February 03, 2025

ภาระหนี้สินของ SME ไตรมาส 4/2567 มีสัดส่วนทรงตัวที่ 65.0% ปัญหากำลังซื้อต่ำ-พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว-การแข่งขันสูง กระทบต่อ SME อย่างมาก

February 03, 2025 10

ภาครัฐควรเร่งออกมาตรการหนุนการเข้าถึงสินเชื่อ เสริมศักยภาพผู้ประกอบการในการจัดการเงินทุนให้มีประสิทธิภาพ และเพิ่มกำลังซื้อของผู้บริโภค

นางสาวปณิตา ชินวัตร รอผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เผยผลสำรวจสถานการณ์ด้านหนี้สินกิจการของ SME ไตรมาส 4 ปี 2567 ซึ่งเป็นการสำรวจข้อมูลรายไตรมาสต่อเนื่องโดย สอบถามผู้ประกอบการ SME จำนวน 2,752 ราย ใน 6 ภูมิภาคทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 15 – 27 ธันวาคม 2567 พบว่า ผู้ประกอบการ SME ที่มีภาระหนี้สินมีสัดส่วนใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนอยู่ที่ร้อยละ 65.0 จากร้อยละ 65.3 เมื่อพิจารณาตามขนาดธุรกิจ พบว่า ธุรกิจขนาดกลางและธุรกิจรายย่อย มีสัดส่วนภาระหนี้สินเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 97.1 และร้อยละ 61.3 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ส่วนธุรกิจขนาดย่อมมีภาระหนี้สินลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 71.5

เมื่อพิจารณาสัดส่วนประเภทแหล่งเงินกู้เปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า พบว่า ธุรกิจรายย่อยและขนาดกลางมีการพึ่งพาแหล่งเงินกู้นอกระบบสถาบันการเงินเพิ่มมากขึ้น โดยธุรกิจรายย่อยหันไปพึ่งพาแหล่งเงินจากนายทุนเงินกู้เพิ่มมากขึ้น จากร้อยละ 1.3 เป็นร้อยละ 7.4 ส่วนธุรกิจขนาดกลางมีการกู้ยืมเงินทุนจากเพื่อน/ญาติพี่น้องเพิ่มขึ้น จากร้อยละ 16.2 เป็นร้อยละ 18.2 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ธุรกิจขนาดย่อมพึ่งพาแหล่งกู้เงินในระบบสถาบันการเงิน เช่น ธนาคารของรัฐ ธนาคารพาณิชย์ บัตรเครดิต/บัตรกดเงินสด เพิ่มมากขึ้น จากร้อยละ 56.1 เป็นร้อยละ 69.7 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

สำหรับวัตถุประสงค์ในการนำเงินไปใช้เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า พบว่า SME นำเงินไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของกิจการลดลงจากร้อยละ 91.9 เป็นร้อยละ 82.0 เนื่องจาก SME เริ่มมีการนำเงินไปชำระหนี้สินเดิมเพิ่มมากขึ้นจากร้อยละ 3.0 เป็นร้อยละ 9.7 และนำเงินไปลงทุนในกิจการเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5.1 เป็นร้อยละ 8.3 เพื่อขยายกิจการและซ่อมแซมสถานประกอบการ

จากผลสำรวจระบุว่า SME เผชิญปัญหาการชำระหนี้มาตั้งแต่ช่วงปี 2563 จากต้นทุนการดำเนินธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้น และเผชิญปัญหาต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่องจากปัจจัยด้านกำลังซื้อต่ำ พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงผลกระทบจากการแข่งขันของคู่แข่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ไม่สามารถขายสินค้า/บริการได้ จึงส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ อีกทั้งการเข้าถึงวงเงินสินเชื่อจากแหล่งเงินต่าง ๆ ยังไม่เพียงพอ รวมถึงระยะเวลาสัญญาสินเชื่อที่สั้นเกินไป เกณฑ์การเข้าถึงสินเชื่อที่เข้มงวดมากตลอดช่วงหลังการฟื้นตัวจากโควิด ขั้นตอนการกู้ยืมเงินที่ยุ่งยาก และการขาดความรู้หรือที่ปรึกษาทางการเงิน จึงกลายเป็นปัญหาและอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ SME มีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น

พบว่า SME ที่ไม่มีภาระหนี้สิน ธุรกิจขนาดย่อมและขนาดกลาง เริ่มมีความต้องการกู้ยืมเงินในอนาคตเพิ่มมากขึ้น จากร้อยละ 17.6 เป็นร้อยละ 24.6 และจากร้อยละ 22.2 เป็นร้อยละ 25.0 ตามลำดับ เนื่องจากต้องการนำเงินไปใช้หมุนเวียนในกิจการ และ SME มองว่าปัจจัยด้านกำลังซื้อต่ำที่ทำให้ปริมาณคำสั่งซื้อลดลง คู่แข่งทางธุรกิจมีจำนวนเพิ่มขึ้น และสภาพคล่องที่ลดลง เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อปัญหาด้านการเงินของธุรกิจ เมื่อต้องการแหล่งเงินทุนหรือยื่นกู้สินเชื่อยังเจอกับปัญหาการเข้าถึงสินเชื่อ เช่น เกณฑ์การปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวด  รวมถึงธุรกิจที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินความสามารถในการชำระเงินคืนอีกด้วย

แม้ว่าสถานการณ์ภาวะหนี้สินของ SME ในไตรมาสที่ 4 เริ่มมีทิศทางทรงตัว SME ต้องการนำเงินกู้ที่ได้รับไปชำระหนี้สินเดิมเพิ่มขึ้น แต่ปัจจัยอื่น ๆ ภายในประเทศ เช่น กำลังซื้อต่ำ ราคาสินค้า/บริการที่อยู่ในระดับสูง พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถขายสินค้า/บริการได้นั้น ภาครัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือกระตุ้นให้เกิดการสร้างรายได้ เพื่อให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นในการเพิ่มการใช้จ่ายหรือกำลังซื้อ รวมถึงมาตรการด้านสินเชื่อ เช่น การเพิ่มความยืดหยุ่นของหลักเกณฑ์ในการยื่นขอสินเชื่อให้ครอบคลุมผู้ประกอบการทุกสาขาธุรกิจ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้ประกอบการไปพึ่งพาแหล่งกู้ยืมเงินที่ไม่เหมาะสมหรือผิดประเภทเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ควรมีการส่งเสริมองค์ความรู้ด้านการบริหารเงินทุน ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่ให้คำปรึกษาในการวางแผนธุรกิจ ทั้งนี้ SME สามารถเข้าค้นหาบริการหรือความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานเอกชนหรือสถาบันการเงินที่เหมาะสมกับความต้องการในการประกอบธุรกิจของท่านได้ที่ https://www.smeone.info/ หรือสอบถามข้อมูลผ่านศูนย์ให้บริการ SME ครบวงจร ที่กระจายอยู่ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ หรือที่ สสว. Call Center โทร. 1301

Last modified on Monday, 03 February 2025 09:43
X

Right Click

No right click