RÊVERSHARGER” ตอกย้ำเบอร์ 1 EV Ecosystem Operator ครบวงจร จับมือ บัตรเครดิต “เคทีซี” นำจุดแข็งของทั้งสองแบรนด์ จัดแคมเปญสุดเอ็กซ์คลูซีฟเอาใจผู้ใช้รถ EV ชาร์จครบ-สะดวก-สบายทั้งในและนอกบ้าน มอบส่วนลด 10% ค่าบริการชาร์จ-แลกคะแนน KTC FOREVER รับโค้ดส่วนลด-ซื้อและติดตั้ง EV Charger ผ่อน 0% 10 เดือน รุกขยายฐานเจ้าของรถ EV เสริมแกร่ง EV Charging Ecosystem สู่เป้าหมายยอดผู้ใช้แอปพลิเคชัน 200,000 ราย

นายพีระภัทร ศิริจันทโรภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้ให้บริการสถานีชาร์จภายใต้แบรนด์ RÊVERSHARGER และผู้นำ EV Ecosystem Operator ครบวงจร เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน กล่าวว่า RÊVERSHARGER ร่วมกับ “เคทีซี หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จัดแคมเปญยกระดับประสบการณ์ขับขี่ให้กับผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ด้วยการมอบเอกสิทธิ์พิเศษให้ผู้ถือบัตรเครดิตเคทีซี สามารถชาร์จพลังงานไฟฟ้าได้ง่ายในราคาที่คุ้มค่า ครอบคลุมทั้งภายในที่อยู่อาศัยและสถานีชาร์จระหว่างทางทั่วประเทศ ต่อยอดแนวคิด RÊVERSHARGER ครบ-สะดวก-สบาย” ของบริษัท มุ่งให้บริการด้าน EV ที่ครบทุกความต้องการชาร์จ สถานีชาร์จครอบคลุมสะดวกทุกเส้นทาง และออกแบบบริการทุกขั้นตอนให้ใช้ง่ายและสบายสำหรับผู้ใช้งานมากที่สุด

“นอกจากพัฒนาเทคโนโลยีและขยายจำนวนสถานีชาร์จแล้ว ในปีนี้เรายังเดินหน้าจับมือกับพันธมิตรชั้นนำ ขยาย EV Charging Ecosystem เพื่อมอบบริการชาร์จที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้ใช้รถ EV แต่ละกลุ่มให้มากที่สุด ครั้งนี้เราได้ร่วมมือกับเคทีซี ซึ่งเป็นพันธมิตรบัตรเครดิตรายแรกที่อยู่กับเรามาอย่างยาวนาน ทั้งยังมีฐานสมาชิกในไทยมากกว่า 2.6 ล้านรายครอบคลุมทั่วประเทศ ในการคัดสรรดีลโปรโมชันที่ตรงใจและตอบโจทย์การใช้งานจริงของผู้ใช้รถ EV สำหรับการชาร์จไฟฟ้าทั้งในและนอกบ้าน เราเชื่อว่าแคมเปญนี้จะผสานฐานลูกค้าของทั้ง 2 บริษัท ช่วยผลักดันยอดผู้ใช้งานแอปพลิเคชันสู่ 200,000 รายภายในสิ้นปี และสร้างความผูกพันระหว่าง RÊVERSHARGER กับกลุ่มผู้ใช้รถ EV ยิ่งขึ้น” นายพีระภัทร กล่าว

