พฤกษา โฮลดิ้ง ตอบรับเทรนด์พลังงานสะอาด เตรียมดันแบรนด์ Green Leaf Energy รุกธุรกิจโซลาร์รูฟในคอนเซปต์ “ผลักดันพลังงานสะอาดและยั่งยืนสู่ทุกบ้านและธุรกิจ มุ่งมั่นเพื่อช่วยคนไทย ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้”มอบบริการครบวงจร ทั้งจำหน่าย ติดตั้ง และดูแลรักษาระบบ เตรียมขึ้นแท่นสู่การเป็นผู้นำนวัตกรรมที่ผลักดันเรื่อง บ้านพลังงานสะอาด โดยมุ่งหวังให้คนไทยมีบ้านประหยัดพลังงาน ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเลือกใช้โซลาร์รูฟ ระบบ Micro Inverter คุณภาพระดับสากล ที่เพิ่มความปลอดภัย และง่ายต่อการดูแล เพื่อความคุ้มค่าและประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้า พร้อมสอดรับภารกิจมุ่งสู่ Net Zero และมอบการอยู่อาศัยตามกรอบแนวคิด อยู่ดี มีสุข ของกลุ่มพฤกษา

นายบุญไทย แก้วโชติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเนอร์จี โกรท จำกัด ธุรกิจในเครือพฤกษา โฮลดิ้ง กล่าวถึงแนวโน้มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา หรือโซลาร์รูฟ (Solar Roof) ว่า ธุรกิจนี้กำลังเติบโตขึ้นตามความต้องการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นผลจากการวางเป้าหมาย Net Zero ของหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย โดยตลาดการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ทั่วโลกมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าปีนี้จะมีการขยายตัวถึง 29% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการลดการพึ่งพาไฟฟ้าจากพลังงานฟอสซิล รวมทั้งแผนการเพิ่มการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน การสนับสนุนจากภาครัฐให้มีการผลิตไฟฟ้าใช้เอง และต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ที่ต่ำเมื่อเทียบกับแหล่งพลังงานอื่น สำหรับประเทศไทย ตลาดการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ก็มีทิศทางเช่นเดียวกับตลาดโลก โดยมีแรงหนุนจากตลาดที่ขายไฟให้ลูกค้าโดยตรง (Private PPA) การสนับสนุนให้มีการผลิตไฟฟ้าใช้เอง และการเติบโตของตลาดที่ขายไฟฟ้าให้กับภาครัฐ  

รวมทั้งยังเล็งเห็นถึงปัญหาของสภาวะเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัว ส่งผลกระทบโดยรวมทั้งภาคอุตสาหกรรมไปจนถึงภาคครัวเรือน ซึ่งทำให้กระทบไปในวงกว้างทั้งในด้านของค่าใช้จ่ายของครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น จากปัจจัยหลายๆส่วน เช่น ภาระหนี้ อัตราดอกเบี้ย รวมถึงค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันที่สูงขึ้น โดยเฉพาะเรื่องอัตราค่าไฟที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นลูกบ้านของพฤกษาหรือคนทั่วไป พฤกษา โฮลดิ้ง หนึ่งในกลุ่มผู้นำอสังหาฯ มีความเข้าใจลูกค้าและเห็นถึงความสำคัญของปัญหานี้ บวกกับการให้ความสำคัญในการพัฒนา และนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ อยากช่วยลดปัญหาของคนไทยทุกคน จึงได้เปิดตัวโซลาร์รูฟแบรนด์ Green Leaf Energy ซึ่งจะเป็นธุรกิจใหม่ภายใต้การดูแลของซินเนอร์จี โกรท โดยในปัจจุบันได้นำร่องติดตั้งโซลาร์รูฟ Green Leaf ที่โครงการ เดอะ ปาล์ม เรสซิเดนเซส วัชรพล  และวางแผนขยายไปสู่โครงการอื่น ๆ ของพฤกษา เรียลเอสเตท อีกทั้งมีการติดตั้งในธุรกิจอื่น ๆ ภายใต้ พฤกษา โฮลดิ้ง ได้แก่ โรงพยาบาลวิมุต โรงพยาบาลวิมุต-เทพธารินทร์ โรงงานพรีคาสท์ เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันจะเน้นเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลก่อน พร้อมเตรียมเดินหน้าขยายบริการสู่กลุ่มลูกค้าทั่วไป และมีแผนจะขยายไปในจังหวัดอื่น ๆ ทั่วประเทศภายใน 5 ปีข้างหน้า เพื่อช่วยให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงบ้านพลังงานสะอาดได้” นายบุญไทย กล่าว

