หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) เปิดตัว HUAWEI WATCH GT 4 สีใหม่ Light Gold Edition สำหรับรุ่น 41 มม. มอบประสบการณ์อันน่าหลงใหล ตัวเรือนสแตนเลสสตีลสีทองที่ลงตัวด้วยงานฝีมืออันพิถีพิถัน ผสานเข้ากับสายมิลานสีทองได้อย่างลงตัว วางจำหน่ายในราคา 8,990 บาท พร้อมรับโปรโมชันส่วนลดและของสมนาคุณสุดพิเศษ ในวันที่ 3 มีนาคม 2567 เริ่มเที่ยงคืนตรงบนช่องทางออนไลน์เท่านั้น ติดตามรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Lazada และ Shopee

สี Light Gold Edition ที่มาพร้อมสายสีทองสไตล์มิลาน และตัวเรือนสแตนเลสสีทอง

HUAWEI WATCH GT 4 สีใหม่ Light Gold Edition เน้นย้ำกลยุทธ์ Fashion Forward ที่หัวเว่ยมุ่งมั่นผสานกันอย่างลงตัวของเทคโนโลยีและแฟชั่น โดยหัวเว่ยเชื่อว่าเทคโนโลยีอุปกรณ์สวมใส่นั้นควรจะช่วยผลักดันให้ผู้ใช้ไม่เพียงแต่จัดระเบียบการดูแลสุขภาพ และฟังก์ชันพื้นฐานของสมาร์ทวอทช์เท่านั้น แต่ยังต้องทำได้อย่างเหนือชั้น และส่งเสริมความมีสไตล์ให้กับผู้ใช้ไปพร้อมกัน สีใหม่ Light Gold Edition ออกแบบด้วยงานฝีมืออันพิถีพิถันตัวเรือนสแตนเลสสตีลสีทอง เสริมเข้ากับสายถักมิลานสีทองช่วยเน้นย้ำเสน่ห์อันหรูหราของนาฬิกา ไม่เพียงแต่ให้องค์ประกอบการออกแบบที่สะดุดตาเท่านั้น แต่ยังสวมใส่สบายพอดีอีกด้วย และรูปลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ การผสมผสานระหว่างวัสดุและเฉดสีที่ลงตัวนี้ทำให้เกิดนาฬิกาที่เปล่งประกายความหรูหราและสุนทรียภาพอันหรูหรา

ครบด้วยฟีเจอร์ด้านสุขภาพระหว่างวัน (All-day monitoring) พร้อมติดตามการนอนหลับ (Sleeping tracking) และคำแนะนำเพิ่มเติม

มาพร้อมการอัปเกรดเทคโนโลยีตรวจวัดต่างๆ 3 เทคโนโลยีด้วยกัน เทคโนโลยีแรกคือนวัตกรรม TruSeen^TM 5.5+ พัฒนามาเพื่อดูแลสุขภาพโดยรวมของคุณให้แม่นยำยิ่งกว่าเดิมด้วยข้อมูลที่ป้อนเพิ่มเข้าไปกว่า 17,000 รายการ ช่วยวัดทั้งอัตราการเต้นของหัวใจ ค่าออกซิเจนในเลือด[1] ได้แม้อยู่ในอุณหภูมิต่ำ และยังมาพร้อมการวัดคุณภาพการนอนหลับ TruSleepTM 3.0 ที่ช่วยมอนิเตอร์การนอนหลับแบบมีคุณภาพเหมือนเคย อัปเกรดเพื่อให้ผู้ใช้ตระหนักถึงคุณภาพการนอนหลับได้ดียิ่งขึ้น ในเวอร์ชัน 3.0 การติดตามการนอนหลับของ HUAWEI WATCH GT 4 ช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจรอบการนอนหลับของตนได้อย่างครอบคลุม และช่วยปรับพฤติกรรมการนอนหลับโดยการวิเคราะห์พารามิเตอร์ทางสรีรวิทยาหลายอย่างตามการเคลื่อนไหวของร่างกายอัตราการเต้นของหัวใจและ HRV ระหว่างออกกำลังกาย

ฟีเจอร์สำหรับคุณผู้หญิงด้วยการคาดการณ์รอบประจำเดือน[2] (Intelligent menstrual cycle tracking)

