ในยุคที่สถาบันการศึกษาทุกแห่งมีการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ การมองหาจุดเด่นหรือจุดแตกต่างของหลักสูตรจึงถือเป็นสิ่งสำคัญ ‘วิทยาลัยดุสิตธานี’ สถาบันการศึกษาชั้นแนวหน้าด้านธุรกิจบริการในเครือโรงแรมดุสิตธานี ชูความแตกต่างของหลักสูตรใหม่แกะกล่อง อย่าง ปริญญาโทบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการเป็นผู้นำธุรกิจการบริการยุคใหม่ (MBA Next-Gen Hospitality Business Leadership Program) ผ่านความเป็น “ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมบริการ” โดยนำความแตกต่างมาหลอมรวมกัน ทั้ง “ด้านบริการ การบริหาร และจิตบริการ” เพื่อผลิตผู้บริหาร Next-Gen ที่ค้นพบเวอร์ชันใหม่ของตัวเองจากการเรียนออนไลน์ 100%

ดร. พิชญาพร ศรีบุญเรือง รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ วิทยาลัยดุสิตธานี กล่าวว่า หลักสูตรปริญญาโทบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขา วิชาการเป็นผู้นำธุรกิจการบริการยุคใหม่ (MBA Next-Gen Hospitality Business Leadership Program) เป็นหลักสูตรออนไลน์ 100% หลายคนอาจจะมองว่าการเรียนออนไลน์ คือ การดูวิดีโอแล้วสอบเท่านั้น แต่ MBA Online Next-Gen จะเป็นการเรียนรู้ที่พลิกมุมมอง ทุกบทเรียนออกแบบให้ผู้เรียนได้ลงมือคิด เห็นผลลัพธ์จริง และสามารถต่อยอดสู่การประกอบอาชีพหรือธุรกิจของตนได้

การจำลองบรรยากาศการเรียนออนไลน์บนแพลตฟอร์มจริงในงานเปิดตัวหลักสูตร MBA Next-Gen Hospitality Business Leadership

เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ณ วิทยาลัยดุสิตธานี

ผู้เรียนจะได้เรียนรู้จากกรณีศึกษาธุรกิจจริงในปัจจุบัน ลงมือออกแบบธุรกิจ และสร้างสรรค์ผลงานผ่าน Visual Project Lab ที่อาจารย์ออกแบบมาเฉพาะสำหรับผู้เรียนออนไลน์ อีกทั้งได้ร่วม Workshop Design Thinking กับธุรกิจบริการชั้นนำในระดับประเทศและระดับนานาชาติ

“คนที่มาเรียนกับเราไม่ว่าจะมาจากหน่วยงานสายการบิน โรงแรม ฯลฯ เราจะสอนให้ผู้มาเรียนทุกคน ‘มีหัวใจในการบริการ’ ซึ่งหลักสูตรฯ ได้ถูกออกแบบมาเพื่อสะท้อนความเป็นมนุษย์ที่มีจิตบริการอย่างแท้จริง เราพยายามให้เขาเข้าใจพฤติกรรมคนที่เป็นลูกค้าของเขา ทุกวันนี้ลูกค้ามีความหลากหลายของ Generation ซึ่งอารมณ์ของลูกค้ามีหลากหลาย เขาต้องมีความ ‘ประณีต’ ในความคิด คือ จะสื่อสาร จะจัดการยังไงกับลูกค้าของเราและจะทำยังไงให้เกิดผลที่เป็นด้านบวกและลูกค้ารู้สึกพึงพอใจ”

สิ่งเหล่านี้จะถูกศึกษาผ่าน Case Study ของแต่ละ Generation ผู้เรียนจะได้ศึกษาและวิเคราะห์ว่าลูกค้าแบบมีครอบครัว ลูกค้าที่เป็นวัยรุ่น ต้องดูแลยังไง แก้ปัญหายังไง หลักสูตรฯ จะสอนเขาทั้งด้านทฤษฎีและปฏิบัติเพื่อให้เขาลงมือจริง เพื่อปลุกจิตสำนึกจิตวิญญาณของนักบริหารที่เข้าใจความเป็นมนุษย์และยังเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าหรือแขกที่มาใช้บริการด้วย 

อย่างไรก็ดี การจะนำ Case Study ใดมาให้ผู้เรียนได้ศึกษา ทางหลักสูตรฯ จะดูก่อนว่าผู้เรียนทำอาชีพหรือทำธุรกิจใด เช่น เปิดร้านกาแฟ ทำธุรกิจโรงแรมที่พัก แล้วถึงมาแบ่ง Section ผู้เรียนไปกับธุรกิจที่เขาทำเพื่อให้เขาได้ Sharing ได้ Discussion กัน

การจำลองบรรยากาศการเรียนออนไลน์บนแพลตฟอร์มจริงในงานเปิดตัวหลักสูตร MBA Next-Gen Hospitality Business Leadership

เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ณ วิทยาลัยดุสิตธานี

“เราจะกระตุ้นให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วม ให้เขาได้คิดได้ทำ ในการไลฟ์สดหรือ Streaming ก็จะให้เขามีส่วนร่วมเหมือนเขาเรียนในชั้นเรียน เราจะมีการเชิญวิทยากรหรือ Influencer มาร่วมพูดคุย จะเชิญคนทางสายวิชาการ เพื่อให้ผู้เรียนได้แนวคิดมุมมอง และจะเชิญคนที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจซึ่งเป็นธุรกิจที่เรามีเครือข่ายมาสอนด้วย การเรียน MBA Next-Gen จะไม่ใช่แค่การเรียนผ่านตา แต่เป็นการเรียนที่เห็นผลลัพธ์จริง ปฏิบัติได้จริง” ดร. พิชญาพร ตอกย้ำถึงจุดที่ทำให้ MBA Next-Gen แตกต่างจากหลักสูตรออนไลน์ทั่วไป

ดร. พิชญาพร กล่าวต่อว่า “เราภูมิใจกับการวางหลักสูตร MBA Next-Gen มาก ไม่ใช่แค่การเปิดหลักสูตรใหม่ได้ แต่เราสร้างพื้นที่ให้กับคนทำงานได้กลับมาเรียนอย่างมีคุณค่า มีเวลาในการเรียน เขาได้มาเติมเต็มความรู้ใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น หลักสูตรฯ นี้ยังเป็นความร่วมมือกับนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมบริการและผู้ประกอบการ”

สำหรับผู้ที่สนใจเรียนแต่ยังลังเลใจหรือกังวลเรื่องการมาเรียน ในฐานะที่ ดร. พิชญาพร เป็นรองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ ให้มุมมองในด้านนี้ว่า “เราออกแบบหลักสูตรฯ ให้มีความยืดหยุ่นแต่ไม่ลดคุณภาพ ก่อนมาเรียนคุณอาจไม่ เก่ง แต่ทุกครั้งที่มาเรียนคุณจะต้องเก่งขึ้น และต้องเอาความรู้ที่ได้ในแต่ละครั้งไปปรับใช้ได้ทุกครั้ง เราจะมีวิดีโอหรือเทปบันทึกบทละ 15 นาที เราวิจัยแล้วว่าความสนใจคนเราจะไม่เกิน 15 นาที ผู้เรียนสามารถค่อยๆ เรียนสะสม พร้อมทำแบบฝึกหัดหลังการเรียน โดยอาจารย์หรือ ผู้ดูแลระบบ Back office จะเข้ามาเก็บข้อมูลหลังจากผู้เรียนเข้ามาเรียน การเรียนออนไลน์ของเราจะมี Animation / Motion ทำให้เนื้อหาไม่น่าเบื่อ เรามีทีมคณะกรรมการพัฒนาสื่อการเรียนการสอนที่คอยให้คำแนะนำในการสร้างสื่อการสอน”

เทอมแรกของปีการศึกษานี้จะเปิดสอน 3 วิชาที่ผสานองค์ความรู้และประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญชั้นนำ ได้แก่ 1. การเป็นผู้ประกอบการธุรกิจการบริการในยุคดิจิทัล โดย ผศ.ดร. ชาคริต ศรีสกุล 2. การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ในธุรกิจการบริการ โดย ดร. ณัฐนรินทร์ เนียมประดิษฐ์ และ 3. การพัฒนาศักยภาพความคิดสร้างสรรค์สำหรับบุคลากรในธุรกิจการบริการ โดย รศ.ดร. เสรี วงษ์มณฑา ผู้เชี่ยวชาญทั้ง 3 ท่านนี้จึงไม่เพียงมอบความรู้เชิงทฤษฎี แต่ยังพาผู้เรียนเข้าสู่ประสบการณ์จริงจากมืออาชีพ เพื่อสร้างความพร้อมในการแข่งขันในโลกธุรกิจบริการยุคใหม่อย่างแท้จริง

สำหรับความสำเร็จที่ได้รับจากการเรียน MBA Next-Gen นอกจากปริญญาบัตรแล้ว ผู้เรียนยังได้ค้นพบเวอร์ชันใหม่ของตัวเอง เขาจะได้ปรับความคิดของตัวเอง ได้พบกับนักบริหารยุคใหม่ ได้เครือข่ายที่เพิ่มมากขึ้น แม้การเรียนแบบออนไลน์ 100% ผู้เรียนไม่ต้องเข้ามาที่วิทยาลัยฯ ก็ได้ แต่ผู้เรียนยังได้ความเข้มข้นในทางวิชาการเหมือนกับการเรียนออนไซต์

หากเปรียบเทียบหลักสูตร MBA Next-Gen กับอาหารสักอย่าง ในมุมมองของ ดร. พิชญาพร เห็นว่า MBA Next-Gen เหมือนกับ ‘ข้าวแช่ชาววัง’ ที่มีความเรียบง่าย ล้ำลึก แต่มีความประณีตสูงในการเตรียมทุกๆ ส่วนผสม ไม่ว่าจะเป็นข้าวแช่ เครื่องเคียง เด็กๆ อาจจะมองว่า ‘ข้าวแช่ชาววัง’ เป็นอะไรที่เข้าถึงยาก แต่ความเป็นที่ MBA Next-Gen = ‘ข้าวแช่ชาววัง’ จะทำให้ผู้เรียนเติบโตเป็นผู้บริหารที่มีความสุขุม นุ่มลึก ‘ข้าวแช่ชาววัง’ ยังเป็นหนึ่งในเมนูที่มีชื่อเสียงของวิทยาลัยดุสิตธานีเช่นกัน

บทความโดย: กองบรรณาธิการ