ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics คาดการปรับเพิ่มราคาน้ำตาลทราย ส่งผลกระทบในวงกว้างต่อภาคครัวเรือน และผู้ประกอบการรายย่อยที่มีข้อจำกัดในการขึ้นราคาสินค้า พร้อมสนับสนุนมติภาครัฐที่เห็นชอบให้น้ำตาลทรายกลับเป็นสินค้าควบคุมราคา พร้อมเน้นสนับสนุนให้เกษตรกรไร่อ้อย และผู้ผลิตน้ำตาล เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและลดต้นทุน หรือมาตรการลดภาษีให้ผู้ผลิต มากกว่าการเพิ่มราคาที่จะส่งผลกระทบต่อภาคประชาชน

เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ได้ออกประกาศเรื่อง ราคาน้ำตาลทรายภายในราชอาณาจักร เพื่อใช้ประกอบในการคำนวณราคาอ้อยและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทราย ประจำฤดูการผลิตปี 2566/2567 โดยมีผลทำให้ราคาน้ำตาลทรายขาวเพิ่มขึ้นจาก 19 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 23 บาทต่อกิโลกรัม และน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์จากเดิมกิโลกรัมละ 20 บาทเพิ่มขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 24 บาท ส่งผลให้ราคาขายปลีกที่ประชาชนต้องใช้จ่ายเพื่อการบริโภคหรือเพื่อเป็นวัตถุดิบปรับเพิ่มขึ้นสูงจาก 24-25 บาทต่อกิโลกรัม เพิ่มเป็น 28-29 บาทต่อกิโลกรัม หรือคิดเป็นการปรับเพิ่มขึ้นเกือบ 17%

ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของราคาน้ำตาลทรายย่อมส่งผลกระทบต่อธุรกิจที่มีการใช้น้ำตาลทรายเป็นวัตถุดิบทางตรง เช่น อุตสาหกรรมเครื่องดื่ม และ อุตสาหกรรมของหวานและเบเกอรี รวมถึงกลุ่มที่ใช้น้ำตาลทรายเป็นวัตถุดิบทางอ้อมในลักษณะเครื่องปรุงรส เช่น ผู้ประกอบการร้านอาหาร โดย ttb analytics ได้ประเมินว่าการที่น้ำตาลทรายขึ้นราคาส่งผลกระทบค่อนข้างจำกัด โดยกำไรขั้นต้น (กำไรที่ยังไม่หักต้นทุนการขาย การดำเนินการ และต้นทุนทางการเงินอื่น) ของกลุ่มเครื่องดื่ม เช่น ผลิตภัณฑ์นม และน้ำอัดลม อัตรากำไรขั้นต้นจะลดลง 1.2% และ 2.6% ตามลำดับ ในส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์ขนมหวาน กำไรขั้นต้นลดลง 0.5%-3% ขึ้นอยู่กับสัดส่วนการใช้น้ำตาลทรายในขนมหวานแต่ละประเภท ในขณะที่ผู้ขายอาหารตามสั่ง พบพื้นที่กำไรขั้นต้นลดลง 0.4%-0.6% อย่างไรก็ตาม พื้นที่กำไรที่ลดจากผลกระทบของราคาน้ำตาลทรายที่ปรับเพิ่มขึ้นไม่ได้เกิดจากกลไกของราคาแต่มาจากนโยบายภาครัฐ จึงอาจไม่เป็นธรรมกับฝั่งของผู้ประกอบการที่กำไรลดลง ส่งผลให้ผู้ประกอบการบางส่วนอาจมีการส่งผ่านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นผ่านการขึ้นราคาสินค้าซึ่งอาจกระทบกับภาคประชาชนและผู้ประกอบการที่มีข้อจำกัดในการขึ้นราคา ttb analytics ได้แบ่งผลกระทบจากการขึ้นราคาน้ำตาลทรายโดยมีรายละเอียดดังนี้

1) ประชาชนและภาคครัวเรือน อาจต้องรับภาระที่ค่าครองชีพปรับเพิ่มสูงขึ้น สืบเนื่องจากการขึ้นราคาน้ำตาลทรายครั้งนี้กระทบต่อต้นทุนที่เพิ่มขึ้นของผู้ประกอบการ และด้วยสาเหตุหลักไม่ได้เกิดจากกลไกราคาแต่เกิดจากที่มีประกาศให้ขึ้นราคาตามตลาดโลก จึงมีความเป็นไปได้ที่กลุ่มผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ผลิตเครื่องดื่มที่ผู้ประกอบการรายใหญ่มีบทบาทสูงสะท้อนผ่านสัดส่วนรายได้สูงถึง 98% ของมูลค่าตลาด รวมถึงช่องทางจำหน่ายผ่านร้านสะดวกซื้อที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ทั้งนี้ ราคาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มมักขึ้นราคาเป็น บาท/หน่วย และ การที่ราคาเครื่องดื่มตามร้านสะดวก

ซื้อทั่วไปมีการปรับเพิ่มขึ้น 1 บาท หมายถึงรายรับของผู้ประกอบการจะเพิ่มขึ้นที่ 5-10% ส่งผลให้ในกลุ่มผู้ประกอบการที่ส่งผ่านราคาได้ มีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นประมาณ 3.4% - 6.5% จากราคาที่ปรับเพิ่ม รวมถึงกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารขนาดเล็กที่มีความได้เปรียบในทำเลอาจส่งผ่านราคา โดยตามธรรมชาติการเพิ่มราคาของผู้ประกอบการกลุ่มนี้จะเพิ่มราคาต่อเมนูขั้นต่ำที่ 5 บาท ส่งผลต่อรายรับที่อาจสูงขึ้นราว 10 % ส่งผลให้ร้านอาหารที่ขึ้นราคาได้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นราว 5.6% รวมถึงโดยธรรมชาติของสินค้าบริโภคขั้นสุดท้ายราคาจะมีความหนืด (Price Rigidity) ในการปรับราคาลง

2) ธุรกิจ SMEs รายย่อย เช่น ผู้ประกอบการอาหาร และขนมหวานรายย่อย แม้พื้นที่กำไรอาจไม่ส่งผลกระทบมากแต่ด้วยปริมาณการขายที่ไม่สูงมากนักส่ง ผลให้มีความกังวลว่าถ้าขึ้นราคาอาจส่งผลต่อยอดขาย ตัวอย่างเช่น กลุ่มผู้ประกอบการที่มีรายได้ประมาณ 2,000 บาทต่อวัน กำไรขั้นต้นของร้านอาหาร และ ผู้ผลิตของหวานจะอยู่ที่ราว 800 – 830 บาท ซึ่งเมื่อหักค่าใช้จ่ายอื่น เช่น ค่าแรงงาน ค่าเช่า พื้นที่กำไรที่เหลืออาจค่อนข้างจำกัดเพื่อใช้ยังชีพและเลี้ยงดูครอบครัว แต่เมื่อมีปัจจัยเรื่องต้นทุนจากราคาน้ำตาลทรายที่เพิ่มขึ้น กดดันให้กำไรขั้นต้นของผู้ประกอบการกลุ่มนี้ลดลงเหลือ 790 – 810 บาทต่อวัน และด้วยรายได้ที่แต่เดิมจำกัดในการยังชีพ เมื่อประสบภาวะต้นทุนที่ปรับเพิ่มจากราคาน้ำตาลทรายที่แม้ไม่สูงมาก แต่อาจส่งผลให้รายได้ไม่เพียงพอต่อการยังชีพและเลี้ยงดูครอบครัวได้

โดยสรุป การประกาศขึ้นราคาน้ำตาลทรายอาจส่งผลดีต่อผู้ผลิตน้ำตาลทราย เกษตรกรชาวไร่อ้อย และ ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพในการส่งผ่านราคา แต่ผลดีดังกล่าวถูกดึงมาจากภาคครัวเรือน และ ผู้ประกอบการรายย่อยที่ไม่สามารถส่งผ่านราคาได้ ประกอบกับเหตุผลของการขึ้นราคาน้ำตาลทรายในครั้งนี้ตามที่ สอน. ให้เหตุผลว่าปรับตามราคาตลาดโลก ก็ต้องมองย้อนกลับไปที่สาเหตุว่าเพิ่มขึ้นจากการที่อินเดียระงับการส่งออกน้ำตาลทรายจากผลผลิตที่ลดลง เพื่อใช้บริโภคในประเทศและไม่ให้กระทบความเป็นอยู่ของภาคประชาชน แต่ในทางกลับกัน การปรับเพิ่มราคาขายในประเทศจะกลายมาเป็นภาระต้นทุนให้กับภาคประชาชนมากกว่ากรณีของอินเดียที่ประกาศขยายการควบคุมการส่งออกน้ำตาลทรายเพื่อควบคุมราคาภายในประเทศ ด้วยเหตุนี้ทาง ttb analytics จึงสนับสนุนมติ ครม. ที่เห็นชอบให้น้ำตาลทรายกลับเป็นสินค้าควบคุม และเสนอเรื่องการช่วยเหลือผู้ผลิตน้ำตาลทราย เกษตรกรชาวไร่อ้อย อาจใช้เรื่องของการให้เงินสนับสนุน เพื่อลดต้นทุนให้กับเกษตรกรไร่อ้อยหรือมาตรการลดภาษีให้กับผู้ผลิตน้ำตาลทราย แทนที่จะขึ้นราคาสินค้าที่อาจส่งผลกระทบในวงกว้าง

