December 06, 2025

‘บมจ. ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป’ หรือ THG ลงนามเอ็มโอยูกับ ‘วิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข จุฬาฯ ร่วมมือยกระดับมาตรฐานการพัฒนาและผลิตสกัดกัญชง กัญชา เพื่อใช้ทางการแพทย์เชิงวิจัยพร้อมให้การสนับสนุนแบบครบวงจร ครอบคลุมต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ ตั้งแต่การพัฒนาสายพันธุ์ สนับสนุนเกษตรกรเพาะปลูก จัดตั้งโรงสกัด แล็บทดสอบ เทคโนโลยีการผสมและผลิต การจัดจำหน่าย ตลอดจนส่งเสริมสถาบันการศึกษาให้เกิดการพัฒนาด้านวิชาการอย่างต่อเนื่อง

นายแพทย์บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ผู้นำธุรกิจดูแลสุขภาพอย่างครบวงจรและบริการที่มีคุณภาพด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ภายใต้แนวคิด ‘ดูแลคุณในทุกช่วงชีวิต’ (Lifetime Health Guardian for All) เปิดเผยว่า จากวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ที่ต้องการยกระดับมาตรฐานกัญชงและกัญชาในประเทศไทยเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ โดยเฉพาะการนำไปใช้ในทางการแพทย์ ที่ต้องให้ความสำคัญตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ ครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนาสายพันธุ์ที่ดี เพาะปลูก การสกัดสารสำคัญ การนำสารสกัดไปใช้เพื่อการผลิตเวชภัณฑ์ยาที่ได้มาตรฐาน ล่าสุดบริษัทฯ จึงได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความเข้าใจ (Memorandum of Understanding: MOU) กับศูนย์วิจัยยาเสพติด วิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นก้าวสำคัญที่นำไปสู่ความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และสนับสนุนการเพาะปลูก วิจัย สกัด และตรวจวิเคราะห์ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพระดับ Medical Grade สามารถนำไปใช้ทางการแพทย์และจำหน่ายเชิงพาณิชย์ และยังส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาด้านการศึกษาพืชกัญชงและกัญชาเพิ่มมากขึ้น โดยบริษัทฯ พร้อมสนับสนุนด้านการจัดหาเทคโนโลยีในการจัดตั้งโรงสกัดสารจากกัญชาที่มีมาตรฐานในระดับการแพทย์ (Medical Grade) สามารถสกัดสารสำคัญต่างๆ อย่างมีคุณภาพและมีมาตรฐานความปลอดภัยสูง ตลอดจนการตรวจสอบคุณภาพ ตรวจสอบระดับสารสำคัญต่างๆ ตรวจสอบสารปนเปื้อน เพื่อนำไปสู่การออกใบรับรองมาตรฐานระดับ Medical Grade นอกจากนี้จะสนับสนุนการจัดหาเทคโนโลยีด้านการผสมสารสกัดจากพืชกัญชง กัญชาและการพัฒนาเวชภัณฑ์ยาเพื่อใช้ทางการแพทย์ รวมถึงดูแลด้านการตลาด และการจัดจำหน่าย

“ในระยะแรกเรามุ่งไปที่การสนับสนุนด้านการพัฒนาเมล็ดพันธุ์ ปัจจัยสนับสนุนการปลูก และการจัดตั้งโรงสกัดสารจากกัญชาที่ได้มาตรฐาน จากนั้นจะเป็นการขยายการปลูก และกำลังการผลิต คาดว่าโครงการนี้จะมีมูลค่ารวมกว่า 500 ล้านบาท โดยอาจมีพันธมิตรร่วมกันลงทุน โดยเชื่อว่าความร่วมมือนี้ จะเป็นประโยชน์กับการแพทย์ไทย ที่จะเปิดโอกาสให้คนได้เข้าถึงทางเลือกในการรักษาโรค โดยมีผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง ได้มาตรฐาน อีกทั้งยังช่วยสนับสนุนภาควิชาการ เพิ่มขีดความสามารถการวิจัย ส่งเสริมการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง” นายแพทย์บุญ กล่าว

ศาสตราจารย์ ดร.สถิรกร พงศ์พานิช  คณบดีวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า   ‘ศูนย์วิจัยยาเสพติด’ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข จุฬาฯ (Drug Dependence Research Center (DDRC) เริ่มดำเนินงานตั้งแต่ปีพ.ศ. 2515 จนถึงปัจจุบัน นับเป็นเวลา 49 ปี โดยองค์การอนามัยโลกได้แต่งตั้งให้เป็น WHO Collaborating Centre for Research and Training in Drug Dependence (WHOCC) แห่งเดียวในประเทศไทย

‘ศูนย์วิจัยยาเสพติด’ มีวิสัยทัศน์ เป็นองค์กรชั้นนำในการศึกษาวิจัย การสร้างนวัตกรรม และการเชื่อมโยงข้อมูล/องค์ความรู้ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับสากล ด้านปัญหายาเสพติดรวมถึงผลเกี่ยวเนื่อง และผลกระทบด้านสุขภาพที่สำคัญ ‘ศูนย์วิจัยยาเสพติด’ ได้ขยายการดำเนินงานไป ณ โครงการพัฒนาที่ดินจุฬาฯ – สระบุรี ภายใต้โครงการวิจัยกัญชา : เชิงสังคมและเชิงวิทยาศาสตร์และแนวทางกฎหมายตามยุทธศาสตร์ความมั่นคงของประเทศ สนับสนุนทุนโดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) จึงเป็นที่มาของการวิจัยกัญชาเพื่อพัฒนาสายพันธุ์ที่เหมาะสมสำหรับใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ การเพาะปลูกแบบชีวภาพ รวมทั้งการสร้างระบบ วิธีการ ติดตามควบคุมกัญชา  

สำหรับการวิจัยและพัฒนากัญชาของศูนย์วิจัยยาเสพติด วิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข จุฬาฯ ในช่วงที่ผ่านมา เริ่มต้นตั้งแต่การพัฒนาสายพันธุ์ที่เหมาะกับสภาพอากาศในประเทศไทยเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ มีสารสกัดในสัดส่วนที่เหมาะสมเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ซึ่งจำเป็นต้องมีระบบการควบคุมดูแลที่ดี ตั้งแต่กระบวนการเพาะปลูก การเตรียมดินและปุ๋ยชีวภาพ เพาะปลูกในอุณหภูมิและระดับความชื้นที่เหมาะสม การพัฒนาสายพันธุ์และเมล็ดพันธุ์ การสกัดสารที่สำคัญต่างๆ และการวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ

 

ศาสตราจารย์ ดร. จิตรลดา อารีย์สันติชัย รองคณบดีวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข จุฬาฯ และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยยาเสพติด กล่าวว่า ศูนย์วิจัยยาเสพติด แห่งนี้ ในระยะแรกประสบความสำเร็จในการปลูกแบบชีวภาพ ควบคุมปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลต่อการปลูกกัญชา การพัฒนาสายพันธุ์กัญชา ที่สามารถเพาะปลูกกลางแจ้ง (Outdoor) ภายใต้สภาพภูมิอากาศร้อนชื้น ตลอดจนได้ทดลองเพาะปลูกกัญชาในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งการเพาะปลูกในพื้นที่ในร่ม (Indoor) และเพาะปลูกในโรงเรือน (Greenhouse) ตลอดถึงการศึกษาปรับปรุงสายพันธุ์ที่เหมาะสมกับการเพาะปลูกรูปแบบต่าง ๆ และวิธีการจัดเก็บสารสกัดที่สำคัญต่างๆ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ มุ่งสู่เมดิคัลเกรด เพื่อประโยชน์สูงสุดทางการแพย์