ซินเนอร์จี โกรท ดำเนินธุรกิจโซลาร์รูฟแบบครบวงจรโดยทีมงานมืออาชีพ ทั้งการจำหน่าย ติดตั้ง และดูแลรักษาระบบ ภายใต้แนวคิด ผลักดันพลังงานสะอาดและยั่งยืนสู่ทุกบ้านและธุรกิจ มุ่งมั่นเพื่อช่วยคนไทย ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ เพื่ออยากช่วยลดภาระเรื่องค่าไฟของคนไทยทุกคน ให้คนไทยสามารถเข้าถึงนวัตกรรมที่ทันสมัย ช่วยแบ่งเบาภาระเรื่องค่าไฟในระยะยาว โดยโซลาร์รูฟช่วยประหยัดไฟ และสามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า 25 ปี ทั้งยังสามารถเพิ่มรายได้จากการขายไฟส่วนเกินของครัวเรือนให้ภาครัฐกับโครงการโซลาร์ภาคประชาชน ที่ได้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2562

โดยโซลาร์รูฟ Green Leaf Energy มีจุดเด่นอยู่ที่การใช้นวัตกรรมระบบ Micro Inverter คุณภาพระดับสากล จากประเทศสหรัฐอเมริกา ใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในการผลิตและติดตั้ง โดยได้รับมาตรฐานและความน่าเชื่อถือของคุณภาพแผงโซลาร์เซลล์ในระดับเทียร์ 1 ซึ่งหมายถึงการอยู่ในกลุ่มอันดับแรกของผู้ผลิตที่มีความน่าเชื่อถือสูงที่สุดและความสามารถในการผลิตตรงตามคุณสมบัติที่กำหนด พร้อมทั้งรับประกันการติดตั้ง 2 ปี และรับประกันการผลิตไฟของแผงโซลาร์นานถึง 25 ปี ในราคาที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ เริ่มที่ 41,900 บาท และช่วยลดค่าไฟสูงสุดได้ถึง 70% ซึ่งนับว่าคุ้มค่าต่อการลงทุน ปลอดภัยทั้งตัวอุปกรณ์ มีเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษา เข้าสำรวจพื้นที่ฟรีและรับบริการติดตั้งกับผู้เชี่ยวชาญ

“เราเป็นผู้นำนวัตกรรม เรื่องบ้านประหยัดพลังงาน เลือกนวัตกรรมโซลาร์รูฟที่ใหม่ล่าสุด มุ่งหวังให้คนไทยมีบ้านประหยัดพลังงาน ครอบคลุมทั่วประเทศ” ภายใต้แบรนด์ Green Leaf Energy นอกจากนี้ เรายังเสนอแผนการเงินที่ยืดหยุ่น ที่สามารถขายพร้อมบ้านในโครงการพฤกษา เพื่อให้ลูกค้าสามารถขอสินเชื่อโซลาร์รูฟรวมกับบ้านได้ ซึ่งแผนการเงินเหล่านี้จะทำให้ลูกค้าเข้าถึงโซลาร์รูฟได้ง่ายขึ้น ช่วยลดภาระจากค่าไฟฟ้า และเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อมร่วมกัน” นายบุญไทย กล่าว

เนื่องจากเดือนนี้เป็นช่วงเปิดตัวแบรนด์ใหม่ จึงขอมอบโปรโมชันพิเศษให้กับลูกค้าที่ซื้อบ้านกับพฤกษา และลูกค้าทั่วไปที่สนใจติดตั้งโซลาร์ ในราคาพิเศษกับรุ่น Solar Rooftop 1.74 kWp ในราคาเริ่มเพียง 93,000 บาท จากปกติ 99,990 พร้อมติดตั้งฟรีถึงบ้าน และมีหลากหลายรุ่นให้เลือกตามความเหมาะสมของการใช้ไฟของแต่ละประเภทบ้าน ช่วยให้ประหยัดค่าไฟได้เดือนละ 600 – 10,000 บาท โปรโมชันราคาพิเศษสามารถรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2567 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line official : @greenleaf เรามีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำและให้คำปรึกษาทุกวัน

