แม้ปัจจุบันแวดวงการท่องเที่ยวจะเปิดกว้างมากขึ้น และเดินหน้านำเสนอประสบการณ์ที่หลากหลายให้แก่ผู้เดินทาง LGBTQ+ แต่ยังคงมีผู้เดินทาง LGBTQ+ อีกมากที่ต้องเผชิญอุปสรรคและข้อควรระวังมากมายระหว่างทริปของพวกเขา ด้วยความมุ่งมั่นที่ต้องการให้ทุกคนไม่ว่าจะรักใครหรือระบุตัวตนอย่างไรก็ตาม ได้ออกไปสัมผัสโลกกว้างอย่างราบรื่นและง่ายดายยิ่งขึ้น Booking.com จึงได้จัดทำแบบสำรวจประสบการณ์ด้านการเดินทางของ LGBTQ+ เพื่อเผยถึงความกังวลใจและความท้าทายที่ชาว LGBTQ+ ต้องเจอระหว่างการท่องเที่ยว และความสำคัญของการร่วมมือกันระหว่างพันธมิตรในแวดวงการเดินทางเพื่อสนับสนุนชุมชน LGBTQ+ และมอบบริการที่เป็นมิตร ซึ่งมีส่วนทำให้ความเชื่อมั่นของผู้เดินทาง LGBTQ+ จากทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทยมีเพิ่มมากขึ้น

 

อายาน เดคก์ รองประธานอาวุโสและหัวหน้าฝ่ายการตลาดของ Booking.com กล่าวว่า “ที่ Booking.com เราเชื่อมั่นว่าทุกคนควรได้ออกไปสำรวจโลกกว้างในแบบที่เป็นตัวเองมากที่สุด และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านนี้มาชุมชน LGBTQ+ ได้รับความสนใจ การยอมรับ รวมถึงได้รับความเข้าใจมากขึ้น เราจึงไม่ควรพลาดโอกาสของความก้าวหน้านี้ แวดวงการท่องเที่ยวควรมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนให้เกิดความเท่าเทียม โดยการพัฒนาและมอบประสบการณ์เดินทางอันเป็นมิตรเพื่อให้ทุกคนสามารถเป็นตัวเองได้อย่างเต็มภาคภูมิในทุก ๆ การออกเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจสถานที่ใหม่ ๆ ใกล้บ้าน หรือออกไปท่องโลกกว้างก็ตาม”

อุปสรรคที่ LGBTQ+ ต้องเผชิญระหว่างการเดินทาง

การถูกเลือกปฏิบัติยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญที่ผู้เดินทาง LGBTQ+ ต้องเผชิญระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว โดย 76% ของผู้เดินทาง LGBTQ+ ชาวไทยเปิดเผยว่า พวกเขาล้วนเคยถูกเลือกปฏิบัติระหว่างเดินทาง ซึ่งผลสำรวจได้เผยให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงแบบมีนัยสำคัญ ที่งานแข่งกีฬาและงานดนตรีระดับโลก รวมถึงการสนับสนุนผู้มีชื่อเสียงและองค์กรต่าง ๆ ที่มีส่วนร่วมในงาน มีผลต่อการตัดสินใจเลือกเข้าร่วมกิจกรรมในวันพักผ่อนของผู้เดินทาง LGBTQ+ จากการหยิบยกประเด็นกฎหมายและมุมมองเกี่ยวกับการเลือกปฎิบัติออกมานำเสนอต่อสาธารณชน

นอกจากนี้ 30% ของผู้เดินทาง LGBTQ+ ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเคยเผชิญการถูกตัดสินหรือเหมารวม ขณะที่ 22% เคยโดนจ้องมอง หัวเราะเยาะ หรือทำร้ายจิตใจด้วยวาจาจากผู้เดินทางคนอื่น และ 21% ถูกกระทำแบบเดียวกันจากคนในท้องถิ่น ส่วนอีก 15% ระบุว่าเคยถูกผู้บังคับใช้กฎหมายในท้องถิ่นข่มขู่หรือคุกคามระหว่างเดินทางท่องเที่ยว

ความก้าวหน้าที่เดิน ‘ถอยหลัง’

การเดิน ‘ถอยหลัง’ ที่ว่านี้หมายถึง การที่ผู้เดินทาง LGBTQ+ ให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยส่วนบุคคลมากขึ้นเมื่อต้องวางแผนเดินทาง หรือแม้กระทั่งหลังจองการเดินทางเรียบร้อยแล้วก็ตาม พวกเขายังคงต้องระวังตัวอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มคนข้ามเพศ (Transgender) ซึ่งปัจจุบันมีถึง 64 ประเทศทั่วโลกที่กำหนดให้ความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันเป็นอาชญากรรม และ 11 ประเทศในจำนวนดังกล่าวกำหนดโทษประหารชีวิตสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันอีกด้วย จึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ผู้เดินทาง LGBTQ+ จะได้มีโอกาสไปเยือนจุดหมายปลายทางเหล่านี้แบบเปิดเผยตัวตน ถึงแม้มีการจัดอีเวนต์สำคัญระดับโลกขึ้นในเมืองนั้น ๆ ก็ตาม

· 85% ของผู้เดินทาง LGBTQ+ ชาวไทยกล่าวว่า พวกเขาพิจารณาเรื่องความปลอดภัย และความเป็นอยู่ ที่ดีในฐานะผู้เดินทางชาว LGBTQ+ เป็นหลัก เมื่อต้องตัดสินใจเลือกจุดหมายปลายทางในการท่องเที่ยว (เพิ่มขึ้นจาก 73% ในปี 2565)

· 76% ยอมรับว่าข่าวสารเกี่ยวกับความขัดแย้งด้านทัศนคติ การเลือกปฏิบัติ และการใช้ความรุนแรงต่อ LGBTQ+ มีผลต่อการตัดสินใจเลือกจุดหมายปลายทางในทริปการเดินทางของพวกเขาเป็นอย่างมาก

