November 21, 2024

“เพราะเลือกที่จะทำวันนี้ให้ดีที่สุด จึงเลือกที่เรียนมากกว่าไปทำอย่างอื่น” นศ การจัดการ Executive MBA มทร.ธัญบุรี

February 16, 2020 11421

ด้วยเหตุผลที่ต้องการพัฒนาตัวเองให้พร้อมเสมอกับความเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

พิมนภัทร์ ฤทธิชัย ผู้ช่วยผู้จัดการสาขา ธนาคารกสิกรไทย สาขาหินกอง สระบุรี จึงตัดสินใจเข้าศึกษาต่อ โดยเลือกเรียนสาขาการจัดการ กลุ่มผู้บริหารระดับสูง (Executive Program) ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) โดยปัจจุบันกำลังศึกษาในปีที่ 2

เหตุผลที่ตัดสินใจเลือกมาเรียนที่ มทร.ธัญบุรี ก็เพราะชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของมหาวิทยาลัย และยังมีเหตุผลอื่นๆ ประกอบด้วยคือ เรื่องหลักสูตรและรูปแบบการเรียนการสอน ส่วนเหตุผลที่เลือกเรียนสาขาการจัดการ เป็นเพราะงานที่ทำอยู่ทำในส่วนของการบริหารคนบริหารงาน ซึ่งองค์กรเองก็มีระบบระเบียบที่มีมาตรฐานชัดเจนอยู่แล้ว จึงคิดว่าสามารถนำมาใช้ในการจัดการเกี่ยวกับงานได้

ทั้งนี้ พิมนภัทร์ กล่าวถึงเป้าหมายในการเรียนอย่างชัดเจนที่จะนำไปต่อยอดอย่างไรกับการทำงานในองค์กรและอนาคต โดยกล่าวว่า

“เป้าหมายตอนเริ่มมาเรียน รู้กันอยู่ว่าตอนนี้องค์กรธนาคารมีแนวโน้มที่จะเผชิญการท้าทายจากดิสรัปชั่น เราเริ่มรู้ตัวและเห็นสัญญาณอะไรหลาย ๆ อย่างว่าองค์กรเริ่มมีการปรับเปลี่ยน พอเราตัดสินใจมาเรียนก็ทำให้เข้าใจการบริหารธุรกิจและทิศทางของธุรกิจเศรษฐกิจมากขึ้น และเราก็มีเป้าหมายว่าเราจะพัฒนาตัวเราให้สามารถปรับตัวและอยู่ร่วมในองค์กรที่มีการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร หรือถ้าเราจะต้องไปอยู่กับองค์กรในที่ใหม่ ๆ หรือแม้แต่ต่อไปออกมาทำธุรกิจของตัวเองก็ตาม ความรู้ที่เรามี ตลอดจนคอนเนคชั่นจากเพื่อน ๆ ในชั้นเรียนก็จะทำให้เรามีโอกาสที่จะไปต่อในสายอื่น ๆ ได้ หรือมีแนวทางเพิ่มมากขึ้น กล่าวคือ ภายใต้การศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ทำให้เรามีความพร้อมมากขึ้นที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทาย ถ้าเกิดมีอะไรเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น หรืออย่างน้อยปริญญาโทก็เป็นอีกใบเบิกทางที่จะนำพาให้เราแตกไลน์ไปในเส้นทางอาชีพการงานสายอื่น ๆ ได้”

พอได้เริ่มเรียนไปได้สักระยะ พิมนภัทร์เล่าว่า เป้าหมายที่วางไว้ตอนแรกก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แต่ได้เห็นโอกาสเพิ่มขึ้น และที่ชัดเจนขึ้นไปอีกคือ การได้เห็นหัวข้อการเรียนที่สามารถเอามาปรับใช้ในชีวิตทั้งส่วนตัวและการทำงาน อีกทั้งได้มีโอกาสสัมผัสกับแนวคิดและรูปแบบการใช้ชีวิตของเพื่อนๆ ร่วมคลาส ซึ่งบางคนเป็นผู้บริหารระดับสูงและเจ้าของกิจการ