“พฤกษา โฮลดิ้ง” ประกาศจัดทัพผู้บริหารระดับสูง เสริมแกร่งกลุ่มธุรกิจในเครือ แต่งตั้งผู้บริหารสูงสุด 4 ตำแหน่ง ตั้งเป้าสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนของทุกกลุ่มธุรกิจ โดย “ปิยะ ประยงค์” ขึ้นเป็นซีอีโอ อินโน โฮม “ธีระ ทองวิไล” ขึ้นเป็นซีอีโอ พฤกษา เรียลเอสเตท “สุรวีย์ ชัยธำรงค์กูล” ขึ้นเป็นซีอีโอ วิมุต โฮลดิ้ง และ “พรเทพ ศุภธราธาร” ควบตำแหน่งกรุ๊ปซีซีโอ พฤกษา โฮลดิ้ง มีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป ซึ่งการปรับโครงสร้างครั้งนี้ จะสร้างความคล่องตัวของแต่ละหน่วยงาน เพื่อให้ทุกหน่วยงานสามารถบริหารจัดการ และมีอิสระในการวางแผนงานของตัวเองได้อย่างเต็มรูปแบบ มุ่งสู่ความสำเร็จตามเป้าหมายธุรกิจ และวิสัยทัศน์องค์กรส่งมอบคุณค่าการอยู่อาศัย “อยู่ดี มีสุข” ที่วางไว้

นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติการปรับโครงสร้างองค์กรและแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง ตามรายละเอียดต่อไปนี้

1. “นายปิยะ ประยงค์” จะเข้าดำรงตำแหน่ง “ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินโน โฮม คอนสตรัคชั่น จำกัด” รับภารกิจสำคัญในการเป็นหัวเรือใหญ่ นำความรู้ความสามารถและประสบการณ์ในวงการก่อสร้างที่มีมายาวนานกว่า 30 ปี มาต่อยอดธุรกิจในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง ซึ่งเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่มีมูลค่าการก่อสร้างภาคเอกชนอยู่ที่ราวมากกว่า 3 แสนล้านบาท  บริษัทฯ จึงได้เล็งเห็นโอกาสการเติบโตในตลาดนี้

โดยในช่วงปีที่ผ่านมา “ปิยะ ประยงค์” มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการผลักดันการสร้างบ้านด้วยระบบใหม่ที่เน้นการลดขยะให้เหลือศูนย์  (Zero Waste Construction) การพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของผู้รับเหมา รวมไปถึงการพัฒนาบ้านประหยัดพลังงานตามแนวคิดแบบ “Passive Home” ให้ได้ตามมาตรฐานใหม่ตามเกณฑ์การประเมินความยั่งยืนทางพลังงานและสิ่งแวดล้อมไทย หรือ Tree Certified Home เพื่อผลักดันสู่ก้าวต่อไปของการสร้าง Carbon Neutral Home และมุ่งสู่มาตรฐานใหม่แห่งห่วงโซ่การจัดซื้อจัดจ้างสีเขียว (Green Procurement Supply Chain) ซึ่งถือเป็นแแผนงานหลักสำคัญต่อการสร้างการเติบโต

ทั้งนี้ บริษัทฯ มุ่งนำความเชี่ยวชาญจากประสบการณ์ในการผลิตชิ้นส่วนพรีคาสท์ และการก่อสร้างบ้านสำเร็จรูปแบบโมดูลาร์มาใช้ เพื่อนำข้อดีจากความสำเร็จที่ผ่านมาผนวกรวมเพื่อสร้างและวางรากฐานที่แข็งแกร่ง ขยายขีดความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจก่อสร้างสูงสุด  ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจที่เป็นยุทธศาสตร์หลักของกลุ่มพฤกษาในระยะยาว ที่ต้องการสร้างสรรค์การอยู่อาศัยแบบ “Live well Stay well อยู่ดี มีสุข”  พร้อมมุ่งสู่การเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในอุตสาหกรรมก่อสร้าง 