· 62% เคยยกเลิกทริปการเดินทางในปีที่ผ่านมาหลังทราบว่าจุดหมายปลายทางที่วางแผนไปเยือนไม่สนับสนุน ชุมชน LGBTQ+ โดยเฉพาะผู้เดินทางที่เป็นกลุ่มคนข้ามเพศมีแนวโน้มยกเลิกทริปถึง 63%

สิ่งที่ผู้เดินทาง LGBTQ+ ต้องเผชิญ

แม้การท่องเที่ยวยังคงเป็นประสบการณ์ที่ช่วยจุดประกายความรู้สึกเป็นอิสระและการแสดงออกถึงตัวตนอย่างเต็มที่ แต่ผู้เดินทาง LGBTQ+ จำนวนมากยังคงรู้สึกถึงข้อจำกัดในการนำเสนอตัวตนและแสดงออกถึงอัตลักษณ์ทางเพศของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้เดินทางที่เป็นกลุ่มคนข้ามเพศ พวกเขาต้องเจออุปสรรคที่ยากจะข้ามผ่าน ยกตัวอย่างเช่น พวกเขามักจะโดนตั้งคำถามเสมอ เมื่ออัตลักษณ์ทางเพศ ชื่อ และรูปลักษณ์ภายนอกไม่ตรงกับข้อมูลที่ระบุในหนังสือเดินทาง

· โดย 68% ของผู้เดินทาง LGBTQ+ ชาวไทย ยอมรับว่าการเป็น LGBTQ+ ส่งผลต่อการนำเสนอตัวตนของพวกเขา ในแง่ของการเลือกเสื้อผ้าและการแต่งหน้าเมื่อออกเดินทางท่องเที่ยว (ซึ่งมีอัตราเพิ่มขึ้นเป็น 75% สำหรับกลุ่มคนข้ามเพศ)

· 35% ระบุว่าพวกเขาจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือกิริยาท่าทางเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตัดสินหรือมีปฏิสัมพันธ์ที่ชวนอึดอัดกับผู้อื่น ในขณะที่ 32% รู้สึกว่าพวกเขาต้องเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกเพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์เหล่านี้เช่นเดียวกัน

เปลี่ยนความ ‘ระแวดระวัง’ ให้เป็นความ ‘มั่นใจ’

อย่างไรก็ตามตรงข้ามกับความรู้สึกกลัว ระแวดระวัง หรือไม่มั่นใจ 89% ของผู้เดินทาง LGBTQ+ ชาวไทย มองว่าการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน LGBTQ+ ทำให้พวกเขารู้สึกมั่นใจมากยิ่งขึ้นในฐานะผู้เดินทาง (เพิ่มขึ้นจาก 83% ในปี 2565) สะท้อนให้เห็นว่าประสบการณ์การเดินทางที่น่าประทับใจจากบริการที่เป็นมิตรและพร้อมต้อนรับทุกคน ทำให้ผู้เดินทาง LGBTQ+ รู้สึกมั่นใจที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น

· แม้ความกังวลเรื่องความปลอดภัยส่วนบุคคลจะยังมีอิทธิพลอย่างมากต่อการตัดสินใจในการเลือกจุดหมายปลายทางสำหรับการออกท่องเที่ยวของ LGBTQ+ (40%) แต่ยังมีแรงจูงใจเชิงบวกอื่น ๆ ที่ทำให้พวกเขาอยากเดินทางท่องเที่ยว ได้แก่ ทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม (35%) อาหารท้องถิ่นแสนอร่อย (31%) และชายหาดที่งดงาม (32%) ซึ่งยังคงเป็นปัจจัยสำคัญอันดับต้น ๆ ที่ส่งผลต่อการเลือกจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวของพวกเขา

· 94% ของผู้เดินทาง LGBTQ+ เผยว่าพวกเขารู้สึกมั่นใจมากขึ้นที่จะมีส่วนร่วมกับกิจกรรมใดก็ตามที่ตัวเองต้องการ เมื่อได้ออกเดินทางท่องเที่ยว

· 89% มีแนวโน้มที่จะไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยว หรือทำกิจกรรมที่ถูกออกแบบมาสำหรับชุมชน LGBTQ+ โดยเฉพาะ

แวดวงการท่องเที่ยวกับการเป็น ‘พันธมิตร’ ของชาว LGBTQ+

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงทัศนคติและมุมมองของผู้คนทั่วไปที่มีต่อผู้เดินทาง LGBTQ+ โดย 85% ของผู้เดินทาง LGBTQ+ ชาวไทยรู้สึกสบายใจมากขึ้นเมื่อต้องออกทริป เมื่ออุตสาหกรรมการเดินทางมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวที่เท่าเทียมเพิ่มมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวจึงควรทำหน้าที่เป็นพันธมิตรคนสำคัญให้กับผู้เดินทาง LGBTQ+ ผ่านการปรับใช้นโยบายที่ครอบคลุมคนทุกกลุ่ม พร้อมนำเสนอการบริการที่เป็นมิตรและพร้อมต้อนรับทุกคนไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครหรือระบุตัวตนอย่างไรก็ตาม โดยจากผลสำรวจของ Booking.com เผยให้เห็นถึงหลากหลายประเด็นสำคัญที่ผู้ให้บริการด้านการเดินทางต้องทำความเข้าใจ และปรับตัวเพื่อตอบสนองกับความต้องการของผู้เดินทาง LGBTQ+ ดังนี้

· 44% ของผู้เดินทาง LGBTQ+ ชาวไทย อยากทราบข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานภาพของ LGBTQ+ ในจุดหมายปลายทางนั้น ๆ เช่น กฎหมายท้องถิ่น หลักความเชื่อทางศาสนา และเคล็ดลับว่าควรไปที่ไหนที่พวกเขาจะปลอดภัย

· 87% ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์และประสบการณ์ที่ผู้อื่นมีต่อแบรนด์ เพื่อทำความเข้าใจบทบาทในการสนับสนุนชุมชน LGBTQ+ ของแบรนด์นั้น ๆ

· 86% กล่าวว่าพวกเขาสนใจที่จะจองทริปเดินทาง รวมถึงบริการด้านการท่องเที่ยวกับแบรนด์ที่มี LGBTQ+ เป็นเจ้าของหรือเป็นผู้บริหารมากกว่า (เพิ่มขึ้นจาก 71% ในปี 2565)

· 86% เห็นด้วยว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะชื่นชอบและเลือกใช้บริการสายการบินและแบรนด์ที่มีนโยบายด้านความเท่าเทียมและพร้อมต้อนรับทุกคน (เช่น การมีนโยบายให้พนักงานใส่ชุดยูนิฟอร์มที่ไม่แบ่งแยกเพศสภาพ)

นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา โปรแกรม Travel Proud ของ Booking.com ได้จัดฝึกอบรมการให้บริการอย่างเท่าเทียมให้กับที่พักคู่ค้าของเราฟรี ซึ่งช่วยให้ความรู้และสร้างความเข้าใจแก่ผู้ให้บริการด้านการเดินทางเกี่ยวกับอุปสรรคในการเดินทางที่ผู้เดินทาง LGBTQ+ กำลังเผชิญ รวมถึงมอบทักษะและเทคนิคที่นำมาปฎิบัติตามได้ทันทีอย่างมีประสิทธิภาพในที่พักของตน เพื่อมอบการบริการที่เท่าเทียมและสะดวกสบายให้กับผู้เดินทาง ไม่ว่าพวกเขาจะมาจากที่ไหน จะรักใคร หรือระบุตัวตนว่าเป็นอย่างไรก็ตาม โดยปัจจุบันโปรแกรมฝึกอบรมนี้จัดทำเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาอิตาเลียน ภาษาฝรั่งเศส ภาษาสเปน ภาษาโปรตุเกสแบบบราซิลเลียน และภาษาเยอรมัน ซึ่งมีการฝึกอบรมในทุกภาษาข้างต้นอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง

 

ซึ่งในปัจจุบันมีที่พักที่ได้ใบรับรอง Proud Certified แล้วกว่า 24,000 แห่งใน 7,030 เมืองจาก 118 ประเทศและดินแดนทั่วโลกแล้วบนแพลตฟอร์มของ Booking.com โดยที่พักคู่ค้าที่ผ่านการอบรมแล้วจะได้รับการรับรอง Proud Certified และได้รับป้ายสัญลักษณ์ Travel Proud บนหน้าข้อมูลที่พัก เพื่อแสดงให้ผู้เดินทางเห็นถึงความมุ่งมั่นของที่พักที่พร้อมมอบประสบการณ์เดินทางที่เป็นมิตร และต้อนรับผู้เดินทางทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม

 

ล่าสุด Booking.com ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ภายใต้โปรแกรมการเดินทางอย่างยั่งยืน เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบหนึ่งปีหลังจากเปิดตัว ป้ายสัญลักษณ์ ‘ที่พักสำหรับเดินทางอย่างยั่งยืน’ ในปี 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งใช้รับรองความน่าเชื่อถือของที่พักรักษ์โลกที่มีเพิ่มมากขึ้นทั่วโลก เพื่อให้ผู้เดินทางสามารถเข้าถึงข้อมูลที่น่าเชื่อถือ มีมาตรฐาน และเข้าใจง่าย สำหรับบ่งชี้ความเป็นที่พักรักษ์โลกได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น

โดยฟีเจอร์ใหม่ที่ Booking.com นำเสนอให้กับผู้เดินทางมีตั้งแต่ ป้ายสัญลักษณ์ที่พักสำหรับเดินทางอย่างยั่งยืนแบบหลายเลเวล การเพิ่มตัวกรองใหม่สำหรับตัวเลือกรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้า รวมไปถึงการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของที่พักและเที่ยวบินบนแพลตฟอร์ม ป้ายสัญลักษณ์ที่พักสำหรับเดินทางอย่างยั่งยืนแบบหลายเลเวล

การเพิ่มระดับหรือเลเวลของการรับรองที่พักรักษ์โลก ด้วย ‘ป้ายสัญลักษณ์ที่พักสำหรับเดินทางอย่างยั่งยืนแบบหลายเลเวล’ นั้น มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยนำเสนอและทำให้ที่พักที่มีความพยายามในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม แต่ยังไม่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการถูกมองเห็นมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้ผู้เดินทางได้เห็นถึงความมุ่งมั่นของที่พักเหล่านี้บนเส้นทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ที่นำไปสู่การได้รับใบรับรองและป้ายกำกับพิเศษจากหน่วยงานด้านความยั่งยืนต่าง ๆ รวมถึงยกย่องที่พักที่มีความมุ่งมั่นและการลงทุนจำนวนมากเพื่อให้บรรลุหนึ่งในใบรับรองและป้ายกำกับพิเศษด้านความยั่งยืนที่เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง

ฟีเจอร์ ‘ป้ายสัญลักษณ์ที่พักสำหรับเดินทางอย่างยั่งยืน แบบหลายเลเวล’ จะเป็นตัวช่วยแสดงให้เห็นถึงแนวทางปฏิบัติด้านความยั่งยืนที่ชัดเจนขึ้นสำหรับที่พัก เพื่อดำเนินธุรกิจไปสู่เป้าหมายในการได้ใบรับรองมาตรฐาน และเป็นแรงบันดาลใจให้ที่พักอื่น ๆ ก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งความยั่งยืนด้วยเช่นกัน ซึ่งป้ายสัญลักษณ์ดังกล่าวจะมีทั้งหมด 3 ระดับ

