บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เกียรตินาคินภัทร จำกัด (บลจ.เกียรตินาคินภัทร) จับโอกาสการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนหลังการยุตินโยบายโควิด-19เป็นศูนย์ (Zero Covid-19) เปิดเสนอขายกองทุนเปิดเคเคพี ไชน่า เฮดจ์ (KKP CHINA-H) กองทุนที่บริหารแบบ Passive เพื่อให้ผลดำเนินงานเป็นไปตามดัชนี MSCI CHINA ALL SHARES ที่ครอบคลุมการเติบโตของหุ้นจีนทุกตลาด ทั้ง Onshore และ Offshore โดยเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 21 ก.พ. – 1 มี.ค. 2566 เพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้ลงทุนไทยที่สนใจลงทุนในหุ้นจีน ด้วยมูลค่าขั้นต่ำในการซื้อเพียง 1,000 บาท

นายยุทธพล ลาภละมูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เกียรตินาคินภัทร จำกัด (บลจ.เกียรตินาคินภัทร) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจและตลาดหุ้นจีนมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นในปี 2566 โดยเฉพาะการเปิดเมืองของจีนอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่ต้นปี 2566 และการที่ภาคครัวเรือนมีอัตราการออมสะสมสูงกว่าปกติจากการปิดเมืองในช่วงที่ผ่านมา จะเป็นปัจจัยกระตุ้นเศรษฐกิจจีนที่สำคัญ ประกอบกับ รัฐบาลจีนทยอยออกมาตรการมุ่งเน้นแก้ปัญหาสภาพคล่องในภาคอสังหาริมทรัพย์ ช่วยให้หลายบริษัทเพิ่มทุนได้สำเร็จและเพิ่มความมั่นใจของประชาชนที่ต้องการซื้อบ้าน รวมถึงโอกาสที่นโยบายของรัฐบาลจะสนับสนุนการเติบโตของภาคธุรกิจเพิ่มขึ้นหาก หลี่เฉียง ซึ่งมีวิสัยทัศน์เปิดกว้างและสนับสนุนธุรกิจภาคเอกชนได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อจากหลี่เค่อเฉียงในเดือนมีนาคม นอกจากนี้ มูลค่าของตลาดหุ้นจีน MSCI China All Shares มี Forward P/E ratio ที่ 14.4 เท่า ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าสนใจ เพราะยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 15.3 เท่า (ข้อมูลจาก Bloomberg ณ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566) ด้วยเหตุนี้ ทางบลจ.เกียรตินาคินภัทรจึงได้นำเสนอกองทุน KKP CHINA-H เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุน

สำหรับ กองทุน KKP CHINA-H ระดับความเสี่ยง 6 เป็นกองทุนรวมหน่วยลงทุนประเภท Fund of Funds ที่มีนโยบายการลงทุนในตราสารทุนของบริษัทจดทะเบียนที่ดำเนินธุรกิจและหรือได้รับประโยชน์จากการประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับประเทศจีน จุดเด่นของกองทุน KKP CHINA-H คือ การลงทุนในหุ้นจีนครอบคลุมทุกตลาด ทั้ง A-Shares / B-Shares / H-Shares / Red-Chips / P-Chips / ADRs ผ่านการลงทุนใน ETFs หลายกองทุน โดยเป็นกองทุนหุ้นจีน Passive กองทุนแรกที่มุ่งหวังให้ผลการดำเนินงานของกองทุนเคลื่อนไหวใกล้เคียงกับดัชนี MSCI China All Shares Index ซึ่งสะท้อนการเติบโตของหุ้นจีนในทุกตลาดตามสัดส่วนอย่างแท้จริง โดยกองทุน KKP CHINA-H จะทำการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเกือบทั้งหมด

สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจสามารถขอรับหนังสือชี้ชวนและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) โทร. 02 305 9559 หรือ ธนาคารเกียรตินาคินภัทรทุกสาขา หรือ https://am.kkpfg.com หรือผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนที่ได้รับการแต่งตั้ง

ข้อมูลกองทุน KKP CHINA-H FUND :

· เปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 21 ก.พ. – 1 มี.ค. 2566

· มูลค่าขั้นต่ำในการซื้อครั้งแรก 1,000 บาท ครั้งถัดไป 1,000 บาท

คำเตือน

· การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้าเงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

· ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

· กองทุนนี้เป็นกองทุนรวมตราสารทุนที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศหลายกองทุน (Fund of Funds) ทั้งนี้ กองทุนนี้ไม่ได้เป็นกองทุนที่คุ้มครองเงินต้น และมีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในต่างประเทศ

· กองทุนนี้จะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยกองทุนจะทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเกือบทั้งหมด คือ ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ

· โปรดศึกษาคำเตือนที่สำคัญอื่นและข้อมูลเพิ่มเติมได้ในหนังสือชี้ชวนส่วนข้อมูลกองทุนรวม https://am.kkpfg.com หรือผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนที่ได้รับการแต่งตั้ง

รับเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว กองทุนเดียวครอบคลุมหุ้นจีนทุกตลาด ทั้ง Onshore และ Offshore เสนอขาย 21 ก.พ. – 1 มี.ค. 2566

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมจ่ายปันผลกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน จากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ก.ค. 2565 – 30 ก.ย 2565 จำนวน 4 กองทุน และจ่ายเงินลดทุนจำนวน 1 กองทุน โดยกำหนดจ่ายให้นักลงทุนในวันที่ 19 และ 28 ธันวาคม 2565 นี้

