Razer™ แบรนด์ไลฟ์สไตล์ชั้นนำสำหรับเหล่าเกมเมอร์ ได้ร่วมยกทัพนวัตกรรมและสินค้ารุ่นใหม่มาอวดโฉมสู่สายตาแฟน ๆ เป็นครั้งแรก ในงาน CES2023 โดยจัดขึ้นภายใต้แนวคิดการนำเสนอเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเพื่อเปิดโอกาสให้คอเกมและผู้ที่ชื่นชอบในเทคโนโลยีได้สัมผัส ทดลองใช้งานนวัตกรรมใหม่ก่อนวางจำหน่ายจริง ซึ่งหนึ่งในไฮไลต์ของงานคือผลิตภัณฑ์ Razer Edge สุดยอดเครื่องเล่นเกมพกพาระบบแอนดรอยด์ที่มีกำหนดวางจำหน่ายในเร็ว ๆ นี้
Razer Edge โดดเด่นด้วยหน้าจอ AMOLED 6.8 นิ้ว ความละเอียด 2400x1080 FHD+ พร้อม Refresh Rate 144Hz เพื่อมอบประสบการณ์เกมมิ่งที่เชื่อมต่อออนไลน์ได้จากทุกที่ทุกเวลา โดยเป็นเครื่องเล่นเกมพกพารุ่นแรกที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้งานกับ Snapdragon G3x Gen 1 Gaming Platform รุ่นใหม่ล่าสุดโดยเฉพาะ พร้อมระบบระบาย
ความร้อนแบบแอ็กทีฟเพื่อให้สามารถเล่นเกมระดับ AAA รวมถึงเกมอื่น ๆ ได้อย่างยาวนานโดยไม่ต้องกังวลว่าประสิทธิภาพจะลดลงเนื่องจากปัญหาความร้อน Razer Edge จะวางจำหน่าย 2 รุ่น ในสหรัฐฯ เริ่มจำหน่ายในวันที่ 26 มกราคม โดยรุ่น Razer Edge (Wi-Fi) จำหน่ายเฉพาะช่องทาง Razer.com และศูนย์จำหน่าย RazerStore ทั่วสหรัฐฯ ในราคา 399.99 ดอลลาร์ และรุ่น Razer Edge 5G จำหน่ายเฉพาะช่องทาง Verizon.com และศูนย์จำหน่าย Verizon Store
แนวคิดการออกแบบ Project Carol เบาะรองศีรษะรุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมระบบเสียง Near-field Surround Sound และระบบการสั่นตอบสนองแบบ Haptics
เรเซอร์นำเสนอ Project Carol เบาะรองศีรษะรุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมระบบเสียง Near-field Surround Sound และระบบการสั่น Haptics เพื่อนำเกมเมอร์สู่โลกใบใหม่แห่งประสบการณ์เสียงที่เต็มอิ่มในทุกอารมณ์พร้อมการสั่นสะเทือนที่สมจริง โดย Project Carol เป็นผลงานการออกแบบนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของแผนกวิจัยและพัฒนาของเรเซอร์ ซึ่งประกอบด้วยทีมงานที่ทุ่มเทเพื่อการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ ขยายกลุ่มสินค้าของเรเซเอร์ในอนาคต และสามารถคว้ารางวัลงาน CES Innovation and Best of Show Awards มาแล้วมากมาย
Project Carol ยกระดับอารมณ์ร่วมและความสมจริงของเกมขึ้นไปอีกระดับด้วยความชาญฉลาดในการใช้ระบบเสียง Near-field Surround Sound ที่มอบเสียงที่ชัดใส ทำงานควบคู่กับระบบ 7.1 Surround Sound เพื่อมอบสุดยอดประสบการณ์เกมมิ่ง โดยระบบ Near-field Surround Sound ของ Project Carol แตกต่างจากหูฟังทั่วไปเนื่องจากจะให้เสียงที่ชัดเจนกว่าเพราะส่งตรงมาจากด้านหลัง มอบทัศนียภาพของเสียง (Soundscape) ที่โอบล้อมตัวผู้ใช้งานมากกว่า Project Carol ยังใช้เทคโนโลยีของเรเซอร์เจ้าของรางวัลระดับโลกอย่าง Razer™ HyperSense จึงสามารถเปลี่ยนเสียงในเกมให้เป็นการสั่นตอบสนองแบบเรียลไทม์ ทำให้เกมเมอร์สามารถรู้สึกถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นด้านหลังได้ ช่วยวางตำแหน่งผู้ใช้เสมือนอยู่กลางสมรภูมิในเกมได้อย่างสมจริง
Project Carol รองรับการทำงานบนพีซีและถูกออกแบบให้เหมาะสมกับเก้าอี้เกมมิ่งทุกรูปแบบ ซึ่งรวมถึงเก้าอี้รุ่นยอดนิยมของเรเซอร์อย่างซีรีส์ Iskur และ Enki โดยมีสายรัดที่ยืดปรับระดับได้ตามต้องการ เมื่อเชื่อมต่อด้วยสัญญาณไร้สาย 2.4GHz จะทำให้ Project Carol สามารถใช้เล่นเกมได้นานต่อเนื่องถึง 8 ชั่วโมงก่อนที่จะต้องทำการชาร์จใหม่อีกรอบ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Project Carol ของเรเซอร์ที่นี่
โน้ตบุ๊ก Razer Blade รุ่นใหม่
การพัฒนาโน้ตบุ๊ก Razer Blade ในปี 2023 คือการเปลี่ยมาตรฐานใหม่ของเกมมิ่งแล็ปท็อป โดยผสานฟีเจอร์จอแสดงผลรุ่นใหม่อัตราส่วน 16:10 เข้ากับเทคโนโลยีการประมวลผลกราฟิกรุ่นใหม่ที่ทรงพลังสูงสุด และทั้งหมดอัดแน่นอยู่ในตัวเครื่องที่บางเบาตามแบบฉบับของเรเซอร์
โน้ตบุ๊ก Razer Blade 16 และ Razer Blade 18 เผยโฉมครั้งแรกในงาน CES 2023 โดยทั้งสองรุ่นติดตั้งขุมพลังชิปเซ็ตรุ่นใหม่ล่าสุด 13th Generation Intel®️ Core™ i9 HX หน่วยประมวลผลกราฟิก NVIDIA®’s next-Generation RTX™ 40 Series ทำงานได้สูงสุดที่ 175W TGP และเมโมรีรุ่นอัปเกรดอย่าง DDR5 5600MHz ซึ่งการผสานเทคโนโลยีทั้งหมดนี้เข้าด้วยกันต้องอาศัยนวัตกรรมการออกแบบขั้นสูงเพื่อให้สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพภายใต้ข้อจำกัดด้านอุณหภูมิ ผ่านการเพิ่มประสิทธิภาพของเทคโนโลยีระบบระบายความร้อนซึ่งเป็นสิทธิบัตรของเรเซอร์
Razer Leviathan V2 Pro ซาวด์บาร์ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Beamforming รุ่นแรกของโลกพร้อมฟีเจอร์ Head-Tracking AI
Razer Leviathan V2 Pro นำเสนอนวัตกรรมล่าสุดของระบบเสียง 3 มิติ เป็นซาวด์บาร์ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Beamforming สำหรับใช้งานกับเดสก์ท็อปรุ่นแรกของโลกพร้อมฟีเจอร์ Head-Tracking AI ด้วยความร่วมมือกับผู้บุกเบิกเทคโนโลยีเสียงอย่าง THX® และผู้เชี่ยวชาญชั้นนำด้านระบบเสียง Beamforming 3 มิติอย่าง Audioscenic ซึ่งทำให้ซาวด์บาร์รุ่นใหม่จากเรเซอร์นี้มอบเสียงที่ดีที่สุดทั้งสองรูปแบบ โดยมอบเวทีเสียงที่ครอบคลุมรอบทิศทางและสามารถกำหนดให้ผู้ใช้งานอยู่ในตำแหน่งรับเสียงที่ถูกต้องแม่นยำเสมอเพื่อมอบประสบการณ์ด้านเสียงที่ดีเยี่ยมที่สุด โดยเทคโนโลยีทั้งหมดถูกติดตั้งอยู่ในตัวเครื่องที่กะทัดรัด รูปทรงสวยงามสุดพรีเมียม พร้อมการตั้งค่าที่ง่ายดาย ช่วยให้โต๊ะทำงานของคุณดูทันสมัย เรียบง่าย และสบายตา
