เมื่อจับจุดได้ว่าธุรกิจจะขับเคลื่อนได้ต้องอาศัยองค์ประกอบหลายอย่าง แต่ในหนึ่งอย่างที่อยู่ในความสนใจและในสายตาของ สัมมา ศรีปรัชญาอนันต์ หรือ หั่ง นั่นคือเรื่อง การตลาด หรือ Marketing ที่เขามองว่ามัน คือสิ่งที่อยู่ในด้านที่เป็น FORWARD LOOKING หากสักวันจะลุกขึ้นมาทำธุรกิจจำเป็นยิ่งที่จะต้องรู้ จึงเป็นที่มาของการล็อกเป้าหมายเพื่อก้าวไปสู่ Top U ที่โด่งดังด้านการตลาด คือ Kellogg School of Management ; Northwestern University
หลังเรียนจบสาขา Economic จาก University of California,Berkeley ในปี 2013 หั่ง เริ่มสั่งสมประสบการณ์ทำงานทันที โดยเริ่มต้นที่ Baker Mckenzie ที่ทำให้ได้รับการปูพื้นฐานทั้งทักษะในงาน และที่ได้มากไปกว่านั้นคือสายสัมพันธ์เพื่อนร่วมงานอันดี หลังจากนั้นอีก 2 ปี ความสนใจได้หันไปที่ธุรกิจ e-commerce และได้ย้ายไปรับตำแหน่งใหม่ที่เรียกว่า Entrepreneur-in-residence ของบริษัท Shoppee ธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่แตกไลน์ออกมาของ Garena
Q: วางแผนและเตรียมตัวอย่างไรถึงผ่านด่านเข้าได้ที่ Kellogg
A: เตรียมตัวอย่างแรกคือ
Determination ที่ต้องเยอะและต้องชัด เพราะมันยาก และเหนื่อยมาก ตอนสอบ GMAT ต้องอดทนมาก และสองคือ ต้องหา recommender ที่ดีและมีเวลา เพื่อช่วยเราเขียน
recommendation letter เพราะการทำ Application นั้น story ของจดหมายแนะนำตัว รวมถึง Personal statement ของเรา มันต้องไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้เกิด complete picture
Q: ใครช่วยเขียน Recommendation letter
A: เป็นหัวหน้าเก่าที่ Mckenzie ที่ช่วยทั้งคำแนะนำและเขียนจดหมายแนะนำตัวให้ เพราะหัวใจสำคัญประการหนึ่ง คือการค้นหา Strong points ว่าเรามีอะไร และไกด์ให้เราเขียนในข้อดี และจุดแข็งของเราออกมาให้ได้ด้วย
Q: ขอ 3 ข้อที่คิดว่าเป็น คีย์พอยที่น่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ Kellogg ตอบรับเรา
A: คิดว่า ข้อแรกคือ Goal หลังเรียนจบ ที่ค่อนข้างชัด คือต้องการมาขยายธุรกิจของครอบครัว มีความเป็น Entrepreneur drive อยู่ ส่วนข้อที่สอง คิดว่าน่าจะเป็น back ground ทั้งที่ Mckenzie ที่เป็นบริษัทใหญ่และเป็นที่รู้จัก กระทั่งงานปัจจุบันในด้าน E-commerce ก็เป็นธุรกิจที่อยู่ในเทรนด์ที่กำลังเป็นที่สนใจ ส่วนข้อ สาม ผมคิดว่าน่าจะเป็น มุมมองที่ โชว์ไว้ใน Application ที่ผมเป็นคนที่ชอบ contribute ให้กับส่วนรวม ผมเป็นคนที่ชอบมีส่วนร่วมกับกิจกรรมต่างๆ ตั้งแต่อยู่โรงเรียน หรือ สมัยเรียนมหาวิทยาลัยก็เข้าร่วมคลับทั้ง Academic และ Social อยู่ตลอด ตอนอยู่ Berkeley ก็เป็นสมาชิกของ Business Club มีส่วนร่วมเป็น pre-advisor ให้กับคลับ ซึ่งสำหรับ การจะไป MBA ที่ Kellogg แน่นอนว่าผมก็อยากจะมีส่วนร่วมกับกิจกรรมที่มีอีกเช่นเคย
Q: คาดหวังอะไรจากการไปเรียน Top U ที่ Kellogg
A: การไปอเมริกา โดยเฉพาะ MBA ระดับ Top อย่าง Kellogg มันจะได้ Diversity อย่างหนึ่งละ และอีกอย่างคือผมมั่นใจว่า Classmate จะ qualify มากๆ ผมคาดหวังอยากได้ยินได้ฟัง อะไรที่แปลกๆ เพราะเชื่อว่าแต่ละคนจะเป็น Top จากอินดัสทรีส์ต่างๆ เพราะ MBA มันเป็นหลักสูตรที่ Sharing เสียส่วนมาก การที่เราจะได้ร่วมคลาสกับคนที่เก่งๆ เคยแก้ปัญหายากๆ ได้รับฟังวิธีการ Solve ปัญหาว่าเขาทำยังไง เหล่านี้ผมคิดว่ามันมีคุณค่ามาก และอีกอย่าง ผมคิดว่า หลักสูตรการศึกษา มัน drive ด้วยคนสอน และที่มหาวิทยาลัยระดับ Top เขาจะมี professor ที่เก่งๆ ที่จะมี way หรือมี case ที่เขาสามารถแชร์ได้เยอะ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนมาก
Q: อีก 5 ปี คิดว่าเราอยู่ที่ไหน
A: เมืองไทยแน่นอน ยังไงกลับมาแน่ และทางบ้านก็คาดหวังให้กลับมาช่วย