในไทยและของโลก ไม่ว่าจะเป็น Metaverse โลกของ DeFi ตลาดเกมบนบล็อกเชนและหมายรวมถึงตลาด NFT ที่กำลังบูมมากในบ้านเรา
พร้อม Nokia แท็บเล็ต ส่งมอบสมาร์ทโฟนที่เชื่อถือได้ และใช้งานได้นาน
FINTECH BANK เตรียมสยายปีกด้วยบริการธนาคารดิจิทัล
บัตรเครดิต ทีทีบี มอบประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบสุดคุ้ม ช่วยลูกค้าประหยัดกับสิทธิพิเศษ 2 ต่อ