December 16, 2025

พร้อมเสริมแกร่งเครือข่ายครอบครัวนักวิจัยสตรีไทยในงาน Conversations with the Fellows

ออสสิริส (Ausiris) ผู้เชี่ยวชาญด้าน Gold Investment เผยแนวโน้มราคาทองคำเดือนพฤษภาคม ทองลุ้นไปต่อ หาก Fed ส่งสัญญาณใกล้จบการขึ้นดอกเบี้ยและแบงค์สหรัฐยังอยู่ในภาวะเสี่ยงล้ม

โออิชิ ราเมน (OISHI RAMEN) สร้างสรรค์เมนูใหม่ ภายใต้แนวคิด อร่อยเส้น อร่อยซุป ขอแนะนำ ใหม่ !!! โชยุ ทรัฟเฟิล ชาชู ราเมน ชวนสายราเมนสัมผัสประสบการณ์อร่อยแบบหอม ๆ กับวัตถุดิบคุณภาพ คัดสรรมาอย่างดี จัดเต็มทั้งราเมนญี่ปุ่น เส้นเหนียวนุ่ม เป็นเอกลักษณ์ ผสานน้ำซุปสูตรพิเศษ น้ำซุปโชยุ – ทรัฟเฟิล อร่อย...กลมกล่อม หอมกลิ่นทรัฟเฟิลมาก ๆ และหมูชาชูเบิร์นไฟ ชิ้นใหญ่ เต็มคำ ราคาชามละ 189 บาท หรืออร่อยสุดคุ้มกับ ชุดเมนู โชยุ ทรัฟเฟิล ราเมน อิ่ม ฟิน โชยุ ทรัฟเฟิล ชาชู ราเมน พร้อมเกี๊ยวซ่า เทมปุระ ซอสทรัฟเฟิลมาโย (2 ชิ้น) และเครื่องดื่มน้ำชาเขียว โออิชิ กรีนที แบบรีฟิล...เติมได้ไม่อั้น (1 แก้ว) ราคาพิเศษ ชุดละ 229 บาท (จากปกติ 260 บาท) นอกจากนี้ ยังมีเมนูอาหารรับประทานเล่นให้เลือกอร่อยเพิ่มเติมอย่าง เกี๊ยวซ่า เทมปุระ ซอสทรัฟเฟิลมาโย ราคาจานละ 89 บาท และ คาราเกะ ทรัฟเฟิล (เสิร์ฟคู่ซอสทรัฟเฟิลมาโย) ราคาจานละ 99 บาท อีกด้วย ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2566 – 31 กรกฎาคม 2566 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด

เอปสัน ชวนเพื่อนๆ ทำความรู้จักกับเทคโนโลยี Heat-Free ผ่านประสบการณ์ Augmented Reality (AR) เพียงสแกน QR Code หรือคลิกที่ลิงค์  https://ecotank-ar.com/?session =online แล้วส่องที่พื้นผิวเรียบ เช่น โต๊ะ หรือ กำแพง เพื่อพบน้องหมี EcoBear ที่จะมาบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเทคโนโลยีการพิมพ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่าง Heat-Free ในเครื่องพิมพ์เอปสัน EcoTank พร้อมรับโค้ดส่วนลด 100 บาท สำหรับซื้อเครื่องพิมพ์ Epson EcoTank ใน Epson Official Store บนร้านค้าออนไลน์อย่าง Shopee และ Lazada ร่วมสนุกและรับส่วนลดได้ตั้งแต่วันนี้ - 30 มิถุนายน 2566 ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ facebook.com/epsonthailand

อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เดินหน้าพัฒนาศักยภาพตัวแทน เตรียมจัดการแข่งขันยิ่งใหญ่ คัดเลือกผู้บริหารตัวแทนที่โดดเด่นและเข้าเกณฑ์ ร่วมรับการอบรมในหลักสูตรพัฒนาตัวแทนระดับเวิร์ลคลาสกับสถาบัน INSEAD จัดโดยความร่วมมือของ อลิอันซ์ เอเชีย แปซิฟิก และ INSEAD สถาบันการศึกษาด้านธุรกิจระดับท๊อปของโลก หวังเพิ่มทักษะและสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับวงการตัวแทนประกันชีวิตและสุขภาพให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในวันนี้และอนาคต

นายวิรงค์ พัฒนกำจร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานบริหารตัวแทน อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต กล่าวว่า หนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญในดำเนินธุรกิจของอลิอันซ์ อยุธยา คือ การสร้างตัวแทนที่มีความเป็นมืออาชีพ สามารถเป็นที่ปรึกษาที่ดี นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการด้านประกันชีวิตและสุขภาพที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้ดีที่สุด ความร่วมมือของ อลิอันซ์ เอเชีย แปซิฟิก และ INSEAD สถาบันการศึกษาด้านธุรกิจชั้นนำของโลก ในการจัดหลักสูตรอบรมตัวแทนครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสที่ดีมากที่อลิอันซ์ อยุธยา จะได้ส่งตัวแทนคุณภาพของเราถึง31ท่านเข้าร่วมเพื่อรับความรู้ใหม่ในการพัฒนาตนเองในฐานะตัวแทน และจะสามารถนำความรู้อันมีค่าเหล่านี้กลับมาพัฒนาทีม และตัวแทนรุ่นใหม่ต่อไปในอนาคต

หลักสูตรอบรมตัวแทนระดับเวิร์ลคลาสนี้ เป็นหลักสูตร 6 เดือน ที่มอบเป็นรางวัลให้กับตัวแทนที่มีผลงานยอดเยี่ยมผ่านเกณฑ์ที่บริษัทฯกำหนดในทั้ง 7 ตลาดของอลิอันซ์ในภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ จีน อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา ไต้หวัน  และไทย โดยตัวแทนที่ได้รับการคัดเลือกจะได้เข้ารับการอบรมในแบบออนไลน์และออฟไลน์ ณ ประเทศสิงคโปร์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย อีกทั้ง ตัวแทนที่ทำผลงานได้ดีที่สุด 1 ท่าน จะได้รับโอกาสบินลัดฟ้าไปเยี่ยมชมและรับประกาศนียบัตรที่แคมปัสของ INSEAD ณ เมืองฟงแตนโบล ประเทศฝรั่งเศส อีกด้วย

หลักสูตรนี้เน้นเนื้อหาที่ครอบคลุมครบถ้วนสำหรับตัวแทนมืออาชีพ ตั้งแต่ความเป็นผู้นำขององค์กรและการบริหารจัดการลูกค้า ไปจนถึงการตลาด กลยุทธ์การขายและธุรกิจ โดยมีอาจารย์มหาวิทยาลัยและผู้นำในอุตสาหกรรมประกันมาร่วมสอนและฝึกอบรม ตัวแทนที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมหลักสูตร จะได้รับการฝึกฝนทักษะและได้รับความรู้ใหม่ทันยุคสมัยเพื่อยืนอยู่ในแถวหน้าของอุตสาหกรรมที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และยังจะได้ทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมวิชาชีพจากภูมิภาคอื่นๆ และขยายเครือข่ายผ่านการเรียนรู้ร่วมกัน มุ่งเน้นสร้างประสบการณ์การเรียนรู้แบบองค์รวมให้แก่ตัวแทน รวมถึงเร่งสร้างผู้นำยุคใหม่ให้กับอุตสาหกรรมประกัน

อนุชา ทวารัจจ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประจำภูมิภาค อลิอันซ์ เอเชีย-แปซิฟิก กล่าวว่า “หลักสูตรนี้เป็นความร่วมมือระหว่างองค์กรชั้นนำระดับโลกสององค์กร เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ตัวแทนของอลิอันซ์ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาและลงทุนในบุคลากรตัวแทน เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับ INSEAD เพื่อมอบทักษะแห่งอนาคตให้แก่ตัวแทนและสร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมประกัน และเชื่ออย่างยิ่งว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในการพัฒนาบุคลากรที่มีความสามารถสูงสุด และพัฒนาตัวแทนยุคใหม่เพื่อสร้างช่องทางการขายที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น”

ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://we.tl/t-q6XW6LuDTG  

ข้อมูลจาก Opensignal แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้ได้สัมผัสกับความเร็ว 5G ที่สูงขึ้นพร้อมได้รับประสบการณ์วิดีโอ 5G ที่ดียิ่งขึ้นเมื่อเชื่อมต่อผ่านย่านความถี่ n41 (2.6GHz) และมีผู้ใช้ย่านความถี่นี้กันมากขึ้นซึ่งเป็นความถี่ที่เกิดจากการควบรวมกิจการของ DTAC และ TrueMove H ส่งผลให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ดียิ่งขึ้น

การวิเคราะห์ครั้งใหม่นี้ Opensignal ได้เปรียบเทียบประสบการณ์การเชื่อมต่อ 5G ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนบนเครือข่ายมือถือของผู้ให้บริการต่าง ๆ ของประเทศไทยในเดือนธันวาคม 2565 และเดือนมีนาคม 2566 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนและหลังการสิ้นสุดกระบวนการการควบรวมกิจการระหว่าง DTAC และ TrueMove H ในเดือนมีนาคม 2566

ผู้ใช้เครือข่าย AIS ได้รับประสบการณ์การเชื่อมต่อ 5G ด้วยความเร็วเฉลี่ยสูงสุดด้วยคลื่นความถี่ 42.7 MHz จึงเป็นเครือข่ายที่มีความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุด ขณะเดียวกันเมื่อเดือนธันวาคม 2565 ผู้ใช้เครือข่าย DTAC ได้พบกับความเร็ว 5G ในระดับต่ำมาก เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ให้บริการเครือข่ายอีกสองรายในประเทศไทย ทว่าช่วงเวลาของการควบรวมกิจการในเดือนมีนาคม 2566 เราสังเกตเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงด้านความเร็วอย่างมีนัยยะของประสบการณ์ต่าง ๆ ของ DTAC เมื่อผู้ใช้เชื่อมต่อผ่านย่านความถี่ 2.6GHz

ผู้ให้บริการเครือข่ายในประเทศไทยใช้ย่านความถี่ 5G อยู่สองประเภทคือย่านความถี่ n28 (700MHz) และย่านความถี่ n41 (2.6 GHz) โดยแบบแรกจะให้ความถี่ครอบคลุมในช่วงกว้างกว่าและแบบที่สองจะให้ความจุข้อมูลสูงกว่า สิ่งนี้เองที่ทำให้มีปริมาณข้อมูลและความเร็วที่เพิ่มขึ้นสำหรับผู้ใช้มือถือ

มีความแตกต่างอย่างมีนัยยะสำคัญของการถือครองคลื่นความถี่ของผู้ให้บริการเครือข่ายทั้งสามรายในประเทศไทย ขณะที่ AIS และ TrueMove H เป็นผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ความถี่ 100 MHz และ 90 MHz ในความถี่ 2.6GHz นั้น DTAC กลับไม่ได้ถือครองกรรมสิทธิ์ในคลื่นความถี่ใดในย่านความถี่นี้ใน การประมูลคลื่นความถี่ประจำปี 2563 — จึงเป็นผลทำให้สามารถกระจายสัญญาณ 5G ในย่านความถี่ 700 MHz ได้เท่านั้น โดยข้อมูลนี้เป็นข้อมูลที่เราสังเกตมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565 และในรายงานประสบการณ์เครือข่ายมือถือประจำประเทศไทยครั้งล่าสุดนี้ ที่ผู้ใช้เครือข่าย DTAC ของเรา ได้พบกับค่าเฉลี่ยความเร็วในการดาวน์โหลด 5G ในระดับต่ำมากเมื่อเปรียบเทียบกับการเชื่อมต่อบน AIS และ TrueMove H ประมาณ 30Mbps 

