September 19, 2024

เมื่อเทรนด์ความยั่งยืน (Sustainability) กำลังมาแรงและเป็นประเด็นที่หลายแวดวงหยิบยกขึ้นมาให้ความสำคัญเพื่อร่วมกันมุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development) หรือแนวทางการพัฒนาที่ตอบสนองความต้องการของคนรุ่นปัจจุบัน และไม่ทำให้การตอบสนองความต้องการของคนรุ่นหลังนั้นลดลง  (Brundtland Report, 1987) โดยยึด 17 เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ที่ถูกกำหนดโดย United Nations General Assembly (UNGA) ในปี 2015 ดังนั้นการขับเคลื่อนองค์กร ต้องสร้างความเข้าใจกับพนักงาน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ถึงแนวคิดการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นความยั่งยืน ต้องไม่หวังผลกำไรเพียงอย่างเดียว แต่คำนึงถึง 3 ปัจจัยหลัก คือ ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environment  Social  Governance: ESG)  ที่สามารถตอบโจทย์การขับเคลื่อน SDGs ได้

ซีพี ออลล์ หนึ่งในองค์กรที่มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจเพื่อบรรลุเป้าหมายตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาความยั่งยืน ระยะที่ 2 ปี 2564-2573 โดยยึดมั่นต่อปณิธาน “Giving and Sharing” เพื่อเป็นองค์กรที่อยู่เคียงคู่สังคมไทย ด้วยกรอบการดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล (ESG)  ล่าสุดคณะอนุกรรมการบรรษัทภิบาล ซีพี ออลล์ ได้จัดกิจกรรมเพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงแนวคิดการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นความยั่งยืนให้กับผู้นำรุ่นใหม่ด้านธรรมาภิบาล หรือ Mister & Miss Good Governance (MMGG) รุ่นที่ 3 โดยมีนางสาวลาวัณย์ เตียงหงษากุล ประธานคณะอนุกรรมการบรรษัทภิบาล บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ เป็นประธานเปิดงาน  

ทั้งนี้ภายในงานมีการบรรยายพิเศษโดยนายวรณัฐ เพียรธรรม ผู้อำนวยการสถาบันไทยพัฒน์ ในหัวข้อ “ผู้นำรุ่นใหม่ใส่ใจ ESG: Environment Social Governance”  ได้อธิบายถึงวิวัฒนาการเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคม ความยั่งยืน และESG  เพื่อสร้างความเข้าใจอย่างถูกต้อง พร้อมสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของสถานการณ์เรื่อง ESG ในปัจจุบันที่เชื่อมโยงกับการขับเคลื่อนองค์กร  โดยมีกิจกรรม Workshop ให้ผู้นำรุ่นใหม่ฯ ได้นำความรู้ที่ได้จากการฟังบรรยาย มาวิเคราะห์ความสำคัญของการขับเคลื่อน ESG และร่วมกันวางแนวคิดและแผนงานเพื่อขับเคลื่อนองค์กรอย่างยั่งยืน

หากแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนคือการตอบสนองความต้องการของคนรุ่นปัจจุบัน และไม่ทำให้การตอบสนองความต้องการของคนรุ่นหลังนั้นลดลง ปัจจัยสำคัญในการเตรียมความพร้อม “คน” โดยเฉพาะ “คนรุ่นใหม่” ที่ถือเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร ต้องอาศัยการปลูกฝังแนวคิดที่ถูกต้อง ฝึกให้ลงมือปฏิบัติ ทำด้วยใจและด้วยความรับผิดชอบ เพื่อร่วมกันสร้างเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน

ชูเรทติ้ง A+ พร้อมเสนอขายประชาชนทั่วไป วันที่ 22 และ 25-26 มีนาคม 2567

สำนักปัญญาประดิษฐ์สร้างสรรค์ (Creative AI Division) บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ เปิดเวที CAI Retail Hackathon ครั้งที่ 1 ภายใต้โจทย์ Action Detection  หรือ การตรวจจับพฤติกรรม โดยใช้ Computer Vision  เทคโนโลยี AI ซึ่งสามารถเรียนรู้และวิเคราะห์ภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหว มุ่งเน้นการนำเทคโนโลยี AI มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาโมเดลสำหรับแก้ปัญหาต่างๆ ภายในร้านสะดวกซื้อ เพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้บริการที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้าร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 200,000 บาท พร้อมเหรียญรางวัลและเกียรติบัตรให้แก่เยาวชนผู้ชนะเลิศและผู้เข้าร่วมกิจกรรม

โดยภายในงานได้รับเกียรติจากนายวิวัฒน์ พงษ์ฤทธิ์ศักดา กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทในกลุ่มซีพี ออลล์ เป็นประธานเปิดการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ พร้อมให้แนวทางในการสร้างสรรค์ และพัฒนา AI ย้ำเจตนารมณ์การแข่งขันพัฒนา AI ไม่ได้มาแทนที่คน แต่มาช่วยให้คนสามารถทำเรื่องต่างๆ ได้ง่ายขึ้น  และการเติบโตของธุรกิจต้องผสมผสานเทคโนโลยีอย่างพอดี

ซึ่งบรรยากาศการแข่งขันครั้งนี้ น้อง ๆ เยาวชนได้แสดงศักยภาพกันอย่างเต็มความสามารถ นำเสนอไอเดียและนวัตกรรมสุดล้ำ และได้รับข้อเสนอแนะจากกรรมการตัดสินผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อใช้ในการต่อยอดโมเดลที่ได้พัฒนาขึ้นให้เหมาะสมกับการนำไปใช้จริง

โดยรางวัลชนะเลิศ CAI Retail Hackathon : Action Detection ในปีนี้ได้แก่เยาวชน ทีมพาวเว่อเรนเจอร์

  1. นางสาว พิมพ์มาดา จิระวัธน์
  2. นาย ภัคพล อาจบุราย
  3. นาย ธนดล ดรุณศรี
  4. นาย ณัฐวีร์ แนวกำพล
  5. นางสาว นภัสสร กังสุกุล

สำนักปัญญาประดิษฐ์สร้างสรรค์ ขอเชิญผู้ปกครองและเยาวชนทุกท่านเข้าร่วมติดตาม Facebook Fanpage @CAICamp เพื่อติดตามข่าวสารกิจกรรมส่งเสริมศักยภาพนวัตกรรมกรรุ่นเยาว์ได้ตลอดทั้งปี กับ Creative AI Camp  และ Creative AI Club เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมดี ๆ สร้างสรรค์สังคม โดยบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ในครั้งต่อไป

เติบโตภายใต้หลัก 2 ดี “สินค้าดี-พันธมิตรดี” ดันยอดขายปี’66 โตทะลุ 260 ล้าน  

เซเว่น อีเลฟเว่น ปลุกโอกาสสินค้าเด็ด SME ถึงมือผู้บริโภค จัดแคมเปญ “เปิดวาร์ปความอร่อยขนมไทยจาก SME” เชิญชวนคนไทย-คนต่างชาติร่วมสนับสนุน ส่งเสริมขนมไทยฝีมือ SME ชูคอนเซ็ปต์ “อร่อย-หาทานง่าย-หลากหลาย-สะดวก” ยกทัพขนมไทยกว่า 80 รายการอาทิ ทับทิมกรอบกะทิสด กล้วยปิ้งน้ำตาลมะพร้าว ชุดรวมขนมทองมงคล สู่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น 14,000 สาขาทั่วประเทศ พร้อมการส่งเสริมการตลาด ณ จุดขาย ถึง 23 มี.ค.นี้ หวังช่วย SME ไทยเติบโตอย่างแข็งแกร่ง หนุนขนมไทยของ SME ขึ้นแท่น Soft Power

นายยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่นอีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ กล่าวว่า การสนับสนุนการเติบโตของ SME ไทยอย่างยั่งยืน ถือเป็นหนึ่งในพันธกิจที่บริษัทให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่องภายใต้นโยบาย “SME โตไกลไปด้วยกัน” โดยในปีนี้ได้ต่อยอดโดยนำกลุ่มสินค้าขนมไทยฝีมือ SME มาจัดแคมเปญ “เปิดวาร์ปความอร่อยขนมไทยจาก SME” เพื่อสร้างการรับรู้ถึงศักยภาพของผู้ประกอบการ SME ไทยและขนมไทยในวงกว้าง ที่พร้อมก้าวสู่การเป็น Soft Power ไทย

“เราเลือกนำกลุ่มสินค้าขนมไทยมาจัดแคมเปญต่อเนื่อง เพราะเรามองว่า ขนมไทย เป็นขนมที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว มีความหลากหลาย และมีรสชาติอร่อยไม่แพ้ชาติใดในโลก แต่ด้วยสินค้าขนมไทยในปัจจุบัน หาทานได้ยาก ทำให้คนรุ่นใหม่และชาวต่างชาติมีโอกาสเข้าถึงขนมไทยได้ไม่มากนัก เซเว่น อีเลฟเว่น ในฐานะผู้ที่สนับสนุน SME ขนมไทยมาโดยตลอด ต้องการช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าว สร้างความตระหนักว่าสินค้าขนมไทยฝีมือ SME สามารถหาทานได้ง่าย พร้อมทั้งส่งเสริมโอกาสให้ SME ขนมไทยเข้าสู่ตลาดโมเดิร์นเทรด และเติบโตอย่างยั่งยืน เข้าถึงมือผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ” นายยุทธศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ แคมเปญ “เปิดวาร์ปความอร่อยขนมไทยจาก SME” ได้รวบรวมสินค้าขนมไทยจาก SME กว่า 80 รายการ มาร่วมแคมเปญ ถ่ายทอดจุดเด่นของขนมไทยที่วางจำหน่ายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในคอนเซ็ปต์ 1.อร่อย คงรสชาติความอร่อยอันเป็นเอกลักษณ์ของขนมไทยแท้ไว้ได้อย่างครบถ้วน 2.หาทานง่าย มีวางจำหน่ายในทุกสาขาทั่วประเทศกว่า 14,000 สาขา หรือสั่งซื้อผ่านเซเว่น เดลิเวอรี่ 3.หลากหลาย มีประเภทสินค้าขนมไทยที่เป็นที่นิยมมากมาย อาทิ ทับทิมกรอบกะทิสด กล้วยปิ้งน้ำตาลมะพร้าว ชุดรวมขนมทองมงคล  รวมถึงสินค้าที่หาทานได้ยาก อาทิ ตะโก้สามสหาย ถั่วทองกวนและเผือกกวน 4.สะดวก มาพร้อมกับแพ็กเก็จจิ้งสวยงามทันสมัย ที่ทางเซเว่น อีเลฟเว่น ร่วมพัฒนามากับผู้ประกอบการ ส่งผลให้แพ็กเก็จจิ้งของสินค้าแต่ละประเภทสะดวกต่อการรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม

นายยุทธศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับรูปแบบการดำเนินการ จะให้ความสำคัญกับการสนับสนุนการตัดสินใจซื้อ ณ จุดขาย อาทิ การติดตั้งสื่อสนับสนุน พร้อมข้อความสั้นๆ ชวนอุดหนุนขนมไทย ที่บริเวณชั้นวางสินค้าภายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น และรายการส่งเสริมการขาย เพื่อช่วยขับเคลื่อน SME ด้านช่องทางขาย ช่วยทำให้ยอดขายของ SME เพิ่มขึ้น เพื่อสร้างรายได้กลับสู่ชุมชน ตามปณิธานของบริษัท “Giving and Sharing” โดยระยะเวลาของแคมเปญนี้เริ่มตั้งแต่ 24 ก.พ. 2567 ถึงวันที่ 23 มี.ค.2567

“พฤติกรรมของผู้บริโภคในร้านสะดวกซื้อจำนวนมาก ยังคงเป็นการตัดสินใจซื้อ ณ จุดขาย การจัดกิจกรรมการตลาด ณ จุดขาย อย่างการติดตั้งสื่อสนับสนุน สร้างความตระหนักถึงรสชาติ ความอร่อย สร้างความสนใจในตัวผลิตภัณฑ์ จึงมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก เชื่อมั่นว่าแคมเปญครั้งนี้ จะช่วยยกระดับให้สินค้าขนมไทยฝีมือ SME กลายเป็น Soft Power ที่สร้างความประทับใจให้แก่ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ” นายยุทธศักดิ์ กล่าว

ที่ผ่านมา เซเว่น อีเลฟเว่น ภายใต้บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ถือเป็นหนึ่งในองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการสนับสนุน SME ภายใต้นโยบาย “SME โตไกลไปด้วยกัน” พร้อมทั้งเดินหน้า กลยุทธ์ 3 ให้ ประกอบด้วย 1.ให้ช่องทางขาย 2.ให้ความรู้ และ 3.ให้การเชื่อมโยงเครือข่าย ช่วยเหลือ SME อย่างต่อเนื่อง โดยศูนย์ 7-Eleven สนับสนุน SME เป็นแกนหลัก ช่วยให้ผู้ประกอบการ SME เข้าถึงแหล่งข้อมูล ความรู้ งานวิจัย ตลอดจนเป็นสื่อกลางในการเชื่อมโยงเครือข่ายพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนในการสร้างการเติบโตให้ SME ไทยเปี่ยมศักยภาพเติบโตในเวทีการค้าโลกได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน

สำหรับ SME ผู้ประกอบการ ที่สนใจสามารถนัดหมายขอเข้ารับคำปรึกษากับทางศูนย์ 7-Eleven สนับสนุน ได้ผ่าน 2 ช่องทางหลัก ได้แก่ 1.ผ่านช่องทาง Call Center เบอร์ 02-826-7750 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-17.00 น. หรือEmail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. และ 2.ผ่านทาง www.7smesupportcenter.com ตลอด 24 ชั่วโมง

X

Right Click

No right click