“ประสบการณ์ที่ได้รับจากการเรียนที่ มทร.ธัญบุรี เหนือความคาดหมาย เพราะจริง ๆ แล้วตอนเรียนปริญญาตรีเราจบทางด้านสารสนเทศ ซึ่งพอมาเรียนการจัดการก็ทำให้เข้าใจระบบขององค์กรมากขึ้น และสามารถนำมาใช้กับการทำงาน และยังได้ประสบการณ์จากในห้องเรียน การได้คอนเนคชั่นจากเพื่อนในห้องเรียนที่ดีมาก ๆ รู้สึกรักและสนิทกันมากเพราะเป็นคลาสขนาดเล็กไม่ใหญ่เกินไป ในชั้นเรียนมีกัน 13 คน มีความใกล้ชิด สนิทสนมทั้งในกลุ่มเพื่อนและอาจารย์ผู้สอน ทำให้มีความรู้สึกผูกพันกันเหมือนตอนเรียนปริญญาตรี ทั้งที่เรียนแค่เสาร์อาทิตย์ บางสัปดาห์ก็ไม่ได้เจอกันเลย อย่างเพื่อนบางคนก็เป็นผู้บริหารระดับสูง บางคนเป็นเจ้าของธุรกิจ ก็ทำให้เรามีความรู้สึกกล้าที่จะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ซึ่งก่อนหน้านั้นเวลาทำงานแล้วได้เจอลูกค้าที่เป็นผู้บริหารระดับสูง บ่อยครั้งที่เราก็ขาดความมั่นใจที่จะเข้าหาและสนทนา

แต่พอได้มาเรียนทำให้มีความกล้ามากขึ้น เพราะเราได้เรียนรู้ประสบการณ์จากเพื่อน ๆ ในห้องเรียนว่าเขาก็มีอีกมุมหนึ่งที่ไม่ใช่ในลักษณะเป็นผู้บริหาร และอาจารย์ก็น่ารักเป็นกันเอง เข้าถึงง่าย อาจเป็นเพราะว่าเราเรียนในระดับผู้บริหารจึงทำให้ดูกลมกลืนกัน อาจารย์ก็นำความรู้และประสบการณ์มาสอนกันจริง ๆ ซึ่งแตกต่างจากที่เคยคิดว่า นักศึกษากับอาจารย์จะต้องมีช่องว่างระหว่างกัน คิดว่าตัดสินใจถูกมาก ๆ กับการได้เลือกมาเรียนสาขานี้ รู้สึกโชคดีทุกครั้งที่มาเรียน ได้มารู้จักกับเพื่อน ๆ ในชั้นเรียน ที่ทำให้เรามีสังคมมีคอนเนคชั่นเพิ่มขึ้นมา”

ศึกษาดูงานประเทศเยอรมันและสวิตเซอร์แลนด์

ระหว่างศึกษาในหลักสูตร พิมนภัทร์ ยังได้มีโอกาสไปศึกษาดูงานที่ประเทศเยอรมันและสวิตเซอร์แลนด์ ถือเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้ง่ายนัก โดยพิมนภัทร์กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า

“เป็นความประทับใจมาก ๆ เพราะไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศมาก่อน เป็นครั้งแรกที่เดินทางไปต่างประเทศ สิ่งแรกที่อยากจะพูดเรื่องนี้เลยคือ เป็นเพราะมหาวิทยาลัยที่ทำให้เราได้มีโอกาสไป เพราะ connection ของมหาลัยเรา กับทางมหาวิทยาลัยที่ประเทศเยอรมัน ทำให้เราสามารถทำวีซ่าผ่านได้อย่างง่ายดาย ซึ่งโดยปกติจะใช้เวลานาน

เราได้ไปดูงานBENZ, PORCHE และ Freitag ได้ไปประเทศทางยุโรป คือ เยอรมันและสวิตเซอร์แลนด์ ได้เห็นความเจริญก้าวหน้า และโมเดลธุรกิจหลาย ๆ อย่าง ได้เห็นนวัตกรรมและรูปแบบการทำธุรกิจที่ไปดูงาน นอกจากนี้ก็ได้ไปเรียนรู้ในมหาวิทยาลัยที่เยอรมัน ซึ่งให้การต้อนรับเราดีมาก เป็นมหาวิทยาลัยที่มีโรงงานผลิตไวน์เป็นของตนเอง ได้ไปดูงานในส่วนที่ไพรเวทมาก อาจารย์ผู้บริหารของมหาวิทยาลัยที่นั่นได้นำพาคณะเราเข้าชมโรงผลิตไวน์และได้ชิมไวน์ตลอดเส้นทางภายในโรงงาน เป็นระยะเวลา 3 ชั่วโมงที่สุดยอดมาก ถ้าไม่ใช่ connection ของมหาวิทยาลัย คงเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนักที่คนทั่วไปจะได้เข้าไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์แบบนี้”