ที่ผ่านมา RÊVERSHARGER มุ่งมั่นยกระดับการบริการด้านการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรอย่างต่อเนื่อง ด้วยจุดแข็งในหลากหลายมิติ ได้แก่ 1.การชาร์จภายในที่อยู่อาศัย เลือกให้บริการติดตั้งแบรนด์ EV Charger คุณภาพสูงจากผู้ผลิตรายใหญ่ระดับโลก เช่น ABB, Autel พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้บริการติดตั้งทั่วประเทศ ให้ความปลอดภัยทุกการชาร์จ 2.การชาร์จระหว่างทาง มีเครือข่ายสถานีชาร์จขนาดใหญ่เตรียมให้บริการครบ 2,012 หัวชาร์จภายในปีนี้ ครอบคลุมการเดินทางไปยังทุกภูมิภาค ทุกระยะ 160 กม. มีสถานีชาร์จความเร็วสูงสุดถึง 360kW ที่ชาร์จเพียง 10 นาที วิ่งได้ไกลสุด 100 กม. 3.แอปพลิเคชัน REVERSHARGER ที่มีฟีเจอร์ Plug & Charge แค่จอดเสียบชาร์จได้ทันที พร้อมสิทธิพิเศษจากพันธมิตร มาช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งาน ประกอบกับภาพรวมยอดขายรถ EV ในงาน Motor Show ครั้งล่าสุดยังแข็งแกร่ง และคาดการณ์ว่าจะมียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) สะสมทะลุ 200,000 คันในสิ้นปีนี้ บริษัทจึงเชื่อมั่นว่า แคมเปญร่วมกับ เคทีซี จะช่วยรองรับความต้องการของผู้ใช้งานรถ EV ที่มองหา EV Charger สำหรับติดตั้งในบ้าน และสถานีบริการนอกบ้านได้

 

นายสุวัฒน์ เทพปรีชาสกุล ผู้บริหารสูงสุด ฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บัตรเครดิตเคทีซีร่วมส่งเสริมสังคมไทยเปลี่ยนผ่านสู่การใช้รถ EV เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี ด้วยการผนึกกำลังกับพันธมิตรด้านยานยนต์ไฟฟ้า ส่งมอบบริการที่ครอบคลุมความต้องการของผู้ใช้รถ EV และสามารถใช้บัตรเครดิตเคทีซีในการผ่อนชำระค่าจอง-ดาวน์รถ ซื้อประกันภัยรถ EV ไปจนถึงใช้คะแนนแลกรับส่วนลดการติดตั้งเครื่องชาร์จ ซึ่งปี 2566 ที่ผ่านมา มียอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีในหมวดรถ EV เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าในปี 2567 จะเติบโตเพิ่มขึ้น ตามการขยายตัวของจำนวนผู้ใช้รถ EV ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับหมวดใช้จ่ายด้านรถยนต์ของเคทีซีได้เป็นอย่างดี

“กลุ่มผู้ใช้รถยนต์ EV เป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีกำลังซื้อค่อนข้างสูง การออกแคมเปญนี้ร่วมกับ RÊVERSHARGER ซึ่งเป็นผู้ให้บริการที่มีจำนวนสถานีชาร์จและเครือข่ายผู้ใช้บริการขนาดใหญ่ คาดว่าจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายของสมาชิกบัตรฯ เพิ่มมากขึ้น” นายสุวัฒน์ กล่าว

สำหรับความร่วมมือระหว่าง RÊVERSHARGER และเคทีซี ในการมอบสิทธิประโยชน์ให้ผู้ใช้รถ EV ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์การชาร์จ มีดังนี้

1. สิทธิประโยชน์สำหรับใช้บริการที่สถานีชาร์จในเครือข่าย RÊVERSHARGER ทั่วประเทศ

1.1 มอบโค้ดส่วนลด 10% ไม่มีขั้นต่ำ โดยใช้เพียง 1 คะแนน KTC FOREVER ในการแลกรับผ่านแอป KTC Mobile (จำนวนจำกัด) ในสถานีที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันนี้ - 30 มิถุนายน 2567

1.2 ใช้ 1,000 คะแนน KTC FOREVER แลกรับ e-Coupon ส่วนลด 130 บาท ผ่านแอป KTC Mobile ตั้งแต่วันนี้ - 31 กรกฎาคม 2567