โดยเรียงลำดับตามความก้าวหน้าในการดำเนินการด้านความยั่งยืนของที่พัก ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนหรือการดำเนินธุรกิจตามแนวทางปฎิบัติที่ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยผู้ให้บริการที่พักที่มีความมุ่งมั่นและการลงทุนจำนวนมากเพื่อให้ได้รับหนึ่งใน ‘ใบรับรองและป้ายกำกับพิเศษ’ จากหน่วยงานด้านความยั่งยืนที่มีมากกว่า 40 องค์กรที่ทำงานร่วมกับแพลตฟอร์ม Booking.com จะได้รับการยืนยันมาตรฐานการเป็นที่พักรักษ์โลกด้วยป้ายสัญลักษณ์ ‘ที่พักที่ผ่านการรับรอง’ หรือ Certified property

ข้อมูลเกี่ยวกับการเปิดตัวฟีเจอร์ ‘ป้ายสัญลักษณ์ที่พักสำหรับเดินทางอย่างยั่งยืนแบบหลายเลเวล’ และแนวทางแนะนำต่าง ๆ ได้ถูกนำเสนอให้กับที่พักคู่ค้าทั่วโลกของ Booking.com และจะเริ่มปรากฏบนแพลตฟอร์ม Booking.com ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และจากการเปิดตัวป้ายสัญลักษณ์ใหม่นี้เอง ทำให้ล่าสุดมีที่พักมากกว่า 400,000 แห่งทั่วโลกได้รับการรับรองถึงความพยายามในการดำเนินธุรกิจบนเส้นทางแห่งความยั่งยืน สำหรับประเทศไทยมีที่พักกว่า 5,000 แห่งได้รับป้ายสัญลักษณ์ที่พักสำหรับเดินทางอย่างยั่งยืน

ตัวกรองใหม่สำหรับค้นหารถเช่าแบบไฟฟ้าและแบบไฮบริด

ตัวกรองใหม่สำหรับค้นหารถยนต์ไฟฟ้าแบบ 100% สำหรับเช่า รวมไปถึงรถยนต์แบบไฮบริดสำหรับเช่าบน Booking.com จะช่วยให้ผู้เดินทางสามารถเข้าถึงตัวเลือกการเดินทางด้วยรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น ด้วยตัวเลือกรถเช่าแบบไฮบริดและรถไฟฟ้าที่มีให้บริการแล้วใน 60 ประเทศทั่วโลก และคาดว่าตัวเลือกเหล่านี้จะมีให้บริการในประเทศอื่น ๆ มากยิ่งขึ้นในปีหน้า

ข้อมูลการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สำหรับที่พักและเที่ยวบิน ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง Booking.com และ CHOOOSE องค์กรด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ข้อมูลการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของที่พักในทวีปยุโรปจะถูกนำเสนอผ่านแพลตฟอร์ม Booking.com เป็นครั้งแรก เพื่อนำร่องนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจเลือกที่พักให้กับผู้เดินทางที่ต้องการเลือกเดินทางแบบยั่งยืนมากยิ่งขึ้น และเพื่อค้นหาแนวทางที่ดีที่สุดในการนำเสนอข้อมูลดังกล่าวให้กับผู้เดินทางทั่วโลก

นอกจากนี้เพื่อเป็นการต่อยอดความร่วมมือกับ CHOOOSE และกรอบความร่วมมือด้านการบินที่พัฒนาร่วมกับ Travalyst Coalition ทาง Booking.com จะเริ่มนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของเที่ยวบินที่มีให้บริการบนแพลตฟอร์ม ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ส่วนฟีเจอร์การแนะนำตัวเลือกเที่ยวบินที่ถูกจัดเรียงตามปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จะเปิดให้ผู้เดินทางได้ใช้งานในปี 2566 ที่จะถึงนี้

“เราเพิ่มประสิทธิภาพและพัฒนาโปรแกรมด้านการเดินทางอย่างยั่งยืนไปอีกขั้น เพื่อเป้าหมายในการทำให้ทุกคนเข้าถึงตัวเลือกด้านความยั่งยืนได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น สำหรับทริปเดินทางครั้งต่อไปของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นอพาร์ตเมนต์แบบรักษ์โลกสำหรับพักผ่อนในวันหยุด รถยนต์ไฟฟ้าสำหรับ Road Trip ที่กำลังจะมาถึง หรือข้อมูลการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของเที่ยวบินที่เขาจะจอง โดยเราจะคอยส่งเสริมลูกค้าและให้คำแนะนำพาร์ตเนอร์ไปตลอดเส้นทางแห่งความยั่งยืน เพื่อโลกของเราทุกคน” Danielle D’Silva ผู้ดำรงแหน่ง Head of Sustainability ของ Booking.com กล่าว

 

 

 

 

 

 

Booking.com เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ภายใต้โปรแกรมการเดินทางอย่างยั่งยืน เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบหนึ่งปีหลังจากเปิดตัว ป้ายสัญลักษณ์ ‘ที่พักสำหรับเดินทางอย่างยั่งยืน’ ในปี 2564 เพื่อใช้รับรองความน่าเชื่อถือของที่พักรักษ์โลกที่มีเพิ่มมากขึ้นทั่วโลก เพื่อให้ผู้เดินทางสามารถเข้าถึงข้อมูลที่น่าเชื่อถือ มีมาตรฐาน และเข้าใจง่าย สำหรับบ่งชี้ความเป็นที่พักรักษ์โลกได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น