2. “นายธีระ ทองวิไล” จะเข้าดำรงตำแหน่ง “ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)” รับภารกิจในการกำกับดูแลการดำเนินธุรกิจ สานต่อและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจเรียลเอสเตท ซึ่งเป็นธุรกิจหลักตามกลยุทธ์ Strengthen the core ของบริษัทที่วางไว้  โดย “ธีระ ทองวิไล” เป็นผู้บริหารที่ได้ร่วมงานกับพฤกษามานานกว่า 23 ปี เป็นผู้ต่อยอดพัฒนาแนวคิด “Better Home and Healthier Community”  วิถีการอยู่อาศัยในสังคมแบ่งปัน โดยมีพื้นที่ส่วนกลางให้ทุกคนได้แบ่งสันปันส่วน เกิดวิถีชีวิตแบบเกื้อกูลในชุมชนสุขภาพดี

และในปีนี้ บริษัทฯ ได้วางแผนเปิดโครงการใหม่รวม 30 โครงการ  มูลค่าราว 29,000 ล้านบาท ปรับเพิ่มสัดส่วนในสินค้าในกลุ่มเซกเมนต์กลาง-บน ให้สูงขึ้นมากกว่า 50% และมีแผนเปิดโครงการ Wellness Residence ทั้งหมด 6 โครงการ มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท คิดเป็น 34% ของมูลค่าโครงการที่เปิดในปีนี้  ตอบโจทย์ความต้องการการออกแบบที่อยู่อาศัยที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ ความสุข และคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้อยู่อาศัยเข้ามาผนวกกับเทคโนโลยีระบบ Smart Home จากแอปพลิเคชัน MyHaus มาปรับใช้ในการออกแบบโครงการ เพื่อเป็นศูนย์กลางที่จะดูแลทั้งเรื่องความปลอดภัยภายในบ้าน และอำนวยความสะดวกสบายให้ลูกบ้านและนิติบุคคล สร้างมาตรฐานใหม่ของการอยู่อาศัย เสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจหลัก

3. “นางสาวสุรวีย์ ชัยธำรงค์กูล” ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) จะเข้าดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิมุต โฮลดิ้ง จำกัด อีกหนึ่งตำแหน่ง รับภารกิจในการขับเคลื่อนการเติบโตของกลุ่มธุรกิจเฮลท์แคร์ในระยะยาว และต่อยอดความร่วมมือของทั้งกลุ่ม ในด้าน Wellness Residence ส่งเสริมการบริการด้านสุขภาพให้เข้าถึงลูกบ้านทุกหมู่บ้านของพฤกษา

โดย “สุรวีย์ ชัยธำรงค์กูล” มากด้วยประสบการณ์ ด้านการเงินการลงทุนตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี และประสบการณ์ด้านเฮลท์แคร์ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา รวมถึงกว่า 2 ปีที่ผ่านมา ได้เป็นผู้ผลักดันบริษัทร่วมทุนและพันธมิตรเข้าร่วมลงทุนให้กลุ่มพฤกษามีความพร้อมสู่การเติบโต การเข้าดำรงตำแหน่งครั้งนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม จากปัจจุบันธุรกิจของกลุ่มวิมุตมีความโดดเด่นทั้งในด้านการรักษาแบบองค์รวม ทีมแพทย์และพยาบาล และความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ ผนวกเข้ากับความเชี่ยวชาญเฉพาะทางของโรงพยาบาลวิมุตในด้านประสาทวิทยา ระบบทางเดินอาหารและตับ ด้านหัวใจและหลอดเลือด และความเป็นผู้นำของโรงพยาบาลวิมุต-เทพธารินทร์ในด้านการรักษาโรคเบาหวาน ไทรอยด์ และต่อมไร้ท่อ โดยแม่ทัพคนใหม่จะเป็นกุญแจสำคัญที่สร้างการเติบโตอีกขั้นจากภายนอก (Inorganic Growth) นำทีมแพทย์และผู้บริหารกลุ่มโรงพยาบาลมุ่งสู่เป้าหมายการสร้างรายได้ 4,000 ล้านบาท และสร้างมูลค่าเพิ่มของทั้งกลุ่มในอนาคต

4. “นายพรเทพ ศุภธราธาร” ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินโน พรีคาสท์ จำกัด จะเข้าดำรงตำแหน่ง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักบริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) อีกหนึ่งตำแหน่ง เพื่อกำกับดูแลการดำเนินงานของหน่วยงานสนับสนุน ได้แก่ สายงานจัดซื้อจัดจ้าง สายงานกฎหมาย สายงานดิจิทัลและนวัตกรรมกลุ่ม สายงานการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ ลดกระบวนการทำงานภายใต้แนวคิด “Lean Process” ระดมความคิดในการระบุขั้นตอนการทำงาน ปัญหาและอุปสรรค ประเมิน และหลีกเลี่ยงความสูญเสียในองค์กร (Waste Walk) เพื่อลดเวลาและค่าใช้จ่าย ในขณะเดียวกันเพื่อสร้างศูนย์กลางแห่งความเป็นเลิศ (Center of Excellence) และส่งเสริมการเติบโตของกลุ่มไปพร้อมกัน

โดย “พรเทพ ศุภธราธาร” เป็นหนึ่งในหัวเรือใหญ่ที่ได้บริหารงานตามหลัก ESG และทำให้บริษัทฯ สามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) ไปได้ 10,190 ตัน ในปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งลดระยะเวลาการทำงานของฝ่ายจัดซื้อจัดจ้างได้กว่า 16,000 วันทำงาน (man-day) ต่อปี จากการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาใช้ในระบบจัดซื้อจัดจ้างในช่วงระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมาด้วย

สำหรับการแต่งตั้งตำแหน่งผู้บริหารในครั้งนี้ เป็นไปตามแผนการวางแผนผู้สืบทอดตำแหน่ง (Succession Planning) ที่มีความสำคัญในระยะยาว ที่ได้ผ่านแผนพัฒนาผู้นำ (Leadership Program) และได้เข้าร่วมในโปรแกรมบ่มเพาะผู้นำ ผ่าน Accelerate Impact with Pruksa ที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญผลักดันบุคลากรภายในให้เติบโต เชื่อมั่นว่าการแต่งตั้งตำแหน่งผู้บริหารของแต่ละกลุ่มในครั้งนี้ จะเป็นการวางรากฐานธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง ผ่านการสร้างโอกาสต่อยอดธุรกิจที่หลากหลาย และส่งเสริมงานด้านสังคมอย่างต่อเนื่องต่อไป

“พฤกษา โฮลดิ้ง” ผนึกธุรกิจในเครือ ผสานความร่วมมือพนักงาน ร่วมสร้างความยั่งยืนเพื่อสังคม อยู่ดี มีสุข

เชื่อมต่อเมืองใกล้ทางด่วน-รถไฟฟ้า เริ่ม 4.2 - 6 ล้านบาท พร้อมเปิดแกรนด์ โอเพ่นนิ่ง 20-21 กค.นี้!

นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ กรรมการ บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) บริจาคเงินส่วนตัวในนาม “ทุนวิจิตรพงศ์พันธุ์” ประจำปี 2567 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 15 ให้กับสถาบันการศึกษา มูลนิธิ โรงพยาบาลและองค์กรสาธารณประโยชน์ต่าง ๆ จำนวน 45 องค์กร รวมเป็นเงิน 48.5 ล้านบาท โดยแบ่งการสนับสนุนเป็นองค์กรด้านศาสนา 7 หน่วยงาน ด้านการศึกษา 22 หน่วยงาน และ ด้านสังคม 16 หน่วยงาน โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมพิธีมอบทุนฯ  ณ  อาคารเพิร์ล แบงก์ค็อก ซึ่งเงินบริจาคส่วนนี้จะช่วยสนับสนุนการทำงานขององค์กรต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อคนไทยที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ นายทองมาได้มอบ “ทุนวิจิตรพงศ์พันธุ์” ต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปีนี้นับเป็นปีที่ 15 โดยได้บริจาคเงินเพื่อสนับสนุนกิจกรรมทางศาสนา การศึกษา และสังคม ผ่านมูลนิธิ สถาบันการศึกษา และองค์กรต่าง ๆ  ไปแล้วรวมทั้งสิ้น 112 องค์กร ทั่วประเทศ รวมถึงในเนปาล เป็นยอดเงินบริจาครวมทั้งสิ้นมากกว่า 522 ล้านบาท ตามเจตนารมณ์ที่ต้องการทำนุบำรุงศาสนา สนับสนุนทุนการศึกษา และช่วยเหลือหน่วยงานต่าง ๆ ที่ทำงานเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง

Page 1 of 21
X

Right Click

No right click