
· บ้านปู ปลื้มยอดเด็กสมัคร “ค่ายเพาเวอร์กรีน” ปีที่ 20 แตะ 500+ คน สะท้อน “คนรุ่นใหม่” มีใจรักษ์สิ่งแวดล้อม – พร้อมมาร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลง
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล สานต่อความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างศักยภาพให้คนรุ่นใหม่ด้วยการนำเอาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมไปประยุกต์ใช้ในการดูแลรักษาและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ผ่านโครงการ “ค่ายเยาวชนวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมเพาเวอร์กรีน” (Power Green Camp) ครั้งที่ 20 ภายใต้แนวคิด “ดีค้าบ – The Decarb Mission” ลดคาร์บอน ให้โลกคูลล์ เน้นสร้างความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการลดและหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Decarbonization) ในชีวิตประจำวันและในสังคมที่อาศัยอยู่ โดยกิจกรรมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 เมษายน – 4 พฤษภาคม 2568
นอกจากกิจกรรมค่ายเพาเวอร์กรีนปีที่ 20 จะอัดแน่นไปด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติสุดเข้มข้นแล้ว ยังมีกิจกรรมพิเศษในวาระเฉลิมฉลองค่ายวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมที่ยาวนานที่สุดในประเทศด้วยกิจกรรม “ดีค้าบ เฟสติวัล” (Decarb Festival) โดยเปิดพื้นที่ให้เยาวชนเพาเวอร์กรีนตั้งแต่รุ่นที่ 1 ถึงรุ่นปัจจุบันมาร่วมแสดงพลังผ่านกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ โครงงานวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม การจัดเวิร์คชอป เวทีทอล์ค รวมทั้งโซนกิจกรรมสุดครีเอทีฟมากมายที่ขมวดรวมสาระและความบันเทิงตลอด 2 วัน ระหว่างวันที่ 2-3 พฤษภาคมนี้ที่อุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
![]()
นายรัฐพล สุคันธี ผู้อำนวยการสายอาวุโส - สื่อสารองค์กร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กว่า 2 ทศวรรษแห่งความร่วมมือระหว่างบ้านปู และคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล เราไม่ได้พัฒนาแค่รูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้ภายในค่ายให้เข้มข้นแต่เพียงเท่านั้น เราสร้างมุ่งพัฒนาศักยภาพและสร้างเครือข่ายผู้นำเยาวชนที่กล้าคิด กล้าทำ และกล้าสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับสิ่งแวดล้อม เยาวชนไม่ได้เป็นเพียงแค่ ‘ผู้เรียน’ แต่คือ ‘ผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง’ เราเชื่อว่าเยาวชนที่ผ่านค่ายเพาเวอร์กรีนไปจะเป็นฟันเฟืองสำคัญของการขับเคลื่อนสังคมสู่ความยั่งยืน”
ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ค่ายเพาเวอร์กรีนได้บ่มเพาะเยาวชนกว่า 1,185 คน ในการสร้างการตระหนักรู้ เรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมและก้าวขึ้นมาเป็นพลังสำคัญในการดูแลและช่วยแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ ในปีนี้ ค่ายเพาเวอร์กรีนได้รับความสนใจจากนักเรียนระดับมัธยมปลายทั่วประเทศกว่า 515 คน จาก 304 โรงเรียน ถือเป็นสัญญาณที่สะท้อนว่า เยาวชนไทยจำนวนมาก ‘ตื่นรู้’ และพร้อมจะเข้ามามีบทบาท เพื่ออนาคตของโลกใบนี้” นายรัฐพล กล่าวเสริม
![]()
ด้าน รศ. ดร.นพพล อรุณรัตน์ รองคณบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะประธานโครงการค่ายเพาเวอร์กรีน ครั้งที่ 20 กล่าวว่า “การศึกษาก็ไม่ควรหยุดอยู่แค่ห้องเรียน ค่ายเพาเวอร์กรีนจึงให้ความสำคัญกับการออกแบบค่ายฯ ให้เป็น ‘ห้องเรียนแห่งอนาคต’ ที่ไม่ใช่แค่เรียนทฤษฎี แต่ต้องลงมือแก้ปัญหาจริง เข้าใจบทบาทของธรรมชาติ และใช้วิทยาศาสตร์เป็นเครื่องมือในการเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้น เราต้องการให้เยาวชนเข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนในการดูแลและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม หากเราให้อาวุธทางความคิด ทักษะที่จำเป็น และประสบการณ์ที่เข้มข้น พวกเขาจะเติบโตเป็นกำลังสำคัญในการดูแลประเทศและโลกต่อไป”
สำหรับปีนี้ทางโครงการฯ ปักหมุดกิจกรรมภาคสนามที่จังหวัดนครราชสีมาเพราะเป็นพื้นที่ที่เยาวชนสามารถเรียนรู้ความสำคัญของป่าไม้ในฐานะแหล่งดูดซับคาร์บอนในหลากหลายบริบท ทั้งในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ป่าชุมชน พื้นที่เกษตรชุมชน รวมถึงการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยเยาวชนทั้ง 50 คนมีภารกิจวางแปลงสำรวจการกักเก็บคาร์บอนในพื้นที่ป่าไม้ เพื่อศึกษาโครงสร้างสังคมพืช และฝึกฝนการประยุกต์ใช้นวัตกรรมไปวิเคราะห์ ดูแล และแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ด้วยอากาศยานไร้คนขับ (Unmanned Aerial Vehicle - UAV) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในหลากหลายด้าน เช่น การเฝ้าระวังป่าไม้และสัตว์ป่า การตรวจวัดมลภาวะ การติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และฟื้นฟูพื้นที่ป่า ไม่เพียงเท่านั้น เยาวชนยังได้เรียนรู้การจัดการท่องเที่ยวแบบชุมชนที่ “บ้านท่ามะปรางค์ – บ้านคลองเพล” ซึ่งใช้โมเดล “Local Low Carbon” และร่วมฝึกการทำเกษตรอินทรีย์แบบลดคาร์บอน สะท้อนให้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงระดับโลกเริ่มต้นได้จากชุมชนเล็กๆ
“บ้านปูยังคงเดินหน้าเสริมศักยภาพ สร้างพลังแห่งอนาคต (Embracing Potential, Energizing People) ผ่านการเสริมศักยภาพ ‘คนรุ่นใหม่’ เพื่อสร้าง ‘พลังในการลงมือทำ’ เพราะเราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า เยาวชนที่สำเร็จการศึกษาจาก ‘ค่ายเพาเวอร์กรีน’ ห้องเรียนวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมนอกตำราแห่งนี้จะกลายเป็นกำลังสำคัญในการดูแลฟื้นฟูโลกใบนี้ ผ่านการนำองค์ความรู้วิทยาศาสตร์-เทคโนโลยี ตลอดจนประสบการณ์ที่ได้รับไปต่อยอดเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก ตลอดจนสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับคนรุ่นถัดไป” นายรัฐพล กล่าวทิ้งท้าย
ติดตามความเคลื่อนไหวของโครงการ “ค่ายเยาวชนวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม” (Power Green Camp) ปีที่ 20 เพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊กเพจ https://www.facebook.com/powergreencamp



















