และสามารถขึ้นแตะถึงระดับ 4.858 แสนล้านบาทในปี 2569 หากผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย (Micro, Small and Medium-sized Enterprises: MSMEs) สามารถปรับตัวให้เท่าทันตลาดอีคอมเมิร์ซต่างประเทศ คือส่วนหนึ่งของผลวิจัยที่จัดทำขึ้นโดยได้รับมอบหมายจากอเมซอน (Amazon) เรื่อง “ผู้ขายสินค้าจากประเทศไทย และผู้บริโภคทั่วโลก: โอกาสเติบโตของธุรกิจไทยไปสู่ตลาดโลกด้วยการค้าออนไลน์ระหว่างประเทศ” (Local Sellers, Global Consumers: Capturing Thailand’s e-commerce export opportunity) ที่เพิ่งได้รับการเผยแพร่ในงาน เสวนา ของอเมซอนกลางเดือนพฤศจิกายน 2564
โดยงานวิจัยดังกล่าวได้สำรวจ MSMEs กว่า 300 รายทั่วประเทศไทย รายงานดังกล่าวจัดทำโดยบริษัทที่ปรึกษาชื่อว่า AlphaBeta ซึ่งงานวิจัยนี้ ได้รวมมุมมองของ MSMEs ในท้องถิ่น ไปจนถึงแนวทางที่ดีที่สุดเพื่อช่วยให้ผู้ขายรายอื่น ๆ สามารถเพิ่มศักยภาพ จากผลงานวิจัยที่พบว่า 90% ของเอสเอ็มอีในประเทศไทยเชื่อว่า อีคอมเมิร์ซมีความสำคัญต่อการขยายตัวไปสู่ระดับโลก โดยคาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ที่ต่างประเทศมากกว่าในประเทศ
ภายใต้การรายงานผลการวิจัยในงานเสวนาในรูปแบบออนไลน์ที่ร่วมจัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (Department of International Trade Promotion: DITP) กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับ AMAZON Global Selling ประจำประเทศไทย
เจมี่ เบรนแนน หัวหน้าทีมอเมซอนโกลบอลเซลลิ่ง ประจำประเทศไทย (Jamie Brennan, Head of Amazon Global Selling team in Thailand) ได้กล่าวในการเสวนาครั้งนี้ว่า “อเมซอนช่วยให้ทุกคนที่มีแนวคิดที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สามารถเริ่มขายสินค้าให้กับผู้บริโภคและธุรกิจต่าง ๆ ทั่วโลกทางออนไลน์ได้ เราช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กทำในสิ่งที่ธุรกิจขนาดใหญ่ทำ และทีมอเมซอนโกลบอลเซลลิ่งในประเทศไทยมุ่งมั่นอย่างสม่ำเสมอในการช่วยให้ผู้ขายสามารถคว้าโอกาสได้ในช่วงเวลาที่ดีที่สุด อีกทั้งยังช่วยชี้ให้เห็นถึงช่องโหว่ที่กำลังเกิดขึ้นในการดำเนินธุรกิจของพวกเขา รวมถึงเตรียมความพร้อมด้วยองค์ความรู้ ทรัพยากร และคอนเนคชันเพื่อขยายธุรกิจของตนออกสู่ทั่วโลกได้อย่างยั่งยืน”
โอกาสที่ยิ่งใหญ่ในการเติบโตระดับภูมิภาคสำหรับการส่งออกอีคอมเมิร์ซ
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า หากเทรนด์การนำอีคอมเมิร์ซมาใช้ในธุรกิจในปัจจุบันยังคงดำเนินต่อไป มูลค่าการส่งออกอีคอมเมิร์ซแบบ B2C ประจำปีในประเทศไทยคาดว่าจะเติบโตที่ 15% ต่อปีซึ่งถือว่า เป็นอัตราการเติบโตที่สูงมาก หมายถึงคาดการณ์มูลค่าประมาณ 2.198 แสนล้านบาทในปี 2569 เพิ่มขึ้นจาก 1.102 แสนล้านบาทในปี 2564 อย่างไรก็ตาม หาก MSMEs เร่งการนำอีคอมเมิร์ซมาใช้เพื่อส่งออกสินค้า คาดว่ามูลค่าดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า และแตะถึง 4.858 แสนล้านบาทภายในปี 2569 หาก “อีคอมเมิร์ซแบบ B2C” จัดอยู่ในประเภทของการส่งออก ก็จะทำให้ไต่ระดับขึ้นสามอันดับกลายเป็นประเภทการส่งออกที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 6 ของประเทศไทยในเวลาห้าปี
ความท้าทายสำคัญที่ MSMEs ในประเทศต้องเผชิญในการส่งออกอีคอมเมิร์ซ
