

โออิชิ อีทโตะ (OISHI EATO) สร้างสรรค์เมนูเกี๊ยวซ่าไส้แน่น ขอแนะนำ ใหม่ !!! โออิชิ อีทโตะ เกี๊ยวซ่าทรงเครื่อง พร้อมจัดหนัก จัดเต็ม เอาใจสาวกเกี๊ยวซ่า ด้วยเกี๊ยวซ่าญี่ปุ่น เนื้อแป้งบางนุ่ม เป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมไส้เกี๊ยวซ่าทรงเครื่อง อัดแน่นแบบเต็ม ๆ ทั้ง เนื้อหมู – เนื้อไก่ – ผักต่าง ๆ (เห็ดหอม แคร์รอต และ กะหล่ำปลี) คลุกเคล้าและปรุงรสชาติมาอย่างกลมกล่อม ลงตัว ยิ่งจิ้มกับน้ำจิ้มเกี๊ยวซ่าสูตรพิเศษที่แถมมาในซอง ก็ยิ่งอร่อย ฟิน...คำโต ซึ่งเหมาะสำหรับช่วงเวลาเร่งรีบ หรือมื้อรองระหว่างวัน โดยวางจำหน่ายทั่วประเทศแล้ววันนี้ ในราคาซองละ 33 บาท ที่ เซเว่น อีเลฟเว่น ทุกสาขา ติดตามข้อมูลข่าวสารหรือโปรโมชั่นที่น่าสนใจเพิ่มเติม คลิกแฟนเพจโออิชิอีทโตะ : www.facebook.com/OishiEatoThailand
นายปิติ ตัณฑเกษม (ที่ 2 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต และศาสตราจารย์ ดร.สุพจน์ เตชวรสินสกุล (ที่ 2 จากซ้าย) คณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการร่วมพัฒนานิสิตที่มีความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัล หรือ Tech Talent เพื่อตอบโจทย์โลกยุคใหม่และสร้างบุคลากรที่มีทักษะตรงตามความต้องการของภาคอุตสาหกรรมที่จะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางด้านคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน ภายใต้หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีดิจิทัล (CEDT-Computer Engineering & Digital Technology) ซึ่งเป็นหลักสูตรแรกของเมืองไทยที่แตกต่างจากการเรียนตามหลักสูตรทั่วไป มุ่งเน้นการผลิตกำลังคนดิจิทัลคุณภาพสูง โดยมีนายนริศ สถาผลเดชา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้า ttb analytics ทีเอ็มบีธนชาต และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อรรถวิทย์ สุดแสง หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมเป็นสักขีพยาน
เคทีซี ร่วมกับ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สนับสนุนโครงการ “โรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” (Green Hotel) โดยเคทีซีจับมือ 114 พันธมิตรโรงแรม ใน 20 จังหวัดทั่วประเทศ มอบสิทธิพิเศษให้สมาชิกกับส่วนลดสูงสุด 45% ครอบคลุมบริการ ห้องพัก ห้องอาหาร และสปา พร้อมวางแผนต่อยอดขยายความร่วมมือ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวแนวใส่ใจธรรมชาติ และส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจสำหรับธุรกิจโรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมต่อไป

