วิทยาการหุ่นยนต์เริ่มมีอิทธิพลต่องานหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการผลิต การเกษตร การค้าปลีกและการให้บริการ จากการเปิดเผยของสหพันธ์หุ่นยนต์นานาชาติ (International Federation of Robotics) พบว่าปัจจุบันโลกมีการใช้หุ่นยนต์ทำงานรวม 1.1 ล้านตัว และเครื่องจักรทำงานผลิตรถยนต์ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ หุ่นยนต์เข้ามาควบคุมห่วงโซ่อุปทานเพื่อการสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถพยากรณ์ผลได้มากขึ้น
ผลกระทบเชิงบวก
- ห่วงโซ่อุปทานและระบบโลจิสติกส์ ถูกกำจัดออกไป
- มีเวลาว่างมากขึ้น
- ผลลัพธ์ทางด้านสุขภาพดีขึ้น (บิ๊กดาต้าเพื่อการหาความรู้เพิ่มเติมด้านเภสัชกรรมในการวิจัยและการพัฒนา)
- กิจการธนาคาร เอทีเอ็ม เป็นผู้ที่นำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้เป็นรุ่นแรกๆ
- การผลิต เกิด “การย้ายฐานกลับ” (กล่าวคือใช้หุ่นยนต์ทำงานแทนคนงานในต่างประเทศ)
ผลกระทบเชิงลบ
- การสูญเสียงาน
- ความรับผิด ความรับผิดชอบ
- บรรทัดฐานทางสังคมในชีวิตประจำวัน จุดจบของการให้บริการในเวลาทำการ และบริการตลอด 24 ชั่วโมง
- การแฮกและความเสี่ยงบนโลกไซเบอร์
การเปลี่ยนแปลงในพฤติการณ์
บทความจาก The Fiscal Times ซึ่งถูกนำมา แสดงไว้บนเว็บไซต์ CNBC.com ระบุว่า:
“Rethink Robotics เปิดตัวหุ่นยนต์ Baxter (ในฤดูใบไม้ร่วง ปี 2012) และได้รับการตอบรับจากอุตสาหกรรมรถยนต์อย่างท่วมท้น ขายขีดความสามารถทางการผลิตของตนตลอดเดือนเมษายน...
(ในเดือนเมษายน) Rethink ได้เปิดตัวซอฟต์แวร์แพลตฟอร์มที่ (ช่วยให้) Baxter สามารถจัดการกับภารกิจตามลำดับขั้นที่มีความซับซ้อนมากขึ้นได้ ตัวอย่างเช่น การเลือกหยิบชิ้นส่วน ถือมันไว้ข้างหน้าสถานีตรวจสอบ และคอยรับสัญญาณเพื่อวางมันลงในกอง “ดี” หรือ “ไม่ดี” นอกจากนี้บริษัท
ยังแนะนำชุดเครื่องมือเพื่อการพัฒนาซอฟต์แวร์ ซึ่งเปิดโอกาสให้บุคคลภายนอก เช่น นักวิจัยด้านวิทยาการหุ่นยนต์ของมหาวิทยาลัย ช่วยกันสร้างแอปพลิเคชันสำหรับ Baxter ได้ด้วยตัวเอง”
ดู “The Robot Reality: Service Jobs Are Next to Go,” Blaire Briody, March 26, 2013, The Fiscal Times, HYPERLINK “http://www.cnbc.com/id/100592545” http://www.cnbc.com/id/100592545
เรื่อง : วิริญบิดร วัฒนา