นายดุสิต ชัยรัตน์ Head of Smart Solution Business เอสซีจี ร่วมแสดงความยินดีในพิธีมอบป้ายมาตรฐานอาคารเขียว LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) แก่บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) นำโดย ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หลังโครงการศุภาลัย ไอคอน สาทร ในส่วนอาคารสำนักงานประสบความสำเร็จผ่านการรับรองมาตรฐานอาคารเขียว LEED ตอกย้ำแนวคิด “Green Building @ Sathorn” ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำงานและการใช้ชีวิตของคนเมืองอย่างลงตัว โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญจากบริษัท SCG Building and Living Care Consulting เป็นที่ปรึกษาการขอรับรองมาตรฐานครั้งนี้
ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บริษัทฯ มุ่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 40 ภายในปี 2573 จาก BAU (Business As Usual) สำหรับโครงการศุภาลัย ไอคอน สาทร เป็นหนึ่งในโครงการมาสเตอร์พีซของศุภาลัย ที่โดดเด่นด้วยแนวคิดรักษ์โลก “Green Building @ Sathorn” ให้ความสำคัญตั้งแต่การออกแบบอาคารที่ช่วยประหยัดพลังงาน การเลือกใช้วัสดุ Green Product และการเลือกคู่ค้าที่ใส่ใจกระบวนการผลิตที่ยั่งยืน รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีในการก่อสร้าง การบริหารจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ และการเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในโครงการ นอกจากนี้ การได้รับการรับรองมาตรฐานอาคารเขียว LEED สำหรับอาคารสำนักงาน ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของศุภาลัยในการสร้างสรรค์อาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อยกระดับมาตรฐานที่อยู่อาศัยรักษ์โลก ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานและความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม”
ด้าน นายดุสิต ชัยรัตน์ Head of Smart Solution Business เอสซีจี กล่าวว่า “โครงการศุภาลัย ไอคอน สาทร เป็นตัวอย่างของการพัฒนาอาคารสำนักงานอย่างยั่งยืน โดยสามารถลดการใช้พลังงานและทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับการรับรองมาตรฐานอาคารเขียว LEED เกิดจากความร่วมมือระหว่างบริษัท SCG Building and Living Care Consulting ในฐานะที่ปรึกษาการทำมาตรฐานอาคาร LEED ของโครงการ และบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ที่นำแนวคิดอาคารเขียวมาผสมผสานกับการพัฒนาที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับการอยู่อาศัยและการทำงานในยุคปัจจุบัน”
ทั้งนี้ บริษัท SCG Building and Living Care Consulting จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญให้บริการด้านอาคารเขียว อาคารประหยัดพลังงาน อาคารเพื่อสุขภาวะที่ดี และการพัฒนาอาคารเพื่อมุ่งสู่ Net Zero โดยเป็นบริษัทเดียวในประเทศไทยที่ได้รับรอง LEED Proven Provider จากองค์กร U.S. Green Building Council การันตีถึงประสบการณ์และคุณภาพระดับสูงของทีมงานให้คำปรึกษา มีบริการด้านการขอรับรองมาตรฐานอาคาร อาทิ LEED, TREES, Edge, WELL และ Fitwel โดยมีโครงการที่ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสากลแล้วกว่า 200 โครงการ สำหรับผู้ที่สนใจรับคำปรึกษาการขอรับรองมาตรฐานอาคาร สอบถามข้อมูลได้ที่ อีเมล : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. หรือ โทร. 065-719-7909
เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ SCGC ผู้นำธุรกิจพอลิเมอร์ครบวงจรเพื่อความยั่งยืน พลิกเกมช่วงธุรกิจปิโตรเคมีขาลง เชื่อมั่นในการเติบโตของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีในภูมิภาค เดินหน้าเสริมแกร่งธุรกิจด้วยการลงทุนโครงการเพิ่มวัตถุดิบก๊าซอีเทนในบริษัท ลองเซิน ปิโตรเคมิคอลส์ (Long Son Petrochemicals – LSP) ด้วยงบประมาณลงทุนรวมประมาณ 700 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 23,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยให้โรงงาน LSP สามารถรับวัตถุดิบก๊าซอีเทนจากสหรัฐอเมริกาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยมีต้นทุนวัตถุดิบที่ต่ำลง และเพิ่มความยืดหยุ่นในการรับวัตถุดิบในการผลิตได้มากขึ้น พร้อมทั้งยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จ ปลายปี 2570
