September 19, 2024
×

Warning

JUser: :_load: Unable to load user with ID: 6855

การเรียนรู้ผ่านทางออนไลน์อาจเป็นสิ่งที่ดูเข้าถึงง่าย แต่ไม่ใช่สำหรับนักเรียนในพื้นที่ห่างไกลบางคนที่ยังต้องใช้คอมพิวเตอร์รุ่นเก่าอายุการใช้งานกว่า 15 ปีในวันที่โลกก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลดิสรัปชั่น (Digital Disruption)

ซีพี ออลล์ ประกาศภารกิจช่วยเหลือและสนับสนุนผู้ประกอบการรายกลางและรายเล็กเดินหน้าโครงการ “เซเว่น อีเลฟเว่น กองหนุน SME” 

นพ.พงษ์นรินทร์ ชาติรังสรรค์  ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช เทศบาลเมืองสุพรรณบุรี กล่าวว่า การดูแลผู้ป่วยโรคโควิด-19 เป็นภารกิจสำคัญที่บุคลากรของรพ.เจ้าพระยายมราช มุ่งมั่นปฏิบัติภารกิจดูแลผู้ติดเชื้อสู้ภัยโควิด-19 อย่างเต็มกำลัง ขอบคุณเครือซีพี ซีพีเอฟ และซีพีออลล์ ที่สร้างกำลังใจให้กับบุคลากรทุกคน  โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องดูแลผู้ป่วยที่ต้องรักษาตัวภายในโรงพยาบาล เมื่อมีอาหารพร้อมรับประทานมาสนับสนุนก็ยิ่งสะดวกมากขึ้น ทั้งยังลดภาระการจัดเตรียมอาหาร ทำให้สามารถทุ่มเทเวลาในการดูแลผู้ป่วยได้เต็มที่ยิ่งขึ้น  

พญ.สมพิศ จำปาเงิน ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลอู่ทอง อำเภออู่ทอง กล่าวขอบคุณเครือซีพีและบริษัทในเครือฯ ทั้งซีพีเอฟที่สนับสนุนอาหารพร้อมทาน เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้อง กำลังคนของเราต้องให้การดูแลผู้ป่วยโควิดที่มารักษาตัวกับโรงพยาบาล 28 ราย อาหารนี้จึงช่วยเติมพลังกายให้กับทั้งเจ้าหน้าที่และผู้ป่วย ส่วนซีพี ออลล์ มอบแอลกอฮอลล์ เพื่อสนับสนุนการบริการ และยังมีน้ำดื่มมอบให้ด้วย ทั้งหมดนี้ถือเป็นขวัญกำลังใจและเสริมแรงให้บุคลากรทุกคนมีพละกำลัง ทั้งแรงกายและแรงใจในการทำหน้าที่ต่อไป 

 

นพ.พิสุทธ์ ภู่พวง รองผู้อำนวยฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17  อำเภอสองพี่น้อง กล่าวว่า การสนับสนุนเสบียงอาหารจากซีพีเอฟในครั้งนี้ นับเป็นอีกแรงหนุนสำคัญให้กับบุคลากรของโรงพยาบาล ได้บริโภคอาหารปลอดภัย เพื่อให้มีพลังกายที่แข็งแรงและมีกำลังใจที่เข้มแข็งในการร่วมกันต่อสู้กับวิกฤตโควิดระลอกใหม่นี้ ขอขอบคุณเครือซีพี ซีพีเอฟ และซีพีออลล์ที่เล็งเห็นถึงความทุ่มเทของบุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศ เป็นการช่วยเหลือสังคมที่ต่อเนื่องและสอดคล้องกับความต้องการของโรงพยาบาลเป็นอย่างมาก  