2. สิทธิประโยชน์สำหรับบริการติดตั้ง EV Charger ภายในที่อยู่อาศัย รับสิทธิ์ผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน เมื่อติดตั้ง RÊVERSHARGER ภายในที่อยู่อาศัย สำหรับผู้ใช้รถทุกแบรนด์ ตั้งแต่วันนี้ - 31 กรกฎาคม 2567

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC โทร. 02 123 5000 หรือติดตามโปรโมชัน ของเคทีซีได้ที่ https://www.ktc.co.th/promotion/gas-auto ทั้งนี้ผู้ถือบัตรเครดิตควรใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี  

ผู้สนใจติดตั้ง EV Charger สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: ReverSharger หรือ Line OA: @sharge.thailand โทร. 02 114 7571  และผู้สนใจค้นหาสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน REVERSHARGER ได้ที่ https://sharge.page.link/ib87 

นางสาววริษฐา พัฒนรัชต์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต  “เคทีซี” หรือ บริษัท  บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในโอกาสที่ ซีไลฟ์ แบงคอก (SEA LIFE Bangkok) อควาเรียมมาตรฐานระดับโลก เปิดตัวแคมเปญ The Jelly fish Universe” เปิดโลกแมงกะพรุนสุดมหัศจรรย์ ซึ่งอยู่ในช่วงปิดเทอมของเด็กๆ เคทีซีจึงได้ร่วมมือกับ บริษัท เมอร์ลิน เอ็นเตอร์เทนเมนท์ส (ประเทศไทย) จำกัด เชิญชวนสมาชิกบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” พาบุตรหลานเปิดประสบการณ์การเรียนรู้นอกห้องเรียน และร่วมสำรวจโลกใต้ทะเลกับสัตว์น้ำสายพันธุ์ต่างๆ จากทุกมุมโลก สนุกสนานไปกับการผจญภัยป่าดิบชื้นและแนวปะการัง ภารกิจใกล้ชิดฉลาม ลอดอุโมงค์ใต้น้ำ ชมความน่ารักของเพนกวินบนโลกน้ำแข็ง และพบกับกิจกรรมสุดพิเศษสำหรับเด็กๆ เช่น ชมภาพยนตร์ 4 มิติ สำรวจใต้ท้องทะเลเสมือนจริงผ่านแว่น VR นั่งเรือท้องกระจกชมความสวยงาม ทัวร์เบื้องหลังการจัดแสดงดำน้ำกับฉลาม สำรวจสิ่งมีชีวิต พร้อมชมการให้อาหารสัตว์แสนน่ารัก เช่น ปลาฉลาม กระเบน เพนกวิน นากเล็กเล็บสั้น ม้าน้ำและปลาเสือพ่นน้ำ พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย”

แพ็กเกจ FUN PACKAGE ประกอบด้วย บัตรเข้าชม ซีไลฟ์ แบงคอก และบัตรชมภาพยนตร์ 4 มิติ ราคา 650 บาท (วันจันทร์ - ศุกร์) และราคา 700 บาท (วันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 – 31 พฤษภาคม 2567 พิเศษ! รับส่วนลด 200 บาท เมื่อสมัครสมาชิกรายปีสำหรับเข้าชมวันธรรมดา ผู้ใหญ่ 990 บาท(ราคาปกติ 1,190 บาท) และเด็ก 890 บาท (ราคาปกติ 1,090 บาท) ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2567 – 31 พฤษภาคม 2567 พิเศษเฉพาะสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี แลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 12% เมื่อใช้จ่ายที่ SEA LIFE Bangkok และใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ายอดซื้อ”

“ทั้งนี้ ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีในหมวดสถานที่ท่องเที่ยว (Attraction) ในไตรมาส 1 ของปี 2567 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2566 ถึง 37% และมีจำนวนสมาชิกใช้จ่ายในหมวดนี้เพิ่มขึ้น 29%”

ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ktc.co.th/promotion/travel/attractions/sea-life-bangkok-funpackage หรือสอบถามที่ KTC PHONE 02 123 5000 สำหรับผู้สนใจสมัครบัตรเครดิตเคทีซีทุกประเภท คลิก https://ktc.today/apply-card  สมัครบัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” คลิก https://ktc.today/KTC-PROUD หรือศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ ทั้งนี้ ผู้ถือบัตรเครดิตควรใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี สำหรับผู้ถือบัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” ควรกู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว 

องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลีจับมือเคทีซี วางกลยุทธ์ระยะยาว กระตุ้นคนไทยวางแผนท่องเที่ยวเกาหลีมากขึ้น หลังปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเกินเป้าหมาย เปิดตัวแคมเปญ “Korea Everything” ทุกสิ่งเป็นจริงที่เกาหลี นำเสนอแกนการท่องเที่ยวเกาหลีใน 3 มิติ : K – Food   K – Fun และ K – Culture  ให้อิสระนักท่องเที่ยวเลือกวางแผนตามไลฟ์สไตล์ ด้านเคทีซีจัดเต็มสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก รับคะแนน KTC FOREVER สูงสุด 10 เท่า / เลือกผ่อนชำระ 0% นาน 6 เดือน หรือใช้คะแนน KTC FOREVER แลกรับส่วนลด พร้อมลุ้นรับแพ็กเกจท่องเที่ยว 5 วัน 3 คืน เส้นทางปูซานฟรี !!! เพียงมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีสูงสุดที่ KTC World Travel Service หรือห้างสรรพสินค้าที่ร่วมรายการ

นายลี ซาง อู ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี KTO (Korea Tourism Organization) เปิดเผยว่า ในปี 2566 ที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยเดินทางไปยังเกาหลีราว 380,000 คน สะท้อนให้เห็นว่าการท่องเที่ยวฟื้นตัวเทียบเท่ากับช่วงก่อนวิกฤตโควิดแล้ว โดยเกาหลีและรัฐบาลไทยได้ร่วมกันเปิดโครงการ Korea – Thailand Visit Year 2566 - 2567 เพื่อส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวเกาหลี และนักท่องเที่ยวไทยเดินทางท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศมากขึ้น องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลีจึงได้จัดแคมเปญ Korea Everywhere พร้อมกัน 4 สถานที่ทั่วกรุงเทพมหานคร ด้วยโปรโมชันครั้งยิ่งใหญ่ในปีที่ผ่านมา

สำหรับในปี 2567 นี้ KTO ได้จัดงานอีเว้นท์ YES, Korea Travel เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาใน 3  หัวเมืองหลัก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ และภูเก็ต ซึ่งได้รับการตอบรับด้วยดีจากนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรมเกาหลี รวมถึงวางแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวไปยังเกาหลี และ KTO ยังมีแผนจะเปิดตัวอีกหลายโครงการโดยยึดธีมเรื่องวัฒนธรรมเกาหลีและเน้นเรื่องการใช้สื่อโซเชียลเป็นหลัก หนึ่งในโครงการที่กำลังจะเกิดขึ้นก็คือ  “Korea-Thailand Food Travel Week” ซึ่งได้ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดอีเว้นท์เกี่ยวกับอาหารทั้งในประเทศไทยและเกาหลีช่วงเดือนพฤษภาคมและเดือนกรกฎาคม โดยเชฟไทยชื่อดังระดับโลก “เจ๊ไฝ” จะเข้าร่วมงานอีเว้นท์ที่เกาหลีเพื่อสัมผัสประสบการณ์อาหารเกาหลีถึงถิ่น และ “เจ๊ไฝ” ยังจะได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนของ Korea-Thailand Visit Year อีกด้วย นอกจากนี้ KTO ยังให้การสนับสนุนตัวแทนสำนักงานท่องเที่ยวและสื่อมวลชนด้วยการเชิญไปสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เกาหลี รวมถึงให้บริการข้อมูลข่าวสารที่น่าสนใจของการท่องเที่ยวเกาหลี เพื่อใช้ประชาสัมพันธ์ให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทย

นางสาวอริญชยา เลิศวัฒนชัย ผู้จัดการฝ่ายการตลาดองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี KTO (Korea Tourism Organization) กล่าวว่า ปัจจุบันเทรนด์การท่องเที่ยวเกาหลีของนักท่องเที่ยวไทยมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบจากการซื้อแพ็กเกจทัวร์เป็นการวางแผนเดินทางด้วยตนเอง หรือที่เรียกว่า FIT (Free Independent Travelers) โดยนิยมเดินทางเป็นกลุ่มเล็กๆ เช่น กลุ่มเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัว เนื่องจากเกาหลีเป็นประเทศที่มีความสะดวกสบาย นักท่องเที่ยวสามารถวางแผนเดินทางเองได้  เช่น สำรองที่นั่งสายการบิน ที่พัก หรือกิจกรรมต่างๆ ผ่านช่องทางของเคทีซี ได้แก่ KTC World Travel Service  เว็บจองโรงแรม หรือ OTA (Online Travel Agent) ซึ่งถือเป็นการให้บริการแบบ One Stop Service  จากพฤติกรรมดังกล่าว KTO จึงได้วางกลยุทธ์การตลาดสำหรับปี 2567 ด้วยการจับมือกับเคทีซี เปิดตัวแคมเปญ “Korea Everything” ทุกสิ่งเป็นจริงที่เกาหลี นำเสนอมิติการท่องเที่ยว 3 แกนหลัก ได้แก่ K-Food K-Fun และ K-Culture เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกกิจกรรมตามไลฟ์สไตล์หรือความชอบที่แตกต่างโดยไฮไลท์ที่ 2 เส้นทางหลัก ได้แก่ โซลและปูซาน

K-Food: ลิ้มลองเมนูพิเศษอย่าง ฮันจองซิก อาหารชุดเกาหลีที่มีต้นกําเนิดมากจากพระราชวังและ บ้านขุนนางในสมัยก่อน  หรือเมนูซีฟู้ดหม้อไฟทะเลซึ่งปูซานมีความโดดเด่นมากในด้านความสดใหม่ของอาหารทะเล

K-Fun: สนุกกับความน่ารักของอัลปาก้า ที่อัลปาก้าเวิลด์ โซล หรือ นั่งรถไฟปูซาน สกาย แคปซูล เทรนด์  ขบวนรถสีสันสุดน่ารักที่วิ่งเรียบชายหาดเเฮอุนแด

K-Culture: สัมผัสประวัติศาสตร์อันยาวนานของหมู่บ้านบุกชอนฮันอก ซึ่งเดิมเป็นย่านที่อยู่อาศัย ของข้าราชการระดับสูงและขุนนางตั้งแต่สมัยราชวงศ์โชซอน หรือหมู่บ้านวัฒนธรรมคัมซอน เมืองปูซาน ที่มีลักษณะการสร้างบ้านเรือนเรียงรายไปตามภูเขาเป็นขั้นบันได บ้านและหลังคามีสีสันสลับไปมา กลายเป็นเอกลักษณ์จนได้ฉายาว่า “มาซูปิกชูแห่งปูซาน”   

นางประณยา นิถานานนท์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลอดปี 2566ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลับมาคึกคักอย่างมาก ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีในหมวดท่องเที่ยวก็ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะเส้นทางเกาหลีในช่วงครึ่งปีหลัง 2566 เคทีซีได้ร่วมกับองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี (KTO) ออกแคมเปญ Korea Everywhere ส่งผลให้ยอดรวมการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีที่เกาหลีเติบโตขึ้น 35% เมื่อเปรียบเทียบกับครึ่งปีหลังของปี 2565 มีจำนวนสมาชิกบัตรฯ ที่เดินทางไปใช้จ่ายที่เกาหลีเพิ่มขึ้น 38% และยอดเฉลี่ยการใช้จ่ายต่อสมาชิกอยู่ที่ 17,500 บาท ในส่วนของ KTC World Travel Service มีจำนวนสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีที่ใช้บริการสำรองบัตรโดยสารสายการบิน ที่พัก และแพ็กเกจเส้นทางเกาหลีในปี 2566 เพิ่มขึ้น 378% (เทียบกับปี 2565) ซึ่งถือว่ากลับมาใกล้เคียงกับช่วงปี 2562 ก่อนเกิดการระบาดของโควิด19