เพราะการเก็บเงินจริงจัง เป็นเรื่องยากของเด็กจบใหม่ หรือวัยเริ่มทำงาน โดยเฉพาะคนที่อยากสร้างเนื้อสร้างตัวเพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงตั้งแต่เนิ่น ๆ ด้วยเงินเดือนที่อยู่ในระดับ Entry Level หรือเพิ่งเริ่มต้น ซึ่งหลายคนนอกจากต้องรับมือกับค่าใช้จ่ายส่วนสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทาง ค่าที่อยู่อาศัย หรือค่าอาหารในทุกวันแล้ว อาจต้องชำระคืนทุนการศึกษา หรือต้องช่วยแบ่งเบาภาระทางบ้านอีกด้วย ดังนั้น First Jobbers อาจพบเจอความท้าทายทางการเงินได้หลากหลาย

วันนี้ fintips by ttb #เรื่องเงินที่รู้จริงแบบเพื่อนที่รู้ใจ ชวนคุณมารู้จักเคล็ดลับ 5 นิสัยที่ช่วยให้วัยเริ่มทำงานเก็บเงินได้ไวขึ้น เพื่อการเงินที่ดีขึ้น

  1. กำหนดงบประมาณที่ใช้ต่อเดือน

 ไม่ว่าการเริ่มต้นชีวิตมนุษย์ทำงานจะยุ่งเหยิงแค่ไหน แบกอะไรบ้าง แต่เรื่อง “การเงิน”ต้องไม่หลุดโฟกัส เมื่อตั้งใจเก็บเงินอย่างจริงจัง สิ่งสำคัญคือ การคุมงบใช้จ่ายอย่างหนักแน่น ซึ่งการรู้จักตัวเองว่าในแต่ละเดือน ต้องเสียค่าใช้จ่ายไปกับอะไร เท่าไหร่ ทั้งค่าที่อยู่อาศัย ค่าน้ำ ค่าไฟ รวมถึงค่าชอปปิงต่าง ๆ จะเป็นจุดเริ่มต้นของการจัดสรรงบประมาณที่ใช้จ่ายต่อเดือน และการแยกบัญชีเป็นสัดส่วน 2 บัญชี คือ บัญชีเพื่อใช้และเพื่อออม เป็นตัวช่วยที่ดีในการจัดสรรเงิน และช่วยให้ติดตามการใช้เงินได้ง่ายขึ้น โดยจะได้รู้ว่าใช้เงินค่าอะไรไปเท่าไหร่ ตลอดเดือนจะเหลือเงินให้ใช้เท่าไหร่ ใกล้เต็มลิมิตแล้วหรือยัง และทำให้มั่นใจได้ว่าไม่รบกวนเงินที่ตั้งใจเก็บไว้แน่นอน

  1. ตั้งเป้าหมายการออม

เมื่อมีอิสระทางการเงินของตัวเองและทำงานเหนื่อย การเปย์ตัวเองด้วยของรางวัลจึงเป็นเรื่องปกติของวัยเริ่มทำงาน แต่หากมีความตั้งใจเก็บเงินให้ไวขึ้น การตั้งเป้าหมายการออมจะช่วยให้มีความแน่วแน่และข้ามผ่านอุปสรรคยั่วยวนใจได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายระยะสั้น เช่น เดือนนี้จะเก็บเงินให้ได้ 5,000 บาท เพื่อไปเที่ยวต่างประเทศ ซื้อของที่อยากได้มานาน หรือเป้าหมายระยะยาว เช่น เก็บเงินเพื่อดาวน์คอนโด ดาวน์รถ การมีเส้นชัยที่ต้องไปให้ถึง ย่อมทำให้มีกำลังใจในการเก็บเงินโดยไม่ล้มเลิกไปเสียก่อน