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปในเดือนมีนาคม 2566 ในช่วงการสิ้นสุดกระบวนการการควบรวมกิจการระหว่าง DTAC และ TrueMove H  ขณะที่ทั้งสองบริษัทยังไม่ได้ถูกควบรวมให้อยู่ภายใต้เครื่องหมายการค้า True Corp ใหม่อย่างเต็มรูปแบบและการควบรวมเครือข่ายยังคงอยู่ในขั้นตอนการดำเนินงาน เราสังเกตเห็นว่าผู้ใช้ 5G บนเครือข่าย DTAC ในย่านความถี่ 2.6 GHz ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ TrueMove H ในเวลานี้ได้รับประสบการณ์ความเร็วในการดาวน์โหลด 5G เป็น 105.7 Mbps ซึ่งมีความเร็วสูงกว่าย่านความถี่ 700 MHz ถึงสามเท่า ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ ในเดือนมีนาคม 2566 ค่าเฉลี่ยโดยรวมในการดาวน์โหลด 5G ของ DTAC เพิ่มขึ้น 2.8 เท่า หากเทียบกับในเดือนธันวาคม 2565 แล้วนับว่ามีความเร็วเพิ่มขึ้นจาก 29.6Mbps เป็น 82.1Mbps สิ่งที่น่าสนใจคือ ความเร็วในการดาวน์โหลด 5G ของ TrueMove H บนความถี่ 2.6GHz นั้นลดลงจากในเดือนธันวาคม 2565 ที่ 102.5Mbps เหลือเพียง 83.9Mbps ในเดือนมีนาคม 2566 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการใช้ย่านความถี่ 2.6GHz ร่วมกันของทั้งสองบริษัท

Opensignal ได้พิจารณาพัฒนาการด้านแบนด์วิธคลื่นความถี่โดยเฉลี่ยของการเชื่อมต่อ 5G บนเครือข่ายของผู้ให้บริการในประเทศไทยระหว่างเดือนธันวาคม 2565 และเดือนมีนาคม 2566 พบว่าแบนด์วิธคลื่นความถี่ 5G โดยเฉลี่ยของเครือข่าย DTAC เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจาก 19.5MHz ในเดือนธันวาคม 2565 เป็น 22.9MHz ในเดือนมีนาคมซึ่งเพิ่มขึ้น 3.4MHz (17.1%) นับตั้งแต่เดือนธันวาคมเป็นต้นมา สำหรับผู้ใช้ที่เชื่อมต่อ 5G บนเครือข่าย AIS และ TrueMove H นั้นยังไม่พบการเปลี่ยนแปลงทางสถิติของค่าเฉลี่ยแบนด์วิธคลื่นความถี่ใด ๆ ในช่วงเดือนดังกล่าว

เมื่อพิจารณาสัดส่วนของการเปลี่ยนแปลงของ 5G ต่อย่านความถี่ในเดือนธันวาคม 2565 และเดือนมีนาคม 2566 ของผู้ให้บริการเครือข่ายต่าง ๆ แล้ว พบว่าเครือข่าย DTAC มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากโดยเปลี่ยนจากความถี่ 700MHz (n28) เป็น 2.6 GHz (n41) ขณะที่ในเดือนธันวาคม 2565 นั้น DTAC ยังคงใช้คลื่นความถี่ 700MHz ให้บริการ 5G แต่ในเดือนมีนาคม 2566 ในการอ่านค่า 5G ของเครือข่าย DTAC พบว่ามีการให้บริการบนคลื่นความถี่ 2.6GHz เพิ่มขึ้นเกือบ 80% ซึ่งเราไม่พบการเปลี่ยนแปลงลักษณะนี้กับเครือข่าย AIS และ TrueMove H ด้วยสัดส่วนของ 5G ในคลื่นความถี่ 700MHz ยังคงเป็นไปอย่างปรกติทั้งในเดือนธันวาคม 2565 และเดือนมีนาคม 2566 ซึ่งอยู่ในช่วง 8.6% และ 15.2% ตามลำดับ