ด้าน นายสุริยะ ชูตระกูล รองกรรมการผู้จัดการ ซีพีเอฟ กล่าว ระหว่างนำชาวซีพีเอฟจิตอาสาร่วมกันส่งมอบอาหารในครั้งนี้ว่า  บริษัทยังคงเดินหน้าส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน ในโครงการ “CPF ส่งอาหารจากใจ ร่วมต้านภัยโควิด-19” ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมพลังกายและสร้างพลังใจแก่ทีมแพทย์ทุกท่าน ให้ได้รับประทานอาหารปลอดภัยหลากหลายเมนูบริโภคอย่างเพียงพอ ในช่วงเวลาที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ป่วยติดเชื้อและควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ บริษัทขอนำความเชี่ยวชาญในการผลิตและกระจายอาหารปลอดภัย ไปช่วยเหลือประเทศชาติและประชาชน โดยเฉพาะในภาวะวิกฤต เพื่อก้าวผ่านทุกสถานการณ์ไปด้วยกัน 

 

ส่วนผู้แทน ซีพี ออลล์ นายสายชล ถึงกลาง ที่นำครุภัณฑ์ทางการแพทย์ อาทิ เจลแอลกอฮอลล์ และน้ำดื่มมาร่วมมอบให้กับ รพ.อู่ทอง กล่าวว่า บริษัทร่วมเสริมทัพและเป็นกำลังใจให้กับทีมแพทย์และพยาบาลในจังหวัดสุพรรณบุรี ทั้งโรงพยาบาลสนาม และโรงพยาบาลที่รองรับผู้ป่วยโควิด รวม 5 แห่ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ คนไทยไม่ทิ้งกัน” ที่บริษัทดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนภารกิจในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฎิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง บริษัทขอเป็นกำลังใจให้บุคลากรทุกคน ให้มีแรงกายและแรงใจที่ดีเพื่อต่อสู้กับวิกฤตินี้ให้ได้.

เครือเจริญโภคภัณฑ์ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด(มหาชน) มูลนิธิพุทธรักษา มูลนิธิ ธนินท์chai เทวี เจียรวนนท์ และมูลนิธิเชฟแคร์ส ร่วมผนึกกำลังภายใต้โครงการ "CP ร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด-19" ส่งมอบความช่วยเหลือด้านอาหารและสิ่งของจำเป็น ตลอดจนความสะดวกด้านการสื่อสารในสถานการณ์โควิด-19 ให้แก่ นางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ ผู้ก่อตั้งและเลขาธิการมูลนิธิดวงประทีป เพื่อร่วมบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ยากไร้ในชุมชนคลองเตย ซึ่งมีประชาชนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นและเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 หวังเป็นส่วนหนึ่งช่วยคนไทยผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกัน โดยมี นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ นายสุภกิจ วรรธนะดิษฐ์  หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ (ร่วม)  บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น นายยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล กรรมการผู้จัดการ(ร่วม) บมจ.ซีพี ออลล์ และ ดร.วิทย์ สุนทรนันท์ รองประธานกรรมการมูลนิธิพุทธรักษา ร่วมกันส่งมอบ ณ บริเวณหน้าอาคาร ซี.พี.ทาวเวอร์ ถ.สีลม  

 

นางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ ผู้ก่อตั้งและเลขาธิการมูลนิธิดวงประทีป กล่าวว่า ขอขอบคุณเครือเจริญโภคภัณฑ์ ซีพีเอฟ ทรู ซีพีออลล์ แม็คโคร มูลนิธิพุทธรักษา มูลนิธิธนินท์ เทวี เจียรวนนท์ และมูลนิธิเชฟแคร์ส ที่เข้ามาให้การสนับสนุนอาหารปลอดภัยและเทคโนโลยีการสื่อสาร ตลอดจนของใช้จำเป็นให้แก่ชาวชุมชนคลองเตยที่ต้องกักตัวอยู่ในบ้านของตนเอง ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 100 คน ทั้งนี้เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคในชุมชนซึ่งมีผู้คนอาศัยอยู่อย่างแออัด และมีความเสี่ยงสูงในการแพร่กระจายของเชื้อ การได้รับอาหารและสิ่งของสนับสนุนนี้จะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถกักตัวภายในบ้าน และเพิ่มความปลอดภัยให้คนในชุมชนได้   

 