นางประณยา นิถานานนท์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เคทีซีนำแนวคิดด้านความยั่งยืนหรือการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงมิติสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental / Social / Governance) มาบูรณาการกับการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบ ในส่วนมิติสิ่งแวดล้อมนั้น เคทีซีตอบสนองแนวคิด Environmentally Friendly ผ่านการดำเนินงานและการเข้าร่วมโครงการเพื่อช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและบรรเทาปัญหาภาวะโลกร้อนจากการเพิ่มขึ้นของก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่อง การเข้าร่วมสนับสนุนโครงการ “โรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” (Green Hotel) ในครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งที่เคทีซีจะร่วมขับเคลื่อนสังคมแห่งความยั่งยืน พร้อมตอบโจทย์พฤติกรรมการท่องเที่ยวของสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีที่หันมาให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เคทีซีจึงได้เพิ่ม “คุณค่า” ให้ทุกการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีที่ 114 โรงแรมที่ร่วมโครงการ กระจายอยู่ทั้ง 20 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งเป็นจังหวัดท่องเที่ยว อาทิ ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เชียงใหม่ และ ภูเก็ต เป็นต้น ด้วยสิทธิพิเศษส่วนลดสูงสุด 45% ครอบคลุมบริการ ห้องพัก ห้องอาหาร และสปา นอกจากนี้ สมาชิกยังสามารถใช้คะแนน KTC FOREVER แลกรับเครดิตเงินคืน 13% ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2566 - 31 ธันวาคม 2566 สามารถดูรายละเอียดผ่านเว็บไซต์ www.ktc.co.th/greenhotels
ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญระหว่างกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เคทีซี สมาชิก รวมถึงพันธมิตรโรงแรม เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างมีคุณค่า ส่งผลต่อการสร้างสังคมแห่งความยั่งยืนต่อไป

นายสมศักดิ์ สรรพโกศลกุล อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า “สำหรับโครงการ “โรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” (Green Hotel) ดำเนินการด้วยเป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน พร้อมส่งเสริมการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของการถ่ายทอดเป้าหมายหลักในการพัฒนาไปสู่กลุ่มโรงแรมซึ่งมีการใช้พลังงานอย่างมาก โดยเริ่มโครงการตั้งแต่ปี 2556 มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์ความรู้ เสริมศักยภาพ เพื่อส่งเสริมศักยภาพสถานประกอบการให้เกิดการใช้ทรัพยากร พลังงาน อย่างคุ้มค่า และมีประสิทธิภาพ ตลอดจนมีการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดี และเพื่อยกระดับมาตรฐานการบริการ ทั้งด้านสุขอนามัย และการจัดการสิ่งแวดล้อมให้สอดรับกับสถานการณ์การท่องเที่ยว พร้อมขยายจำนวนเครือข่ายสถานประกอบการในการบริการให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อันจะทำให้เกิดการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศอย่างยั่งยืน โดยมีโรงแรมที่ผ่านเกณฑ์การประเมินและเข้าร่วมโครงการตั้งแต่แรกเริ่มเป็นจำนวน 594 แห่ง ปัจจุบันมีโรงแรมที่ยังอยู่ในการรับรองจำนวน 262 แห่ง แบ่งเป็นระดับดีเยี่ยม (G ทอง) จำนวน 106 แห่ง ระดับดีมาก (G เงิน) จำนวน 83 แห่ง และระดับดี (G ทองแดง) จำนวน 73 แห่ง
