December 26, 2024

โคกหนองนา วิถีปรกติใหม่ ใต้ฟ้าเมืองไทย

September 24, 2021 2111

พลวัตของการเปลี่ยนแปลงในโลกปัจจุบัน ทำให้คนรุ่นใหม่จำนวนมากมองหาความหมายในการดำรงชีวิต

หลายคนกำลังศึกษาและมองอนาคตข้างหน้าในมิติที่แตกต่างกันไปในยุคของสังคมออนไลน์ งานออนไลน์ เงินออนไลน์ ในโลกเสมือนจริงที่จับต้องไม่ได้อย่างเป็นรูปธรรม ได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของบางคนให้ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยี หรือบางคนออกมาทำงานฟรีแลนซ์หาเงินด้วยตนเองแทนการรับเงินเดือน และแม้แต่เหตุการณ์ประเทศเพื่อนบ้านเร็วๆ นี้ สร้างความตระหนักปนตระหนกจากการหยุดการเชื่อมต่อกับสังคมโลกชั่วขณะ ด้วยการระงับการปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ตในประเทศ หรือแม้แต่ประเทศจีนยักษ์ใหญ่ในเอเชียได้แถลงนโยบายการพัฒนาประเทศด้วยการมุ่งเน้นคุณภาพ มากกว่าการเติบโตอย่างก้าวกระโดด จึงประจักษ์ชัดว่าทุกคนในยุคนี้มีทางเลือกของตนเอง ซึ่งแนวทางการดำเนินชีวิต ด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของสังคม แม้นเราอาจคุ้นเคยรู้จักเศรษฐกิจแบบทุนนิยม และแบบสังคมนิยมที่ผ่านมา

เศรษฐกิจ : ทุนนิยม - สังคมนิยม - พอเพียง

ช่วงชีวิตที่ผ่านมาของผู้อ่านและผู้เขียนเคยชินกับเศรษฐกิจทุนนิยมมาโดยตลอด ด้วยการดำเนินชีวิตตามกระแสโลก มุ่งไปที่การเรียนให้สูง ทำงานให้ดี มีเงินเยอะๆ ทำธุรกิจเพื่อสร้างกำไรมหาศาลแต่ผลพวงที่ได้รับกลับส่งผลถึงปัญหาสังคม ทรัพยากรธรรมชาติทำให้สวัสดิภาพของมนุษย์สูญเสียไป และหากศึกษาระบบสังคมนิยมในอดีต ยิ่งทำให้ตระหนักถึงคุณค่าของความเป็นมนุษย์ ที่ต่างมีกระบวนการคิดและจิตวิสัยของปัจเจกชน

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จึงเป็นหนึ่งของทางเลือกในสังคมยุคปัจจุบัน นับจากการทรงงานของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในสภาวการณ์ของสังคมทั้งในเมือง ชนบทและในพื้นที่ป่าห่างไกล ตั้งแต่ยุคสมัยที่ไร้เทคโนโลยีจนมีคอมพิวเตอร์ เรดาร์ ทว่าพระองค์ทรงตระหนักถึงคุณค่าของวิถีชีวิตที่แตกต่างกันในสังคมไทย และปรารถนาให้ชาวไทยมีความสุขตามปัจเจกวิสัย ด้วยพระปรีชาญาณ จึงมีพระราชดำริแนวทางการดำเนินชีวิตด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อการดำเนินชีวิตตามศักยภาพของตนเอง ลดการพึ่งพา ปัจจัยภายนอก ทว่าเมื่อกล่าวถึงคำว่า “พอเพียงหลายคนอาจรู้สึกว่าน้อย ไม่พอ ซึ่งหากทำความเข้าใจกับคำว่า พอเพียงตามหลักภาษาศาสตร์ จะพบว่า เป็นคำง่ายๆ และตรงประเด็น เช่นการตักอาหารไว้บนจานให้พอเพียงกับที่เราต้องทาน ไม่น้อยเกินไปจนไม่อิ่ม และไม่มากล้นจานหรือทานไม่หมด หรือไม่เหลือให้คนอื่นตัก ดังนั้นการทำงานตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง จึงหมายถึงการทำงานเพื่อความต้องการที่พอเหมาะ พอควร ตามศักยภาพของตนเอง หากมีความต้องการสูง และมีศักยภาพสูงหรือสามารถพัฒนาศักยภาพตนเองได้สูงขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของตนเอง ก็พึงกระทำได้ แต่ถ้าหากความสามารถ ศักยภาพและทรัพยากรของตนเองมีจำกัด แต่มีความต้องการสูง และต้องใช้วิธีเบียดเบียนผู้อื่น ก็ไม่ควรกระทำ เมื่อทำความเข้าใจหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงแล้ว จะพบว่าเป็นแนวทางการดำเนินชีวิตที่เรียบง่าย สร้างความมั่นใจ มั่นคงให้กับผู้ปฏิบัติเอง ที่หลายคนปฏิบัติเป็นปรกติอยู่แล้ว

ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง สามารถนำไปปรับประยุกต์ได้กับทุกอาชีพ ทุกคน ทุกวัย ด้วยความพยายามพัฒนาความรู้ ความสามารถ ศักยภาพ ให้สามารถตอบสนองความต้องการของตนเอง หรือการปรับความต้องการของตนเองให้เหมาะควร กับทักษะและศักยภาพของตน เป็นการOptimizationในภาพกราฟ หรือ Balanceในบัญชีและชีวิตนั่นเอง การเลือกแนวทางที่ตนเองท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบัน ยุคของกระแสโลกอันเชี่ยวกราก วิถีชีวิตเร็วไวในยุคดิจิทัล เปิดโอกาสให้ทุกความปรารถนา โดยไม่ขึ้นอยู่กับ GENeration การศึกษาและสถานะทางสังคม สามารถค้นพบความต้องการและความมั่นคงได้ด้วยตนเอง ซึ่งต้นแบบ โคกหนองนาโมเดล จากโครงการหนึ่ง ในหลายพันโครงการตามพระราชดำริของในหลวงรัชกาล9 สู่แนวทางเลือกหนึ่งของการดำรงชีวิตหรือกิจกรรมเสริมสร้างทักษะชีวิตของคนสมัยใหม่ ทุกเพศ ทุกวัย

การใช้พื้นที่ไม่กี่ตารางวา หรือจะมากมายหลายร้อยไร่ ด้วยทุนทรัพย์น้อยนิดหรือทุนหนัก แต่สิ่งสำคัญคือใจรักและมีเป้าหมายในการพัฒนาพื้นที่นั้นในรูปแบบโคกหนองนาอย่างบริสุทธิ์ใจ ไม่ต่างอะไรจากความรักบริสุทธิ์ ที่ค้นพบความปรารถนาของตนเอง ต้องการเห็นการเติบโตของพันธุ์ไม้ พืชผลในพื้นที่นี้ โดยมีหลักการง่ายๆ คือ จริงใจกับตนเองและจริงจังกับสิ่งที่ปรารถนา เพราะการพัฒนาพื้นที่ในรูปแบบโคกหนองนาโมเดลตามหลักการเกษตรทฤษฎีใหม่ สามารถปรับประยุกต์ได้ตามสภาพพื้นที่ ภูมิสังคม และความต้องการของผู้ดำเนินการ ดังจะพบตัวอย่างจากการจัดทำโคกหนองนา แทนสนามหญ้าหน้าโรงงาน สถานที่ราชการ สถาบันการศึกษา พื้นที่ในรั้วบ้าน และแม้แต่การประยุกต์โคกหนองนาโมเดลบนพื้นที่เกษตรกรรมของเกษตรกรโดยอาชีพ หรือบนพื้นที่ของคนเมืองรุ่นใหม่ที่ออกไปใช้เวลาสัมผัสธรรมชาตินอกCBD (Central Business District) ช่วงวันหยุด และแน่นอนที่สุดสำหรับหลายคนที่ปลดระวางชีวิตการทำงานในองค์กร สู่การพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อความสุขใจ ไร้พันธนาการ ดังนั้นโคกหนองนาโมเดลจึงมีแนวทางปฏิบัติ ที่สามารถดำเนินการได้จริง ทว่าจะเล็กหรือใหญ่เพียงใด ต้องตระหนักถึงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ด้านความพร้อมของทรัพยากรต่างๆ ทั้งกำลังคน กำลังทรัพย์