แบนด์วิธความถี่ที่เพิ่มขึ้นไม่เพียงแต่ทำให้ความเร็วในการดาวน์โหลด 5G สูงขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยพัฒนาคุณภาพการบริการมือถือในด้านอื่น ๆ อีกด้วย Opensignal ได้วิเคราะห์คะแนนด้านประสบการณ์วิดีโอ 5G ตามคลื่นความถี่ 5G ที่ผู้ให้บริการเครือข่ายในประเทศไทยใช้เป็นหลัก พบว่าการเชื่อมต่อ 5G บนย่านความถี่ 2.6MHz ทำให้ผู้ใช้ 5G ชาวไทยได้รับประสบการณ์วิดีโอที่ดีกว่าการเชื่อมต่อบนย่านความถี่ 700MHz ด้วยค่าคะแนนที่แตกต่างกันในเดือนมีนาคม 2566 ในช่วงคะแนน 2.9 และ 3.2 สำหรับ DTAC และ TrueMove H ตามลำดับและ 6 คะแนนสำหรับ AIS

เช่นเดียวกับด้านความเร็วในการดาวน์โหลด 5G ในเดือนธันวาคม 2565 Opensignal ยังไม่พบการให้บริการ 5G บนย่านความถี่ 2.6GHz ของ DTAC แต่เดือนมีนาคม 2566 เราพบว่ามีการเชื่อมต่อ 5G บนเครือข่าย DTAC บนย่านความถี่นี้ และยังได้รับคะแนนประสบการณ์วิดีโอ 5G ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าการเชื่อมต่อบนย่านความถี่ 700MHz

ผู้ให้บริการรายใหม่มีศักยภาพเขย่าตลาดมือถือ

​เราพบว่าในประเทศอื่น ๆ ที่มีผู้ให้บริการรายใหม่เกิดขึ้นจากการควบรวมกิจการได้เปลี่ยนตำแหน่งของตนเองไปอย่างสิ้นเชิง จากการวิเคราะห์ล่าสุดถึงแนวโน้มการแข่งขันในอิตาลี แสดงให้เห็นว่าการควบรวมกิจการของ Wind และ Tre ในปี 2563 นำไปสู่การเกิดขึ้นของผู้ให้บริการใหม่ที่พลิกโฉมตลาดอิตาลีได้และยังคว้ารางวัลประสบการณ์เครือข่ายมือถืออีกหลายรางวัลในรายงานของ Opensignal

AIS ครองรางวัลในรายงานประสบการณ์เครือข่ายมือถือของประเทศไทยจาก Opensignal ที่เผยแพร่เมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 และ พฤศจิกายน 2565 โดยคว้ารางวัลชนะเลิศด้านความเร็ว 5G และรางวัลด้านประสบการณ์ทั้งหมด ส่วน DTAC และ TrueMove H จากกรณีการควบรวมกิจการที่ทำให้มีกรรมสิทธิ์ในคลื่นความถี่และโครงสร้างพื้นฐาน ตลอดจนฐานผู้ใช้ที่มากขึ้น ทำให้บริษัทกลายเป็นคู่แข่งสำคัญของ AIS ในด้านประสบการณ์เครือข่ายมือถือ


บทความโดย: โรเบิร์ต วิซีคอฟสกี้ นักวิเคราะห์อาวุโส Opensignal

บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ในฐานะผู้นำด้านบริษัทฯ ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม หรือ Green Insurer

ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ขอเชิญผู้ประกอบการและผู้สนใจเยี่ยมชมบูท EXIM BANK (บูท H7) รูปแบบ “สวนหลังบ้านเพื่อความยั่งยืน (Sustainability Urban Courtyard)” ในงาน “มหกรรมการเงินกรุงเทพ ครั้งที่ 23 (Money Expo 2023)” ระหว่างวันที่ 11-14 พฤษภาคม 2566 ณ อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี พบกับ “คลินิก EXIM เพื่อคนตัวเล็ก” เพื่อรับคำปรึกษาทางการเงิน แก้หนี้ และเติมทุนให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs และบุคคลทำธุรกิจที่สนใจจะเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจส่งออก ด้วยแพ็กเกจจัดเต็มพร้อมโปรโมชันพิเศษโดยเฉพาะธุรกิจเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ผลิตภัณฑ์ไฮไลต์ อาทิ

