โดยใช้เทคโนโลยี TRAiLAR ซึ่งเป็นเทคโนโลยีพลังงานจากแสงอาทิตย์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในการช่วยลดการใช้เชื้อเพลิง การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา รถขนส่งแบบใหม่นี้สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ 2 แบบภายในคันเดียว และรับน้ำหนักได้มากถึง 12,500 กิโลกรัม ต่อคันจึงสามารถขนส่งได้ทั้งผลิตภัณฑ์แช่เย็นและแช่แข็ง เช่น เนื้อสัตว์และผัก การเพิ่มรถขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิในครั้งนี้ ส่งผลให้ปัจจุบันดีเอชแอลมีรถที่ติดตั้งเทคโนโลยี TRAiLAR เพื่อการขนส่งสินค้าทั่วประเทศรวมกว่า 40 คัน โดยแต่ละคันได้ติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์แบบบางพิเศษไว้บนหลังคาที่เชื่อมต่อกับระบบควบคุมการชาร์จแบบอัจฉริยะ

“การลงทุนในเทคโนโลยีอุตสาหกรรมชั้นนำเพื่อการขนส่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการนำเสนอโซลูชั่นรถขนส่งเพื่อความยั่งยืนที่ดีที่สุดเพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจของลูกค้าที่เปลี่ยนไป การเพิ่มรถขนส่งในครั้งนี้ ทำให้มั่นใจว่าเราจะขนส่งสินค้าบนท้องถนนได้ดีขึ้น และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ในเวลาเดียวกัน” สตีฟ วอล์คเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีเอชแอล ซัพพลายเชน กลุ่มธุรกิจประเทศไทย (ไทย เวียดนาม กัมพูชา และเมียนมาร์) กล่าว

รถขนส่งนี้ถือเป็นโครงการริเริ่มล่าสุดเพื่อบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์ ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ESG ทั้งทางด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล โดยล่าสุด ดีเอชแอล ยังได้ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ไฟ LED เซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว เสาไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ รวมถืงดำเนินการจัดการขยะ ที่คลังสินค้าบางนาโลจิสติกส์แคมปัสซึ่งเป็นคลังสินค้าร่วม (multi-user) ที่ใหญ่ที่สุดอีกด้วย

นอกเหนือจากประโยชน์ด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม รถขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิของดีเอชแอล ซัพพลายเชน ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยทางถนนและการจัดการยานพาหนะ ดังนี้

ด้านสิ่งแวดล้อม - รถขนส่งแต่ละคันถูกติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์แบบบางพิเศษไว้บนหลังคาและเชื่อมต่อกับแบตเตอรี่ หรือ แบตเตอรี่เสริมภายในเครื่องยนต์ ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 15% โดย ดีเอชแอล ซัพพลายเชน ถือเป็นบริษัทด้านโลจิสติกส์แห่งแรกในประเทศไทย ที่ติดตั้งเทคโนโลยีล้ำสมัยนี้ให้กับรถขนส่ง นอกจากนี้ เชื้อเพลิงชีวภาพที่เลือกใช้นั้นยังมีการเผาไหม้ที่สะอาดกว่าน้ำมันเบนซิน ส่งผลให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อีกด้วย

ด้านสังคม - ผู้ขับรถขนส่งจะได้รับความปลอดภัยมากขึ้นจากกล้องที่ติดภายในรถ ซึ่งจะช่วยตรวจสอบพฤติกรรมการขับรถ และป้องกันอันตรายจากการปฏิบัติงาน อาทิ ความเหนื่อยล้า (เช่น การหาว และ การเสียสมาธิ) เป็นต้น รวมถึงมีการติดตั้งการแจ้งเตือนแบบเสียงและแบบสั่น เพื่อเตือนผู้ขับ หากพวกเขาแสดงพฤติกรรมดังกล่าวในขณะที่รถกำลังวิ่งด้วยความเร็วเกินกว่า 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ด้านบรรษัทภิบาล - Telematics ช่วยให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบตำแหน่งและพฤติกรรมของผู้ขับรถได้แบบเรียลไทม์ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายการจราจรทางบก และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการวางแผนเส้นทาง เพื่อประหยัดเชื้อเพลิงและลดต้นทุนการขนส่งอีกด้วย

ดีเอชแอล ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการลดการปล่อยมลพิษที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์ทั้งหมดภายในปี ค.ศ. 2050 โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทางบริษัทได้ประกาศการลงทุนจำนวน 7 พันล้านยูโร (ประมาณ 2.62 แสนล้านบาท) ทั่วโลก ในระยะเวลา 10 ปีข้างหน้า สำหรับมาตรการต่างๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายโซลูชั่นโลจิสติกส์ที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ โดยจะนำเงินลงทุนไปใช้ในเชื้อเพลิงอากาศยานทางเลือก การเพิ่มจำนวนรถขนส่งอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ปล่อยมลพิษ และการดำเนินงานในอาคารที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น