สำหรับในปี 2567 นี้ เคทีซียังคงร่วมมือกับ KTO วางกลยุทธ์การตลาดเพื่อกระตุ้นให้สมาชิกบัตรเครดิต

เคทีซีเลือกเกาหลีเป็นจุดหมายในการเดินทาง ด้วยการออกแคมเปญ “Korea Everything” ทุกสิ่งเป็นจริงที่เกาหลี มอบความคุ้มค่าและสร้างประสบการณ์ที่หลากหลายให้กับสมาชิกใน 3 มิติ ประกอบด้วย K-Food / K-Fun และ  K-Culture โดย KTC World Travel Service ได้ออกแบบแพ็กเกจท่องเที่ยวในราคาพิเศษ 5 วัน 3 คืน “K-Everything in Seoul” เริ่มต้นที่ 41,900 บาท / ท่าน และ “K-Everything in Busan” เริ่มต้นที่ราคา 32,900 บาท / ท่าน (รวมบัตรโดยสารสายการบิน ที่พัก และกิจกรรม) หรือสมาชิกที่ชอบท่องเที่ยวแบบอิสระ สามารถเลือกใช้บริการสำรองบัตรโดยสารสายการบินราคาพิเศษ บริการรถรับส่ง บัตรเข้าชมกิจกรรมต่างๆ ได้ตามไลฟ์สไตล์ของตนเอง ทั้งในกรุงโซล อินชอน เมืองใกล้เคียง และปูซาน และทุกยอดการใช้จ่ายในเส้นทางเกาหลี สมาชิกยังได้สิทธิ์รับคะแนน KTC FOREVER สูงสุด 10 เท่า / เลือกผ่อนชำระ 0% นาน 6 เดือน หรือใช้คะแนน KTC FOREVER ทุก 1,000 คะแนนแลกรับส่วนลด 130 บาท นอกจากนี้ เคทีซียังได้ร่วมมือกับสายการบินโคเรียนแอร์ (Korean Air) เอเชียน่าแอร์ไลน์ (Asiana Airlines) และการบินไทย (Thai Airways) มอบสิทธิพิเศษส่วนลดและสิทธิพิเศษอื่นๆเมื่อสำรองบัตรโดยสารสายการบินตรงกับเว็ปไซต์สายการบิน ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 – 30 พฤศจิกายน 2567

พิเศษ! ลุ้นเป็นคู่ผู้โชคดี รับฟรีแพ็กเกจท่องเที่ยว 5 วัน 3 คืน “Korea Everything in Pusan” สัมผัสประสบการณ์เกาหลีที่แตกต่างทั้ง K-Food K-Fun และ K-Culture เส้นทางปูซาน จำนวน 4 รางวัลๆ ละ 2 ท่าน มูลค่ากว่า 640,000 บาท เพียงมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีสูงสุด ที่ KTC World Travel Service และห้างสรรพสินค้าชั้นนำที่ร่วมรายการ