เมื่อผสานระบบเสียง Beamforming Surround Sound เข้ากับเทคโนโลยี Head-Tracking AI ทำให้ Leviathan V2 Pro มอบเสียงแบบ 3 มิติที่ให้คุณดื่มด่ำในทุกอารมณ์ผ่านการทำงานร่วมกับกล้อง IR ที่ช่วยตรวจจับตำแหน่งของผู้ใช้งาน ซาวด์บาร์จึงสามารถปรับทิศทางเสียงให้พุ่งตรงไปยังตำแหน่งของผู้ใช้งานได้อย่างแม่นยำแบบเรียลไทม์ ทำให้ผู้ใช้งานอยู่ในตำแหน่งรับเสียงที่ถูกต้องอยู่เสมอและได้รับประสบการณ์เสียงที่ยอดเยี่ยมที่สุด
เมื่อผสานการทำงานร่วมกับ THX® Spatial Audio เพื่อสร้างประสบการณ์เสียงที่เต็มอิ่ม ร่วมกับการปรับทิศทางเสียงตามตำแหน่งผู้ใช้งาน Audioscenic User Adaptive Beamforming ทำให้ซาวด์บาร์รุ่นนี้มอบประสบการณ์เสียงแบบ 3 มิติที่แท้จริงและตอบโจทย์ทุกคอนเทนต์ความบันเทิงได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งสามารถเลือกรับประสบการณ์เสียง 3 มิติได้ 2 โหมด ได้แก่ โหมด THX® Spatial Audio Virtual Headset สำหรับคอนเทนต์เสียงแบบสเตอริโอทุกรูปแบบ โดยให้สัญญาณเสียงที่แม่นยำตามตำแหน่งของชุดหูฟังที่สวมใส่อยู่ ในขณะที่โหมด THX® Spatial Audio Virtual Speakers ใช้กับคอนเทนต์ที่มีเสียงหลายชาแนล มอบเวทีเสียงที่กว้างครอบคลุมทั้งห้อง มอบประสบการณ์เสียงที่ดีเยี่ยมเหมือนกับการใช้ระบบเสียงโฮมเธียร์เตอร์ภายในบ้าน
Leviathan V2 Pro ติดตั้งซับวูเฟอร์ ถือเป็นซาวด์บาร์สำหรับพีซีที่มีไดรเวอร์หลายตัวเพื่อมอบเสียงแหลมที่ชัดใสและลึกและเสียงเบสที่หนักแน่น รองรับการทำงานกับระบบไฟ Razer Chroma™ RGB ให้คุณดื่มด่ำกับรูปแบบการจัดไฟมากถึง 30 โซนด้วยสีแสงไฟมากถึง 16.8 ล้านสี ซึ่งมีเกมที่รองรับระบบไฟที่ครอบคลุมที่สุดในโลกนี้มากกว่า 200 เกม
ดูรายละเอียดของ Leviathan V2 Pro ได้ที่นี่ กำหนดวางจำหน่ายตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไปในราคาเริ่มต้น 399.99 ดอลลาร์ / 489.99 ยูโรที่ Razer.com และศูนย์จำหน่าย RazerStore
Razer Kiyo Pro Ultra เว็บแคมเซ็นเซอร์ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาเพื่อคุณภาพสูงระดับกล้อง DSLR
ยิ่งเซ็นเซอร์ใหญ่ ยิ่งให้คุณภาพของภาพสูง ซึ่ง Razer Kiyo Pro Ultra ได้สร้างนิยามใหม่ของมาตรฐานด้านภาพเพื่อนักสร้างคอนเทนต์และนักสตรีมมิ่งรุ่นใหม่ ด้วยการใช้เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในตลาดเว็บแคม เพื่อมอบประสบการณ์ภาพขั้นสูงที่ให้รายละเอียดความคมชัดระดับเดียวกับกล้อง DSLR พร้อมการใช้งานที่ง่ายดายแบบเว็บแคมทั่วไปที่เสียบสายแล้วใช้งานได้ทันที
หัวใจสำคัญของเว็บแคมระดับมืออาชีพของเรเซอร์คือการใช้เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่สุดของอุตสาหกรรมอย่าง Sony 1/1.2″ STARVIS™ 2 ด้วยขนาดพิกเซล 2.9 μm สามารถเก็บแสงและข้อมูลภาพได้ทุกพิกเซล ทำให้ได้ภาพที่มีรายละเอียดและสีสันที่ครบถ้วน และเพื่อให้เซ็นเซอร์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ Kiyo Pro Ultra จึงใช้เลนส์ที่สั่งทำโดยเฉพาะที่มีรูรับแสงกว้างพิเศษขนาด F/1.7 ซึ่งเก็บแสงได้มากกว่าเว็บแคมทั่วไปถึง 4 เท่า เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดใสแม้ถ่ายในสภาพแสงน้อย
คุณภาพขั้นสูงของภาพเกิดจากการทำงานของหน่วยประมวลผลที่ทันสมัยที่สามารถแปลงคลิป Raw 4K 30 FPS (หรือ 1080P 60 FPS) เป็น 4K 24 FPS, 1440p 30 FPS, หรือ 1080p 60 FPS (แบบ uncompressed) ได้โดยตรงเมื่อคุณทำการสตรีม และเพื่อรับประกันว่านักสตรีมจะอยู่ในตำแหน่งจุดสนใจในกรอบภาพเสมอ ระบบ AI-powered Face Tracking Auto-focus) ของ Kiyo Pro Ultra จะคอยตรวจจับใบหน้าของผู้ใช้งานตลอดเวลาเพื่อให้เห็นภาพใบหน้าที่ชัดเจน ไม่หลุดโฟกัส พร้อมกับการช่วยเบลอพื้นหลังได้อย่างสวยงามด้วย Bokeh Effect ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถทำจบในตัวโดยไม่ต้องซื้ออุปกรณ์ต่อพ่วงหรือติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติมแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ยังมีระบบ High Dynamic Range (HDR) ที่รองรับการถ่ายที่ระดับ 30FPS ทำให้นักสร้างคอนเทนต์ได้ภาพที่สวยงามสมจริงผ่านความสามารถของ Kiyo Pro Ultra ในการระบุค่าแสงและคอนทราสต์ได้แบบอัตโนมัติไปพร้อมกับการปรับค่าในโซนสว่างและโซนมืดให้ได้ระดับสมดุล ซึ่งจะทำให้เรามองเห็นรายละเอียดและพื้นผิวที่มีสีสันเข้มขึ้นได้อย่างชัดเจน นักสร้างคอนเทนต์ยังสามารถใช้งานร่วมกับ Razer Synapse เพื่อการปรับค่าที่ละเอียดขึ้น
เพื่อยกระดับคุณภาพคอนเทนต์ผ่านการตั้งค่าสำเร็จรูปที่ปรับแต่งเองได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นค่า ISO ความเร็วชัตเตอร์ การแพน-ทิลท์ และอีกมากมาย
นอกจากนี้ Kiyo Pro Ultra ยังสามารถเสียบสายใช้งานและต่ออนไลน์ได้ภายในเวลาไม่กี่นาที ผ่านการเชื่อต่อด้วยสาย USB 3.0 ที่เรียบง่าย ผู้ใช้จึงสามารถเชื่อมต่อและเข้าถึงการสร้างไฟล์คุณภาพระดับมืออาชีพได้อย่างรวดเร็ว
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Razer Kiyo Pro Ultra ได้ที่นี่ โดยกำหนดวางจำหน่ายในงันที่ 5 มกราคม 256 ในราคาเริ่มต้น 299.99 ดอลลาร์ / 299.99 ยูโร ผ่านทาง Razer.com และศูนย์จำหน่าย RazerStore
อุปกรณ์ต่อพ่วง VR สำหรับ Meta Quest 2 เพื่อประสบการณ์ Virtual Reality ที่สมจริง
เรเซอร์ยังเผยโฉมอุปกรณ์ต่อพ่วง VR อีก 2 รุ่นสำหรับ Meta Quest 2 ได้แก่ Razer Adjustable Head Strap System และ Razer Facial Interface เพื่อยกระดับการเล่นเกม VR และเพิ่มความสะดวกสบาย ซึ่งทั้ง Razer Adjustable Head Strap System และ Razer Facial Interface ออกแบบสำหรับใช้งานกับ Meta Quest 2 โดยความร่วมมือระหว่างเรเซอร์และ ResMed ผู้เชี่ยวชาญชั้นแนวหน้าด้านมนุษยปัจจัย (Human Factors)
\
Razer Adjustable Head Strap System ถูกออกแบบมาให้สวมใส่สบาย ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานด้วยการสร้างสมดุลของน้ำหนักที่สอดรับกับศีรษะทุกรูปทรง ด้วยวัสดุไนลอนคุณภาพสูงที่มอบความทนทาน สวมใส่สบายและเชื่อถือได้ ทั้งยังช่วยประจายน้ำหนักให้รู้สึกสวมใส่ได้อย่างสมดุลในระหว่างการเล่นเกม แถบปรับขนาดที่นุ่มสบายจะช่วยให้เกมเมอร์สามารถสวมใส่ได้อย่างลงตัวและง่ายดายเพื่อลดการหยุดชะงักขณะเล่นเกมโปรด
ส่วน Razer Facial Interface ถูกพัฒนาเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและการรองรับที่สมบูรณ์แบบ ผลิตด้วยวัสดุเมมเบรนขึ้นรูปที่มีผิวสัมผัสบางละเอียด จึงช่วยลดแรงกดบนใบหน้า ทั้งยังเป็นวัสดุเกรดทางการแพทย์ อ่อนโยนไม่ทำให้เกิดอาการแพ้เพื่อลดอาการระคายเคืองผิว เมื่อสวมใส่จะสามารถปิดกั้นแสงได้ทั้งหมด แต่ยังสามารถระบายอากาศได้ดี ช่วยให้เกมเมอร์ดื่มด่ำกับประสบการณ์เกมมิ่งที่เหนือกว่า และยังใช้วัสดุพื้นผิวที่ไม่มีรอยต่อเพื่อให้ถูกสุขลักษณะและง่ายต่อการดูแลทำความสะอาด ในขณะที่รูปทรงโค้ง 3 มิติช่วยสร้างสมดุลและรองรับได้อย่างสบายตลอดเวลาที่สวมใส่
อุปกรณ์ต่อพ่วง VR สำหรับ Meta Quest 2 ของเรเซอร์กำหนดวางจำหน่ายในสหรัฐฯ ช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 และจะจัดจำหน่ายที่ภูมิภาคอื่น ๆ ในอนาคต ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่
เรเซอร์ (Razer™) แบรนด์ไลฟ์สไตล์ชั้นนำระดั
Razer™ แบรนด์ไลฟ์สไตล์ชั้นนำระดับโลกสำหรับเกมเมอร์ ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ครั้งใหม่กับ miHoYo ผู้พัฒนาอุตสาหกรรมความบันเทิงและสื่อสิ่งพิมพ์ระดับโลกสำหรับเกม Genshin Impact ที่ชนะรางวัลและเล่นฟรี
ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือครั้งนี้ Razer และ miHoYo จะทำให้เกมเมอร์ได้ดื่มด่ำกับเกมแนวแอ็คชั่นแบบโอเพ่นเวิร์ลผ่านอุปกรณ์ต่อพ่วงที่ได้รับอนุญาตจากแบรนด์ร่วม การผสานรวม Razer Chroma RGB และการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ เช่น โปรไฟล์เกม THX ที่ปรับแต่งเองเพื่อยกระดับประสบการณ์การเล่นเกม
Justin Cooney ผู้อำนวยการ Global Partnerships ของ Razer กล่าวว่า "โลกที่สวยงามของ Genshin Impact ได้โอบล้อมแฟน ๆ จำนวนมากจากทั่วโลกซึ่งหมายรวมถึงโอกาสอันมากมายมหาศาล “ด้วยความร่วมมือครั้งนี้ Razer จะให้ความเชี่ยวชาญของเราในการเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมที่ลึกล้ำ ผ่านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการที่ได้รับรางวัลของเราและนำการผจญภัยมาสู่ชีวิต”
Yu Ling ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจต่างประเทศของ miHoYo กล่าวว่า "ด้วยการติดตามอย่างกว้างขวางจากทั่วโลก miHoYo รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ร่วมงานกับ Razer ผู้เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอุตสาหกรรมเกม เราตั้งตารอที่จะสร้างความสุขให้กับแฟนๆ ขยายโลกแฟนตาซีของ Genshin Impact ให้กว้างมากยิ่งขึ้น ผ่านการร่วมงานกับ Razer”
ดำดิ่งสู่โลกแห่งจินตนาการที่เปิดกว้างด้วย Razer
Razer ได้ร่วมกับ miHoYo พัฒนาฮาร์ดแวร์เกมภายใต้แบรนด์ร่วม แฟน ๆ สามารถตั้งตารอการออกแบบตามธีมของ Genshin Impact บนผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลของ Razer รวมถึงเมาส์สำหรับเล่นเกม Razer DeathAdder V2 Pro เก้าอี้เล่นเกมที่เหมาะกับสรีระของ Razer Iskur X และแผ่นรองเมาส์สำหรับเล่นเกม Razer Goliathus Speed เพื่อเป็นการรำลึกถึงความร่วมมือเพิ่มเติม การมาพร้อมกับผลิตภัณฑ์แบรนด์ร่วมแต่ละผลิตภัณฑ์เป็นรหัสโบนัสที่แฟน ๆ สามารถใช้แลกของรางวัลในเกมที่น่าตื่นเต้นได้ สำหรับสุดยอดสถานีเกม Genshin Impact การออกแบบของ Genshin Impact จะพร้อมใช้งานบน Razer Customs ในเร็วๆ นี้ ซึ่งเป็นบริการออนไลน์ของ Razer.com ที่นำเสนอการออกแบบพันธมิตรอย่างเป็นทางการสำหรับฮาร์ดแวร์ Razer หลายรุ่น Razer Customs ช่วยให้นักเล่นเกมปรับแต่งและปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ของตนได้ เช่น เมาส์ เคสโทรศัพท์ และแผ่นรองเมาส์ ทำให้เป็นอุปกรณ์ของตัวเองอย่างแท้จริง
เพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับชม Razer มอบโปรไฟล์เกม THX ที่สามารถปรับแต่งเองผ่านแอป THX Spatial Audio โปรไฟล์นี้มีอยู่ในPCและสามารถเข้ากันได้กับชุดหูฟังสำหรับเล่นเกมทั้งหมด สำหรับ Genshin Impact มีจุดมุ่งหมายในการมอบเสียงเซอร์ราวด์ 7.1 ขั้นสูงพร้อมความแม่นยำของตำแหน่งที่แม่นยำ แอพ THX Spatial Audio ให้เสียงที่คมชัดเพื่อสะท้อนสภาพแวดล้อมในเกมได้อย่างสมจริง
Genshin Impact เปิดตัวในเดือนกันยายน 2020 เพื่อเป็นการประโคมที่ยอดเยี่ยม ชื่อเกมที่ได้รับความนิยมอย่างสูงได้รับรางวัลมากมาย รวมถึงเกม App Store แห่งปี 2020 เกมที่ดีที่สุดของ Google Play แห่งปี 2020 และผลสำรวจสาธารณะของ Tokyo Game Show Media Awards 2020 ต่อมาชื่อเกมถูกรวมเข้ากับแพลตฟอร์ม Razer Gold และ Silver ในเดือนธันวาคม 2020