โดยฟีเจอร์ใหม่ที่ Booking.com นำเสนอให้กับผู้เดินทางมีตั้งแต่ ป้ายสัญลักษณ์ที่พักสำหรับเดินทางอย่างยั่งยืน แบบหลายเลเวล การเพิ่มตัวกรองใหม่สำหรับตัวเลือกรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้า รวมไปถึงการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของที่พักและเที่ยวบินบนแพลตฟอร์ม

ป้ายสัญลักษณ์ที่พักสำหรับเดินทางอย่างยั่งยืนแบบหลายเลเวล

การเพิ่มระดับหรือเลเวลของการรับรองที่พักรักษ์โลก ด้วย ‘ป้ายสัญลักษณ์ที่พักสำหรับเดินทางอย่างยั่งยืนแบบหลายเลเวล’ นั้น มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยนำเสนอและทำให้ที่พักที่มีความพยายามในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม แต่ยังไม่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการถูกมองเห็นมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้ผู้เดินทางได้เห็นถึงความมุ่งมั่นของที่พักเหล่านี้บนเส้นทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ที่นำไปสู่การได้รับใบรับรองและป้ายกำกับพิเศษจากหน่วยงานด้านความยั่งยืนต่าง ๆ รวมถึงยกย่องที่พักที่มีความมุ่งมั่นและการลงทุนจำนวนมากเพื่อให้บรรลุหนึ่งในใบรับรองและป้ายกำกับพิเศษด้านความยั่งยืนที่เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง

 

ฟีเจอร์ ‘ป้ายสัญลักษณ์ที่พักสำหรับเดินทางอย่างยั่งยืนแบบหลายเลเวล’ จะเป็นตัวช่วยแสดงให้เห็นถึงแนวทางปฏิบัติด้านความยั่งยืนที่ชัดเจนขึ้นสำหรับที่พัก เพื่อดำเนินธุรกิจไปสู่เป้าหมายในการได้ใบรับรองมาตรฐาน และเป็นแรงบันดาลใจให้ที่พักอื่น ๆ ก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งความยั่งยืนด้วยเช่นกัน ซึ่งป้ายสัญลักษณ์ดังกล่าวจะมีทั้งหมด 3 ระดับ

โดยเรียงลำดับตามความก้าวหน้าในการดำเนินการด้านความยั่งยืนของที่พัก ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนหรือการดำเนินธุรกิจตามแนวทางปฎิบัติที่ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยผู้ให้บริการที่พักที่มีความมุ่งมั่นและการลงทุนจำนวนมากเพื่อให้ได้รับหนึ่งใน ‘ใบรับรองและป้ายกำกับพิเศษ’ จากหน่วยงานด้านความยั่งยืนที่มีมากกว่า 40 องค์กรที่ทำงานร่วมกับแพลตฟอร์ม Booking.com จะได้รับการยืนยันมาตรฐานการเป็นที่พักรักษ์โลกด้วยป้ายสัญลักษณ์ ‘ที่พักที่ผ่านการรับรอง’ หรือ Certified property

ข้อมูลเกี่ยวกับการเปิดตัวฟีเจอร์ ‘ป้ายสัญลักษณ์ที่พักสำหรับเดินทางอย่างยั่งยืนแบบหลายเลเวล’ และแนวทางแนะนำต่าง ๆ ได้ถูกนำเสนอให้กับที่พักคู่ค้าทั่วโลกของ Booking.com และจะเริ่มปรากฏบนแพลตฟอร์ม Booking.com ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และจากการเปิดตัวป้ายสัญลักษณ์ใหม่นี้เอง ทำให้ล่าสุดมีที่พักมากกว่า 400,000 แห่งทั่วโลกได้รับการรับรองถึงความพยายามในการดำเนินธุรกิจบนเส้นทางแห่งความยั่งยืน สำหรับประเทศไทยมีที่พักกว่า 5,000 แห่งได้รับป้ายสัญลักษณ์ที่พักสำหรับเดินทางอย่างยั่งยืน 

ตัวกรองใหม่สำหรับค้นหารถเช่าแบบไฟฟ้าและแบบไฮบริด

ตัวกรองใหม่สำหรับค้นหารถยนต์ไฟฟ้าแบบ 100% สำหรับเช่า รวมไปถึงรถยนต์แบบไฮบริดสำหรับเช่าบน Booking.com จะช่วยให้ผู้เดินทางสามารถเข้าถึงตัวเลือกการเดินทางด้วยรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น ด้วยตัวเลือกรถเช่าแบบไฮบริดและรถไฟฟ้าที่มีให้บริการแล้วใน 60 ประเทศทั่วโลก และคาดว่าตัวเลือกเหล่านี้จะมีให้บริการในประเทศอื่น ๆ มากยิ่งขึ้นในปีหน้า

 

 

 

ข้อมูลการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สำหรับที่พักและเที่ยวบิน

ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง Booking.com และ CHOOOSE องค์กรด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ข้อมูลการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของที่พักในทวีปยุโรปจะถูกนำเสนอผ่านแพลตฟอร์ม Booking.com เป็นครั้งแรก เพื่อนำร่องนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจเลือกที่พักให้กับผู้เดินทางที่ต้องการเลือกเดินทางแบบยั่งยืนมากยิ่งขึ้น และเพื่อค้นหาแนวทางที่ดีที่สุดในการนำเสนอข้อมูลดังกล่าวให้กับผู้เดินทางทั่วโลก

นอกจากนี้เพื่อเป็นการต่อยอดความร่วมมือกับ CHOOOSE และกรอบความร่วมมือด้านการบินที่พัฒนาร่วมกับ Travalyst Coalition ทาง Booking.com จะเริ่มนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของเที่ยวบินที่มีให้บริการบนแพลตฟอร์ม ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ส่วนฟีเจอร์การแนะนำตัวเลือกเที่ยวบินที่ถูกจัดเรียงตามปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จะเปิดให้ผู้เดินทางได้ใช้งานในปี 2566 ที่จะถึงนี้

