และนางสาวพิมลรัตน์ รีพัฒนาวิจิตรกุล ประธานผู้บริหาร ทรัพยากรบุคคล เครือซีพี-ซีพีเอฟ ร่วมแสดงความยินดีกับนักกีฬาชมรมหมากล้อม ซีพีเอฟ ได้แก่ นายรวี ชัยมงคล และ นายสาริน นันตากาศ ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขันหมากล้อมศึกลุยไถ ระหว่าง CPF-PCG ตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 – 15 มกราคม 2565 จัดขึ้นโดยสมาคมกีฬาหมากล้อมแห่งประเทศไทย โดยมี นายทนง ไทยวัฒนาพร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านบริการทรัพยากรบุคคล ซีพีเอฟ ร่วมด้วย
ทั้งนี้ คณะผู้บริหารร่วมแสดงความยินดีกับนักกีฬา พร้อมชมการสาธิตการเล่นหมากล้อมและกฎกติกาต่างๆ สำหรับหัวใจสำคัญของกีฬาหมากล้อม คือ มีกลยุทธ์ที่ดีและเล่นเพื่อให้ได้พื้นที่ ไม่คิดถึงผลแพ้ชนะเพียงอย่างเดียว ระหว่างเกมผู้เล่นจะได้เรียนรู้ความผิดพลาด และนำโอกาสมาแก้ไขในวันข้างหน้า ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการทำงานและการทำธุรกิจได้
นางสาวพิมลรัตน์ รีพัฒนาวิจิตรกุล ประธานผู้บริหาร ทรัพยากรบุคคล เครือซีพี-ซีพีเอฟ กล่าวว่า CPF ได้จัดตั้งชมรมครอบครัว ซีพีเอฟ รักหมากล้อมขึ้น ด้วยความตั้งใจที่จะสนับสนุนให้พนักงานและบุตรหลาน ได้ฝึกสมาธิ สร้างทักษะการบริหารและวางแผน ในปีที่ผ่านมา เราได้จัดสอนหมากล้อมขั้นพื้นฐาน ผ่านระบบออนไลน์ให้แก่พนักงานและบุตรหลานอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งจัดส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันจนประสบความสำเร็จคว้ารางวัลชนะเลิศการแข่งขันหมากล้อมศึกลุยไถ เป้าหมายในปีนี้คือ ผลักดันให้กีฬาหมากล้อมเป็นกิจกรรมที่เข้าถึงง่ายและดึงดูดสมาชิกใหม่ๆ ที่สนใจ โดยจัดสอนในระดับพื้นฐานแก่พนักงานและครอบครัวเป็นประจำทุกสัปดาห์ ยกระดับทักษะการเล่นและเสริมทัพนักกีฬาหมากล้อมซีพีเอฟ ด้วยการจัดแข่งขันภายในบริษัทฯ ระหว่างกลุ่มธุรกิจต่างๆ พร้อมทั้งคัดเลือกพนักงานและบุตรหลานที่มีความสามารถเป็นตัวแทนนักกีฬาของเราต่อไป
"ปัจจุบัน ซีพีเอฟ มีชมรมทั้งสิ้น 14 ชมรม ในการช่วยเสริมสร้างการพัฒนาศักยภาพของพนักงานครอบคลุม 3 ด้าน ได้แก่ ด้านร่างกาย อาทิ ชมรมวิ่ง ชมรมฟุตบอล และชมรมแบดมินตัน, ด้านจิตใจ อาทิ ชมรมบำเพ็ญประโยชน์ ชมรมครอบครัวอบอุ่น ชมรมคนรักสัตว์เลี้ยง และด้านกระบวนการคิด อาทิ ชมรมหมากล้อม ชมรม Coding & Robotic และชมรมการออมและการลงทุน ซึ่งพนักงานสามารถสมัครเป็นสมาชิกได้มากกว่า 1 ชมรม ตามความต้องการ นอกจากนี้ ยังสามารถเชิญชวนคนในครอบครัวเข้าร่วมกิจกรรมกับบางชมรมได้อีกด้วย เพื่อสร้างความผูกพันกับบริษัทฯ เช่นเดียวกับพนักงาน" นางสาวพิมลรัตน์ กล่าว
นางสาวพิมลรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เราเชื่อว่ากิจกรรมต่างๆ ของชมรม จะเป็นพื้นที่สร้างเครือข่ายและรูปแบบการทำงานใหม่ๆ ส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรอันดี โดยผู้บริหารระดับสูงทุกท่านให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ บริษัทฯ ตั้งใจที่จะผลักดันกิจกรรมทั้ง 14 ชมรม ให้เข้าถึงพนักงานในทุกพื้นที่ ไม่เพียงตอบความต้องการของสมาชิก แต่ยังขยายไปยังบทบาทในการทำงานเพื่อสังคมและเป็นเครื่องมือเชื่อมโยงความสัมพันธ์พนักงานในทุกระดับ เปิดโอกาสให้พนักงานใกล้ชิดผู้บริหาร ได้เห็นและรู้จัก ไม่เพียงแค่มุมของการทำงานเท่านั้น เพราะในชมรมเป็นการอยู่ร่วมกันแบบพี่น้อง เป็นเวทีรับฟังความคิดเห็น ดังนั้น การที่เราส่งเสริมให้พนักงานรักกัน มีความสุขที่อยู่ในองค์กร จะทำให้เกิดการบอกต่อถึงบรรยากาศการทำงานขององค์กรให้สังคมภายนอกรู้ และเชิญชวนคนรุ่นใหม่มาร่วมงานกับเรา