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหารซีพีเอฟ กล่าวว่า ความช่วยเหลือดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของเครือซีพี-ซีพีเอฟที่ท่านประธานอาวุโส ธนินท์ เจียรวนนท์ ต้องการให้ทุกบริษัทในเครือร่วมช่วยเหลือสังคมในสถานการณ์โควิด-19 และผู้ยากไร้ในพื้นที่ชุมชนแออัดเป็นกลุ่มเปราะบางอีกกลุ่มหนึ่งที่ต้องเผชิญความเดือดร้อนอย่างมากในสถานการณ์โรคระบาดนี้ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหารจำกัด(มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ จึงมอบความช่วยเหลือผ่านโครงการ "CPF ส่งอาหารจากใจ ร่วมต้านภัยโควิด-19" ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่การระบาดรอบแรก ด้วยการส่งมอบอาหารปลอดภัยเพื่อพี่น้องในชุมชนคลองเตยที่อยู่ระหว่างการตรวจพบผู้ติดเชื้อหลายราย โดยขอเป็นส่วนหนึ่งในการบรรเทาความเดือดร้อนด้านอาหารแก่ผู้ที่ต้องกักตัวเฝ้าระวังอาการ รวมถึงผู้ติดเชื้อที่กำลังรอการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ขอให้ทุกคนปลอดภัยกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติได้โดยเร็ว   

สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารปลอดภัยของซีพีเอฟกว่า 14,000 ชิ้นที่จะส่งถึงมูลนิธิดวงประทีป ประกอบด้วย กับข้าวสำเร็จรูปหลากหลายเมนู อาทิ ไก่ผัดพริกสด แกงจืดผักกาดขาว มัสมั่นหมู กะเพราเครื่องในไก่ ไก่ผัดพริกแกง ไข่ต้มสมุนไพร ไข่สดซีพี ข้าวสารตราฉัตร และน้ำดื่ม โดยกับข้าวสำเร็จรูปเหล่านี้ ผลิตด้วยนวัตกรรมด้านบรรจุภัณฑ์ที่สามารถอุ่นด้วยวิธีต้มทั้งซอง ไม่จำเป็นต้องใช้ไมโครเวฟ สอดคล้องกับการดำเนินชีวิตของผู้ยากไร้ในชุมชน    

ด้าน นายสุภกิจ วรรธนะดิษฐ์  หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ (ร่วม)  บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่นกล่าวว่า กลุ่มทรู ตระหนักดีว่า ในภาวะวิกฤติ การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญเสมอ จึงเร่งนำศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมดิจิทัลและนวัตกรรมเทคโนโลยี ร่วมสนับสนุนด้านการสื่อสารแก่ชุมชนคลองเตย ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งไฟเบอร์อินเทอร์เน็ต มอบฟรีซิมทรูมูฟ เอช แบบเติมเงิน “กักตัว ไม่กลัวเหงา” พร้อมแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตไม่อั้น ความเร็ว 10 Mbps. ใช้งานได้นาน 30 วัน จำนวน 200 ซิม รวมถึงบริการปรึกษาปัญหาสุขภาพกับทีมแพทย์อาสาชีวีได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ผ่านแอปพลิเคชัน “True HEALTH” เพียงเลือกแผนก ‘โควิดคลินิก’ หรือ 'Covid Care' และใส่โค้ด 'HERE2HELP' ในขั้นตอนการชำระเงิน ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 มิถุนายน 2564 ตลอดจนสนับสนุนบริการ “ทรูวิชั่นส์ นาว” (TrueVisions NOW) ให้รับชม 24 ช่องดังจากทรูวิชั่นส์ได้ทันทีผ่านสมาร์ทโฟน บนแอปพลิเคชันทรูไอดี โดยมอบรหัสดูฟรีคอนเทนต์หลากหลาย ทั้งสาระ และบันเทิง ในรูปแบบสตรีมมิ่ง นาน 15 วัน ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อสนับสนุนภารกิจเร่งด่วนในการฉีดวัคซีนให้แก่พี่น้องชาวชุมชนคลองเตย ณ โลตัส สาขาพระรามสี่ กลุ่มทรู ได้ดำเนินการติดตั้งเครือข่ายสื่อสารเพิ่มเติมทั้ง ทรู 5G 4G และ WiFi โดยจัดรถโมบายล์ชุมสายเคลื่อนที่เร็ว ทรูมูฟ เอช (COW หรือ Cell on Wheels) เพื่อรองรับการใช้งานของบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ และผู้มารอฉีดวัคซีน ซึ่งการสนับสนุนครั้งนี้ ตอกย้ำความตั้งใจของกลุ่มทรู ในการเคียงคู่สู้โควิดกับคนไทยให้ก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกันโดยเร็ว 

ขณะเดียวกัน บมจ.ซีพีออลล์ ยังร่วมมอบเจลแอลกอฮอลล์และหน้ากากอนามัย สำหรับการดูแลรักษาสุขอนามัยของพี่น้องชาวคลองเตยในช่วงที่มีการระบาดค่อนข้างสูง รวมถึงมอบน้ำดื่มและขนมเบเกอรี่ ขณะที่ บมจ.สยามแม็คโคร มอบถุงขยะสำหรับบรรจุขยะติดเชื้อให้แก่มูลนิธิดวงประทีปเพื่อส่งต่อแก่ชาวชุมชนคลองเตยอีก 6,500 ถุง  

นอกจากนี้ มูลนิธิพุทธรักษา และมูลนิธิธนินท์ เทวี เจียรวนนท์  โดยนายณรงค์ เจียรวนนท์ ได้ร่วมมอบอาหารและสิ่งของจำเป็นมูลค่า 1 ล้านบาทให้กับมูลนิธิดวงประทีป เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนช่วงวิกฤต COVID-19 ในชุมชนคลองเตย ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของมูลนิธิพุทธรักษาที่มุ่ง “ให้” แก่ผู้ขาดโอกาสทางสังคมและมีความขัดสน เบื้องต้นได้ทำการส่งมอบข้าวสาร อาหารแห้งและของใช้จำเป็นแล้ว และจะประสานความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ยากไร้ในชุมชนคลองเตยก้าวผ่านสถานการณ์โควิด-19 นี้ได้อย่างปลอดภัย

ด้านมูลนิธิเชฟแคร์ส นำอาหารสุขภาพจากเชฟรางวัลระดับโลกถึง 4 เมนู ได้แก่ หมูครีมซอสและมักกะโรนี, สปาเกตตี้ซอสเขียวหวานและอกไก่, แกงป่าปลาข้าวไรซ์เบอร์รี่ และ ไก่ทิกก้ามาซาล่ากับข้าวหุงขมิ้น  มามอบเป็นกำลังใจให้ชาวคลองเตยในครั้งนี้ด้วย โดยหวังให้ผู้ยากไร้ที่ต้องกักตัวในชุมชน มีพลานามัยที่แข็งแรง สู้ภัยโควิด-19 ได้อย่างเข้มแข็งและปลอดภัย    

ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และ เซเว่น เดลิเวอรี่ เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบาย เซเว่น โก กรีน  2021 เพื่อสิ่งแวดล้อม 24 ชั่วโมง ภายใต้การดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance : ESG) เพื่อสังคม ชุมชน และประเทศชาติ อย่างยั่งยืน พร้อมเชิญชวนคนไทย ลด ละ เลิกใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง เพื่อลดปัญหาสิ่งแวดล้อม

 

นายยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล กรรมการผู้จัดการ (ร่วม) บมจ.ซีพี ออลล์ เผยถึงนโยบาย 7 Go Green  2021 เพื่อสิ่งแวดล้อม 24 ชั่วโมง ว่า ซีพี ออลล์ มีความมุ่งมั่นที่จะร่วมพัฒนาชุมชนและสังคมควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ภายใต้ชื่อโครงการ 7 GO Green ตั้งแต่ปี 2550 เพื่อลด และ เลิก ใช้ถุงพลาสติกที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่นทั่วประเทศ 

พร้อมขับเคลื่อนเคมแปญ “ลดวันละถุง...คุณทำได้ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา เพื่อรณรงค์เชิญชวนลูกค้าที่มาใช้บริการที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ปฏิเสธการใช้ถุงพลาสติก รวมทั้งรณรงค์ให้ใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก ซึ่งได้รับการตอบรับและความร่วมมือจากลูกค้าทั่วประเทศเป็นอย่างดียิ่ง ทำให้แคมเปญ “ลดวันละถุง คุณทำได้ สามารถลดการใช้ถุงพลาสติกและเปลี่ยนเป็นยอดสมทบทุนรวมกว่า 211 ล้านบาท มอบให้กับ โรงพยาบาลศิริราช, โรงพยาบาลในชุมชน และโรงพยาบาลในถิ่นทุรกันดาร 154 โรงพยาบาลทั่วประเทศ  

อีกทั้ง ซีพี ออลล์ ได้ดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และตระหนักถึงความสำคัญของสภาวะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ อุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น ทำให้ ซีพี ออลล์ มิอาจนิ่งนอนใจต่อการเปลี่ยนแปลงและรับผิดชอบต่อการดำเนินธุรกิจด้วยหัวใจที่เอื้ออาทรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง โดยมุ่งมั่นในการพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการทำงานเพื่อป้องกันผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนบนแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน อาทิ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การเรียนรู้การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภค เพื่อช่วยกันลดโลกร้อนด้วยสองมือเรา  

สำหรับปี 2564 ซีพี ออลล์ จึงได้วางแนวทางในการดำเนินงานด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมภายใต้นโยบาย 7 GO Green Mission 2021 ประกอบด้วย

1. Green Buildingการออกแบบและบริหารจัดการร้านอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพครอบคลุมการปรับปรุงระบบและอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ภายใต้กลยุทธ์ “ร้านเพื่อสิ่งแวดล้อม” อาทิ โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพคอยล์เย็น สำหรับตู้แช่เย็นขนาดใหญ่, โครงการเครื่องปรับอากาศ ประเภท Inverter ภายในร้านฯ, โครงการใช้หลอดไฟ LED, โครงการสำรวจและติดตามสภาพอากาศภายในร้านฯ, โครงการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์, โครงการปรับปรุงระบบทำความเย็นของตู้แสดงสินค้า ชนิดไร้บานประตูเป็นแบบรวมศูนย์, โครงการ Knockdown Store นำวัสดุเปลือกอาคารกลับมาใช้ใหม่ และ โครงการสถานีอัดประจุไฟฟ้า สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า โดยในปี 2564 นี้ ซีพี ออลล์ ตั้งเป้า แผนการดำเนินงาน ปี 2564 เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานทดแทนได้  82,987,000 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 40,248 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า(tCO2e) หรือเปรียบเทียบการปลูกไม้ยืนต้นจำนวน 111,554 ต้น 

 

2. Green Store : โครงการด้านการจัดการออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมที่มีในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น มุ่งหวังในการลดปริมาณขยะพลาสติก ผ่านแนวคิด “ลด และ ทดแทน” โดยพิจารณาตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบและการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่คำนึงถึงทุกกระบวนการในวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ รวมถึงการหาวัสดุที่มาจากแหล่งทรัพยากรที่สามารถทดแทนได้ และต้องสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำ (Reusable) หรือนำมาใช้ใหม่ (Recyclable) หรือสามารถย่อยสลายได้ (Compostable)ได้แก่การจัดการบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง โดยได้เริ่มใช้ฝายกดื่มไม่พึ่งหลอด ตั้งแต่ปี เมษายน 2563  ในร้าน All Café จำนวน 8,492 สาขาทั่วประเทศ และใช้ “แก้วรักษ์โลก” หรือ กระดาษที่สามารถย่อยสลายได้ตามตามธรรมชาติ สำหรับเครื่องดื่มร้อน – เย็น ในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ทั่วประเทศ เริ่มใช้ตั้งแต่ปี ธันวาคม 2562  ปัจจุบันใช้แก้วรักษ์โลกในร้านสาขาพื้นที่เกาะ สถานศึกษา และ สำนักงาน รวมกว่า 874 สาขา โครงการการลดใช้พลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้ง (Single-use Plastic) โดยการลดการใช้พลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้ง และใช้วัสดุที่มาจากธรรมชาติทดแทน ได้แก่ ไม้คนกาแฟ ถุงกระดาษ และ กระดาษหุ้มหลอด การขับเคลื่อนโครงการ 7 Go Greenในพื้นที่เกาะที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์พื้นที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ  รณรงค์ให้ผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวมีส่วนร่วมและมีความรับผิดชอบต่อธรรมชาติ นำไปสู่การสร้างพฤติกรรมใหม่ให้เกิดแนวคิดท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์, โครงการเสื้อพนักงานที่ผลิตจากขวดพลาสติกรีไซเคิล โดยการนำขวดพลาสติกมารีไซเคิลเป็นเสื้อ และ โครงการใบเสร็จรับเงิน / ใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อรณรงค์ในการลดใช้กระดาษ โดยในปี 2564  ซีพี ออลล์ ตั้งเป้ากำหนดการแผนการดำเนินงานในการลดปริมาณการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกจำนวน 10,813 ตันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 80,921 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2e) หรือเปรียบเทียบการปลูกไม้ยืนต้น จำนวน 224,283 ต้น

 

3. Green Logistic : ซีพี ออลล์ ได้ดำเนินงานด้านการขนส่งและการกระจายสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการจัดการพลังงานผ่านโครงการต่างๆเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการขนส่งและออกแบบศูนย์กระจายสินค้าทั่วประเทศ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ภายใต้ กลยุทธ์ “โลจิสติกส์เพื่อสิ่งแวดล้อม” ทั้งนี้ ซีพี ออลล์ ได้นำหลักเกณฑ์สำหรับการประเมินอาคาร สีเขียว (Leadership in Energy & Environmental Design: LEED) เป็นหลักเกณฑ์ที่่ใช้การพัฒนาและออกแบบศููนย์กระจายสินค้าทั่่วประเทศอีกด้วยปัจจุบันมีทั้งหมด 20 แห่งใน 12 จังหวัดทั่วประเทศ และได้ติดตั้งแผง Solar Cell เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ทั่วประเทศ

โดยในปี 2564  ซีพี ออลล์ ตั้งเป้าเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานทดแทนได้ 8,786,280 กิโลวัตต์ชั่วโมง(kWh), ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 4,261 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2e) หรือเปรียบเทียบการปลูกไม้ยืนต้นจำนวน 11,810 ต้น 

4. Green Living ซีพี ออลล์ ได้สานต่อโครงการ “ลดและทดแทน” ภายใต้แนวคิด “ปลูกจิตสำนึกเพื่อสิ่งแวดล้อม” โดยการ รณรงค์และเชิญชวนลดการใช้พลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้ง โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อป้องกันผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อม และคำนึงถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืนบนแนวคิดหลัก เศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy โดยล่าสุดจัดให้มีโครงการ “ถังคัดแยกขยะ” เพื่อรณรงค์ให้คนไทยช่วยกันคัดแยกขยะพลาสติก เพื่อนำขยะพลาสติกเข้าสู่กระบวนการ แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy อย่างยั่งยืน

โดยในปี 2564 ซีพี ออลล์ ได้กำหนดแผนการดำเนินงาน เพื่อลดและชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวม 128,426 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2e) หรือเปรียบเทียบการปลูกไม้ยืนต้นจำนวน 347,648 ต้น

ซีพี ออลล์ ตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบ ผ่านมาตรการต่างๆ ในการเพิ่มประสิทธิภาพและการอนุรักษ์พลังงานที่สอดคล้องกับแผนธุรกิจ และสร้างจิตสำนึกในการให้ความสำคัญของประเทศชาติภายใต้ปณิธาน “ร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสให้ทุกคน” นายยุทธศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย 

X

Right Click

No right click