นายปภพ สุวรรณวิศลกิจ เจ้าของเพจ Megamaxx Journey  กล่าวว่า เกาหลีเป็นประเทศที่สามารถท่องเที่ยวได้ทุกฤดูกาล เพราะแต่ละช่วงเวลาจะมีไฮไลท์ และจุดเด่นของแต่ละสถานที่แตกต่างกันออกไป ล่าสุดเพิ่งได้มีโอกาสเดินทางไปท่องเที่ยวที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลี เพื่อชมเทศกาลดอกซากุระ (Cherry Blossom Season) ซึ่งได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ด้วยการเช่ารถยนต์เพื่อขับท่องเที่ยวเองเป็นครั้งแรก ซึ่งมีข้อดีแตกต่างจากการนั่งรถสาธารณะ เพราะสามารถวางแผนการท่องเที่ยวได้ด้วยตนเอง แวะชมสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ได้ตลอดเส้นทาง ซึ่งทริปนี้ได้มีขับรถไปถึงเมืองอุลซาน ซึ่งเป็นเมือง Unseen ที่มีความน่าสนใจ แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากนัก

ผู้สนใจสิทธิพิเศษด้านการเดินทางท่องเที่ยวสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC World Travel Service โทรศัพท์ 02 123 5050 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์ https://www.ktc.co.th/KoreaEverything  สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี สามารถคลิกดูรายละเอียดได้ที่ลิงค์ https://ktc.today/apply-card หรือติดต่อศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ


หมายเหตุ : บัตรเครดิตใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้ตามกำหนดจะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี

เคทีซีจับมือคาเธ่ย์ ปลูกต้นโกงกางที่ป่าชายเลนในประเทศไทยภายใต้โครงการ “บิน 1 เที่ยว ปลูก 1 ต้น” โดยโครงการ “บิน 1 เที่ยว ปลูก 1 ต้น” เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการเสริมสร้างความยั่งยืนที่คาเธ่ย์ได้ดำเนินมาเป็นเวลา 3 ปี เพื่อสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น ฟื้นฟูถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติ และรับมือกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความยั่งยืน และสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่ชุมชนท้องถิ่น เคทีซีจึงได้ร่วมสนับสนุนและต่อยอดโครงการดังกล่าว ด้วยการสมทบจำนวนต้นไม้สำหรับปลูกในป่าชายเลนเท่าจำนวนบัตรโดยสารของสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค ที่จำหน่ายผ่าน KTC World Travel Service และชำระด้วยบัตรเครดิต KTC ในปี 2566 ทั้งนี้ ทีมงานเคทีซีและคาเธ่ย์ ได้ร่วมกันปลูกต้นไม้รวม 4,000 ต้น ณ ป่าชายเลนบางปู สมุทรปราการในวันที่ 23 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา

นางประณยา นิถานานนท์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เคทีซีดำเนินธุรกิจบนแนวคิดด้านความยั่งยืนโดยคำนึงถึงทั้งมิติสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล การร่วมมือกับพันธมิตรเปิดโอกาสให้สมาชิกได้มีส่วนร่วมแสดงความรับผิดชอบและบรรเทาปัญหาภาวะสิ่งแวดล้อมก็เป็นแนวคิดของเคทีซีด้วยเช่นกัน การร่วมมือกับ คาเธ่ย์ เพื่อต่อยอดโครงการ “บิน 1 เที่ยว ปลูก 1 ต้น”  เป็นส่วนหนึ่งที่เคทีซีต้องการสนับสนุนความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม สร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่ชุมชนท้องถิ่น และรณรงค์ให้สมาชิกเห็นความสำคัญของการปลูกต้นโกงกางในป่าชายเลน ซึ่งเป็นระบบนิเวศที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ช่วยลดโลกร้อนได้ดีเมื่อเทียบกับป่าบกทั่วไป ด้วยป่าชายเลนสามารถสะสมคาร์บอนไดออกไซด์ได้ในปริมาณที่มากกว่า เคทีซีจึงได้ร่วมสมทบต้นโกงกางเพิ่ม 1 ต้น เมื่อสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีจองบัตรโดยสารเครื่องบินสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค ทุกๆ 1 ใบ ผ่าน KTC World Travel Service โดยโครงการดังกล่าวนี้ เป็นความร่วมมือระยะยาวระหว่างสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิคและเคทีซี เริ่มต้นขึ้นในปี 2566 ซึ่งตลอดทั้งปีที่ผ่านมา มีจำนวนต้นโกงกางที่ได้รับจากโครงการนี้ถึง 4,000 ต้น  และในปีนี้ สมาชิกเคทีซียังคงสามารถเป็นส่วนหนึ่งใน โครงการ “บิน 1 เที่ยว ปลูก 1 ต้น”  ได้ตลอดทั้งปี 2567 คาเธ่ย์ ดำเนินโครงการ “บิน 1 เที่ยว ปลูก 1 ต้น”  เป็นครั้งแรกในปี 2564 ที่ประเทศไทย และได้ขยายผลไปยังประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งนำไปสู่การปลูกป่าชายเลนมากกว่า 27,000 ต้นทั่วทั้งภูมิภาค