เราเพิ่มประสิทธิภาพและพัฒนาโปรแกรมด้านการเดินทางอย่างยั่งยืนไปอีกขั้น เพื่อเป้าหมายในการทำให้ทุกคนเข้าถึงตัวเลือกด้านความยั่งยืนได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น สำหรับทริปเดินทางครั้งต่อไปของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นอพาร์ตเมนต์แบบรักษ์โลกสำหรับพักผ่อนในวันหยุด รถยนต์ไฟฟ้าสำหรับ Road Trip ที่กำลังจะมาถึง หรือข้อมูลการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของเที่ยวบินที่เขาจะจอง โดยเราจะคอยส่งเสริมลูกค้าและให้คำแนะนำพาร์ตเนอร์ไปตลอดเส้นทางแห่งความยั่งยืน เพื่อโลกของเราทุกคนDanielle D’Silva ผู้ดำรงแหน่ง Head of Sustainability ของ Booking.com กล่าว

 

เป็นเวลากว่า 4 ปีหลังจากเรื่องราวของซูเปอร์ฮีโรสายเลือดแอฟริกันในอาณาจักรลับแลสุดล้ำสมัยในทวีปแอฟริกาตะวันออก ได้ถูกถ่ายทอดลงบนจอหนังไปทั่วโลก ในเดือนพฤศจิกายนปี 2565 นี้ ภาคต่อของเรื่องราวมหากาพย์กำลังเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศไทยให้เหล่าแฟน ๆ ได้ดื่มด่ำไปกับเรื่องราวของเหล่านักรบและราชินีในชนเผ่าที่รวมพลังกันปกป้องอาณาจักรจากภัยคุกคามของเมืองลึกลับใต้บาดาล โดยอาศัยพลังพิเศษ ที่รวมไปถึงความเร็วและความแข็งแกร่งเหนือมนุษย์

ผลสำรวจล่าสุด* ของ Booking.com เผย 90% ของผู้เดินทางชาวไทยระบุว่าปัจจัยสำคัญในการเลือกจุดหมายปลายทางสำหรับทริปท่องเที่ยวของพวกเขา คือการได้เห็นทัศนียภาพของธรรมชาติอันงดงาม Booking.com จึงได้ค้นหาและรวบรวม 4 จุดหมายปลายทางแนะนำ ที่สะท้อนถึงความลึกลับและเอกลักษณ์เฉพาะตัวของชนเผ่าแอฟริกัน ตั้งแต่ทุ่งหญ้าสะวันนาอันกว้างใหญ่ เทือกเขาอันตระการตา และน้ำตกที่ตั้งสูงตระหง่าน ที่จะทำให้เหล่าผู้เดินทางรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปยังอาณาจักรลับแลของซูเปอร์ฮีโรในภาพยนตร์เรื่องโปรด และได้ผจญภัยท่ามกลางฉากหลังอันน่าตื่นตาตื่นใจในภาพยนตร์จริง ๆ

มาเซรู เลโซโท

เมืองหลวงในประเทศแถบแอฟริกานี้ ชาวท้องถิ่นรู้จักกันในชื่อ ‘Kingdom in the Sky’ หรือ อาณาจักรแห่งฟากฟ้า เนื่องจากมีเทือกเขาตระการตามากมาย นอกจากนั้นราชอาณาจักรเลโซโท ยังถูกล้อมรอบไปด้วยภูเขา และที่ราบสูงในทวีปแอฟริกาใต้ และถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำหลักของอาณาจักรลับแลในภาพยนตร์ ด้วยทัศนียภาพของแม่น้ำ และทิวเขาที่ตัดสลับไขว้กันไปมา อีกทั้งน้ำตกอันงดงาม และยอดเขาสีเขียวมรกตอันเจิดจรัสของเทือกเขามาโลตี ที่จะทำให้เหล่าผู้เดินทางรู้สึกเหมือนได้อยู่ท่ามกลางฉากภาพยนตร์ไซไฟในจักรวาลคู่ขนาน

ที่พักแนะนำ: The Clan Guest House ที่พักรักษ์โลกที่ได้รับสัญลักษณ์ที่พักสำหรับเดินทางอย่างยั่งยืนบน Booking.com ที่พักแห่งนี้ตั้งอยู่ในกรุงมาเซรู หลังจากที่คุณใช้เวลาทั้งวันผจญภัยท่ามกลางสถานที่ถ่ายทำอันงดงามแล้ว คุณสามารถพักผ่อนและดื่มด่ำไปกับอาหารอันแสนอร่อยจากวัตถุดิบในท้องถิ่น ท่ามกลางวิวพระอาทิตย์ตกในสวนที่ออกแบบมาอย่างเฉพาะตัวของที่พัก

บวินดี ยูกันดา

ด้วยความงามตามธรรมชาติอันน่าตื่นตาของทิวเขารูเวนโซรี (Rwenzori Mountain range) และ อุทยานแห่งชาติบวินดี (Bwindi National Park) ในเขตตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศยูกันดา ทำให้ทีมผู้ผลิตภาพยนตร์ได้แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ฉากสุดตระการตาให้กลายมาเป็นถิ่นฐานของชนเผ่าอันทรงพลังในภาพยนตร์เรื่องนี้ ป่าดงดิบบวินดี (Bwindi Impenetrable Forest) เป็นหนึ่งในมรดกโลกทางธรรมชาติขององค์การยูเนสโก มีอายุราว 25,000 ปี ป่าทึบบวินดีเป็นป่าฝนดึกดำบรรพ์ที่อุดมไปด้วยระบบนิเวศที่มีเอกลักษณ์เฉพาะและมีความงามทางธรรมชาติอันน่าทึ่ง อุทยานแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะบ้านของประชากรกอริลลากว่าครึ่งโลก จึงทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นักเดินทางต่างอยากมาผจญภัยและตามหาเหล่ากอริลลา รวมทั้งจ่าฝูงที่มี ‘หลังสีเงิน’ (Silverback) แบบตัวเป็น ๆ สักครั้งในชีวิต

ที่พักแนะนำ: Rushaga Gorilla Lodge ตั้งอยู่ที่เมือง Bugambira ใกล้กับ Rushaga Region หนึ่งในเส้นทางตามรอยกอริลลาที่อยู่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติบวินดี โดยที่พักสุดหรูแห่งนี้มีบริการให้เช่ารถจักรยานเพื่อชมทิวทัศน์ภายในอุทยาน ให้ผู้เดินทางได้ผจญภัยท่ามกลางธรรมชาติสุดตื่นตา และจินตนาการถึงพลังซูเปอร์ฮีโรจากหนังเรื่องโปรดได้อย่างเต็มที่

ปูแอร์โตอีกวาซู อาร์เจนตินา

ผู้เดินทางที่กำลังมองหาแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่แสดงให้เห็นถึงความทรงพลังของสรรพสิ่งในโลก ซึ่งเหมาะกับคาแรคเตอร์ของตัวละครหลักในภาพยนตร์ จะต้องไม่พลาดที่จะไปเยือน ‘ปูแอร์โตอีกวาซู’ ประเทศอาร์เจนตินา อันเป็นจุดหมายที่ผู้คนต่างปักหมุดเพื่อเดินทางไปยัง ‘น้ำตกอีกวาซู' สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติแห่งหนึ่งของโลก โดยภาคแรกของหนังซูเปอร์ฮีโรสายเลือดแอฟริกันใช้น้ำตกแห่งนี้ในการถ่ายทำฉาก ‘น้ำตกนักรบ’ (Warrior Falls) เพื่อสถาปนากษัตริย์ของอาณาจักร ผู้เดินทางสามารถก้าวเข้าสู่โลกแห่งตำนานและสัมผัสกับความตระการตาของธรรมชาติได้ที่น้ำตกอีกวาซูแห่งนี้ ซึ่งประกอบไปด้วยน้ำตกน้อยใหญ่ถึง 275 แห่ง และน้ำตกที่สูงที่สุดมีความสูงตระหง่านถึง 80 เมตร นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมล่องเรือ ที่เปิดโอกาสให้คนทั่วไปได้สัมผัสถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติและฉากสุดขลังในภาพยนตร์ได้อย่างใกล้ชิดและเป็นส่วนตัว

ที่พักแนะนำ: The Loi Suites Iguazu Hotel เป็นที่พักที่มีสถาปัตยกรรมอันสวยงาม ผสมผสานกับเอกลักษณ์ของป่าฝนกึ่งเขตร้อนและเขตอบอุ่น จากที่พักคุณสามารถขับรถในระยะสั้น ๆ ไปยังน้ำตกอีกวาซู นอกจากนั้นที่พักสุดหรูแห่งนี้ยังรายล้อมไปด้วยทัศนียภาพของเขตป่าฝน ที่ทำให้ผู้เดินทางรู้สึกเหมือนได้พักผ่อนอยู่ท่ามกลางฉากสุดตื่นตาในภาพยนตร์เลยทีเดียว

โอลด์ซานฮวน เปอร์โตริโก

โอลด์ซานฮวน เป็นเมืองเก่าแก่ในหมู่เกาะแคริบเบียน ที่ตั้งอยู่ในเมืองหลวงของประเทศเปอร์โตริโก ด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียลและสตรีทอาร์ตที่โดดเด่น ทำให้โอลด์ซานฮวน เป็นสถานที่สุดสมบูรณ์แบบในการถ่ายทำภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโรสายเลือดแอฟริกันนี้ ที่ทำให้ตัวละครจากหนังสือการ์ตูนนั้นมีชีวิตจริงขึ้นมา เมืองเก่าแห่งนี้ถูกรู้จักในฐานะ ‘เมืองแห่งป้อมปราการ’ เนื่องจากเมืองแห่งประวัติศาสตร์นี้ถูกล้อมรอบไปด้วยกำแพงโบราณ ตัดกับความหรูหราของถนนปูหินสีฟ้า และอาคารสีรุ้งที่ตั้งอยู่เรียงรายกัน ทำให้ผู้เดินทางสามารถซึมซับความสวยงามของสถาปัตยกรรมได้อย่างเต็มอิ่ม อีกทั้งยังสามารถชมวิวทิวทัศน์ของมหาสมุทรแอตแลนติกได้จากป้อมปราการสไตล์โกธิคภายในเมือง สำหรับผู้เดินทางที่มองหากิจกรรมแนวผจญภัย สามารถเข้าร่วม Hidden Waterfall Hike ทริปเดินป่าที่จะทำให้คุณได้ผ่อนคลายไปกับความตระการตาของเทือกเขาในเปอร์โตริโก

ที่พักแนะนำ: Villa Herencia Hotel โรงแรมบูติกแห่งนี้ตั้งอยู่ในโอลด์ซานฮวน เมืองที่ถูกใช้ถ่ายทำเป็นฉากหลังของภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร การออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของที่พักเน้นการผสมผสานเสน่ห์ดั้งเดิมของเมืองให้เข้ากับความทันสมัยของโลกยุคใหม่ อีกทั้งยังถูกตกแต่งด้วยงานศิลปะท้องถิ่นอันยอดเยี่ยม และมีระเบียงที่สวยงามให้ผู้เดินทางได้มาเอนกายอาบแสงแดดจากทะเลในแถบแคริบเบียนได้