นายศักดิ์ชัย ปฏิภาณปรีชาวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ SCGC เผยว่า “กระบวนการผลิตโอเลฟินส์ของโรงงาน LSP ได้รับการออกแบบให้มีความยืดหยุ่นในการใช้วัตถุดิบตั้งต้นประเภทก๊าซมากขึ้น งบประมาณลงทุนส่วนใหญ่จะนำไปใช้สำหรับการสร้างระบบการจัดการและถังจัดเก็บวัตถุดิบก๊าซอีเทน ซึ่งต้องอยู่ภายใต้อุณหภูมิต่ำประมาณ -90 องศาเซลเซียส รวมทั้งสาธารณูปโภคการรับวัตถุดิบ (supporting facilities) เมื่อโครงการแล้วเสร็จ โรงงาน LSP จะสามารถรับก๊าซอีเทนได้มากถึงสองในสามของปริมาณวัตถุดิบทั้งหมด โดยส่วนที่เหลือจะเป็นก๊าซโพรเพนและแนฟทา”
ทั้งนี้ โรงงาน LSP ได้เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567 สามารถผลิตและจำหน่ายพอลิเมอร์คุณภาพสูงเพื่อป้อนตลาดในประเทศเวียดนามและส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยผลิตภัณฑ์จากโรงงาน LSP ได้รับการยอมรับในด้านคุณภาพและมาตรฐานระดับสากล
“อย่างไรก็ตาม ในช่วงธุรกิจปิโตรเคมีขาลง SCGC มีแนวทางบริหารจัดการการผลิตของโรงงานทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ โรงงานระยองโอเลฟินส์ (ROC) โรงงานมาบตาพุดโอเลฟินส์ (MOC) และโรงงาน LSP ให้เหมาะสมกับราคาวัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์ และสถานการณ์เศรษฐกิจโลก เพื่อให้มีศักยภาพการแข่งขันสูงสุด ซึ่งขณะนี้ โรงงาน LSP ได้หยุดการเดินเครื่องชั่วคราว เพื่อบริหารต้นทุนธุรกิจโดยภาพรวม ทั้งนี้ SCGC จะประเมินการกลับมาเดินเครื่องอีกครั้งเมื่อสถานการณ์เหมาะสม โดยระหว่างนี้ โรงงาน LSP จะมุ่งเน้นการยกระดับประสิทธิภาพ (Operational Excellence) และการบำรุงรักษาเครื่องจักรต่าง ๆ เพื่อให้พร้อมผลิตในทันทีที่สภาวะตลาดโลกฟื้นตัว” นายศักดิ์ชัย กล่าวทิ้งท้าย
ONNEX by SCG Smart Living ปรับโฉมพื้นที่ชั้น 1 ที่ SCG HOME Experience นำเสนอระบบโซลาร์จาก SCG Solar Roof Solutions พร้อมนวัตกรรมเพื่อคุณภาพอากาศภายในบ้าน อาทิ SCG Active AIR Quality เติมอากาศดีพร้อมป้องกันฝุ่น PM 2.5 และ SCG Active AIRflow™ System ช่วยแก้ปัญหาบ้านร้อนให้อยู่สบาย พร้อมโปรโมชัน Top-Up ส่วนลดพิเศษสำหรับผู้ที่สนใจดูแลคุณภาพชีวิตในบ้านให้ดีขึ้น
นายดุสิต ชัยรัตน์ Head of Smart Solution Business เอสซีจี สมาร์ทลีฟวิง กล่าวว่า “การปรับปรุงพื้นที่ใหม่ของ ONNEX by SCG Smart Living (ออนเนกซ์ บาย เอสซีจี สมาร์ทลีฟวิง) บริเวณชั้น 1 ของ SCG HOME Experience เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา (CDC) ในครั้งนี้ เพื่อนำเสนอโซลูชันต่าง ๆ ที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตภายในบ้านให้ดียิ่งขึ้น โดยเน้นให้บริการด้านข้อมูลและการให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อการตัดสินใจซื้อที่ตอบโจทย์ได้ดีที่สุด โดยไฮไลท์ของพื้นที่คือโซนระบบโซลาร์ ที่นำเสนอสินค้าและอุปกรณ์เกี่ยวกับการติดตั้งระบบหลังคาโซลาร์ทั้งหมด อาทิ แผงโซลาร์เซลล์ แบตเตอรี่อินเวอร์เตอร์ และนวัตกรรม Solar Fix สิทธิบัตรเฉพาะเอสซีจี ซึ่งถูกพัฒนาเพื่อลดปัญหาหลังคารั่วซึมจากการติดตั้งระบบโซลาร์ โดยลูกค้าสามารถรับบริการ One Stop Services จาก SCG Solar Roof Solutions แบบครบวงจร ตั้งแต่ตรวจเช็กสภาพหลังคาเพื่อแก้ไขทุกปัญหาก่อนการติดตั้ง ตลอดจนดำเนินการเรื่องเอกสารขออนุญาตติดตั้งกับภาครัฐ จนถึงบริการหลังการขาย
สำหรับโซนโซลูชันเพื่อคุณภาพอากาศภายในบ้าน ONNEX by SCG Smart Living ได้นำเสนอ SCG Active AIR Quality โซลูชันที่ช่วยลดฝุ่น PM 2.5 และเติมอากาศดีภายในบ้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยหลักการ Positive Pressure ของระบบจะช่วยป้องกันมลภาวะและเชื้อโรคต่าง ๆ ไม่ให้เข้าสู่ภายในบ้าน รวมทั้งยังมีพื้นที่สาธิตกระบวนการทำงานของ SCG Active AIRflow™ System โซลูชันเพื่อการถ่ายเทอากาศและระบายความร้อนออกจากตัวบ้านและโถงหลังคา ช่วยแก้ปัญหาบ้านร้อนอบอ้าว ลดการสะสมเชื้อโรคและความอับชื้นในบ้าน จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการภูมิแพ้ ทำให้รู้สึกสบายและปลอดโปร่งตลอดเวลาที่อยู่ภายในบ้าน ทั้งนี้ โซลูชันระบบโซลาร์และระบบคุณภาพอากาศภายในบ้าน ถือเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่ช่วยยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยให้ดียิ่งขึ้นตามแนวทางของธุรกิจ”
นอกจากนี้ ONNEX by SCG Smart Living ยังมีโปรโมชันฉลองเปิดพื้นที่ใหม่ส่งท้ายปี 2567 จาก SCG Solar Roof Solutions SCG Active AIR Quality และ SCG Active AIRflow™ System ด้วยการขยายเวลาโปรโมชันที่ได้รับความนิยมจากงานบ้านและสวนแฟร์ 2024 จนถึงสิ้นปีนี้ และพิเศษสุดในวันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2567 จะมี 3 แพ็กเกจ Top up ได้แก่
พบกับพื้นที่ใหม่พร้อมโปรโมชันตลอดปลายปี 2567 ที่โซน ONNEX by SCG Smart Living ชั้น 1 SCG HOME Experience หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.onnexbyscg.com