  1. มีเงินสำรองฉุกเฉิน

เพราะชีวิตมีความไม่แน่นอน อาจเจอเรื่องไม่คาดฝันได้ทุกเวลา เช่น เจ็บป่วยจากอุบัติเหตุหรือโรคภัยไข้เจ็บ มีเรื่องให้จำเป็นต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ หรืองานที่ทำยังไม่มั่นคง อาจมีเหตุให้ต้องเปลี่ยนงาน ออกจากงาน เงินสำรองฉุกเฉินจึงเป็นเบาะรองรับสำคัญ เมื่อถึงวันสะดุดล้มก็ไม่เจ็บช้ำจนเกินไป

หนึ่งทางออกเพื่อรองรับความเสี่ยงเหล่านี้คือ การสำรองเงินบางส่วนไว้ผ่านการเปิดบัญชีเงินฝากที่มีประกันอุบัติเหตุฟรี เช่น เปิดบัญชีเงินฝาก ttb all free ที่ทำธุรกรรมออนไลน์ ได้อย่างสะดวก รวดเร็วผ่าน แอป ttb touch ที่สำคัญยังได้ประกันอุบัติเหตุฟรี เบิกค่ารักษาได้ 3,000 บาท/อุบัติเหตุ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง เพียงคงเงินฝากไว้ในบัญชีไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท ทุกวันตลอดทั้งเดือน

หากอายุยังน้อยและไม่แน่ใจว่าจะซื้อประกันอะไรดี แค่มีเงินฝากเก็บไว้ในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ttb all free ก็ได้รับประกันอุบัติเหตุฟรีแบบไม่ต้องสมัครอะไร หรือเสียค่าอื่นใดเพิ่ม เริ่มต้นสร้างวินัยทางการเงิน ด้วยการมียอดเงินฝากคงเหลืออยู่ในบัญชี ttb all free ให้ได้ตามเงื่อนไข เพิ่มความคุ้มครองทางการเงินได้อีกทาง

  1. ทำบันทึกรายรับรายจ่าย

หลายคนอาจมองว่าการทำบันทึกรายรับรายจ่ายยุ่งยาก เพราะต้องติดตามว่าในแต่ละวันจ่ายเงินค่าอะไรบ้าง ทว่าที่จริงแล้ว นิสัยการใช้จ่ายของคนวัยทำงานในปัจจุบัน มักเลือกโอนเงินผ่านโมบายแบงก์กิ้ง หรือรูดจ่ายผ่านบัตรเดบิต ทำให้การทำบันทึกรายรับรายจ่ายเป็นเรื่องง่ายขึ้น ไม่ต้องคอยย้อนทวนความจำหรือว้าวุ่นกับเงินหล่นหาย เพราะมีหลักฐานทุกครั้งที่โอนเงินออกจากบัญชี ย้อนกลับมาดูก็เห็นทั้งภาพรวมและรายละเอียดทุกรายการ ทำให้ช่วยประเมินตัวเองได้ง่ายขึ้น จัดลำดับความสำคัญของรายจ่ายได้อย่างชัดเจน และเห็นภาพว่ายอดใช้จ่ายไหนควรตัดออกเพื่อให้เก็บเงินได้มากขึ้น

สะดวกมากขึ้นด้วยฟังก์ชัน ‘Smart Search’ จากแอป ttb touch ให้คุณค้นหา และเรียกดูทุกรายการเดินบัญชีได้ง่าย ๆ เป็นตัวช่วยบันทึกและสรุปรายการใช้-จ่าย ให้คุณวางแผน ดูแลการเงินได้ดีขึ้น

  1. เลี่ยงการสร้างหนี้โดยไม่จำเป็น หรือไม่ก่อให้เกิดรายได้

 การใช้จ่ายเกินตัวของวัยทำงานอาจกลายเป็นภาระหนี้ที่ยากเกินแบกรับ ดังนั้น หากเป้าหมายคือการมีเงินเก็บ สิ่งสำคัญที่ต้องเลี่ยงคือ “หนี้” เพราะการมีหนี้หมายถึงการหยิบยืม ที่จำเป็นต้องจ่ายคืนในภายหลัง ซึ่งหากเป็นหนี้แล้ว การจะสำรองเงินไว้เพื่อการออมอาจเป็นเรื่องยากขึ้น หาเงินได้เท่าไหร่ก็ต้องนำไปจ่ายคืนในส่วนที่หยิบยืมมา

