เปิดเผยว่าเทรนด์ตลาดไอทีระดับองค์กรยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทต่อการส่งเสริมและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีระดับโลกชั้นแนวหน้าของภาคอุตสาหกรรม เพื่อสนับสนุนองค์กรต่างๆ ในช่วงเปลี่ยนผ่านรูปแบบการดำเนินธุรกิจ โดยหัวเว่ย ประเทศไทย จะมุ่งทำงานใกล้ชิดกับเหล่าพาร์ทเนอร์เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว
นายเดวิด หลี่ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ว่า “หัวเว่ยสนับสนุนการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง มุ่งเน้นการเติบโตไปพร้อมกัน และร่วมขับเคลื่อนความสำเร็จทางธุรกิจให้กับลูกค้า เราสร้างคุณค่าให้กับลูกค้า พาร์ทเนอร์ และสังคมไทยมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้รับการสนับสนุนและความไว้วางใจจากลูกค้าและพาร์ทเนอร์มาอย่างต่อเนื่องเสมอมาเช่นกัน ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นปัจจัยที่ขาดไม่ได้สำหรับแก่นของหัวเว่ย”
ในปีนี้ หัวเว่ยจะมุ่งเสริมประสิทธิภาพนโยบายสนับสนุนธุรกิจพาร์ทเนอร์ เพื่อเดินหน้าพัฒนาศักยภาพการบริการพาร์ทเนอร์ให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการประยุกต์ใช้มาตรฐานการรับรองคุณภาพและระบบจัดการผลตอบแทนที่ดีที่สุด รวมถึงพัฒนากระบวนการลงทะเบียนเพื่อจัดการสิทธิประโยชน์พาร์ทเนอร์แบบมืออาชีพและเป็นระบบยิ่งกว่าที่เคย
“เรามุ่งมั่นลงทุนทรัพยากรเพื่อสนับสนุนการเติบโตของพาร์ทเนอร์ของเรา เดินหน้าเสริมศักยภาพธุรกิจและผลักดันการขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง การผนึกกำลังอันแข็งแกร่งร่วมกับพาร์ทเนอร์และความมุ่งมั่นในการตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า ส่งผลให้หัวเว่ยได้รับความไว้วางใจจากองค์กรชั้นนำขนาดใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของไทยมากกว่า 20 แห่ง ในฐานะผู้ให้บริการด้านโซลูชันเทคโนโลยีชั้นแนวหน้าเพื่อผลักดันองค์กรสู่การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล” นาย หลี่ กล่าวเสริม
นายเดวิด หลี่ ยังเปิดเผยว่า หัวเว่ยจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมศักยภาพในการแข่งขันของตลาดเพื่อวางรากฐานอันแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยีในแต่ละภาคธุรกิจ เน้นการขยายตัวรวดเร็วและเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ในปีนี้กลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มโครงข่ายมากกว่า 250 รายการ ซึ่งสามารถส่งมอบได้ภายใน 60 วัน เพื่อช่วยตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดและช่วยลูกค้าสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนให้สูงขึ้น ตอกย้ำจุดยืนความเป็นผู้นำของหัวเว่ยในตลาด
ในปี พ.ศ. 2565 หัวเว่ย ดาต้าคอม (Huawei Datacom) ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในตำแหน่ง ‘ผู้นำ’ ของบริษัทด้านการวิจัย Gartner Magic Quadrant สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน LAN แบบมีสายและไร้สายของกลุ่มลูกค้าองค์กร ในขณะที่ผลิตภัณฑ์กลุ่มโซลูชันด้านสโตเรจของหัวเว่ยก็ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในตำแหน่ง ‘ผู้นำ’ อย่างต่อเนื่องในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา สะท้อนความไว้วางใจและการยอมรับจากกลุ่มอุตสาหกรรมทั่วโลก ซึ่งในปีนี้หัวเว่ยได้เตรียมแคมเปญ Fast Track เอาไว้สำหรับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสโตเรจ ซึ่งจะช่วยย่นระยะเวลานำส่งสินค้าให้เร็วขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดให้ได้ภายในเวลาไม่เกิน 28 วัน
“เราต้องขอขอบคุณพาร์ทเนอร์ทุกท่านที่ให้การสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการผลักดันการเติบโตและต่อยอดความสำเร็จของหัวเว่ย เป้าหมายของเราในขณะนี้คือมุ่งสร้างความเติบโตของตลาดเอ็นเตอร์ไพรซ์ด้วยการประยุกต์ใช้นวัตกรรมที่มีในตลาดโลกกับองค์กรท้องถิ่นในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานจริงของลูกค้าให้มากที่สุด” นายเดวิด หลี่ กล่าวเสริม
หัวเว่ยยังตอกย้ำความมุ่งมั่นเดินหน้าผลักดันพันธกิจ “เติบโตพร้อมกับประเทศไทย ร่วมสนับสนุนประเทศไทย (Grow in Thailand, Contribute to Thailand)” โดยมุ่งเน้นต่อยอดอุตสาหกรรมสำคัญมากกว่า 10 กลุ่มอุตสาหกรรม ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์เอ็นเตอร์ไพรซ์ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทซิตี้, การเงิน, พลังงาน, การขนส่ง, ผู้ให้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ต, การศึกษา, การดูแลสุขภาพ และอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้หัวเว่ยยังแสดงเจตจำนงในการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ในอีโคซิสเต็ม เพื่อร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลอย่างยั่งยืน