December 22, 2024

ทำความรู้จักข้อดีของหูฟังแบบ Open-ear ใน HUAWEI FreeClip แตกต่างที่ฟังสบายกว่าเคย

January 25, 2024 721

หูฟังแบบ Open-ear ถือเป็นหูฟังตัวเลือกเพิ่มความหลากหลายให้กับผู้ใช้งาน เนื่องจากสำหรับผู้ใช้จำนวนมาก หูฟัง In-ear อาจไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้หลากหลาย ถึงแม้ว่าหูฟังแบบ In-ear จะเหมาะสำหรับผู้รักเสียงเพลง แต่ด้วยการออกแบบแล้วทำให้มีแนวโน้มที่จะเลื่อนและหลุดออกจากหูได้ และอาจทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายหากสวมใส่เป็นเวลานาน หัวเว่ยได้เล็งเห็นกับปัญหาเหล่านี้จึงได้พัฒนาหูฟังรุ่นแรกที่มาในรูปแบบ Open-ear อย่าง HUAWEI FreeClip ด้วยการออกแบบ C-bridge อันเป็นเอกลักษณ์ เปิดกฎเกณฑ์ของการออกแบบใหม่ เพื่อการสวมใส่สบายแต่มีสไตล์สำหรับความต้องการที่หลากหลาย วันนี้หัวเว่ยจะมาสรุปข้อดีของหูฟังแบบ Open-ear ที่จะสร้างความแตกต่างจากหูฟังรูปแบบที่เดิมเพื่อการฟังที่สบายกว่าเคย

มั่นใจทุก movement เอาใจสายแอคทีฟ ฟิตเนส

หัวเว่ยใช้เวลา 3 ปี ในการออกแบบ C-bridge ให้เหมาะกับหูประเภทต่างๆ ตามหลักสรีรศาสตร์ แต่ยังให้ความปลอดภัยและความสบาย ด้วยน้ำหนักเบาเพียง 5.6 กรัม[1] และมุมเอียง 11 องศา ซึ่งช่วยให้หูฟังแนบไปกับหูของผู้ใช้ระหว่างการกระโดด วิ่ง และเคลื่อนไหวไปมาได้โดยไม่ต้องกลัวว่าหูฟังจะหลุดระหว่างการออกกำลังกาย รวมทั้งแม้ในขณะที่มีเหงื่อออกด้วยการรองรับความสามารถในการกันน้ำและเหงื่อระดับ IP54 ทำให้ผู้ใช้มั่นใจในการออกกำลังกายโดยไม่ต้องกลัวว่าเอียร์บัดจะเสียหาย อีกทั้งรูปแบบหูฟังแบบเปิดยังช่วยให้หูของผู้ใช้ระบายอากาศได้ดีขึ้นอีกด้วย

ไม่สูญเสียเสียงสัมผัสรอบตัว

HUAWEI FreeClip ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่ต้องการเพลิดเพลินกับเสียงเพลงโดยไม่สูญเสียสัมผัสสิ่งรอบข้าง ด้วยเทคโนโลยีระบบเสียงแบบ Open Ear ที่ช่องหูไม่ได้ถูกปิดกั้นจนสุด ช่วยให้ผู้ใช้สามารถดื่มด่ำไปกับเพลงโปรดของพวกเขาในขณะที่ยังคงสามารถฟังบรรยากาศโดยรอบได้ ซึ่งเป็นสิ่งสําคัญอย่างยิ่งสําหรับผู้ใช้งาน เช่น นักวิ่งมาราธอนที่ต้องการตระหนักถึงคนเดินเท้าและการจราจรรอบ ๆ ตัวพวกเขา เพื่อความปลอดภัยเมื่อวิ่งในเมือง ผู้ใช้ที่ฟังเพลงขณะขับรถด้วย แต่ต้องการระวังเสียงจราจร เป็นต้น