การต่อยอดหลังประสบการณ์ดูงานต่างประเทศ

“หลังจากที่ได้ไปดูงานที่ต่างประเทศ ได้แรงบันดาลใจต่องานโปรเจ็กต์ที่จะนำวิตามินเม็ดฟู่มาขายในบ้านเรา เพราะมีราคาถูกกว่าหลายเท่า ที่สำคัญตอนนี้มีเทรนด์ที่คนเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น เรารู้สึกสนใจมากจนถึงขั้นที่จะคิดจะทำกันเป็นธุรกิจจริง ๆ” เป็นคำบอกเล่าของ พิมนภัทร์ ซึ่งกล่าวต่อว่า

นอกจากนี้จากการไปดูงานในที่ต่าง ๆ สามารถนำมาต่อยอดกับงานของเราได้ อย่างเช่นจากการได้เห็นธนาคารในต่างประเทศที่แตกต่างจากบ้านเรา ซึ่งไม่ค่อยมีคนเข้ามาใช้บริการ จึงมองเห็นว่านี่แหละคืออนาคตธนาคารของบ้านเรา ที่เรียกว่า ดิสรัปชั่น คือการนำเทคโนโลยีมาทำงานแทนคนมากขึ้น ซึ่งเราก็ได้บอกน้อง ๆ ในสาขาว่า อย่าคิดว่าการมีงานน้อยลง มีลูกค้าน้อยลงแล้วจะดี นั่นหมายถึงเค้าลางของการที่สาขาอาจถูกปิดตัวลง สิ่งที่เราควรคิดและทำคือ เราต้องกระตือรือร้นทำอย่างไรให้มีลูกค้ามาทำธุรกรรมมากขึ้นในสาขา เพราะเมื่อองค์กรอยู่ได้ เราก็อยู่ได้ และองค์กรก็พัฒนาขึ้น หากองค์กรมีนโยบายให้ทำอะไร เราต้องรู้จักปรับตัว

พิมนภัทร์ ยังได้ให้ความคิดเห็นเวลาที่มี’ น้องๆ’ ที่กำลังพิจารณาและตัดสินใจเรื่องเรียนต่อ ที่ มทร.ธัญบุรี แห่งนี้ไว้ว่า

“หลังจากที่ได้มาเรียน MBA ที่นี่ ก็มีน้องๆ และอีกหลายคนมาถามว่าทำไมถึงเลือกมาเรียนที่นี่ เพราะเราทำงานอยู่ในองค์กรมา 9-10 ปีแล้วทำไมเพิ่งมาเรียน ทำไมไม่เก็บเงิน ซึ่งเราก็ตอบไปว่า เพราะอยากพัฒนาตัวเอง เพื่อเตรียมตัวเพราะไม่ว่าอะไรจะเปลี่ยนแปลง เราก็สามารถก้าวทันยุคสมัย ไม่ล้าหลัง และพิมนภัทร์มองว่าสำหรับสังคมไทยใบปริญญาก็ยังสำคัญเสมอเพราะเป็นเหมือนใบเบิกทางให้กับเรา และหลักประกันที่รับรองความรู้และความสำเร็จ และอยากขอบคุณทุกๆ คน ขอบคุณทุก ๆ สิ่งที่ทำให้ได้มาเรียนที่นี่ และเชื่อว่าน้องๆ ที่ตัดสินใจเข้าเรียนที่นี่จะไม่ผิดหวัง”

เมื่อถูกถามถึง คติประจำใจหรือแนวคิดในการดำเนินชีวิต พิมนภัทร์ กล่าวสั้นๆ ว่า

ทำวันนี้ให้ดีที่สุด จะได้ไม่เสียใจว่าเราไม่ได้ทำมัน ซึ่งการได้เลือกที่จะมาเรียนมากกว่าที่จะไปทำอะไรอย่างอื่นหรือไปเที่ยวที่นั่นที่นี่ในวันเสาร์อาทิตย์ก็ทำให้เราได้รับโอกาสดี ๆ และสิ่งดี ๆ หลายอย่างตามมาในวันนี้


เรื่อง: กองบรรณาธิการ

ภาพ: ภัทรวรรธน์ พงษ์บริพันธ์

Rate this item
(2 votes)
Last modified on Sunday, 16 February 2020 08:10
X

Right Click

No right click