การพัฒนาพื้นที่เพื่อการเกษตรในรูปแบบโคกหนองนาโมเดลนั้น ไม่มีข้อกำหนดตายตัว สามารถปรับประยุกต์รูปแบบการวางผังพื้นที่ได้ตามความเหมาะสม โดยมีหลักการรวมถึง การมีแหล่งน้ำหลัก ซึ่งสามารถใช้ดินที่ได้จากการขุดบ่อ มาทำเป็นโคกปลูกพันธุ์ไม้ต่างๆ การปลูกต้นไม้ 3อย่าง มีไม้เศรษฐกิจ เช่นต้นสัก ต้นประดู่ และต้นพยุง สามารถนำขายได้ มีไม้ใช้สอยโตเร็วใช้งานได้ เช่นสะเดา ไผ่ และไม้ที่ให้ผลกินได้ อันจะมีประโยชน์ถึง 4อย่างซึ่งรวมถึงการให้ความชุ่มชื้นกับดิน นอกจากนี้ยังมีแนวทางการปลูก ตามชั้นความสูงของต้นไม้และระบบนิเวศเป็น 5 ระดับ คือไม้ระดับสูง อาทิ มะค่าโมง สะตอ มะพร้าว ฯลฯ ไม้ระดับกลาง อาทิ ผักหวานป่า ติ้ว พลู กล้วย ฯลฯ ไม้พุ่มเตี้ย อาทิ ผักหวานบ้าน มะนาว, ย่านาง, เสาวรส ฯลฯ ไม้เรี่ยดิน อาทิ มะเขือเทศ สะระแหน่ ฯลฯ ไม้หัวใต้ดิน อาทิ ข่า ตะไคร้ ขมิ้น ไพล เผือก ฯลฯ นอกจากการปลูกพันธุ์ไม้ต่างๆ แล้ว ยังใช้พื้นที่ส่วนหนึ่งเพื่อการปลูกนาข้าว โดยเลือกสายพันธุ์ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และที่สำคัญของโคกหนองนาโมเดล คือการสร้างชุ่มชื้นอุดมสมบูรณ์ให้ดินด้วยการ พัฒนาหนองน้ำที่เกิดจากการขุดนั้นหรือมีอยู่แล้วตามธรรมชาติ แต่งระดับความลึกเป็นขั้นๆ เพื่อให้สิ่งมีชีวิตทั้งปลาและพันธุ์ไม้ใต้น้ำอยู่ได้อย่างสันติ มีการทำแซนด์วิชปลาในบ่อ (แหล่งอาหารสำหรับปลา ไม่ใช่แซนด์วิชทูน่าของเรา!!) และการเชื่อมคลองไส้ไก่จากการขุดเป็นร่องน้ำยาวคดเคี้ยวไปในพื้นที่ ปลูกต้นหญ้าแฝกตามทฤษฎีแกล้งดินและการปลูกกล้วยเป็นช่วงๆ ริมตลิ่งคลองไส้ไก่ให้ความชุ่มชื้นแม้ในยามร้อนแล้ง นอกจากนี้โคกหนองนาโมเดลยังรวมถึงการวางผังพื้นที่กสิกรรมอย่างการเลี้ยงไก่ และแม้แต่การปลูกที่อยู่อาศัยให้ภิรมย์ตามวิถีชีวิตเกษตรกรยุคใหม่อิ่มเอมใจ อยู่ได้ทุกสถานการณ์บ้านเมือง ทั้งนี้ทั้งนั้นการเกษตรทฤษฎีใหม่นี้เน้นการปลูกไม้ผสมผสาน ไม่ใช่พืชเชิงเดี่ยวคือปลูกพันธุ์ไม้อย่างใดอย่างเดียวแบบการเกษตรอุตสาหกรรม แต่การปลูกไม้ผสมจะช่วยให้พืชสามารถเสริมความแข็งแกร่งจากกิ่งไม้ใบที่ร่วงลงดิน จะช่วยเพิ่มสารอาหารให้กันและกัน ผลผลิตที่ได้จากโคกหนองนาโมเดลจะเพียงพอต่อการดำรงชีวิตวิถีปรกติใหม่ และยังอาจมากพอแจกจ่าย แลกเปลี่ยน หรือจำหน่ายในชุมชนและนอกชุมชนออกไปได้

ทางเลือกของชีวิตแต่ละคนแตกต่างกันไป แต่ในยุคโลกาภิวัตน์อย่างเต็มรูปแบบสู่วิถีปรกติใหม่ ของกลุ่มชนรุ่นใหม่ที่ดำเนินชีวิตในสภาวะเสมือนจริงบนจอคอมพิวเตอร์และมือถือ ทำให้ค่านิยม และแนวทางการดำเนินชีวิตของคนส่วนใหญ่ในสังคมมีความหลากหลายยิ่งขึ้น จนกระทั่งทุกวันนี้มีแนวคิดของหลายสำนักศึกษาและให้ความสำคัญกับความจริงแท้ของมนุษย์ ที่ปรารถนาความสุขกาย สุขใจ แบบไม่ใช่สิ่งลวงตาหรือลวงใจ ดังนั้นการดำเนินชีวิตอย่างมีสติบนความพอเพียงจึงนับเป็นแนวทางการดำเนินชีวิตสู่อนาคตของโลกใบนี้ ซึ่งหลายประเทศที่พัฒนาแล้วคงปรับแนวคิดไม่ยาก ในการเปลี่ยนจากการยึดติดการเติบโตก้าวกระโดด สู่วิถีการดำรงอยู่อย่างพอใจ เพราะทัศนคติการดำเนินชีวิตและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศเอื้อต่อการทำงานและสันทนาการของชีวิตอย่างเหมาะสม ทว่าสำหรับสังคมไทยที่มีพื้นฐานสวัสดิการรัฐยังไม่ชัดเจน การแสดงหาความสงบสุขของใจตามแนวทางการดำเนินชีวิตแบบพอเพียงจึงสำคัญยิ่งนัก


 

บทความโดย: โค้ช สิริษา แสงไชย
โค้ชและที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการ
SCH Coaching Program “Global learner”

X

Right Click

No right click