“เรายินดีที่ THG เข้ามาร่วมมือและให้การสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาการผลิต สกัดกัญชงและกัญชารวมถึงกระท่อมและพืชเสพติดอื่น เพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ในระดับพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม ซึ่งจะต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้สายพันธุ์ที่ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งต่อยอดสู่การจัดตั้งโรงสกัด การจัดตั้งห้องแล็บเพื่อเป็นศูนย์ทดสอบ การจัดหาเทคโนโลยีด้านการปรุงและการผลิต รวมถึงการจัดจำหน่าย เพื่อดำเนินการอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ” ศาสตราจารย์ ดร.สถิรกร กล่าว  

SCG HOME พร้อมลุยธุรกิจรีเทลตอบโจทย์ความต้องการเชิงลึกของลูกค้า ผ่านสินค้าและบริการ พร้อมช่องทางหลากหลาย

บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) สนับสนุนให้ทุกคน Celebrate living ออกไปใช้ชีวิตในแบบที่ชอบได้ง่ายๆอย่างไร้กังวล

เมื่อเร็วๆ นี้ หน่วยงานกำกับดูแลด้านยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพของสหราชอาณาจักร (MHRA) และหน่วยงานกำกับดูแลด้านยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพของยุโรป (EMA)

บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จัดงานมอบรางวัลเกียรติยศนักขายประจำปี Krungthai-AXA Agency Annual Award 2019/2020 แบบนิว นอร์มอล (New Normal)  โดยได้รับเกียรติจาก ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับ และส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) (คนกลาง) คุณสมชัย บุญนำศิริ ประธานกรรมการ (คนที่ 2 จากขวา) และนางแซลลี่ โอฮาร่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต (คนที่ 2 จากซ้าย) ร่วมเป็นประธานในพิธี และมอบรางวัลแก่ตัวแทนที่สร้างผลงานยอดเยี่ยมตลอดปี 2562 และ 2563 ที่ผ่านมา ภายใต้ธีม “Ascending Beyond Success ทะยานเหนือความสำเร็จ” ที่เปรียบความสำเร็จของตัวแทนเป็นพลังในการพุ่งทะยานสู่การเฉลิมฉลองชัยในครั้งนี้ โดยมีคณะผู้บริหาร และพลังตัวแทน เข้าร่วมงานกว่า 1,400 คน ณ ห้องภิรัช ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมไบเทค บางนา และผ่านช่องทางออนไลน์

เพราะความรู้เปลี่ยนโลกได้ และผู้ที่จะอยู่รอดได้คือผู้ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้ดีที่สุด

“เกรียนไซเบอร์ฯ ปี 2” ดีใจเด็กอาชีวะวัยเกรียน ตระหนักรู้และใช้สื่อสังคมออนไลน์ทุกช่องทางอย่างถูกต้องและเหมาะสม

ดร.แนบบุญ หุนเจริญ หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า  คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ภาควิชาไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบริษัท ฮิตาชิ เอบีบี เพาเวอร์ กริดส์ ในประเทศไทย ได้มีความร่วมมือในโครงการ Supporting Apprentice Students Program โดยจะดำเนินจัดนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจำนวน 16 คน เข้าฝึกงานที่บริษัทฯ เป็นระยะเวลา 360 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2564 ถึงวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 

ปัจจุบันการเรียนรู้มีบริบทเปลี่ยนไป จากเดิมเรียนผ่านอาจารย์ ศึกษาจากห้องเรียน และเปลี่ยนรูปแบบไปหลังสถานการณ์โควิด ทำให้การเรียนออนไลน์เป็นเรื่องปกติ โครงการ Supporting Apprentice Students Program จึงเป็นโครงการที่จะทำให้นิสิตได้รับโจทย์จริงของภาคอุตสาหกรรม ได้รับการฝึกฝนเรียนรู้ในรูปาแบบต่างๆ ได้ทำจริง ในภาคอุตสาหกรรม  ได้ความรู้ในการบริหารจัดการเทคโนโลยีจริง เพื่อนำไปใช้ในชีวิตการทำงานในอนาคต และเป็นโครงการจะสร้างบุคลากรในสังคม ให้คิดอะไรมากกว่าเรื่องของตนเอง เป็นการคิดเพื่อผู้อื่น เพื่อสังคม เป็นการตอบโจทย์การพัฒนาที่ยั่งยืนที่สำคัญต่อโลก

