ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ที่จะศึกษาต่อในระดับปริญญาโท พฤติกรรมการเลือกใช้ชีวิตและสไตล์การทำงานของคนกลุ่มนี้คือต้องการความเป็นอิสระในการทำงาน ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจ และต้องการความรู้ที่นำไปใช้ได้ทันที พฤติกรรมทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่โปรแกรม MBA ในปัจจุบันต้องให้ความสำคัญเพื่อที่จะพัฒนาทั้งหลักสูตรและโปรแกรมการเรียนการสอนออกมาให้ตรงกับพฤติกรรมความต้องการของกลุ่มผู้เรียน
ผมเชื่อว่าในปัจจุบันคณาจารย์ในมหาวิทยาลัยซึ่งถือเป็น Baby boomer, Gen X, และ Gen Y ตอนต้น อาจขาดความเข้าใจที่แท้จริงว่าผู้เรียนที่เป็นคนรุ่นใหม่นั้นต้องการที่จะเรียนอะไร เรียนแบบไหน และ เรียนอย่างไร ตรงนี้ถือเป็นหน้าที่สำคัญของอาจารย์ที่จะต้องปรับทัศนคติให้เปิดรับมากขึ้นและต้องพร้อมที่จะพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการเรียนรู้ของคนรุ่นใหม่ให้ได้
3 สิ่งที่โปรแกรม MBA ในประเทศไทยจะต้องให้ความสำคัญมากๆ ในอนาคตอันใกล้คือ
• เทคโนโลยี
• ความเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจ
• พฤติกรรมของผู้เรียนสมัยใหม่
ในส่วนของ เทคโนโลยี ผู้บริหารโปรแกรม MBA จะต้องเข้าใจและเข้าถึง Learning Channel ที่ทันสมัยให้ได้ ไม่เพียงแต่เลือก Learning Channel ที่คนรุ่นใหม่ใช้เท่านั้นแต่ต้องมองข้ามไปถึงนวัตกรรมใหม่ๆของการเรียนรู้ ที่จะสามารถรวบรวมเอา
คอนเทนท์หรือเนื้อหาดีๆ มาใส่ไว้ได้ ตลอดจนการสร้าง Learning Management System ที่สามารถอำนวยความสะดวกให้คนรุ่นใหม่ที่มีอิสระทางความคิดและการเดินทาง สามารถเรียนรู้และเข้าถึงเนื้อหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าพวกเขาอยู่แห่งหนใด หรือเวลาใด เทคโนโลยีต้องสามารถสร้างกระบวนการเรียนรู้ให้เป็นแบบ Interactive หรือบรรยากาศแห่งการเรียนแบบมีส่วนร่วมให้ได้
ในเรื่องความเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจ คือ สิ่งที่มหาวิทยาลัยโดยเฉพาะอย่างยิ่ง โปรแกรม MBA จะละเลยไม่ได้เลย เมื่อประเทศของเรากำลังก้าวเข้าสู่ยุค Thailand 4.0 ผู้บริหารโปรแกรมก็ต้องเข้าใจและปรับตัวให้สอดคล้องให้ได้ หนึ่งสิ่งสำคัญในการดำเนินธุรกิจปัจจุบัน คือการสร้างเครือข่ายและพันธมิตร ดังนั้นความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษากับภาคอุตสาหกรรมภาคธุรกิจจึงถือเป็นสิ่งจำเป็นที่สุด ผมถึงขั้นเคยคิดว่าความร่วมมือที่หลายๆ สถาบันได้ทำอยู่แล้วในปัจจุบันซึ่งดูดีมากและสามารถสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้เรียนได้จริง หากแต่ความร่วมมือเหล่านั้นยังอาจทำได้ไม่ครบทุกมิติ ความร่วมมือหรือการสร้างพันธมิตรนั้นจึงอาจไม่จำเป็นต้องถูกจำกัดไว้เฉพาะสถาบันการศึกษากับภาคธุรกิจเท่านั้น แต่หากความร่วมมือดังกล่าวอาจเกิดขึ้นระหว่างสถาบันการศึกษากับสถาบันการศึกษาก็ได้
และสุดท้ายในเรื่องพฤติกรรมผู้เรียนสมัยใหม่ คณาจารย์ต้องตระหนักไว้เลยว่า ถ้านักศึกษาไม่สามารถเรียนในแบบที่เราสอนได้ เราควรดีไซน์การสอนให้เป็นในแบบที่พวกเขาจะเรียน ผมว่าสิ่งนี้ไม่ถือว่าเป็นการเอาใจนักศึกษา แต่ในทางกลับกันผู้ที่มีองค์ความรู้ในด้านการสื่อสารนำเสนออย่างคณาจารย์ในมหาวิทยาลัยควรที่จะรู้และเข้าใจในการดีไซน์การสอนเพื่อที่จะเอานักศึกษาคุณให้อยู่มากกว่า เนื้อหาที่จะอยู่ในโปรแกรม MBA ก็จะต้องมีความชัดเจน เข้าถึงได้ง่าย นำไปใช้ได้ทันที ในอดีตโปรแกรม MBA อาจเป็นที่สำหรับคนที่ต้องการจะมาเพิ่มพูนความรู้เพื่อที่จะไต่เต้าในตำแหน่งหน้าที่การงาน แต่สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตเห็นได้ในปัจจุบันกลับมีความแตกต่างกับในอดีตคือ โปรแกรม MBA กลายเป็นที่สุดท้ายที่เหล่า
ผู้เรียนต้องการที่จะเข้ามาค้นหาความรู้ก่อนที่พวกเขาจะลาออกจากความเป็นมนุษย์
เงินเดือนและก้าวเข้าสู่โลกของการเป็นเจ้าของธุรกิจ และนี่คือสิ่งสำคัญที่คนเหล่านี้คาดหวังว่าจะได้มาจาก MBA ของพวกเรา