

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ โดย บริษัท ซีพีเอฟ โกลบอล ฟู้ด โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CPFGS
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จับมือ SME D Bank ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางด้านธุรกิจ
นายสุวัฒน์ กมลพนัส ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) พร้อมด้วย ดร.วโรทัย โกศลพิศิษฐ์กุล กรรมการบริหาร EXIM BANK และ ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK พบปะหารือกับนายกิริต ชาห์ ประธานกรรมการบริหาร จีพี กรุ๊ป และนายคาลิด มอยนูดดิน ฮาซิม กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) (PSL) ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมภายใต้ จีพี กรุ๊ป เพื่อรับฟังสถานการณ์และทิศทางของอุตสาหกรรมเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกองและกฎหมายทางทะเลที่เกี่ยวเนื่องกับสิ่งแวดล้อมของสหประชาชาติ รวมถึงหารือแนวทางสนับสนุนอุตสาหกรรมพาณิชยนาวีไทย โดยเชื่อมโยงกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับเป้าหมายของ EXIM BANK ในการสนับสนุนเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG Economy) เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ณ สำนักงาน PSL เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2566
นางสาวดรัสวันต์ ชูวงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ให้การต้อนรับและพบปะหารือกับนายควาโยะ บัวเทง เจนฟี ประธานกรรมการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งสาธารณรัฐกานา (GEXIM) และนายลอว์เรนซ์ อะจินแซม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GEXIM ถึงแนวทางส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพและปริมาณผลผลิตการเกษตรของสาธารณรัฐกานา อาทิ ข้าว แป้งมันสำปะหลัง และน้ำมันมะพร้าว โดยนำเข้าเทคโนโลยีและเครื่องจักรกลการเกษตรจากไทย เพื่อรองรับความต้องการอุปโภคบริโภคภายในประเทศและการส่งออก ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็วๆ นี้
นายชลัช รัตนบุญนิธิ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ถ่ายภาพร่วมกับนางภรณี ช็อมบร็อง ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายบริหารบัญชีลูกค้า อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ประเทศไทย (Amazon Global Selling Thailand) ในพิธีเปิดการอบรมโครงการ “ติดปีกสินค้าไทย ขายออนไลน์ข้ามพรมแดนกับ Amazon” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง EXIM BANK กับอเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ประเทศไทย และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 พฤษภาคม-18 กรกฎาคม 2566 ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ และอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อพัฒนาศักยภาพ SMEs ไทยให้มีความพร้อมในการพัฒนาธุรกิจสู่ตลาดการค้าออนไลน์อย่างมั่นใจ ผ่านการฝึกอบรม จับคู่ทางธุรกิจ ให้คำปรึกษาด้านการเงิน แนะนำเครื่องมือบริหารความเสี่ยง และ Workshop การค้าออนไลน์ข้ามพรมแดน (Cross Border E-commerce: CBEC) ไปยังตลาดสหรัฐฯ ยุโรป และเอเชีย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการได้รับประโยชน์ในการเข้าถึงเครือข่ายลูกค้าของ Amazon.com กว่า 300 ล้านคนทั่วโลก ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็วๆ นี้
กรุงเทพประกันชีวิต เปิดตัวแบบประกันบำนาญใหม่ “แฮปปี้ เพนชั่น” (มีเงินปันผล)
ดร. สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ พันเอก สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) จับมือร่วมกันศึกษาหาแนวทางการดำเนินงานด้านการตลาด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำบริการและผลิตภัณฑ์ที่มีมาเพิ่มโซลูชันต่างๆ เพื่อส่งมอบสิทธิประโยชน์พิเศษให้กับกลุ่มลูกค้าและพนักงานของทั้งสององค์กร ซึ่งการเดินหน้าพัฒนาธุรกิจในครั้งนี้นับเป็นมิติใหม่ของการยกระดับการให้บริการขององค์กรชั้นนำของประเทศ ที่สามารถนำความแตกต่างทางธุรกิจมาแลกเปลี่ยนเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางการตลาดและตอบรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีความต้องการในบริการประกันภัยและบริการสื่อสารโทรคมนาคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หัวเว่ยเปิดฉากงานประชุมพาร์ทเนอร์สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ‘Asia Pacific Partners Conference 2023’ ณ เมืองเซินเจิ้น
ชล อโรมาทีค (CHÔL Aromatique) แบรนด์เครื่องหอมระดับพรีเมี่ยมเร่งเครื่องรุกตลาดไทย มุ่งโชว์ศักยภาพสินค้าเครื่องหอมศาสตร์บำบัดสุดเอ็กซ์คลูซีฟ จับมือแกร็บคาร์ พรีเมียมร่วมยกระดับประสบการณ์การเดินทางให้ลูกค้าที่ใช้บริการแกร็บคาร์ พรีเมียมด้วยกลิ่นหอมละมุนตลอดการเดินทางจากน้ำมันหอมระเหย 5 กลิ่น ภายใต้คอลเลคชั่น URBAN RESCUE โดยให้บริการก้านกระจายความหอม บนรถแกร็บคาร์ พรีเมียมกว่า 1,000 คันตลอดแคมเปญ ทั้งยังเพิ่มช่องทางให้ CHÔL ได้มอบประสบการณ์ความหอมที่สัมผัสได้จริงให้กับกลุ่มลูกค้าคนเมือง พนักงานออฟฟิศ รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ชล วจนานนท์ (ในรูปที่สามจากขวา) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชล แอนด์ แอสโซซิเอทส์ จำกัด ผู้ก่อตั้งธุรกิจเครื่องหอมผลิตจากน้ำมันหอมระเหยพรีเมี่ยมเกรดบำบัด 100% เปิดเผยว่า “ชล อโรมาทีค” (CHÔL Aromatique) เป็นแบรนด์เครื่องหอมพรีเมี่ยมที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์คนเมืองด้วยศาสตร์แห่งการบำบัดอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากวงจรการใช้ชีวิตที่เร่งรีบในปัจจุบัน หรือ “Urban Lifecycle” อาทิ ความเครียดรุมเร้า การนอนที่ไม่มีคุณภาพ ฮอร์โมนแปรปรวน สมาธิสั้น รู้สึกหมดพลัง โดยผลิตภัณฑ์ถูกพัฒนาขึ้นจากศาสตร์สุคนธบำบัด ผสานเข้ากับทฤษฏี Flow ของนักจิตวิทยา เกิดเป็นการค้นพบพลังอันน่าอัศจรรย์ของน้ำมันหอมระเหยบริสุทธิ์จากธรรมชาติที่ส่งผลต่อคลื่นสมอง 1 ในตัวช่วยให้ชีวิตงาน ความรัก การทำกิจกรรมต่าง ๆ และการพักผ่อนเป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และหลังการเปิดตัวแบรนด์และทำตลาดมากว่า 2 ปี ผลิตภัณฑ์ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า และในปีนี้สถานการณ์ COVID ได้ผ่านพ้นไป จึงเป็นโอกาสดีที่แบรนด์ CHOL จะขยายการรับรู้ให้เพิ่มขึ้นจากการสร้างประสบการณ์จริงกับลูกค้า เป็นที่มาของความร่วมมือกับแกร็บคาร์ พรีเมียมเพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าชาวไทยและนักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับผลิตภัณฑ์ของเราโดยตรงผ่านประสาทสัมผัสทางกลิ่นด้วยตัวเองบนรถแกร็บคาร์ พรีเมียมกว่า 1,000 คัน ทั่วกรุงเทพ

ผู้ใช้บริการแกร็บคาร์ พรีเมียมจะรู้สึกผ่อนคลายไปกับกลิ่นหอมบริสุทธิ์จากธรรมชาติสูตรซิกเนเจอร์คอลเลคชั่น URBAN RESCUE ของ “CHOL” ที่ประกอบไปด้วย 5 กลิ่น ได้แก่
ผลิตภัณฑ์ก้านกระจายความหอม ทั้ง 5 กลิ่น จะถูกติดตั้งภายในรถแกร็บคาร์ พรีเมียม1 คันต่อ 1 กลิ่น จำนวน 1,000 – 1,500 คัน ทั่วกรุงเทพ
ผู้สนใจผลิตภัณฑ์ CHÔL Aromatique สามารถดูข้อมูลสินค้าได้ทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านทาง Facebook: cholaromatique Instagram: cholaromatique หรือ LINE: @cholaromatique และช่องทางออฟไลน์ในศูนย์การค้า อาทิ ศูนย์การค้าไอคอนสยาม ชั้น 1 และ ศูนย์การค้า คิงส์ พาวเวอร์ ทั้ง 4 สาขา รางน้ำ ศรีวารี สุวรรณภูมิและท่าอากาศยานภูเก็ต ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี ในโซนอีโคโทเปีย และจะเปิดสาขาใหม่ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์พลาซ่า ปลายเดือนพฤษภาคมนี้
นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) เป็นประธานกิจกรรมเปิดตัวโครงการแจงนับคนไร้บ้าน (One Night Count) เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวง พม. โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน อาทิ กรุงเทพมหานคร สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มูลนิธิกระจกเงา มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย และมูลนิธิอิสรชน เพื่อร่วมกันดำเนินการสำรวจสถานการณ์ปัญหาของกลุ่มคนเร่ร่อนหรือคนไร้บ้าน 77 จังหวัดทั่วประเทศ อีกทั้งทำให้ทราบถึงจำนวนคนไร้บ้านสำหรับนำมาใช้คาดการณ์ทางสถิติ ประชากร และอื่น ๆ นำไปสู่การปรับปรุง พัฒนาบริการของรัฐที่ตอบโจทย์ประชาชน โดยมี นางจตุพร โรจนพานิช อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวง พม. นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการ กทม. นายสุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการ สสส. รองศาสตราจารย์ และ ดร.ภาวิกา ศรีรัตนบัลล์ ผอ.สถาบันเอเชียศึกษา ร่วมกล่าวแสดงเจตนารมณ์บูรณาการทำงานและให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน ณ บริเวณหน้าอาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวง พม.

