

บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ Bangkok Life Assurance จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
เพื่อร่วมฉลองวันคุ้มครองโลก Earth Day ในปีนี้ นิสสัน ประเทศไทย ตอกย้ำความสำคัญของความตระหนักรู้เรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของนิสสัน ควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคมทั้งภายในและภายนอกองค์กร เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและก้าวสู่เป้าหมายการสร้างสังคมคาร์บอนเป็นกลาง (Carbon Neutral)
นิสสัน ประเทศไทย ในฐานะศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ของนิสสันในอาเซียน เชื่อมั่นในพลังของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลง โดยการสรรค์สร้างนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และลงมือสร้างการเปลี่ยนแปลงที่จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน ขณะดียวกันก็ส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน นิสสันได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าและระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า เช่น เทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ รวมทั้งการส่งเสริมให้พนักงานและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเกิดความตระหนักรู้ในด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยที่นิสสันได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรทั้งในประเทศและทั่วโลก เพื่อพัฒนากระบวนการผลิต และเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งทำให้นิสสันได้รับรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียว ระดับที่ 4 วัฒนธรรมสีเขียว (Green Culture) จากกระทรวงอุตสาหกรรมในปี 2565 ที่ผ่านมา

นิสสัน ประเทศไทย ได้นำข้อปฏิบัติในการทำงาน และปลูกฝังจิตสำนึกของพนักงานในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทั้งในส่วนของสำนักงานและโรงงานผลิต เพื่อช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินงานใน 4 ด้าน และพัฒนาองค์กรไปสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง ได้แก่

สร้างค่านิยมในการคัดแยกขยะ (Waste Separation)
การคัดแยกขยะถือเป็นก้าวแรกในการรักษาสิ่งแวดล้อม เนื่องจากขยะแต่ละประเภทมีวิธีจัดการที่แตกต่างกันออกไป นิสสันจึงได้ส่งเสริมให้มีการคัดแยกขยะอย่างถูกต้องทั้งในสำนักงานและโรงงานผลิต โดยคัดแยกออกเป็นขยะรีไซเคิล ขยะทั่วไป ขยะเปียก และขยะอันตราย มีการนำขยะที่สามารถรีไซเคิลได้ไปผ่านกระบวนการรีไซเคิลเพื่อให้นำกลับมาสร้างประโยชน์ได้อีก และนำขยะที่แท้จริงไปกำจัด วิธีนี้สามารถช่วยลดปริมาณการเผาไหม้และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ

การรีไซเคิลน้ำเพื่อให้การปล่อยน้ำเสียเป็นศูนย์ (Water Recycling and Zero Water Discharge)
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 นิสสันประเทศไทยริเริ่มใช้ระบบบำบัดน้ำเสียและการหมุนเวียนน้ำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ ณ โรงงาน 2 ซึ่งเป็นสายการผลิตรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็ก เพื่อจัดการมลพิษทางน้ำ เริ่มจากการนำเทคโนโลยีบำบัดน้ำเสียแบบ Recycle Reverse Osmosis System มาใช้ในโรงงาน ซึ่งช่วยให้นำน้ำเสียจากกระบวนการผลิตที่บำบัดแล้วกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งได้รับประโยชน์จากการนำน้ำที่รีไซเคิลแล้ววันละกว่า 300 ลูกบาศก์เมตรมาใช้ในโรงงาน 2 ทำให้ไม่ต้องมีการปล่อยน้ำเสียสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ

เพิ่มพื้นที่สีเขียวผ่าน Tree Planting Project
นิสสัน ได้จัดกิจกรรมการปลูกต้นไม้ในพื้นที่โรงงานบนถนนบางนา-ตราด ก.ม. 21 และ 22 จ.สมุทรปราการ เพื่อเพิ่มอากาศบริสุทธิ์และพื้นที่สีเขียวให้กับสังคม ปัจจุบันพนักงานของนิสสันได้ร่วมกันปลูกต้นไม้ไปแล้วมากกว่า 900 ต้นในโครงการนี้ ช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจน ลดปริมาณฝุ่น pm 2.5 และช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ และยังคงสามารถบรรลุเป้าหมายการเพิ่มพื้นที่สีเขียวได้อย่างต่อเนื่อง

การใช้พลังงานสะอาดในการผลิตไฟฟ้าผ่านโครงการระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar rooftop project)
ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา คือ อีกหนึ่งนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนให้โรงงานผลิตรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ของนิสสันเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนมากขึ้น ด้วยการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาซึ่งมีพื้นที่มากกว่า 60,000 ตารางเมตร มีกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าสูงถึง 5.5 เมกะวัตต์เพื่อใช้ในการผลิต ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดพลังงานแล้ว ยังช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 5,100 ตันต่อปี ทำให้นิสสันเป็นหนึ่งในโรงงานในประเทศไทยที่มีฐานการผลิตพลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดและสามารถนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้อย่างเป็นรูปธรรมมากที่สุดในอุตสาหกรรมยานยนต์