หลังจาก Booking.com ได้เปิดตัว ‘Grow Green Stay’ บ้านดินรักษ์โลกที่ถูกออกแบบมาอย่างพิเศษเพียงหนึ่งเดียวในประเทศไทยเมื่อช่วงต้นเดือนกันยายน 2565 ที่ผ่านมา และเปิดโอกาสให้คนทั่วไปจองเพื่อเข้าพักสุดเอ็กซ์คลูซีฟเพียงแค่ 2 คืน สำหรับแขกผู้โชคดีจำนวน 2 คู่ที่สามารถทำการจองได้สำเร็จผ่าน Booking.com เท่านั้น คนไทยต่างแสดงความสนใจในแคมเปญเพื่อความยั่งยืนนี้เป็นจำนวนมาก จนทำให้บ้านดินรักษ์โลกถูกจองเต็มทั้งหมดภายในเวลาเพียงไม่ถึง 10 นาทีเท่านั้น

ความสำเร็จของแคมเปญนี้ตอกย้ำถึงเจตนารมณ์และความต้องการที่เพิ่มขึ้นของชาวไทยที่ต้องการเดินทางบนเส้นทางแห่งความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจล่าสุดจาก Booking.com* ที่เผยว่า 94% ของผู้เดินทางชาวไทยยืนยันว่าการเดินทางอย่างยั่งยืนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพวกเขา และผู้เดินทางชาวไทยกว่า 75% ระบุว่าข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนั้น ส่งผลให้พวกเขาตัดสินใจเลือกตัวเลือกด้านการเดินทางอย่างยั่งยืนมากขึ้น

จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า 90%* ของผู้เดินทางชาวไทยมีแนวโน้มที่จะเลือกที่พักแบบยั่งยืนมากกว่าที่พักรูปแบบอื่น ๆ ไม่ว่าพวกเขาจะตั้งใจเลือกที่พักเหล่านั้นตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการจองหรือไม่ก็ตาม และเกือบครึ่งหนึ่งของ ผู้เดินทางชาวไทย (44%)* ตั้งใจเลือกที่พักแบบรักษ์โลกเพื่อช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจากผลสำรวจดังกล่าวยังสอดคล้องกับความคิดเห็นจากแขกคนพิเศษของ Grow Green Stay บ้านดินรักษ์โลก ที่ได้เปิดเผยกับทาง Booking.com ถึงเรื่องราวความประทับใจ และความตั้งใจของพวกเขาสำหรับการเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนการเดินทางแบบยั่งยืน

คุณศักย์สรณ์ หนึ่งในแขกคนพิเศษของ Grow Green Stay บ้านดินรักษ์โลก เผยความรู้สึกหลังจากสามารถจองที่พักได้สำเร็จว่า “เราตื่นเต้นมากครับที่ได้เป็นหนึ่งในแขกคนพิเศษของ Grow Green Stay เพราะตอนแรกคิดว่าจะไม่สามารถจองได้ทันเวลา นอกจากเราจะประทับใจในแนวคิดของการสร้างสรรค์และยกระดับบ้านดิน ที่ได้แรงบันดาลใจจากภูมิปัญญาท้องถิ่นให้ดูทันสมัยและเข้าถึงง่ายมากยิ่งขึ้นแล้ว ที่พักแห่งนี้ยังปฏิบัติตามแนวทางด้านความยั่งยืน อันเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราสนใจที่จะเข้าพักในที่พักแห่งนี้มาก ๆ เพราะพวกเรานั้นตระหนักอยู่เสมอว่าทุก ๆ ครั้งในการออกเดินทางท่องเที่ยว เราทิ้ง Carbon Footprint ไว้เยอะมาก พวกเราจึงหวังว่าการเลือกเข้าพักในที่พักที่มีนโยบายเพื่อความยั่งยืน จะสามารถลดผลกระทบจากสภาวะโลกร้อนได้ทางใดทางหนึ่งครับ”

และเมื่อถามถึงปัจจัยในการพิจารณาเลือกที่พัก คุณพงษ์พันธุ์ แขกคนพิเศษของ Grow Green Stay อีกหนึ่งท่านเผยถึงแนวคิดของเขาว่า “ส่วนตัวแล้วผมชอบที่จะเข้าพักในที่พักที่มีแนวทางปฏิบัติเพื่อความยั่งยืนครับ เนื่องจากผมเองก็พยายามจะปรับใช้แนวทางด้านความยั่งยืนเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้ได้มากขึ้นที่บ้านของผมเองด้วย อย่างเช่น การแยกขยะที่บ้าน และการเลือกเดินทางท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนก็เป็นอีกอย่างที่พยายามทำอยู่ครับ และโดยส่วนตัวแล้วตัวผมยังชอบออกไปตั้งแคมป์ การเลือกเข้าพักในที่พักรักษ์โลกจึงไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกไม่สะดวกสบายเมื่อต้องใช้ห้องน้ำรวม หรือการไม่มีเครื่องปรับอากาศในที่พักเลยครับ เพราะการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนสำหรับผม ไม่ได้หมายถึงความไม่สะดวกสบายเสมอไป และผมดีใจมากที่ได้มีโอกาสเข้าพักในบ้านดินรักษ์โลกแห่งนี้ ที่ช่วยสานต่อความตั้งใจให้ผมในสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมต่อไปครับ”

จากความต้องการในด้านความยั่งยืนที่มีเพิ่มมากขึ้น Booking.com ยังคงสานต่อเส้นทางในการเดินทางอย่างยั่งยืนให้สามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดายขึ้นกว่าเดิม ด้วยป้ายสัญลักษณ์และตัวกรอง “ที่พักสำหรับเดินทางอย่างยั่งยืน” (Travel Sustainable Badge) สำหรับที่พักกว่า 120,000 แห่งทั่วโลก เพื่อยืนยันและยกย่องแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ปฏิบัติตามหลักการเพื่อความยั่งยืนของแต่ละที่พักบน Booking.com

Page 1 of 2
X

Right Click

No right click