ระบบเสียง Open Sound ช่วยให้เสียงอยู่ใกล้กับช่องหูมากขึ้น

การออกแบบ C-bridge ช่วยให้เสียงอยู่ใกล้กับช่องหูมากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเดินทางของเสียง แก้ปัญหาที่พบบ่อยด้วยหูฟังแบบเปิดหูอื่นๆ ที่มักจะมีช่องเสียงอยู่ห่างจากหูมากเกินไป ด้วยระบบเสียง Open Sound แบบวงจรแม่เหล็กคู่ความไวสูงและไดรฟ์แอมพลิจูดขนาดใหญ่ ซึ่งรักษาความชัดเจนของเสียง ไดรเวอร์ยูนิตความไวสูงแบบแม่เหล็กคู่จะเพิ่มความเข้มของการเหนี่ยวนำแม่เหล็ก ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความสามารถในการขับเคลื่อนของลำโพงสร้างคุณภาพเสียงที่ทรงพลังและดึงโทนเสียงที่แตกต่างกันของเพลงที่ผู้ใช้ฟัง ตั้งแต่เสียงเบสที่ก้องกังวานไปจนถึงเสียงแหลมของเพลง อีกทั้งยังมีระบบเสียงแบบ Reverse Sound Field Acoustic System ปรับระดับเสียงแบบอัจฉริยะในขณะที่ยกเลิกคลื่นเสียงอย่างละเอียด ป้องกันการรั่วไหลของเสียงของจากมุมต่าง ๆ ได้สูงถึง 6-17 dB นับเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการปกป้องความเป็นส่วนตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณกำลังทำงานหรือรับสายส่วนตัวในลิฟต์สาธารณะหรือสำนักงานในขณะที่อยู่ท่ามกลางเพื่อนร่วมงาน

Fashion Farward: สไตล์ที่เหมาะกับทุกชุดและทุกโอกาส

HUAWEI FreeClip เป็นผลิตภัณฑ์ล่าสุดจากกลยุทธ์ Fashion Forward ซึ่งเป็นความคิดริเริ่มใหม่ของหัวเว่ยในการเปลี่ยนเทคโนโลยีอุปกรณ์สวมใส่ให้กลายเป็นแฟชั่น รูปลักษณ์ภายนอกที่โฉบเฉี่ยวแม้จะมีความซับซ้อนทางเทคนิค

ตอบโจทย์ทุกการส่วมใส่ไปได้ทุกที่อย่างมีสไตล์ ตั้งแต่ออฟฟิศ ยิม ไปจนถึงงานดินเนอร์สุดหรู ด้วยดีไซน์คล้ายต่างหูที่มีให้เลือกสองสีอย่างมีสไตล์ได้แก่ สีม่วง และ สีดำ ทำให้ HUAWEI FreeClip แทบจะเป็นเครื่องประดับที่เข้ากันกับเสื้อผ้าทุกชุด และยังตอบสนองความต้องการที่หลากหลายอีกด้วย

เป็นเจ้าของก่อนใครกับโปรโมชันสุดคุ้ม 2.2 นี้

HUAWEI FreeClip วางจำหน่ายในราคา 6,490 บาท พร้อมโปรโมชัน รับฟรี HUAWEI Band 8 มูลค่า 1,899 บาท กระเป๋าหูฟัง มูลค่า 599 บาท จำกัด 50 สิทธิ์แรกเฉพาะช่องทางออนไลน์ บริการดูแลหูฟัง HUAWEI Loss Care มูลค่า 499 บาท (1 ข้าง 1ปี ในราคาส่วนลด 50%) เมื่อสั่งซื้อตั้งแต่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 – 29 กุมภาพันธ์ 2567 ทางหน้าร้าน HUAWEI Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ รวมทั้งช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์ HUAWEI Store ร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบนแพลตฟอร์ม Lazada และ Shopee

นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์หัวเว่ยยังเข้าร่วมโครงการ “Easy E-Receipt 2024” ช้อปสูงสุด 50,000 บาท รับคืนสูงสุด 17,500 บาท

สำหรับลูกค้าที่ซื้อ HUAWEI FreeClip ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึง วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 สามารถเข้าร่วมโครงการนำใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์มาลดหย่อนภาษีตามเงื่อนไขของกรมสรรพากรได้[2]


[1]   น้ำหนักจริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการกำหนดค่าผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิต

[2] จะสามารถหักภาษีได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการยืนยันของกรมสรรพากร

X

Right Click

No right click