ท่ามกลางศักยภาพและโอกาสในการเติบโตและการขยายตัวสู่ระดับโลกผ่านอีคอมเมิร์ซ จากผลสำรวจของ MSMEs ในประเทศไทยพบว่า ความท้าทายที่สำคัญแบ่งออกเป็นอุปสรรคสี่ประเภท ได้แก่ ด้านต้นทุน กฎระเบียบ ข้อมูล และความสามารถ
ค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศที่สูง ถือเป็นความท้าทายหลักที่ MSMEs ในประเทศไทยต้องเผชิญ โดย 88% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าเป็นอุปสรรคสำคัญ ซึ่งเปรียบเทียบกับเพียง 42% ของ MSMEs ที่คิดว่าการสนับสนุนด้านนโยบายเพื่อแก้ไขอุปสรรคในเรื่องของต้นทุนนั้นเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพ
ในขณะที่ 83% ของ MSMEs พบว่าต้นทุนที่สูงในการติดตั้งและการใช้ระบบชำระเงินออนไลน์ (Payment Gateway) ระหว่างประเทศเป็นอุปสรรคสำคัญ โดยจากผลสำรวจ พบว่ามีเพียง 41% ของ MSMEs ที่บอกว่าโปรแกรม e-payment ถือเป็นสิ่งที่เอื้อประโยชน์ในปัจจุบัน
และสุดท้าย ผลสำรวจเปิดเผยว่า 81% ของ MSMEs ระบุว่าการขาดข้อมูลเกี่ยวกับกฎระเบียบด้านการนำเข้าสินค้าในต่างประเทศเป็นอุปสรรคสำคัญอีกประการหนึ่งของการขายในต่างประเทศ มีเพียง 37% เท่านั้นที่รู้สึกว่านโยบายปัจจุบันเอื้ออำนวยต่อความพยายามในการส่งออกสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซในทุกวันนี้
การรับมือกับความท้าทายในปัจจุบันและก้าวไปสู่ระดับโลก
จากรายงานดังกล่าว มีการเสนอให้มุ่งเน้นถึงนโยบาย 3 ด้านเพื่อสนับสนุน MSMEs ในประเทศไทยในความพยายามที่จะส่งออกสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซ ซึ่งสิ่งเหล่านี้รวมไปถึงการให้เงินสนับสนุนและการอุดหนุนจากภาครัฐในการส่งออกอีคอมเมิร์ซ การสร้างพันธมิตรและสร้างแรงจูงใจในการนำกรอบการทำงานของระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ทำงานร่วมกันได้ข้ามประเทศมาใช้งาน การจัดฝึกอบรมอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศ รวมถึงคำแนะนำเกี่ยวกับกฎระเบียบการนำเข้าสินค้าในต่างประเทศ
นับตั้งแต่ที่ได้ก่อตั้งเมื่อปี 2562 ทีมอเมซอนโกลบอลเซลลิ่งประจำประเทศไทยได้ช่วยเหลือผู้ขายในไทยหลายพันรายสามารถขยายธุรกิจออกสู่ตลาดต่างประเทศด้วยการเข้าถึงลูกค้าทั่วโลกของอเมซอน ทีมงานได้ทุ่มเทให้การสนับสนุนด้านการศึกษาแก่ผู้ที่มีโอกาสเป็นผู้ขายในไทยด้วยหลากหลายแง่มุมของการขายของบนอเมซอน ย้อนกลับไปในเดือนธันวาคม 2563 อเมซอนโกลบอลเซลลิ่งได้เปิดตัว Seller Central เวอร์ชันภาษาไทยสำหรับผู้ขายในไทย ทำให้ผู้ขายไทยสามารถใช้งานได้บนแดชบอร์ด ตั้งค่ารายการสินค้า ตรวจสอบการขาย และจัดการสินค้าคงคลังทั้งหมดเป็นภาษาไทย ทำให้พวกเขาได้รับประสบการณ์การขายที่ทั้งสะดวกและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
บานานาโจ (Banana Joe) คือแบรนด์ผลิตภัณฑ์ไทยที่เป็นกรณีตัวอย่างภายใต้ความมุ่งมั่นของ SME ที่ต้องการทำตลาดอีคอมเมิร์ชเพื่อส่งมอบสินค้าสู่ผู้บริโภคทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศทั่วโลก ภายใต้การผลักดันของ AMAZONโดยนำผลิตภัณฑ์ บานานาโจ ไปวางขายบนร้านค้าของอเมซอน ซึ่งช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าถึงลูกค้าได้โดยตรง นอกจากนี้ บริการ Fulfillment by Amazon (FBA) ยังช่วยสนับสนุนทั้งการเลือก บรรจุ และจัดส่งสินค้า รวมไปถึงดูแลการบริการลูกค้าหรือแม้กระทั่งการส่งคืนสินค้า