สำหรับกองทุนที่จะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 19 ธ.ค. 2565 ประกอบด้วย กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ซี.พี.ทาวน์เวอร์โกรท (CPTGF) ลงทุนในสิทธิการเช่าในที่ดิน และอาคารสำนักงานและศูนย์การค้า รวมถึงส่วนควบงานระบบที่จำเป็น เป็นระยะเวลา 30 ปีนับแต่วันที่จดทะเบียนการเช่า ใน 3 ทำเล ได้แก่ อาคาร ซี.พี ทาวเวอร์ 1 (สีลม) อาคารซีพีทาวเวอร์ 2 (ฟอร์จูน ทาวน์) และอาคาร ซี.พี.ทาวเวอร์ 3 (พญาไท) กำหนดจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 35 ในอัตรา 0.1660 บาทต่อหน่วย กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ตลาดไท (TTLPF) เป็นการลงทุนในสิทธิการเช่า สิ่งปลูกสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก (บางส่วน) ในโครงการตลาดไท มีพื้นที่ใช้สอยรวมประมาณ 170,033.54 ตารางเมตร กำหนดจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 48 ในอัตรา 0.4220 บาทต่อหน่วย

กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้ากลุ่มน้ำตาลครบุรี (KBSPIF) ลงทุนในผลประโยชน์จากการประกอบกิจการไฟฟ้าของบริษัทผลิตไฟฟ้าครบุรี จำกัด ในอัตราร้อยละ 62 ของรายได้ค่าไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า กำหนดจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 9 ในอัตรา 0.2410 บาทต่อหน่วย และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ชุดที่ 1 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGATIF) ลงทุนในรายได้ค่าความพร้อมจ่ายในอนาคตของโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ชุดที่ 1 กำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญา 670 เมกะวัตต์ เป็นระยะเวลา 20 ปี โดยกำหนดจ่ายเงินปันผล ครั้งที่ 27 ในอัตรา 0.0850 บาทต่อหน่วย พร้อมทั้งจ่ายเงินลดเงินทุนจดทะเบียน ครั้งที่ 7 ในอัตรา 0.1200 บาทต่อหน่วย

นอกจากนี้ ยังได้กำหนดจ่ายเงินปันผลเพิ่มเติมอีก 1 กองทุน ในวันที่ 28 ธันวาคม 2565 นี้ ได้แก่ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (TFFIF) ที่ลงทุนในทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐาน อันได้แก่ สิทธิที่จะได้รับรายได้ร้อยละ 45 ของรายได้ค่าผ่านทางรวมสุทธิที่จัดเก็บได้จากเส้นทางในปัจจุบันของโครงการทางพิเศษของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย 2 โครงการ ได้แก่ ทางพิเศษฉลองรัช และรทางพิเศษบูรพาวิถี โดยกำหนดจ่ายปันผลเป็นครั้งที่ 16 ในอัตรา 0.1003 บาทต่อหน่วย

คำเตือน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต / ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจในลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน

กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เร่งสร้างภูมิคุ้มกันสังคมไทย ร่วมกันต้านประทุษวาจาที่เกี่ยวข้องกับศาสนา หวั่นการ “พูดร้าย ทำลายกัน” บานปลายสู่ความรุนแรง เน้นป้องกันด้วยการเสริมสร้างความตระหนักรู้ เท่าทันและเฝ้าระวังผ่านงานประกวดผลิตคลิปรณรงค์ลด Hate Speech ในหัวข้อ “หยุดเหยียด เกลียดศาสนา พูดร้ายทำลายกัน” ที่เปิดรับผลงานจากทั้งนักเรียน นักศึกษา เครือข่ายศาสนาและประชาชนทั่วประเทศ ชิงรางวัลรวมมูลค่า 75,000 บาท

การประกวดในครั้งนี้เปิดรับผลงานจากนักเรียน นักศึกษา เครือข่ายศาสนาและประชาชนทั่วไปในหัวข้อ “หยุดเหยียด เกลียดศาสนา พูดร้ายทำลายกัน” โดยมีเงินรางวัลจำนวน 30,000 บาทให้แก่ผู้ชนะเลิศ 20,000 บาทสำหรับรองชนะเลิศอันดับ 1 และ 10,000 บาท สำหรับรองชนะเลิศอันดับ 2 รวมถึงยังมีรางวัลชมเชยอีก 3 รางวัล รางวัลละ 5,000 บาทให้แก่ผู้เข้าแข่งขันที่มีผลงานโดดเด่น

โดย กองทุนสื่อ เปิดรับสมัครผลงานจากทั่วประเทศ ผู้สนใจส่งผลงานเข้าร่วมประกวดสามารถส่งผลงานได้ทาง https://forms.gle/b82xbDmrbqLp6qCn6 หรือ สแกน QR Code บน Poster ประชาสัมพันธ์ เพื่อศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม ส่งผลงานได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ และการประกาศผลรางวัลจะมีขึ้นในวันที่ 20 ธันวาคม 2565 หรือติดตามรายละเอียดข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Facebook กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์

TMBAM Eastspring ให้ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการชำระบัญชีและจ่ายเงินคืน ภายหลังจากปิดกองทุนตราสารหนี้ทั้งสี่กองทุนไปในช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

Page 3 of 4
X

Right Click

No right click