โดยในปี 2566 ได้ร่วมมือกับ SWITCH-ASIA, TourLink ในการยกระดับสู่การปฏิบัติที่ดีเทียบเท่ามาตรฐานสากล โดยเทียบเกณฑ์การประเมินโรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Hotel) ของประเทศไทยกับเกณฑ์ GSTC (Global Sustainable Tourism Council) ซึ่งเป็นเกณฑ์ชี้วัดระดับสากล เพื่อใช้ประเมินกับโรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Hotel) ในระดับดีเยี่ยม (G ทอง) รวมถึงได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาคเอกชนอย่างเคทีซี ในการมอบสิทธิประโยชน์ร่วมกับโรงแรมในโครงการ เพื่อเป็นการรองรับนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ รวมทั้งเป็นการสร้างภาคีความร่วมมือในทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนการดำเนินงาน และกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจจากธุรกิจโรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้นต่อไป”
บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ผู้ให้บริการทางพิเศษและรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินและสายสีม่วง และ บริษัท แบงคอก เมโทร เน็ทเวิร์คส์ จำกัด (BMN) ผู้ให้บริการสื่อโฆษณา และพื้นที่ จัดกิจกรรมในระบบรถไฟฟ้า MRT เผยผลตอบรับหลังเปิดตัว เมโทร อาร์ต (Metro Art) อาร์ต เดสทิเนชัน แห่งใหม่ ล่าสุดในสถานีรถไฟฟ้า MRT พหลโยธิน ดีตามคาด ทั้งยังเพิ่มมูลค่าพื้นที่ค้าปลีกขึ้นเท่าตัว ร้านค้าแห่จองพื้นที่แน่น เล็งขยายพื้นที่ค้าปลีกสินค้ากลุ่มอาร์ต โปรดักส์เพิ่มให้เพียงพอกับความต้องการ จับมือพันธมิตรหนุนจัดกิจกรรมอาร์ต ซีรีย์ 2 ต่อเนื่อง พร้อมเปิดโอกาสให้ศิลปินไทยได้โชว์ฝีมือ และสร้างพื้นที่ศิลปะ และแรงบันดาลใจให้กับชาวกรุงเทพ อย่างยั่งยืน

นายวิทสุวัฒน์ อำคาเพท กรรมการผู้จัดการบริษัท แบงคอก เมโทร เน็ทเวิร์คส์ จำกัด (BMN) กล่าวว่า “เมโทร อาร์ต นับเป็นปรากฎการณ์ใหม่ ที่ช่วยสร้างกระแสอาร์ต สเปซใจกลางกรุงให้เกิดขึ้นในวงกว้าง ซึ่งหลังจากจัดงานเปิดตัว อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ก็ได้รับความนิยมเข้าชม และร่วมกิจกรรมศิลปะที่จัดขึ้น เป็นจำนวนมาก ช่วยส่งผลให้กลุ่มผู้โดยสารเดิมใช้เวลาภายในสถานีเพิ่มมากขึ้น ในขณะเดียวกันได้ขยายฐานไปสู่ กลุ่มผู้โดยสารใหม่ๆ ที่ตั้งใจเดินทางมาเยี่ยมชมเมโทร อาร์ต อีกด้วย ปัจจุบันยอดขายของร้านค้าภายใน Metro Mall เพิ่มขึ้น 15-25 % พร้อมทั้งช่วยสร้างมูลค่าให้พื้นที่ค้าปลีกของ Metro Mall ในสถานีเพิ่มขึ้นเท่าตัวด้วย จากการพลิกโฉมสถานี ซึ่งยังไม่เคยเกิดขึ้นในระบบขนส่งมวลชนที่ไหนมาก่อน อ้างอิงจากเสียงตอบรับของร้านค้าในพื้นที่ ขณะนี้จึงมีแผนจัดสรร พื้นที่อีเว้นท์บางส่วนให้เป็น Kiosk สำหรับร้านค้าที่สนใจขายสินค้าที่เป็น Art Product โดยทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น คิดเป็นมูลค่าทางการตลาดที่เกิดจากการเปิดตัวเมโทร อาร์ต รวมกว่า 30 ล้านบาท”
โดย BEM และ BMN ไม่ได้มุ่งหวังเรื่องการสร้างอาร์ต เดสทิเนชันเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดเวทีให้ศิลปินไทยทุกแขนง ได้มีพื้นที่จัดแสดงงานของตนเอง ควบคู่กับการเปิดโอกาสให้ผู้ที่รักศิลปะ และผู้ที่สนใจได้เข้ามาเรียนรู้ และใกล้ชิด กับศิลปะผ่านกิจกรรมเวิร์คช็อปสนุกมากมายอีกด้วย โดยเฉพาะกิจกรรมเวิรค์ชอปพิเศษในเชิงศิลปะแขนงต่างๆ ทุกวันพุธ โดยที่ไม่มีค่าใช้จ่าย ที่ร่วมกับ IWS Thailand ภายใต้โครงการ Happy Journey with BEM ซึ่งสิ่งนี้นับเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อน ในการปลูกฝังสังคมแห่งศิลปะให้เกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างยั่งยืน

ในส่วนยอดขายงานศิลปะและกิจกรรมต่างๆ ภายในเมโทร อาร์ต มีทั้งเป็นไปตามคาดและเกินเป้าที่ตั้งไว้ ขึ้นอยู่กับความสนใจของลูกค้าในแต่ละด้าน โดยเฉพาะผลงานของศิลปินคนดังที่จัดแสดงผลงานใน The Artista Studio 1-2 สามารถจำหน่ายหมดทุกชิ้นตั้งแต่วันแรกๆ ที่มีการจัดแสดงผลงาน สำหรับจำนวนผู้ที่สนใจเข้าร่วม Art WorkShop ที่ Paint Here Alright by Galleria Benetti จำนวนมาก, Art Learning Centre โดย IWS Thailand มีผู้สนใจสมัครเรียน ในระดับ Master Class อย่างต่อเนื่อง, และ Marche de L’art กลายเป็นสถานที่โปรดปรานของศิลปินรุ่นใหม่ๆ ที่ต้องการ เข้ามาเปิดบูธขายของ ซึ่งมียอดขายเป็นที่น่าพอใจ

เนื่องจากเมโทร อาร์ตเป็นโครงการที่อยู่บนพื้นที่ส่วนกลางของ MRT สถานีพหลโยธินที่ผู้โดยสาร MRT และผู้ที่ชื่นชอบศิลปะสามารถเข้าถึงได้ง่ายโดยไม่มีค่าใช้จ่าย รวมทั้งมีกิจกรรมอาร์ตที่เปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วม หลากหลายรูปแบบ ทั้ง Art Gallery ที่จัดแสดงภาพสีน้ำจากศิลปินสีน้ำระดับโลกและระดับประเทศให้ชมอย่างใกล้ชิด Art Exhibition ที่แสดงผลงานของศิลปินคนดังแนวโมเดิร์นอาร์ต พร้อมเนรมิตบรรยากาศภายในสถานีด้วยการสอดแทรก ผลงานศิลปะของศิลปินในทุกองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นกำแพง เสา ซุ้มประตูทางเข้า เป็นต้น

โดยในระหว่างเดือน พ.ค. - ส.ค. นี้ เมโทร อาร์ต ได้มีการปรับเปลี่ยนผลงานศิลปะ และมาในชื่อธีมว่า Playable Art อาร์ตเล่นได้ มีจุดประสงค์เพื่อให้การมาเที่ยวชมผลงานศิลปะ สามารถสร้างคอนท็นต์สนุกๆ ให้กับตัวเอง โดยในแต่ละจุด Checkpoint และห้องจัดแสดงผลงานจะมีศิลปะของศิลปินจะเน้นรูปแบบ Interactive Art มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ART AR PLAY / ART EXHIBIT / ART PLAYGROUND / ART MUSIC / ART PROP / ART BOMB / ART WORKSHOP / ART CONTEST / ART LEARNING และ ART MARKET ซึ่งไฮไลท์ประจำซีรีย์ที่ 2 นี้ได้ศิลปินแนวสตรีทอาร์ทอย่าง ตุ๊ – ณัชพล ตุ๊เสงี่ยม หรือ The Tu!! และ พลอย – พลอยศิริ รังคดิลก หรือ Wild So Serious ที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งศิลปินไทยสไตล์สตรีทอาร์ท ที่กำลังมาแรงในขณะนี้ มาร่วมสร้างสรรค์ผลงานที่ MRT พหลโยธิน
หนึ่งในแผนงานสำคัญในปี 2566 คือ การขยายขอบเขตของกลุ่มผู้ใช้บริการเดิมทั้ง 38 สถานี, นักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติและชาวไทย โดยการเพิ่มการรับรู้เกี่ยวกับ Metro Art ด้วยกิจกรรมอาร์ตไฮไลท์ที่กระตุ้นให้เกิดการเดินทางมายัง MRT สถานีพหลโยธิน และสามารถเดินทางท่องเที่ยวต่อไปยังสถานที่ต่างๆ ด้วยระบบรถไฟฟ้า MRT ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ซึ่งจะทำให้เกิดความคึกคัก และความหนาแน่นของผู้โดยสารในระบบรถไฟฟ้า MRT และใน Metro Mall แหล่งช้อป ชิม ชิลในสถานีรถไฟฟ้า MRT ตอกย้ำคอนเซปท์ The Happy Commercial Hub Of MRT ได้เป็นอย่างดี

ปัจจุบัน Metro Mall เปิดให้บริการ 8 สถานี ซึ่ง BMN พยายามสร้างคาแรกเตอร์ของแต่ละสถานีให้มีจุดขายที่ชัดเจน แตกต่าง สอดคล้องกับโลเคชั่น และกลุ่มผู้โดยสารเป้าหมาย ดังนั้น Metro Art ที่สถานีพหลโยธินแห่งนี้จึงถือเป็นจุดเริ่มต้น ของการพัฒนาพื้นที่อื่นๆ ในสถานีรถไฟฟ้า MRT ต่อไปในอนาคตอีกด้วย
Metro Art เปิดให้ผู้ที่สนใจงานศิลปะ เข้าชมและร่วมกิจกรรมต่างๆ ของ ซีรีย์ที่ 2 Playable อาร์ตเล่นได้ ตั้งแต่ วันที่ 23 พฤษภาคม 2566 เวลา 06.00 -21.00 น. โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : Metro Mall Bangkok
กลุ่มมิตรผล ผู้นำด้านการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารระดับโลก
บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต นำโดย ดร.อุกฤษฏ์ ศรีดโรมนต์ (คนที่ 2 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แผนกตัวแทนและแผนกฝึกอบรมและพัฒนาฝ่ายจัดหน่าย ร่วมแสดงความยินดีกับ 7 สุดยอดตัวแทนของบริษัทฯ ที่คว้ารางวัลตัวแทนยอดเยี่ยม จากงานรางวัลตัวแทนยอดเยี่ยมแห่งชาติ (National Agent Awards) ครั้งที่ 23 ประจำปี 2566 จัดโดยสมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน (THAIFA)
โดยตัวแทนของ กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต คุณวริศา มณีธวัช ผลิตผลงาน FYP มากกว่า 12.7 ล้านบาท คุณณัฐพร พรมแก้วงาม ผลิตผลงาน FYP มากกว่า 8.2 ล้านบาท คุณธีรพงศ์ ดอกกุหลาบ ผลิตผลงาน FYP มากกว่า 7 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีตัวแทนผู้ได้รับรางวัลที่ผลิตผลงาน FYP มากกว่า 5 ล้านบาทอีก 3 ท่าน ได้แก่ คุณแมรี่ ศิระ คุณปวริศา ขนอนคราม และคุณปฐวี บุญวิไล สำหรับพิธีมอบรางวัลจัดขึ้นภายใต้ธีม “The Reflection of Success” ณ ห้องเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ (อรุณอัมรินทร์) กรุงเทพฯ
คุณวุฒิดังกล่าวถือเป็นความภาคภูมิใจ และเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวแทนของบริษัทฯ ในการสร้างผลงานที่มีมาตรฐาน ในปี “2023 Year of Growth ปีแห่งการเติบโต” ที่มุ่งมั่นจะอยู่เคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลลูกค้า และฝ่ายขายทุกท่าน รวมถึงให้การสนับสนุน และยกระดับให้ฝ่ายขายประสบความสำเร็จในปีแห่งการเติบโตอย่างยั่งยืน ตามนโยบายหลักของบริษัทฯ ที่พร้อมอยู่เคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป
แอลพีเอ็นเดินหน้าผลักดันเป้าหมายการพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืนโดยเฉพาะมิติของสิ่งแวดล้อม
มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย มอบทุนการศึกษาประจำปี 2565 แก่นักเรียน นักศึกษาใน 4 ภูมิภาค ทั่วประเทศไทย