ดร.ประดิษฐพงศ์ สุขสิริถาวรกุล Director & Vice President บริษัท ฮิตาชิ เอบีบี เพาเวอร์ กริดส์ ในประเทศไทย  กล่าวว่า โครงการในครั้งเป็นเป็นโครงการพัฒนาระบบการฝึกงานของทางบริษัทให้มีมาตรฐานระดับโลก พร้อมเพิ่มประสิทธิผลของการดำเนินการสูงสุด ด้วยการให้นิสิตสามารถเลือก พัฒนา และเรียนรู้ในขอบเขตงานเฉพาะทางด้านวิศวกรรมตามที่ตนเองสนใจ อาทิ 

  1. Grids Edge Solutions, Microgrid & Battery Energy Storage System (BESS) and e-mesh™
  2. SCADA and Control Systems, Substation Automation, Protection & Control
  3. High Voltage Switchgear & Breakers, Instrument Transformer Surge Arrester, Capacitor & Filters and Generator Circuit Breakers
  4. Power Transformers and TXpert™ Ecosystem
  5. FACTS & HVDC
  6. Substation & Electrification and Digital Substation with SAM 600
  7. Power Quality
  8. Overvoltage & Controlled Switching (Capacitor, Line and Shunt Reactor)
  9. Grid E-Motion Fleet (E-mobility) and TOSA E-bus
  10. Smart Grids and Virtual Power Plants (VPP)
  11. Enterprise Software and The Digital Energy Transformation

 

"การฝึกงานครั้งนี้ก็มีการฝึกที่ออฟฟิต ราชดำริ โรงงานก็มีที่บางปู สมุทราปราการ นอกจากนั้นก็มีการฝึกนอกพื้นที่ และมีมาตรการ train from home ซึ่งมีหลายรูปแบบเป็นวิดีโอจากผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐอเมริกา จากยุโรป  นักศึกษารุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่ 4 ที่ได้มาฝึกกับ ABB เพาวเวอร์กริดส์   บริษัทฯ มีความยินดีและหวังว่า  เป็นประโยชน์ต่อนิสิตที่จำนำความรู้ประสบการณ์ที่ได้รับไปใช้ในการเรียน ศึกษาเพิ่มเติม และตอนนี้เรากำลังทำดิจิทัลทรานฟอร์มเมชั่น ซึ่งเป็นการนำดิจิทัลเข้ามาใช้ในพลังงาน นิสิตทุกคนที่เข้ามาฝึกงานจะได้เข้ามาเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่นการนำเอไอ แมชชีนเลิร์นนิ่ง บล็อกเชน ไซเบอร์ซีเคียวลิตี้ คราวน์ สิ่งเหล่านี้นิสิตจะได้รับเพิ่มจากบริษัทฯ การเรียนรู้จะได้ทั้งฮาร์ดแวร์ และซอฟแวร์" ดร.ประดิษฐ์พงศ์ กล่าว

พร้อมชวนผู้ที่สนใจ ร่วมประกวดออกแบบบอร์ดเกม ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 300,000 บาท

ดีแทคเผยกลยุทธ์ 2564 ยกระดับสู่องค์กรที่มีศักยภาพพร้อมยืนหยัดทุกสถานการณ์ ช่วยผู้ใช้งานมือถือให้พร้อมในการสร้างโอกาสจากเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล

X

Right Click

No right click