ในงานมหกรรมด้านความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน Sustainability Expo 2022 (SX 2022) จัดขึ้น ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โชว์นวัตกรรมอาหารเพื่ออนาคต (Innovative Product) ผลิตภัณฑ์เนื้อจากพืช Meat Zero และกระบวนการผลิตสู่ความยั่งยืนตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Innovative Process)

กิจกรรมไฮไลท์ในงานจัดเวทีเสวนาในหัวข้อ Leading Sustainable Business โดยมี นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) และ ผู้บริหารระดับสูงขององค์กรเอกชนระดับแนวหน้าของไทย เช่น  พีทีที โกลบอล SCG  ไทยเบฟ ไทยยูเนี่ยน ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน Roadmap การดำเนินธุรกิจสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) เป็นต้น

ในโอกาสนี้  นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และผู้บริหารภาคเอกชนชั้นนำของไทย อาทิ นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)  นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) พร้อมกับ นายศุภชัย เจียรวนนท์ นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ และ ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหารยุทธศาสตร์ข้อมูลและการสื่อสาร เครือซีพี ร่วมชมบูธ CPF ที่จัดแสดงในงาน ภายใต้แนวคิด "CPF SUSTAINABLE KITCHEN OF THE WORLD TOWARDS NET-ZERO

“ซีพีเอฟ ร่วมงาน SX 2022 เป็นการรวมพลังของบริษัทชั้นนำของไทยมาแบ่งปันองค์ความรู้ ความมุ่งมั่น และแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ในการดำเนินธุรกิจที่ร่วมดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน” นายประสิทธิ์ กล่าว

ซีพีเอฟได้นำเสนอนวัตกรรมความยั่งยืนด้านอาหารเพื่ออนาคตและบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน (Innovative Products) ชูนวัตกรรมเนื้อจากพืช Meat Zero  บรรจุภัณฑ์อาหารที่ซีพีเอฟให้ความสำคัญกับการออกแบบเพื่อนำไปสู่กระบวนการรีไซเคิล (Design for Recycling) ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน และนวัตกรรมความยั่งยืนทางกระบวนการผลิต Smart Feed -Farm -Food (Innovative Process) โดยนำ Green Factory ต้นแบบโรงงานแห่งอนาคต ซึ่งถูกออกแบบและก่อสร้างบนแนวคิดของอาคารประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การใช้พลังงานสะอาดในกระบวนการผลิต การยกเลิกการใช้ถ่านหิน 100% สำหรับกิจการในประเทศไทย (Coal Free 2022) เป็นต้น ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อการสนับสนุนเป้าหมายสู่การเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ในปี 2050 และสอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ (SDGs)