นายอิทธิพล เลิศศักดิ์ธนกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) นายเชีย วัน ฮัท โจเซฟ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายสินเชื่อธุรกิจ ธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน) (BOCT) และนางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) (SHR) ร่วมงานฉลองความสำเร็จในการสนับสนุนทางการเงินภายใต้ Syndicated Loan ระหว่าง EXIM BANK ธนาคารแห่งประเทศจีน (ฮ่องกง) จำกัด (BOCHK) และ BOCT รวม 157.62 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 5,517 ล้านบาท ให้แก่บริษัท ดรีม ไอส์แลนดส์ ดีเวลล็อปเมนต์ ทู ไพรเวท จำกัด และบริษัท ดรีม ไอส์แลนดส์ ดีเวลล็อปเมนต์ ทรี ไพรเวท จำกัด ในเครือ SHR เพื่อใช้ลงทุนพัฒนาโครงการครอสโร้ด มัลดีฟส์ แหล่งท่องเที่ยวครบวงจรในสาธารณรัฐมัลดีฟส์ ประกอบด้วยรีสอร์ต 3 แห่ง ได้แก่ โรงแรมฮาร์ดร็อค โฮเทล มัลดีฟส์ โรงแรมทราย ลากูน มัลดีฟส์ และโรงแรมโซ/ มัลดีฟส์ รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวก ประกอบด้วย บีชคลับ ท่าจอดเรือ และกิจการที่เกี่ยวข้องกับการจัดประชุมและนิทรรศการ ณ SHR สำนักงานใหญ่ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2566

EXIM BANK ร่วมสนับสนุนทางการเงินในครั้งนี้เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพและดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล โดยเล็งเห็นศักยภาพของโครงการครอสโร้ด มัลดีฟส์ ซึ่งเป็นโครงการลงทุนครบวงจรขนาดใหญ่และแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำของโลกในสาธารณรัฐมัลดีฟส์ โดยได้รับการรับรองมาตรฐานจาก Green GlobeTM แสดงถึงการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจบนพื้นฐานการใช้ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอย่างยั่งยืน (Blue Economy) โดยเฉพาะการพัฒนาที่ยั่งยืนตามหลัก Sustainable Development Goals 2030 (SDGs 2030) เป้าหมายที่ 14 ขององค์การสหประชาชาติ เรื่องการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากมหาสมุทร ทะเล และทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน สอดคล้องกับวิสัยทัศน์และนโยบายของ EXIM BANK ในการดำเนินบทบาท “Green Development Bank” ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การค้าและการลงทุนของไทยและการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศไทยและของโลก

ส่งมอบเครื่องออกกำลังกายที่ซ่อมปรับปรุงแล้ว และนมกล่องพร้อมดื่มให้แก่กรุงเทพมหานคร เพื่อสุขภาพคนในชุมชนพญาไทและใกล้เคียง

EXIM BANK แถลงผลการดำเนินงานครึ่งแรกปี 2566

ต้นแบบธุรกิจรีไซเคิลเศษเหล็กจากซากรถยนต์เพื่อผลิตเชื้อเพลิงแข็งค่าความร้อนสูง

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และนายวรงค์ ตังประพฤทธิ์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อมตะซิตี้ ลาว จำกัด (AMATA City Lao) ร่วมลงนามในสัญญาสนับสนุนทางการเงินของ EXIM BANK จำนวน 150 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนสำหรับซื้อที่ดินและพัฒนาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม อมตะ สมาร์ท แอนด์ อีโค ซิตี้ นาเตย ในแขวงหลวงน้ำทาทางตอนเหนือของ สปป.ลาว โดยมีนายอาสา สารสิน ประธานกรรมการ AMATA City Lao นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานกรรมการ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) (AMATA) และนายอิทธิพล เลิศศักดิ์ธนกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ อาคารกรมดิษฐ์ เมื่อเร็ว ๆ นี้

EXIM BANK สนับสนุน AMATA City Lao ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม AMATA ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมใน สปป.ลาว ด้วยความเล็งเห็นในศักยภาพของผู้ประกอบการไทยในการสร้างเมืองอัจฉริยะ (Smart City) และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยนโยบายการปล่อยของเสียเป็นศูนย์ (Zero Waste Discharge) ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะ สมาร์ท แอนด์ อีโค ซิตี้ นาเตย มุ่งสู่การเป็นเมืองคาร์บอนต่ำ (Low Carbon City) ในระยะยาว บนพื้นฐานของการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามปรัชญา “ALL WIN” ของกลุ่ม AMATA สอดคล้องกับบทบาทของ EXIM BANK ในการทำหน้าที่ธนาคารเพื่อการพัฒนา มุ่งส่งเสริมการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมสู่อนาคตและความยั่งยืน ขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล รวมถึงความกินดีอยู่ดีของประชาชนในชุมชนโดยรอบนิคมอุตสาหกรรม ทั้งนี้ AMATA City Lao ได้เข้าไปพัฒนานิคมอุตสาหกรรมใน สปป.ลาวแล้ว 2 แห่ง ประกอบด้วย นิคมอุตสาหกรรมอมตะ สมาร์ท แอนด์ อีโค ซิตี้ นาเตย ในแขวงหลวงน้ำทา และนิคมอุตสาหกรรมอมตะ สมาร์ท แอนด์ อีโค ซิตี้ นาหม้อ ในแขวงอุดมไซ

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) กล่าวว่า การสนับสนุนทางการเงินในครั้งนี้ เพื่อต่อยอดการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพอย่าง AMATA City Lao ได้นำพาผู้ประกอบการ SMEs ของไทยและ สปป.ลาว เข้าไปอยู่ใน Supply Chain ที่สามารถสร้าง Ecosystem ที่ขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมสู่อนาคต ประกอบด้วยพื้นที่วิจัยและพัฒนา เทคโนโลยีแห่งโลกอนาคต ผสมผสานกับการดำรงอยู่ของสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ต่อเนื่องกับการสนับสนุนของ EXIM BANK ในปี 2561 ในโครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของกลุ่ม AMATA จำนวนหลายโครงการด้วยมูลค่าวงเงินกว่า 5,670 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการพัฒนาประเทศ โดยส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่เศรษฐกิจ สอดรับกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

 

“EXIM BANK ดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญกับในทุกมิติ ทั้งสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลที่ดี (Environmental, Social and Governance : ESG) ภายใต้เป้าหมายการเป็น ‘Green Development Bank’ จึงสานพลังกับภาครัฐและภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการค้าและการลงทุนทั้งในและต่างประเทศที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ รวมทั้งขยายผลการพัฒนาไปยังภูมิภาคอาเซียน รวมถึง CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตของภาคธุรกิจในทุกระดับ ตั้งแต่รายย่อยไปจนถึงรายกลางและรายใหญ่ตลอดทั้ง Supply Chain ให้มีความพร้อมที่จะยกระดับประสิทธิภาพการผลิตและพัฒนาธุรกิจการค้าและลงทุนของไทยและภูมิภาคอาเซียนให้มีความแข็งแกร่ง ต่อยอดการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมในระดับภูมิภาคและโลกโดยรวม” ดร.รักษ์ กล่าว

X

Right Click

No right click