นางสาวเคอรี่ ลุย ผู้จัดการประจำประเทศไทยและเมียนมาร์ สายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค กล่าวว่า “เราภูมิใจที่ได้สานต่อความพยายามในการส่งเสริมความยั่งยืนและตอบแทนชุมชนที่เราให้บริการ เรามุ่งมั่นที่จะสร้างอนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้นสำหรับคนรุ่นต่อ ๆ ไป และต้องการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนในสังคมมาร่วมมือกันเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นแก่โลกของเรา ในโอกาสนี้ เราจึงได้เชิญเด็กด้อยโอกาส 10 คนมาร่วมกิจกรรมกับเรา เพื่อให้พวกเขาได้รับประสบการณ์ตรงในการปลูกป่า และฟูมฟักแนวความคิดด้านความยั่งยืน ยิ่งไปกว่านั้น เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับเคทีซี พันธมิตรที่มีแนวคิดเดียวกันในการเดินทางเพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น”

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC World Travel Service โทรศัพท์ 02 123 5050 สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี สามารถคลิกดูรายละเอียดได้ที่ลิงค์ https://ktc.today/apply-card หรือติดต่อศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ 

หมายเหตุ : บัตรเครดิตใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้ตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ยสูงสุด 16% ต่อปี

นางสาวสิรีรัตน์ คอวนิช (กลางซ้าย) ผู้บริหารสูงสุด ฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนมอบเงินจำนวน 29,402,285 บาท สมทบทุนเข้าโครงการอุปการะเด็กในมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย เพื่อร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก ครอบครัวและชุมชนยากไร้ ซึ่งเผชิญกับปัญหาความยากจน รวมทั้งช่วยให้ครอบครัวและชุมชน สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน โดยสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีได้ร่วมกันบริจาคผ่านการใช้คะแนนสะสม KTC FOREVER และบัตรเครดิตเคทีซี โดยมีดร.สราวุธ ราชศรีเมือง (กลางขวา) ผู้อำนวยการ มูลนิธิศุภนิมิตฯ ให้เกียรติรับมอบ ณ มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย เขตห้วยขวาง เมื่อเร็วๆ นี้ 

มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย เป็นองค์กรสาธารณกุศลเพื่อการพัฒนาและการรณรงค์เพื่อสร้างความยุติธรรมในสังคม โดยดำเนินพันธกิจช่วยเหลือเด็ก ผ่านการทำงานร่วมกับครอบครัวและชุมชน เพื่อเอาชนะปัญหาความยากจนและความไม่ยุติธรรมในสังคม ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตเด็ก และชุมชนที่เปราะบางยากไร้ที่สุดโดยไม่มีการแบ่งแยกเพศ เชื้อชาติ ภาษาและศาสนา โดยมูลนิธิฯ มีเป้าหมายจะช่วยเหลือเด็ก 3 ล้านคนที่อยู่ในภาวะเปราะบางให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้นภายในปี 2025 ปัจจุบันมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย มีพื้นที่ดำเนินงานใน 36 จังหวัดทั่วทุกภาคของประเทศไทย และมีเด็กในความอุปการะ 38,479 คน

Page 1 of 65
X

Right Click

No right click