  • สินเชื่อ EXIM Green Start วงเงินสูงสุด 200 ล้านบาท ดอกเบี้ยต่ำสุด 4% ต่อปี พิเศษ! ลงทะเบียนในงาน ลดดอกเบี้ยปีแรก เหลือเพียง 75% ต่อปี
  • สินเชื่อ 1 SMEs วงเงินสูงสุด 3 ล้านบาท ดอกเบี้ยเริ่มต้น 25% ต่อปี พร้อมสิทธิพิเศษ ต่อที่ 1 ลดดอกเบี้ย 6 เดือนแรก 0.25% ต่อปี ต่อที่ 2 ฟรี! ค่าดำเนินการค้ำประกัน บสย. เมื่อสมัครและได้อนุมัติสินเชื่อภายใน 31 ก.ค. 66 และยื่นคำขอค้ำประกันภายใน 15 สิงหาคม 2566 พิเศษ! ธุรกิจเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดดอกเบี้ยตลอด 3 ปี เหลือเพียง 5% ต่อปี
  • สินเชื่อเอ็กซิมเติมทุนส่งออก (EXIM Export Ready Credit) วงเงินสูงสุด 20 ล้านบาท ดอกเบี้ยเริ่มต้น 25% ต่อปี พิเศษ! ธุรกิจเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดดอกเบี้ยปีแรก เหลือเพียง 4% ต่อปี

นอกจากนี้ EXIM BANK ขอเชิญ ช้อป ชม ชิม สินค้าส่งออกจากผู้ประกอบการ SMEs ของ EXIM BANK ประกอบด้วยของดีของอร่อยจากหลายจังหวัด สินค้าเพื่อคนรักสุขภาพ และเครื่องเงินแท้จากชนเผ่าอิวเมี่ยน จ.น่าน ตลอดงานทั้ง 4 วัน และพลาดไม่ได้มินิคอนเสิร์ตจาก “แพรวา ณิชาภัทร” ในวันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม 2566 เวลา 15.00-15.40 น.

บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้เรทติ้ง A+ จากการจัดอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทซึ่งจัดตั้งขึ้นใหม่จากการควบรวมกิจการ

บริษัท หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MST (Maybank Securities Thailand) นำโดย คุณอภิญญา องค์คุณารักษ์(กลาง) กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายงาน Investment Management  พร้อมด้วย คุณวีรพันธุ์ โรจน์ณัฐกุล(ที่ 2 จากซ้าย)  ผู้อำนวยการ ฝ่ายงาน Investment Management  และคุณณภัทร์ ภัทรานิตย์ (ที่ 2 จากขวา) ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายธุรกิจอนุพันธ์ ร่วมบรรยายแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ในหัวข้อ “ตั้งเป้าหมายแล้วไปให้ถึง ด้วย Investor Mindset" สร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการตั้งเป้าหมายทางการเงิน ให้กับบุคลากรและนักศึกษา เพื่อสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการตั้งเป้าหมายทางการเงินและการมีแนวความคิดต่อการลงทุนให้กับคนรุ่นใหม่ รวมถึงแนะนำการใช้งาน Maybank Invest แอปพลิเคชันที่ช่วยให้ทุกคนเป็นนักลงทุนที่แท้จริงได้ อีกหนึ่งเครื่องมือเพื่อช่วยตั้งเป้าหมายด้านการลงทุน  ได้รับเกียรติจาก อ.ดร.อัจฉริย์ กรมเมือง(ซ้าย)  อาจารย์ประจำหลักสูตรเศรษฐศาสตร์ธุรกิจและการจัดการ คณะบริหารธุรกิจ และผศ.ดร.โอปอล์ สุวรรณเมฆ(ขวา) รักษาการแทนรองคณบดีฝ่ายแผนและการเงิน คณะบริหารธุรกิจ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ร่วมฟังบรรยาย ณ คณะบริหารธุรกิจ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

X

Right Click

No right click