HUAWEI WATCH GT 4 รองรับการจัดการรอบประจําเดือน 3.0 ที่เพิ่มขึ้นโดยการวิเคราะห์ตัวบ่งชี้ทางสรีรวิทยาของผู้ใช้อย่างชาญฉลาด เช่น อัตราการเต้นของหัวใจระหว่างการนอนหลับ อัตราการหายใจและอื่น ๆ เพื่อคาดการณ์ประจําเดือนและวันตกไข่โดยประมาณ เมื่อเปรียบเทียบกับคุณสมบัติสุขภาพประจําเดือนบนสมาร์ทวอทช์ทั่วไป HUAWEI WATCH GT 4 มีความแม่นยํามากกว่า 33%[3] ในการคาดการณ์วันแรกของรอบประจําเดือน

การแจ้งเตือนข้อความ รองรับการเชื่อมต่อกับ iOS และ Android พร้อมใช้งานในชีวิตประจำวันยาวนานสูงสุด 7 วัน

HUAWEI WATCH GT 4 ยังสามารถเชื่อมต่อผ่านบลูทูธได้กับทั้งสมาร์ทโฟนของหัวเว่ยเองไปจนถึงสมมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ iOS และแอนดรอยด์ เมื่อเชื่อมต่อแล้วจะสามารถรับโทรศัพท์ และตอบข้อความได้โดยไม่ต้องหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา อีกทั้งยังรองรับการแจ้งเตือนที่เป็นส่วนตัว สามารถตอบข้อความขณะประชุมได้อย่างง่ายดาย ตัวช่วยส่วนตัวนี้ยังเป็นเพื่อนคู่ใจที่แบตเตอรี่อึดทนยาวนานรองรับการใช้งานสูงสุด 7 วัน[4] มอบประสบการณ์แบบ 24/7 ให้ผู้ใช้ไม่ต้องชาร์จบ่อย

วางขายออนไลน์ 3.3 นี้

HUAWEI WATCH GT 4 สีใหม่ Light Gold Edition วางจำหน่ายช่องทางออนไลน์เท่านั้นในราคา 8,990 บาท พิเศษ! เมื่อสั่งซื้อในวันที่ 3 มีนาคม 2567 กับราคาพิเศษเพียง 5,990 บาท สำหรับช่องทาง Huawei Store รับฟรี HUAWEI FreeBuds Pro มูลค่า 5,499 บาท และกระติกน้ำสแตนเลส มูลค่า 790 บาท สำหรับร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Lazada รับฟรีร่มสีส้ม มูลค่า 490 บาท และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Shopee รับฟรีแก้วกาแฟแบบพกพา มูลค่า 590 บาท (ของสมนาคุณมีจำนวนจำกัด โปรดอ่านรายละเอียดที่ช่องทางการจำหน่าย)

เตรียมช้อป HUAWEI WATCH GT 4 สีใหม่ Light Gold Edition ในวันที่ 3 มีนาคม 2567 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อสินค้า คอมมิวนิตี้ และบริการ ง่ายๆ ในคลิกเดียว เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน My HUAWEI ใน AppGallery และติดตาม  HUAWEI Mobile TH

[1] ข้อมูลการตรวจวัดไม่ได้มีเป้าหมายที่จะนำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์หรือมีวัตถุประสงค์เพื่อวินิจฉัยรักษาหรือป้องกันโรคหรือภาวะใดๆ แต่ออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการออกกำลังกายโดยทั่วไปเท่านั้น

[2] ผลิตภัณฑ์นี้ไม่ใช่อุปกรณ์ทางการแพทย์ ดังนั้นข้อมูลการติดตามและผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องจึงมีไว้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้น และไม่ควรใช้เป็นพื้นฐานสำหรับการวินิจฉัยหรือการรักษาทางการแพทย์

[3]ข้อมูลโดย Huawei Lab

[4] อ้างอิงจากผลการทดสอบจากห้องปฏิบัติการของหัวเว่ย การใช้งานจริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความแตกต่างระหว่างรุ่นที่แตกต่างกันนิสัยการใช้งานและปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม