บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) ประกาศปรับปรุงทิศทางและกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ โดยจะมุ่งเน้นการพัฒนาและสร้างความแข็งแกร่งในกลุ่มธุรกิจหลักของบริษัทฯ ซึ่งได้แก่ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก่อสร้างและพรีคาสท์ และธุรกิจเฮลท์แคร์ เพื่อให้บริษัทฯ สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ทั้งนี้บริษัทฯ ได้วางแผนปรับโครงสร้างพอร์ตการลงทุน (Investment Portfolio) โดยมุ่งเน้นการลงทุนที่มีศักยภาพและสามารถสนับสนุนกลุ่มธุรกิจหลักของบริษัทฯ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารความเสี่ยง ความชัดเจนในกลยุทธ์การดำเนินงาน และใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ในการนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติการแต่งตั้ง นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ให้ดำรงตำแหน่งรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทฯ โดยนายทองมาจะเข้ามาดูแลการบริหารงานเชิงกลยุทธ์ และด้านปฏิบัติการต่าง ๆ ในกลุ่มพฤกษา เพื่อให้สามารถตอบสนองเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ขององค์กรได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2567
การเปลี่ยนแปลงผู้บริหารระดับสูงในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อให้การบริหารงานของบริษัทฯ สอดคล้องกับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในอนาคต ที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งในกลุ่มธุรกิจหลัก ซึ่งเป็นไปตามแผนการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ โดยการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ แต่อย่างใด ทั้งยังเป็นการส่งเสริมกลยุทธ์การพัฒนาองค์กร ภายใต้แนวคิดการส่งมอบการอยู่อาศัยที่ “อยู่ดี มีสุข Live well Stay well” ที่พฤกษาต้องการมุ่งสร้างความแข็งแกร่งและการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน สำหรับ 2 กลุ่มธุรกิจที่เป็นหัวใจหลัก อันได้แก่ (1) การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่ดีของทุกกลุ่มลูกค้า ทั้งในด้านการออกแบบ ฟังก์ชัน สิ่งอำนวยความสะดวก การส่งมอบบริการที่เป็นเลิศ รวมถึงการพัฒนาที่อยู่อาศัยแบบเวลเนส เรสซิเดนซ์เต็มรูปแบบ โดยนำจุดแข็งที่เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายเดียวของไทยที่มีกลุ่มโรงพยาบาลวิมุตอยู่ในเครือ ร่วมพัฒนาโครงการของพฤกษา เพื่อยกระดับการอยู่อาศัยที่ “อยู่ดี มีสุข” และ (2) ธุรกิจเฮลท์แคร์ ที่มีความพร้อมในการพัฒนาและขยายธุรกิจ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเสาหลักที่สำคัญในการเติบโตของพฤกษา เพื่อช่วยยกระดับการดูแลสุขภาพ และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของสังคมในวงกว้าง โดยมุ่งมั่นที่จะขยายการให้บริการที่เน้นคุณภาพสูง และการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพอย่างครบวงจร ซึ่งธุรกิจเฮลท์แคร์ของพฤกษายังคงเป็นหนึ่งในธุรกิจที่สร้างรายได้ที่ดีอย่างต่อเนื่อง และช่วยเสริมฐานรายได้ของบริษัทฯ ในภาพรวม
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของบริษัทฯ ที่มุ่งมั่นในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างเต็มที่ อีกทั้งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นท่ามกลางความผันผวนทางเศรษฐกิจและทิศทางของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยพฤกษาพร้อมเดินหน้าสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจเฮลท์แคร์ที่ตอบโจทย์ทั้งลูกค้าและผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต มุ่งเดินหน้าสู่เป้าหมายองค์กรแห่งการพัฒนาอย่างยั่งยืน
พฤกษา โฮลดิ้ง พร้อมด้วยบริษัทในเครือ ได้แก่ โรงพยาบาลวิมุต และ อินโนโฮม คอนสตรัคชัน ร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน รวมพลังสานต่อโครงการ “บ้านใส่ใจเพื่อคนพิการ By PRUKSA” เดินหน้าต่อเนื่องมาสู่ปีที่ 6 โดยโครงการนี้มีเป้าหมายสำคัญในการปรับปรุงและสร้างบ้านใหม่ให้แก่คนพิการ เพื่อให้คนพิการได้มีที่อยู่อาศัยที่เหมาะสม ปลอดภัยและตอบสนองต่อความพิการเฉพาะรายบุคคล เพื่อช่วยให้สามารถใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายมากขึ้น พร้อมทั้งสนับสนุนสร้างโอกาสในการมีอาชีพของคนพิการ เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถพึ่งพาตนเองได้และยืนหยัดอย่างมีศักดิ์ศรีในสังคม
การลงพื้นที่สำรวจปัญหาอย่างละเอียดเพื่อแก้ไขตรงจุด
พฤกษาฯ และทีมงานได้ลงพื้นที่สำรวจสภาพแวดล้อมและความต้องการของคนพิการอย่างใกล้ชิด โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ได้ช่วยให้ทีมงานสามารถประเมินปัญหาที่แท้จริงของแต่ละครอบครัว ทำให้การช่วยเหลือสามารถออกแบบให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเริ่มต้นจากการเยี่ยมเยียนบ้านแต่ละหลังเพื่อพูดคุยกับคนพิการและครอบครัวในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นและเชียงใหม่ ทีมงานได้ทำการตรวจสอบสภาพแวดล้อมโดยรอบทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน ระบบสาธารณูปโภค และความสะดวกในการเข้าถึงบริการต่าง ๆ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ทีมงานสามารถวางแผนการออกแบบและปรับปรุงบ้านที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของแต่ละบุคคลได้อย่างแท้จริง
พลังของพันธมิตรภาครัฐและเอกชน ผนึกกำลังเพื่อคุณภาพชีวิตคนพิการ
โครงการนี้ได้รับความร่วมมือจากหลากหลายองค์กรพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งรวมพลังกันในด้านทรัพยากร ความรู้ และความเชี่ยวชาญในการสร้างบ้านและสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่คนพิการ ไม่ว่าจะเป็นมูลนิธินวัตกรรมทางสังคม โรงพยาบาลสิรินธร ขอนแก่น ชมรมชมภูม่วนใจ๋ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมถึงหน่วยงานท้องถิ่นในพื้นที่ที่ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ทุกหน่วยงานทำหน้าที่บูรณาการความช่วยเหลือในหลากหลายด้าน เริ่มตั้งแต่การประเมินปัญหาการอยู่อาศัยของคนพิการ การจัดลำดับความช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ การส่งเสริมการเข้าถึงบริการและสวัสดิการของรัฐ และการให้คำปรึกษาในการพัฒนาอาชีพให้ยั่งยืน ซึ่งการทำงานร่วมกันในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนพิการ แต่ยังเป็นการแสดงถึงความรับผิดชอบและความห่วงใยที่องค์กรทั้งหลายมีต่อสังคมอย่างแท้จริง
นวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยและการเสริมสร้างอาชีพที่ยั่งยืน
หนึ่งในจุดเด่นของโครงการ “บ้านใส่ใจเพื่อคนพิการ By PRUKSA” คือการใช้ความเชี่ยวชาญและนวัตกรรมมาปรับปรุงพื้นที่อยู่อาศัยให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้พิการในแต่ละพื้นที่ โดยพฤกษาและทีมงานออกแบบโซลูชันที่เป็นมิตรกับการใช้งาน เช่น การปรับแต่งบ้านให้เข้าถึงได้ง่ายด้วยทางเดินที่ปราศจากสิ่งกีดขวาง พื้นห้องน้ำที่ไม่ลื่น ปรับระดับและความสูงของเครื่องมือในบ้านให้เหมาะสมกับการใช้งานของผู้พิการ รวมถึงการใช้วัสดุที่ทนทานและปลอดภัย โดยเตรียมพร้อมเพื่อส่งมอบบ้านที่ปรับปรุงแล้วเสร็จในช่วงปลายปีนี้
นอกจากนี้ พฤกษาและพันธมิตรยังให้การสนับสนุนด้านการส่งเสริมอาชีพเพื่อให้คนพิการสามารถพึ่งพาตนเองได้ ด้วยการนำเสนอแนวทางการประกอบอาชีพที่เหมาะสมกับความสามารถและสถานะของแต่ละคน เช่น การฝึกฝนอาชีพที่สามารถทำได้ที่บ้าน หรือการสร้างรายได้ผ่านการเชื่อมต่อกับเครือข่ายทางธุรกิจในท้องถิ่น เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้พิการในระยะยาว
พฤกษามุ่งมั่นในการสร้างสังคมแห่งความเป็นธรรมและเสมอภาค
ด้วยปณิธานของพฤกษา โฮลดิ้ง ที่ยังคงมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์โครงการที่มุ่งเน้นการพัฒนาสังคมให้เป็นธรรมและเสมอภาค โดยไม่มองข้ามกลุ่มคนที่ต้องการความช่วยเหลือในสังคม ทั้งนี้ พฤกษาเชื่อมั่นว่าทุกคนควรได้รับโอกาสที่เท่าเทียมกันในการมีชีวิตที่ดีขึ้น มีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง และสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน โครงการ “บ้านใส่ใจเพื่อคนพิการ By PRUKSA” จึงเป็นการแสดงถึงความตั้งใจของพฤกษาที่จะช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสะท้อนถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและจิตวิญญาณในการพัฒนาชุมชนอย่างแท้จริง
พฤกษา โฮลดิ้ง รายงานผลประกอบการช่วง 9 เดือนปี 2567 มีรายได้รวม 15,607 ล้านบาท กำไรสุทธิที่ 753 ล้านบาท ยังคงควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ จากการจัดการยอดหนี้และอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ส่งผลให้ต้นทุนการเงินลดลง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน (Net Gearing Ratio) อยู่ที่ 0.36 เท่า ยังคงอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม สะท้อนถึงการบริหารจัดการทางการเงินที่มั่นคง ท่ามกลางเศรษฐกิจผันผวน ธุรกิจเฮลท์แคร์เติบโต 21% ประกาศรุกตลาดที่อยู่อาศัยแบบเวลเนส เรสซิเดนซ์เต็มรูปแบบ
นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH กล่าวถึงการดำเนินงานของบริษัทฯ ว่า ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาบริษัทฯ มีรายได้รวม 15,607 ล้านบาท ลดลง 22% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจและการอนุมัติสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่มีความเปราะบาง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ สามารถรักษากำไรขั้นต้นที่ 5,118 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 32.8% จากการใช้กลยุทธ์ด้านราคาที่ช่วยดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคในช่วงที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังซบเซา ในขณะเดียวกัน ธุรกิจเฮลท์แคร์ของพฤกษายังคงสร้างผลกำไรที่ดีอย่างต่อเนื่อง ช่วยเสริมฐานรายได้ของบริษัทฯ ในภาพรวม
สำหรับกำไรสุทธิในช่วง 9 เดือน อยู่ที่ 753 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากธุรกิจหลักลดลง แต่บริษัทฯ ยังคงควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ต้นทุนการเงินลดลงจากการจัดการยอดหนี้และอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง โดยมี อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน (Net Gearing Ratio) อยู่ที่ 0.36 เท่า ยังคงอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม สะท้อนถึงการบริหารจัดการทางการเงินที่มั่นคง
ด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัทฯ มียอดโอนอสังหาริมทรัพย์รวม 12,930 ล้านบาท ลดลง 24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีการโอนคอนโดมิเนียมใหม่ จากโครงการ แชปเตอร์ วัน ออล รามอินทรา และได้รับการตอบรับที่ดีจากการเปิดโครงการบ้านเดี่ยวใหม่อย่าง โครงการเดอะ ปาล์ม บางนา-วงแหวน 2 และ โครงการการระดับซูเปอร์ลักชัวรี อย่างเดอะ ปาล์ม เรสซิเดนเซส วัชรพล นอกจากนี้ บริษัทฯ มีรายได้จากการขายที่ดินมูลค่า 2,413 ล้านบาท เพื่อใช้ในการพัฒนาโครงการร่วมกับบริษัทพันธมิตรในอนาคต
ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการเปิดโครงการใหม่รวม 8 โครงการ มูลค่า 10,085 ล้านบาท โดยเฉพาะโครงการ แชปเตอร์วัน มอร์ เกษตร ใกล้มหาวิทยาลัยและใกล้ BTS สายสีเขียว ที่เปิดในช่วงไตรมาส 3 ซึ่งได้รับความสนใจจากทั้งกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์ (Real Demand) และกลุ่มนักลงทุน มีการจองแล้วกว่า 42% โดยคาดว่าทั้งปีจะเปิดโครงการใหม่รวมทั้งสิ้น 18 โครงการ มูลค่ารวม 20,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีโครงการไฮไลท์ ได้แก่ เดอะปาล์ม เรสซิเดนเซส พัฒนาการ ซึ่งเป็นโครงการเวลเนส เรสซิเดนซ์เต็มรูปแบบ ในเซกเมนต์ซูเปอร์อัลตร้าลักชัวรี (Super Ultra luxury) โครงการแรกของพฤกษา ภายใต้แนวคิดผสานการดูแลสุขภาพ Well-Living Mastery อย่างลงตัวในทุกมิติ ซึ่งจะเริ่มเปิดพรีเซลล์ในช่วงปลายเดือน
พฤศจิกายนนี้ นับว่าในปีนี้พฤกษาได้รุกตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เน้นเรื่องของสุขภาพอย่างเต็มตัว โดยเปิดโครงการเวลเนส เรสซิเดนซ์ รวมมูลค่า 10,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 50% จากมูลค่าโครงการเปิดใหม่ทั้งปี และในปีหน้า มีแผนจะพัฒนาโครงการที่เจาะกลุ่มเฉพาะผู้สูงวัยที่เกษียณอายุด้วย
พร้อมกันนี้บริษัทฯ มียอดขายรอโอน (Backlog) รวม 5,000 ล้านบาท โดยมีโครงการพร้อมอยู่ในมือรวมมูลค่ากว่า 8,369 ล้านบาท โดยเป็นโครงการที่มีมูลค่าน้อยกว่า 7 ล้านบาทกว่า 82% ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนลงเหลือ 0.01% และสามารถเร่งโอนรับรู้เป็นรายได้ในสิ้นปีนี้ พร้อมกับได้จัดแคมเปญโปรโมชัน "Last Chance โอกาสสุดท้าย" โดยการนำบ้านในสต็อกมาปรับราคาช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น และเป็นโอกาสสุดท้ายสำหรับผู้ซื้อบ้านในราคาต้นทุนเดิม รวมถึงมอบเงื่อนไขดอกเบี้ย 0% นาน 12 เดือน ร่วมกับธนาคารพันธมิตรเพื่อส่งเสริมยอดจองในไตรมาสที่ 4 ด้วย
ด้านธุรกิจเฮลท์แคร์ของพฤกษาเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ด้วยรายได้รวม 9 เดือนแรกที่ 1,600 ล้านบาท เติบโต 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้จากการรักษาคนไข้นอกเพิ่มขึ้น 25% และคนไข้ในเพิ่มขึ้น 22% โดยมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี บวกกลับค่าเสื่อมราคาและจัดจำหน่าย (EBITDA) 197 ล้านบาท สะท้อนความพยายามของกลุ่ม ในการเร่งผลักดันการขยายบริการด้านสุขภาพให้เข้าถึงผู้ป่วย และลูกค้าที่ซื้อโครงการอสังหาริมทรัพย์ของพฤกษา ซึ่งในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ยังได้ขยายบริการด้านศัลยกรรมและระบบทางเดินปัสสาวะ รวมถึงยังเดินหน้าสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะยกระดับการรักษาและคุณภาพชีวิตของคนไทยด้วย
“พฤกษา โฮลดิ้ง มุ่งมั่นที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างเต็มที่และสร้างความเชื่อมั่นท่ามกลางความผันผวนทางเศรษฐกิจ ด้วยการบริหารจัดการที่ยืดหยุ่น และการปรับกลยุทธ์ให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงของตลาด เรามีความพร้อมที่จะพัฒนาและขยายธุรกิจเฮลท์แคร์ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเสาหลักที่สำคัญในการเติบโตของพฤกษา เพื่อยกระดับการดูแลสุขภาพของคนไทย และสร้างคุณค่าให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาวด้วย” นายอุเทนกล่าวทิ้งท้าย