“สำหรับนิสสันแล้ว ทุกๆ วัน คือวันคุ้มครองโลก คือวัน Earth Day นิสสันในประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนธุรกิจของเราไปข้างหน้าพร้อมกับเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันสังคมที่คาร์บอนเป็นกลาง นิสสันจึงส่งเสริมให้พนักงานทุกคนได้ตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทุกๆ วัน เราทำงานอย่างครบวงจร ทั้งในด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กระบวนการผลิตที่ยั่งยืนและหลีกเลี่ยงการเกิดมลภาวะโดยไม่จำเป็น และที่สำคัญ คือ การปลูกฝังให้พนักงานของเราตระหนักรู้และร่วมมือกันลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อมจนกลายเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง ทุกสิ่งที่เราทำในวันนี้ จะนำนิสสันก้าวไปสู่อนาคตของการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ได้อย่างแท้จริง” อิซาโอะ เซคิกุจิ ประธาน นิสสัน ประเทศไทย และ ประธาน นิสสัน ภูมิภาคอาเซียน กล่าว
นายอิทธิพล เลิศศักดิ์ธนกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ถ่ายภาพร่วมกับนายวรมน ขำขนิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิมแพค อิเลคตรอนส์ สยาม จำกัด (IES) และนายอโศก ลาวาซา รองประธานกรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank : ADB) พร้อมด้วยผู้บริหารจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (Japan International Cooperation Agency : JICA) ธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (Asian Infrastructure Investment Bank : AIIB) ธนาคารซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น (Sumitomo Mitsui Banking Corporation : SMBC) บริษัท ฮ่องกง มอร์เกจ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (Hong Kong Mortgage Corporation Limited : HKMC) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในงานฉลองความสำเร็จของโครงการมอนสูน วินด์ พาวเวอร์ ซึ่ง EXIM BANK จับมือสถาบันการเงินระดับโลกสนับสนุนเงินกู้ภายใต้ Syndicated Loan โดยมี ADB เป็นผู้จัดการวงเงินกู้ร่วม (Lead Arranger) วงเงินรวม 692.55 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่บริษัท มอนสูน วินด์ พาวเวอร์ จำกัด (Monsoon Wind Power Company Limited) ซึ่งเป็นบริษัทที่ก่อตั้งโดยความร่วมมือของ IES และบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) (BCPG) บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) (STP&I) บริษัท เอเซ็น รีนิวเอเบิล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (ACEN Renewables International Pte.Ltd.) มิตซูบิชิ คอร์เปอเรชั่น (Mitsubishi Corporation) และ SMP Group ซึ่งได้รับสัมปทานจากรัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมกำลังการผลิต 600 เมกะวัตต์ แขวงเซกองและแขวงอัตตะปือทางตอนใต้ของ สปป.ลาว เพื่อจำหน่ายไฟฟ้าไปยังเวียดนาม โดยมีกำหนดการก่อสร้างแล้วเสร็จและจำหน่ายไฟฟ้าภายในปี 2568 นับเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมแห่งแรกใน สปป.ลาว ซึ่งมีกำลังการผลิตสูงสุดในอาเซียน ณ บ้านปาร์คนายเลิศ กรุงเทพฯ เมื่อเร็ว ๆ นี้

EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ มุ่งดำเนินบทบาทธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย (Thailand Development Bank) โดยให้การสนับสนุนด้านการเงินแก่ธุรกิจเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG Economy) รวมทั้งโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียนครั้งนี้ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อนได้เทียบเท่า 748,767 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี สอดคล้องกับเป้าหมายของ EXIM BANK ในการร่วมมือกับประชาคมโลกลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิ์ให้เป็นศูนย์ (Net Zero Emission) มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) สร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศและโลกโดยรวม
หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) แนะนำแอปพลิเคชัน HUAWEI Notes เวอร์ชันใหม่
ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี คว้ารางวัลคะแนนสูงสุดประจำปี พ.ศ. 2565 ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนองค์กรสู่การธนาคารเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Banking) ครองอันดับหนึ่งการเงินที่เป็นธรรมต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 และ รางวัลพัฒนาการสูงสุด 5 ปี พ.ศ. 2561-2565 โดยนายกมลพันธ์ ลักษณา (ซ้าย) หัวหน้าการพัฒนาที่ยั่งยืน ทีเอ็มบีธนชาต เป็นผู้แทนรับมอบรางวัลจาก นางสาวสฤณี อาชวานันทกุล (ขวา) หัวหน้าคณะวิจัย แนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย ในงานเวทีสาธารณะ “เปิดคะแนน ESG ธนาคารไทย ปีที่ 5 ก้าวต่ออย่างไรให้ยั่งยืนและเป็นธรรม” จัดโดยแนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย (Fair Finance Thailand) ณ ศูนย์การเรียนรู้ ธนาคารแห่งประเทศไทย เมื่อเร็ว ๆ นี้
ทิพยประกันภัยเผยเตรียมมอบเงินสินไหมทดแทน ในวงเงินทุนประกันสูงสุด 15,000,000 บาท ตามเงื่อนไขความคุ้มครองของกรมธรรม์การเสียชีวิต แพนด้า “หลินฮุ่ย” ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ตามที่องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ทำประกันภัยกับทางทิพยประกันภัย ภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองการเสียชีวิต (หมีแพนด้า) โดยกรมธรรม์นี้มอบความคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม 2565 – 12 กรกฎาคม 2566 (ระยะเวลาเอาประกันภัย 1 ปี)
ทั้งนี้ทางทิพยประกันภัย ได้กำลังประสานกับองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อขอเอกสารผลการชันสูตรจากผู้เชี่ยวชาญของสาธารณรัฐประชาชนจีน หากทิพยประกันภัยได้รับเอกสารครบถ้วนแล้ว จะดำเนินการมอบสินไหมให้กับองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ต่อไป
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดตัวโครงการ “เอส เอ็ม อี เอ็กซ์ ต้นทุนต่ำ นำรักษ์โลก”