หากทำได้ทั้ง 5 ข้อดังกล่าวข้างต้น ก็จะทำให้วัยเริ่มทำงานมีโอกาสเก็บเงินได้เร็วมากขึ้น และการเปิดบัญชีเงินฝากเพื่อเก็บเงินอย่างจริงจังควบคู่กันไปด้วยนั้น ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยสร้างรากฐานที่มั่นคงตั้งแต่เนิ่น ๆ พร้อมเปิดโอกาสให้ความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ได้มากกว่า

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี มอบสิทธิพิเศษ สำหรับผู้ถือบัตรเครดิต ttb เมื่อซื้อนาฬิกาแบรนด์ดังสุดหรู PENDULUM, PMT THE HOUR GLASS และ Cortina Watch ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการ ได้แก่ PENDULUM เซ็นทรัลเวิลด์ / สยามพารากอน / เชียงใหม่ Franck Muller สยามพารากอน PMT THE HOUR GLASS สยามพารากอน / ไอคอนสยาม / เซ็นทรัล เอ็มบาสซี / เกษรวิลเลจ / เอ็มควอเทียร์ / ภูเก็ตฟลอเรสต้า Cortina Watch – Cartier เซ็นทรัล เอ็มบาสซี Cortina Watch เซ็นทรัล ลาดพร้าว และ Cortina Watch - Frank Muller แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพ ระหว่างวันที่ 15 สิงหาคม 2566 – 30 พฤศจิกายน 2566  โดยมอบสิทธิพิเศษดังนี้

สิทธิพิเศษ 1: รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 30,000 บาท เพียงมียอดใช้จ่ายแบบชำระเต็มจำนวน ขั้นต่ำ 150,000 บาท / เซลล์สลิป รับเครดิตเงินคืน 3,000 บาท และรับเพิ่มขึ้นตามขั้นที่กำหนด จำกัดเครดิตเงินคืนสูงสุด 30,000 บาท / บัญชีบัตรหลัก /  ร้านค้า ตลอดรายการ  ลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่านแอป ttb touch หรือ ส่ง SMS พิมพ์ LUX ตามด้วยหมายเลขบัตรเครดิต 12 หลักสุดท้าย ส่งมาที่ 4806026 สำหรับ  บัตรเครดิต ttb reserve รับสิทธิ์โดยอัตโนมัติ   

สิทธิพิเศษ 2: แลกคะแนนรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 12% เมื่อใช้คะแนนสะสมทุก 1,000 คะแนนและมียอดใช้จ่ายขั้นต่ำ 1,000 บาทขึ้นไป / เซลล์สลิป  โดยคำนวณจากยอดใช้จ่ายแบบชำระเต็มจำนวน บัตรเครดิต ttb reserve infinite และบัตรเครดิต ttb reserve signature ทุก 1,000 คะแนน = 120 บาท บัตรเครดิต ttb (บัตรเครดิต ทีเอ็มบี และ บัตรเครดิต ธนชาต) และบัตรเครดิต ttb Global House ที่มีคะแนนสะสม ทุก 1,000 คะแนน = 100 บาท จำกัดการแลกคะแนนสะสม 1,000,000 คะแนน / บัญชีบัตรหลัก ตลอดรายการส่งเสริมการขาย ส่ง SMS ทุกครั้งที่ต้องการแลกคะแนน พิมพ์ LUXB ตามด้วยคะแนนที่ต้องการแลก ทุก 1,000 คะแนน แต่ไม่เกินยอดใช้จ่าย เว้นวรรค ตามด้วยหมายเลขบัตรเครดิต 12 หลักสุดท้าย ส่งมาที่ 4806026  

รับดอกเบี้ยสูงถึง 2.25% ต่อปี พร้อมรับของขวัญสุดพิเศษเพื่อลูกค้าคนสำคัญ

ให้วงเงินสินเชื่อสูงสุด 100% พร้อมค้ำประกันว่าประหยัดจริง

X

Right Click

No right click