นายอนุกูล กล่าวว่า กระทรวง พม. โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) มีภารกิจสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไร้ที่พึ่งหรือคนไร้บ้าน ด้วยการให้บริการสวัสดิการสังคมทั้งการให้ความช่วยเหลือ คุ้มครอง และลงพื้นที่สำรวจปัญหาความต้องการของคนไร้บ้านอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเก็บข้อมูลจำนวนคนไร้บ้านทั่วประเทศ โดยแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่ กลุ่มเป้าหมายที่รับบริการภายในหน่วยงานสังกัดกระทรวง พม. ปัจจุบัน มีจำนวน 5,083 คน และกลุ่มเป้าหมายคนไร้ที่พึ่งภายนอกหน่วยงานสังกัดกระทรวง พม. ที่ให้บริการอีกกว่า 21,239 ราย ซึ่งเป็นคนไร้บ้านกว่า 2,462 ราย และอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ กว่า 1,761 ราย

ทั้งนี้ กระทรวง พม. ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือคนไร้ที่พึ่งหรือคนไร้บ้านอย่างต่อเนื่องในทุกพื้นที่ แต่กระทรวง พม. เพียงหน่วยงานเดียวไม่สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่างครอบคลุมทุกมิติ เนื่องจากคนไร้ที่พึ่งหรือคนไร้บ้านที่ถือเป็นกลุ่มเปราะบางที่ต้องได้รับการคุ้มครองทางสังคม (Social Protection) และการเสริมสร้างพลังทางสังคม (Social Empowerment) วันนี้ กระทรวง พม. โดย พส. จึงได้จัดกิจกรรมเปิดตัวโครงการแจงนับคนไร้บ้าน (One Night Count) เพื่อแสดงให้เห็นว่า กระทรวง พม. ได้บูรณาการการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง และมีเป้าหมายร่วมกันในการออกแบบระบบการคุ้มครองดูแล และจัดบริการสวัสดิการสังคมได้อย่างตรงจุด ตลอดจนส่งผลให้คนไร้บ้านสามารถเข้าถึงสวัสดิการและสามารถใช้ชีวิตตามปกติได้อย่างยั่งยืนต่อไป

นายสุปรีดา กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้ จะทำให้เราได้เห็นสถานการณ์ทางประชากรและสุขภาวะของคนไร้บ้านในประเทศไทยที่ครอบคลุมประเด็นทั้งในเชิงจำนวนและข้อมูลทางประชากรเชิงลึก เพื่อเป็นข้อมูลสถานการณ์ทางประชากรที่จะเป็นพื้นฐานในการออกแบบและจัดทำนโยบายเกี่ยวกับคนไร้บ้านที่สอดคล้องและเท่าทันกับสถานการณ์ปัญหา

รองศาสตราจารย์ ดร.ภาวิกา กล่าวว่า การแจงนับคนไร้บ้านครั้งนี้ จะเป็นทั้งการนับจำนวน (Head Count) และเก็บข้อมูลทางประชากรเบื้องต้นของคนไร้บ้านทั้งที่อาศัยอยู่ในพื้นที่สาธารณะ (Unsheltered Count) และในสถานพักพิงที่รัฐหรือเอกชนจัดให้ (Sheltered Count) เพื่อป้องกันปัญหาการนับซ้ำ และสามารถกำหนดนิยามคนไร้บ้านให้ครอบคลุมทั้งในมิติทางวิชาการและมิติทางวัฒนธรรม ให้สอดคล้องกับบริบทของคนไร้บ้านในสังคมไทย สู่การนำมาพัฒนารูปแบบบริการ นวัตกรรมที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย

นายศานนท์ กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร นับว่าเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องหลักในประเด็นคนไร้บ้านที่พบมากที่สุดในประเทศ เนื่องจากผู้คนทั่วประเทศหลั่งไหลเข้ามาอาศัยและทำมาหากิน ซึ่งที่ผ่านมาเราอาจจะไม่ทราบว่า คนไร้บ้าน มีจำนวนเท่าไร ประสบปัญหาอะไร ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวที่สำคัญและเป็นการบูรณาการที่เป็นประโยชน์ ทั้งระดับปฏิบัติและนโยบาย เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนงานการช่วยเหลือคนไร้บ้านให้ตรงจุดและมีทิศทางที่ดีขึ้น

นางจุตพร กล่าวเพิ่มเติมว่า กิจกรรมแจงนับคนไร้บ้าน (One Night Count) ในวันนี้ ประกอบด้วย 1) การเปิดตัวกิจกรรมฯ พร้อมกันทั่วประเทศ ณ หน้าอาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวง พม. และผ่านระบบ Zoom Cloud Meeting โดยมีหน่วยงาน One Home พม. ทุกจังหวัดทั่วประเทศเข้าร่วม 2) การปล่อยแถวขบวนรถสายด่วน พม. 1300 ลงพื้นที่แจงนับคนไร้บ้านทั่วประเทศ และ 3) นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัด พม. พร้อมผู้บริหาร และผู้แทนภาคีเครือข่าย ลงพื้นที่สำรวจแจงนับคนเร่ร่อนหรือคนไร้บ้าน ณ บริเวณอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ถนนราชดำเนิน กรุงเทพฯ