ผู้ให้บริการเทคโนโลยีดิจิทัลแบบครบวงจรชั้นนำของไทย รุกขยายบริการ “สมาร์ท เซฟตี้ แพลตฟอร์ม” (Smart Safety Platform) ชูจุดแข็งบริหารจัดการความปลอดภัยรอบด้าน ประมวลผลเร็ว แม่นยำ รองรับการใช้งานทั้ง Website และ Mobile Application สามารถมอนิเตอร์ สั่งการ พร้อมแจ้งเตือนได้เรียลไทม์ ทุกที่ทุกเวลา มั่นใจตอบโจทย์การพัฒนาสมาร์ทซิตี้และส่งเสริมภาคการท่องเที่ยว ขานรับแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลและประเทศไทย 4.0

หลังจากประเทศไทยเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบเมื่อช่วงกลางปี 2565 ส่งผลให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น อีกทั้งในปัจจุบันประเทศไทยเดินหน้าขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ หรือ Smart City อย่างเต็มที่ โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ ภาครัฐได้ประกาศรับรองเมืองอัจฉริยะเพิ่มเป็น 30 พื้นที่ใน 23 จังหวัด* และยังคงเร่งขยายโครงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ความต้องการใช้เทคโนโลยีและโซลูชันด้านสมาร์ทซิตี้เพิ่มสูงขึ้น เพราะเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะทั้ง 7 ด้าน ได้แก่ สิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ พลังงานอัจฉริยะ เศรษฐกิจอัจฉริยะ การดำรงชีวิตอัจฉริยะ การบริหารภาครัฐอัจฉริยะ พลเมืองอัจฉริยะ และขนส่งอัจฉริยะ ดังนั้น บ้านปู เน็กซ์ และแพลนเน็ตคอมฯ จึงเดินหน้าผลักดันการใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์มในการบริหารจัดการเมือง โดยเฉพาะด้านความปลอดภัย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในชุมชน สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีและความมั่นใจให้กับคนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยว รวมถึงผลักดันให้เมืองน่าอยู่ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับประเทศไทย

นายสินนท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด กล่าวว่า “บ้านปู เน็กซ์ และแพลนเน็ตคอมฯ มีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกันคือ ต้องการนำโซลูชันที่มีศักยภาพและความเชี่ยวชาญของแต่ละองค์กรไปสนับสนุนการพัฒนาสมาร์ทซิตี้ของประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม และผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัล เราจึงต่อยอดความสำเร็จโครงการสมาร์ทซิตี้ภูเก็ตภายใต้ความร่วมมือระหว่างบ้านปู เน็กซ์ และแพลนเน็ตคอมฯ โดยร่วมมือกันเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในระยะยาว เพื่อรองรับแผนขยายสมาร์ทซิตี้ทั่วประเทศ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการส่งมอบโซลูชันที่ดีและมีประโยชน์ต่อผู้คนในสังคมมากที่สุด พร้อมเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ทุกภาคส่วนพัฒนาสมาร์ทซิตี้ที่ยั่งยืน

โดยบ้านปู เน็กซ์ จะนำ “สมาร์ท เซฟตี้ แพลตฟอร์ม” ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยครบวงจร ที่สามารถเชื่อมต่อระบบปฏิบัติการของฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และดิจิทัลแพลตฟอร์มให้ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญยังสามารถรวบรวมข้อมูลมาวิเคราะห์ ประมวลผลด้วย AI และ IoT ส่งต่อข้อมูลไปยังศูนย์ควบคุมส่วนกลาง (War Room) เพื่อให้เจ้าหน้าที่วางแผน ควบคุม และบริหารจัดการเมืองได้เรียลไทม์ผ่านทั้ง Website และ Mobile Application ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่นในปัจจุบัน และจะนำความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีโทรคมนาคม รวมถึงด้านการให้คำปรึกษา พัฒนา และวางระบบสื่อสารของแพลตเน็ตคอมฯ มาเพิ่มศักยภาพ ความรวดเร็ว และความแม่นยำในการวิเคราะห์ และประมวลผลของแพลตฟอร์ม”

นายประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ที่ผ่านมา แพลนเน็ตคอมฯ นำเทคโนโลยีและระบบฮาร์ดแวร์ ไปสนับสนุนการพัฒนาเมืองด้านต่างๆ ซึ่งหนึ่งในโครงการแฟล็กชิพที่ร่วมมือกับบ้านปู เน็กซ์ คือ โครงการสมาร์ทซิตี้ภูเก็ต เราได้นำอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยและสมาร์ท เซฟตี้ แพลตฟอร์มของบ้านปู เน็กซ์ เข้าไปยกระดับถนนถลาง-ซอยรมณีย์ และบริเวณเทศบาลและแหลมพรหมเทพให้ปลอดภัยและน่าอยู่ยิ่งขึ้น ผมจึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สานต่อความร่วมมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่างบ้านปู เน็กซ์ โดยแพลนเน็ตคอมฯ จะนำสมาร์ท เซฟตี้ แพลตฟอร์ม ของบ้าน ปูเน็กซ์ ที่ได้พัฒนาไปใช้ รวมถึงเป็นผู้จัดหาเทคโนโลยีและฮาร์ดแวร์ล้ำสมัย เช่น ระบบเฝ้าระวังอัจฉริยะด้วยกล้อง CCTV เซนเซอร์คัดกรองโควิด-19 แบบไร้สัมผัส สถานีเฝ้าระวังสภาพอากาศ (Air Quality) ระบบแจ้งแหตุฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง (SOS) ฯลฯ เพื่อให้สามารถนำเสนอโซลูชันที่ตอบทุกความต้องการด้านการพัฒนาสมาร์ทซิตี้และครบวงจรมากขึ้น”

“เรามั่นใจว่าแพลตฟอร์มนี้จะสามารถรองรับการพัฒนาสมาร์ทซิตี้ของเมืองต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เพราะสามารถออกแบบการใช้งานให้เหมาะสมกับความต้องการ และตอบ Pain Point ของแต่ละพื้นที่ได้อย่างตรงจุด รวมถึงบ้านปู เน็กซ์ ยังสามารถนำโซลูชันพลังงานสะอาดเข้าไปเสริมการพัฒนาเมืองให้ยั่งยืนยิ่งขึ้น สำหรับความร่วมมือกับแพลนเน็ตคอมฯ ในอนาคตทั้ง 2 บริษัทจะนำสมาร์ท เซฟตี้ แพลตฟอร์มไปต่อยอดให้บริการกับลูกค้าธุรกิจด้วยเช่นกัน อาทิ นิคมอุตสาหกรรม โรงแรม ห้างสรรพสินค้า โครงการที่อยู่อาศัย ฯลฯ รวมถึงพัฒนาโซลูชันด้านสมาร์ทซิตี้ใหม่ ๆ และผนึกความร่วมมือทางธุรกิจด้านอื่นต่อไปด้วย” นายสินนท์ กล่าวสรุป

*ข้อมูลจาก https://www.depa.or.th/th/article-view/20220805_01