ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ในฐานะโฆษกกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบัน (18 ม.ค.65) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 55,998 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 74 ของความจุอ่างฯรวมกัน มีน้ำใช้การได้ 32,068 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีการใช้น้ำไปแล้วประมาณ 8,987 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 40 ของปริมาณน้ำใช้การได้ เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 13,457 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 54 ของความจุอ่างฯ มีน้ำใช้การได้ 6,761 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีการใช้น้ำไปแล้วประมาณ 2,265 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 40 ของปริมาณน้ำใช้การได้
สำหรับผลการเพาะปลูกข้าวนาปรัง ปี 2564/65 ทั้งประเทศเพาะปลูกข้าวไปแล้ว 4.65 ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 72 ของแผนฯ เฉพาะพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา เพาะปลูกไปแล้ว 3.25 ล้านไร่ เกินแผนที่วางไว้ร้อยละ 16 (แผนวางไว้ 2.81 ล้านไร่) ทั้งนี้ ได้กำชับให้โครงการชลประทานในพื้นที่ ดำเนินการสนับสนุนการเพาะปลูกข้าวให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ และดำเนินการตามมาตรการรองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำ ปี 2564/65 ทั้ง 8 มาตรการ อย่างเคร่งครัด
พร้อมเน้นย้ำให้ทำการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ "ประหยัดน้ำ เท่ากับ บริจาค" ภายใต้โครงการ "ประหยัดน้ำ ทางรอดต้านแล้ง" เพื่อรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของการประหยัดทรัพยากรน้ำก่อนที่วิกฤติภัยแล้งจะมาถึง และร่วมแรงร่วมใจใช้ทรัพยากรน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์และคุ้มค่าที่สุด ตามนโยบายของ นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน