รางวัลเชิดชูเกียรติผู้ที่มีผลงานดีเด่นด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลของไทย

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคมได้ว่าจ้าง กิจการร่วมค้า ไอทีดี-วีซีบี (ITD-VCB Joint Venture) ประกอบด้วย บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด เป็นผู้รับจ้างดําเนินการก่อสร้าง โครงการทางพิเศษสายพระราม3 – ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตกสัญญาที่ 3 แจ้งการปิดเบี่ยงการจราจรชั่วคราวบนทางพิเศษเฉลิมมหานคร เพื่อดำเนินการติดตั้งชิ้นส่วนทางวิ่งยกระดับของโครงการฯ จำนวน 3 แห่งตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 ถึง 31 พฤษภาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 21.00 น.- 05.00 น. ดังนี้

1.บริเวณทางขึ้นมุ่งหน้าไปดาวคะนอง ฝั่งขาออกกรุงเทพฯ

 

2.บริเวณหน้าด่านฯ ดาวคะนอง ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ

 

3.บริเวณหน้าด่านฯ สุขสวัสดิ์ ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ

กทพ. ต้องขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ และขอความร่วมมือผู้ที่ใช้เส้นทางบริเวณดังกล่าวโปรดสังเกตป้ายเตือนสัญญาณจราจรต่างๆ และปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ทาง หากมีข้อเสนอแนะ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ 02-405-4896 ตั้งแต่ 08.00-19.00 และ 062-912-6211 ตลอด 24 ชั่วโมง

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) มอบส่วนลดพิเศษช่วงซัมเมอร์นี้ เที่ยวไหนก็คุ้ม สำหรับลูกค้าใหม่ Trip.com ที่ทำการจองเที่ยวบิน หรือ ที่พัก และชำระเงินผ่านบัตร Krungsri Boarding Card หรือบัตรกรุงศรี เดบิต ที่ http://th.trip.com/w/VISATH รับส่วนลุดสูงสุด 20% ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 - 31 สิงหาคม 2567 โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • รับส่วนลด 10% เมื่อมียอดการจองเที่ยวบิน ขั้นต่ำ 3,500 บาทขึ้นไปต่อ 1 การจอง จำกัดส่วนลดสูงสุดไม่เกิน 500 บาท ต่อ 1 การจอง กรอกโค้ด VISAFLY10
  • รับส่วนลด 20% เมื่อมียอดการจองโรงแรม ขั้นต่ำ 2,500 บาทขึ้นไปต่อ 1 การจอง จำกัดส่วนลดสูงสุดไม่เกิน 800 บาท ต่อ 1 การจอง กรอกโค้ด VISAHOTEL20

ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่ https://www.krungsri.com/th/promotions/cards/travel/trip-discount-20-percent 

*ศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้จากสื่อต่าง ๆ ของธนาคาร

สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ บริษัท ทีทีเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เชิญชวนคนในแวดวงสถาปนิก นักออกแบบ ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์-ก่อสร้าง นักเรียน นักศึกษา และประชาชนผู้สนใจ เข้าร่วมงานสถาปนิก’67 งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรมและผลิตภัณฑ์ก่อสร้างใหญ่ที่สุดในอาเซียน ครั้งที่ 36 รวมกว่า 1,000 บูธ บนพื้นที่กว่า 75,000 ตร.ม. ภายใต้ธีม Collective Language :  สัมผัส สถาปัตย์ นำเสนออัตลักษณ์ของการสื่อสารด้วยภาษาที่ไร้ขอบเขตของสถาปนิก และนักออกแบบ โดยปีนี้ได้ผนึกกำลัง 4 องค์กรวิชาชีพสถาปนิกร่วมขับเคลื่อนงานให้สมบูรณ์แบบ ทั้งจัดแสดงนิทรรศการ อาทิ ASA All Member สัมผัส ‘วิชาชีพ’ ร่วมสัมผัสวัฒนธรรมองค์กรและเบื้องหลังการทำงานของสมาชิกฯ เป็นต้น Thematic Pavilion หรือพื้นที่จัดแสดงศักยภาพร่วมกันระหว่างแบรนด์ซัพพลายเออร์วัสดุก่อสร้างและสถาปนิก รวมถึงพื้นที่จัดแสดงนวัตกรรมด้านการออกแบบ-ก่อสร้างครบวงจร นอกจากนี้ ยังได้เปิดเวทีเสวนาให้ความรู้โดยกูรูระดับโลก อาทิ หม่าเหยียนซง สถาปนิกจีนชื่อดังจาก MAD Architects, มาริน่า ทาบาสซัม สถาปนิกบังคลาเทศเจ้าของรางวัล Aga Khan และอีกมากมาย

สำหรับงานสถาปนิก’67 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 เมษายน – 5 พฤษภาคม 2567 เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยทางผู้จัดงานได้จัดเตรียมรถตู้บริการรับ-ส่งฟรี จากงานสู่ปลายทาง 3 สถานีรถไฟฟ้า (MRT สถานีสวนจตุจักร, MRT สถานีพระราม 9, MRT สถานีศรีรัช) ตั้งแต่เวลา 09.30 – 20.30 น. โดยผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าชมงานล่วงหน้าได้แล้ววันนี้! พร้อมรับหนังสือ Architect’24 Hand Guide (สิทธิ์มีจำนวนจำกัด) สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวและข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง www.ArchitectExpo.com และ Facebook Page : งานสถาปนิก : ASA EXPO

เร่งสปีดพัฒนาเทค-แพลตฟอร์มกลุ่มประกันและการเงิน เพื่อตอบโจทย์การบริการผู้บริโภค

บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ บีเจซี ได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 1 ของประเทศไทย และที่ 11 ของโลกในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ในการเป็นองค์กรที่สนับสนุนความเสมอภาคทางเพศ ประจำปี 2566 โดย Equileap ซึ่งเป็นการประเมินที่ครอบคลุม 65 บริษัทในประเทศไทยและ 15,000 บริษัททั่วโลก

Equileap เป็นองค์กรที่เชี่ยวชาญด้านข้อมูลและตัวชี้วัดความเสมอภาคทางเพศ โดย Equileap จะประเมินบริษัททั่วโลกจากหลักเกณฑ์ 19 ข้อ แบ่งเป็น 4 หมวดหมู่ ได้แก่ 1) ความสมดุลของเพศในระดับผู้บริหารและพนักงาน 2) การจ่ายค่าจ้างและความสมดุลระหว่างการทำงาน - ชีวิตส่วนตัว 3) นโยบายที่ส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ และ 4) ความมุ่งมั่น ความโปร่งใส และความรับผิดชอบ ทั้งนี้ บีเจซี ได้แสดงถึงความทุ่มเทอย่างต่อเนื่องในเรื่องเหล่านี้ผ่านทางความมุ่งมั่นของผู้นำองค์กรและการดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความหลากหลาย ความเสมอภาค และการมีส่วนร่วม (Diversity, Equity, Inclusion หรือ DEI) โดยสอดคล้องกับ ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (Universal Declaration of Human Rights หรือ UDHR)

ในปัจจุบัน อัตราส่วนของพนักงานชายและหญิงของ บีเจซี อยู่ที่ 40% และ 60% ตามลำดับ โดยมีผู้หญิงมากกว่า 50% ในทุกระดับการทำงาน โดย บีเจซี ยังมุ่งเน้นการทำโครงการและจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่ส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรให้มีความหลากหลาย ความเสมอภาค และการมีส่วมร่วมจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอีกด้วย เช่น โครงการ DiverCity และการฝึกอบรมพนักงานเรื่อง DEI ประจำปี รวมไปถึงงานสัมมนาระดับนานาชาติอย่าง “ธุรกิจ ความหลากหลายทางเพศสภาพ และ วิถีแห่งอนาคต” โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 1,000 คน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่ได้รวมผู้นำจากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน นักการทูต และสถาบันการศึกษามาอยู่บนเวทีเดียวกันเพื่อร่วมสนับสนุนความเสมอภาคทางเพศให้กับสังคม และภาคธุรกิจของประเทศไทย

นอกจากนี้ บีเจซี ยังมีนโยบายต่าง ๆ และสวัสดิการที่ส่งเสริมเรื่องสิทธิมนุษยชนและ DEI อีกด้วย โดยในปีนี้บริษัทยังมีการปรับปรุงสวัสดิการพนักงานให้ครอบคลุมบุคคลทุกเพศอย่างเท่าเทียมกัน เช่น การลาเพื่อเลี้ยงดูบุตรสําหรับทุกเพศ การลาเพื่อแต่งงานสําหรับทุกเพศ และการลาเพื่อการผ่าตัดแปลงเพศ เป็นต้น ซึ่งนับตัวอย่างของความทุ่มเทที่ บีเจซี มีให้กับการส่งเสริมความหลากหลายและความเสมอภาคให้กับพนักงานทุกคน

การจัดอันดับนี้ นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่สำคัญของ บีเจซี ในการมุ่งสร้างสภาพแวดล้อมในที่ทำงานที่ส่งเสริมความหลากหลายและเท่าเทียมทางเพศ และเป็นบรรทัดฐานที่ดีให้กับสังคมต่อไป

สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการ จับมือบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT พร้อมด้วย AIS และ True Move H จัดงานแถลงข่าวแพ็กเกจโทรศัพท์เคลื่อนที่ และส่วนลดราคา สำหรับผู้พิการ โดยมี นายต่อพงศ์ เสลานนท์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ  (กสทช.) เป็นประธาน พร้อมด้วยนายเสกสรรค์ มิตรเกษม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดและผลิตภัณฑ์ NT ร่วมแถลงข่าว ณ โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ กรุงเทพมหานคร

ความร่วมมือในครั้งนี้เกิดจากเจตนารมย์ของทุกหน่วยงานที่ต้องการส่งเสริมและสนับสนุนประชาชนกลุ่มผู้พิการทุกประเภท รวมถึงผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้สามารถเข้าถึงบริการโทรคมนาคมได้ในราคาประหยัด และใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสุดได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ

โดยในส่วนของ NT ในฐานะหนึ่งในผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายใต้ Services Brand "my by NT" และ "NT Mobile" ได้จัดแพ็คเกจเสริม แบบเติมเงิน สำหรับผู้พิการทุกประเภทสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็ว 4Mbps จำนวน 50GB FUP 384Kbps พร้อมสิทธิ์โทรในเครือข่าย NT ได้ฟรีไม่จำกัด ทั้ง mobile และ Fixed Line ค่าบริการเดือนละ 100 บาท โดยเริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผู้สนใจสามารถแสดงบัตรประจำตัวผู้พิการ หรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้ที่ศูนย์บริการ NT ทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ NT Contact Center 1888

องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลีจับมือเคทีซี วางกลยุทธ์ระยะยาว กระตุ้นคนไทยวางแผนท่องเที่ยวเกาหลีมากขึ้น หลังปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเกินเป้าหมาย เปิดตัวแคมเปญ “Korea Everything” ทุกสิ่งเป็นจริงที่เกาหลี นำเสนอแกนการท่องเที่ยวเกาหลีใน 3 มิติ : K – Food   K – Fun และ K – Culture  ให้อิสระนักท่องเที่ยวเลือกวางแผนตามไลฟ์สไตล์ ด้านเคทีซีจัดเต็มสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก รับคะแนน KTC FOREVER สูงสุด 10 เท่า / เลือกผ่อนชำระ 0% นาน 6 เดือน หรือใช้คะแนน KTC FOREVER แลกรับส่วนลด พร้อมลุ้นรับแพ็กเกจท่องเที่ยว 5 วัน 3 คืน เส้นทางปูซานฟรี !!! เพียงมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีสูงสุดที่ KTC World Travel Service หรือห้างสรรพสินค้าที่ร่วมรายการ

นายลี ซาง อู ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี KTO (Korea Tourism Organization) เปิดเผยว่า ในปี 2566 ที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยเดินทางไปยังเกาหลีราว 380,000 คน สะท้อนให้เห็นว่าการท่องเที่ยวฟื้นตัวเทียบเท่ากับช่วงก่อนวิกฤตโควิดแล้ว โดยเกาหลีและรัฐบาลไทยได้ร่วมกันเปิดโครงการ Korea – Thailand Visit Year 2566 - 2567 เพื่อส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวเกาหลี และนักท่องเที่ยวไทยเดินทางท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศมากขึ้น องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลีจึงได้จัดแคมเปญ Korea Everywhere พร้อมกัน 4 สถานที่ทั่วกรุงเทพมหานคร ด้วยโปรโมชันครั้งยิ่งใหญ่ในปีที่ผ่านมา

สำหรับในปี 2567 นี้ KTO ได้จัดงานอีเว้นท์ YES, Korea Travel เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาใน 3  หัวเมืองหลัก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ และภูเก็ต ซึ่งได้รับการตอบรับด้วยดีจากนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรมเกาหลี รวมถึงวางแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวไปยังเกาหลี และ KTO ยังมีแผนจะเปิดตัวอีกหลายโครงการโดยยึดธีมเรื่องวัฒนธรรมเกาหลีและเน้นเรื่องการใช้สื่อโซเชียลเป็นหลัก หนึ่งในโครงการที่กำลังจะเกิดขึ้นก็คือ  “Korea-Thailand Food Travel Week” ซึ่งได้ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดอีเว้นท์เกี่ยวกับอาหารทั้งในประเทศไทยและเกาหลีช่วงเดือนพฤษภาคมและเดือนกรกฎาคม โดยเชฟไทยชื่อดังระดับโลก “เจ๊ไฝ” จะเข้าร่วมงานอีเว้นท์ที่เกาหลีเพื่อสัมผัสประสบการณ์อาหารเกาหลีถึงถิ่น และ “เจ๊ไฝ” ยังจะได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนของ Korea-Thailand Visit Year อีกด้วย นอกจากนี้ KTO ยังให้การสนับสนุนตัวแทนสำนักงานท่องเที่ยวและสื่อมวลชนด้วยการเชิญไปสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เกาหลี รวมถึงให้บริการข้อมูลข่าวสารที่น่าสนใจของการท่องเที่ยวเกาหลี เพื่อใช้ประชาสัมพันธ์ให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทย

นางสาวอริญชยา เลิศวัฒนชัย ผู้จัดการฝ่ายการตลาดองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี KTO (Korea Tourism Organization) กล่าวว่า ปัจจุบันเทรนด์การท่องเที่ยวเกาหลีของนักท่องเที่ยวไทยมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบจากการซื้อแพ็กเกจทัวร์เป็นการวางแผนเดินทางด้วยตนเอง หรือที่เรียกว่า FIT (Free Independent Travelers) โดยนิยมเดินทางเป็นกลุ่มเล็กๆ เช่น กลุ่มเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัว เนื่องจากเกาหลีเป็นประเทศที่มีความสะดวกสบาย นักท่องเที่ยวสามารถวางแผนเดินทางเองได้  เช่น สำรองที่นั่งสายการบิน ที่พัก หรือกิจกรรมต่างๆ ผ่านช่องทางของเคทีซี ได้แก่ KTC World Travel Service  เว็บจองโรงแรม หรือ OTA (Online Travel Agent) ซึ่งถือเป็นการให้บริการแบบ One Stop Service  จากพฤติกรรมดังกล่าว KTO จึงได้วางกลยุทธ์การตลาดสำหรับปี 2567 ด้วยการจับมือกับเคทีซี เปิดตัวแคมเปญ “Korea Everything” ทุกสิ่งเป็นจริงที่เกาหลี นำเสนอมิติการท่องเที่ยว 3 แกนหลัก ได้แก่ K-Food K-Fun และ K-Culture เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกกิจกรรมตามไลฟ์สไตล์หรือความชอบที่แตกต่างโดยไฮไลท์ที่ 2 เส้นทางหลัก ได้แก่ โซลและปูซาน

K-Food: ลิ้มลองเมนูพิเศษอย่าง ฮันจองซิก อาหารชุดเกาหลีที่มีต้นกําเนิดมากจากพระราชวังและ บ้านขุนนางในสมัยก่อน  หรือเมนูซีฟู้ดหม้อไฟทะเลซึ่งปูซานมีความโดดเด่นมากในด้านความสดใหม่ของอาหารทะเล

K-Fun: สนุกกับความน่ารักของอัลปาก้า ที่อัลปาก้าเวิลด์ โซล หรือ นั่งรถไฟปูซาน สกาย แคปซูล เทรนด์  ขบวนรถสีสันสุดน่ารักที่วิ่งเรียบชายหาดเเฮอุนแด

K-Culture: สัมผัสประวัติศาสตร์อันยาวนานของหมู่บ้านบุกชอนฮันอก ซึ่งเดิมเป็นย่านที่อยู่อาศัย ของข้าราชการระดับสูงและขุนนางตั้งแต่สมัยราชวงศ์โชซอน หรือหมู่บ้านวัฒนธรรมคัมซอน เมืองปูซาน ที่มีลักษณะการสร้างบ้านเรือนเรียงรายไปตามภูเขาเป็นขั้นบันได บ้านและหลังคามีสีสันสลับไปมา กลายเป็นเอกลักษณ์จนได้ฉายาว่า “มาซูปิกชูแห่งปูซาน”   

นางประณยา นิถานานนท์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลอดปี 2566ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลับมาคึกคักอย่างมาก ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีในหมวดท่องเที่ยวก็ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะเส้นทางเกาหลีในช่วงครึ่งปีหลัง 2566 เคทีซีได้ร่วมกับองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี (KTO) ออกแคมเปญ Korea Everywhere ส่งผลให้ยอดรวมการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีที่เกาหลีเติบโตขึ้น 35% เมื่อเปรียบเทียบกับครึ่งปีหลังของปี 2565 มีจำนวนสมาชิกบัตรฯ ที่เดินทางไปใช้จ่ายที่เกาหลีเพิ่มขึ้น 38% และยอดเฉลี่ยการใช้จ่ายต่อสมาชิกอยู่ที่ 17,500 บาท ในส่วนของ KTC World Travel Service มีจำนวนสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีที่ใช้บริการสำรองบัตรโดยสารสายการบิน ที่พัก และแพ็กเกจเส้นทางเกาหลีในปี 2566 เพิ่มขึ้น 378% (เทียบกับปี 2565) ซึ่งถือว่ากลับมาใกล้เคียงกับช่วงปี 2562 ก่อนเกิดการระบาดของโควิด19

สำหรับในปี 2567 นี้ เคทีซียังคงร่วมมือกับ KTO วางกลยุทธ์การตลาดเพื่อกระตุ้นให้สมาชิกบัตรเครดิต

เคทีซีเลือกเกาหลีเป็นจุดหมายในการเดินทาง ด้วยการออกแคมเปญ “Korea Everything” ทุกสิ่งเป็นจริงที่เกาหลี มอบความคุ้มค่าและสร้างประสบการณ์ที่หลากหลายให้กับสมาชิกใน 3 มิติ ประกอบด้วย K-Food / K-Fun และ  K-Culture โดย KTC World Travel Service ได้ออกแบบแพ็กเกจท่องเที่ยวในราคาพิเศษ 5 วัน 3 คืน “K-Everything in Seoul” เริ่มต้นที่ 41,900 บาท / ท่าน และ “K-Everything in Busan” เริ่มต้นที่ราคา 32,900 บาท / ท่าน (รวมบัตรโดยสารสายการบิน ที่พัก และกิจกรรม) หรือสมาชิกที่ชอบท่องเที่ยวแบบอิสระ สามารถเลือกใช้บริการสำรองบัตรโดยสารสายการบินราคาพิเศษ บริการรถรับส่ง บัตรเข้าชมกิจกรรมต่างๆ ได้ตามไลฟ์สไตล์ของตนเอง ทั้งในกรุงโซล อินชอน เมืองใกล้เคียง และปูซาน และทุกยอดการใช้จ่ายในเส้นทางเกาหลี สมาชิกยังได้สิทธิ์รับคะแนน KTC FOREVER สูงสุด 10 เท่า / เลือกผ่อนชำระ 0% นาน 6 เดือน หรือใช้คะแนน KTC FOREVER ทุก 1,000 คะแนนแลกรับส่วนลด 130 บาท นอกจากนี้ เคทีซียังได้ร่วมมือกับสายการบินโคเรียนแอร์ (Korean Air) เอเชียน่าแอร์ไลน์ (Asiana Airlines) และการบินไทย (Thai Airways) มอบสิทธิพิเศษส่วนลดและสิทธิพิเศษอื่นๆเมื่อสำรองบัตรโดยสารสายการบินตรงกับเว็ปไซต์สายการบิน ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 – 30 พฤศจิกายน 2567

พิเศษ! ลุ้นเป็นคู่ผู้โชคดี รับฟรีแพ็กเกจท่องเที่ยว 5 วัน 3 คืน “Korea Everything in Pusan” สัมผัสประสบการณ์เกาหลีที่แตกต่างทั้ง K-Food K-Fun และ K-Culture เส้นทางปูซาน จำนวน 4 รางวัลๆ ละ 2 ท่าน มูลค่ากว่า 640,000 บาท เพียงมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีสูงสุด ที่ KTC World Travel Service และห้างสรรพสินค้าชั้นนำที่ร่วมรายการ

นายปภพ สุวรรณวิศลกิจ เจ้าของเพจ Megamaxx Journey  กล่าวว่า เกาหลีเป็นประเทศที่สามารถท่องเที่ยวได้ทุกฤดูกาล เพราะแต่ละช่วงเวลาจะมีไฮไลท์ และจุดเด่นของแต่ละสถานที่แตกต่างกันออกไป ล่าสุดเพิ่งได้มีโอกาสเดินทางไปท่องเที่ยวที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลี เพื่อชมเทศกาลดอกซากุระ (Cherry Blossom Season) ซึ่งได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ด้วยการเช่ารถยนต์เพื่อขับท่องเที่ยวเองเป็นครั้งแรก ซึ่งมีข้อดีแตกต่างจากการนั่งรถสาธารณะ เพราะสามารถวางแผนการท่องเที่ยวได้ด้วยตนเอง แวะชมสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ได้ตลอดเส้นทาง ซึ่งทริปนี้ได้มีขับรถไปถึงเมืองอุลซาน ซึ่งเป็นเมือง Unseen ที่มีความน่าสนใจ แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากนัก

ผู้สนใจสิทธิพิเศษด้านการเดินทางท่องเที่ยวสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC World Travel Service โทรศัพท์ 02 123 5050 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์ https://www.ktc.co.th/KoreaEverything  สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี สามารถคลิกดูรายละเอียดได้ที่ลิงค์ https://ktc.today/apply-card หรือติดต่อศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ


หมายเหตุ : บัตรเครดิตใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้ตามกำหนดจะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี

เครือเจริญโภคภัณฑ์ ร่วมกับ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ มอบผลิตภัณฑ์อาหารคุณภาพ สนับสนุนโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 42 ร่วมสร้างโอกาสการเรียนรู้แก่เยาวชนจากพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้ มุ่งพัฒนาทัศนคติแนวคิด สู่การพัฒนาตนเองและครอบครัว สู่การเป็น “คนดีของสังคม” พร้อมนำความรู้ไปต่อยอดสร้างโอกาสทางการศึกษาในอนาคต ณ สโมสรทหารบก (ส่วนกลาง) วิภาวดี กรุงเทพมหานคร

โครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 42 ได้รับเกียรติจาก พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกมูลนิธิ "สานใจไทย สู่ใจใต้" เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฯ พร้อมด้วย นายอารีย์ วงศ์อารยะ ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิฯ โดยมี นายจอมกิตติ ศิริกุล ผู้บริหารสูงสุด สายงานด้านบริหารกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และผู้ช่วยบริหารสำนักประธานคณะกรรมการบริหาร ซีพีเอฟ เป็นผู้แทนบริษัท ร่วมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำศาสนา ครอบครัวอุปถัมภ์ เยาวชนผู้ร่วมโครงการฯ และครูพี่เลี้ยง เข้าร่วมกิจกรรมรวมกว่า 350 คน

พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ กล่าวว่า “สานใจไทย สู่ใจใต้” ชื่อโครงการนี้ได้แสดงออกถึงความร่วมมือของทุกคนในประเทศไทย ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันช่วยเหลือดูแล ส่งเสริม ให้ความอนุเคราะห์แก่เยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีโอกาสได้รับสิ่งที่พวกเขาใฝ่ฝันไว้ นอกจากนี้ ขอฝากถึงเยาวชนให้จดจำดำริของ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ที่ว่า "ความเป็นไทย และความเป็นธรรม" ความเป็นไทย หมายถึง ความรัก ความผูกพัน โอบอ้อมอารี โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องมีความเชื่อเหมือนกัน แต่เมื่อมารวมกันเป็นคนไทยแล้ว ก็จะมีสิ่งนั้นอยู่ในความรู้สึกอยู่ในความคิดของทุกคน และเมื่อมีความเป็นไทย มีความผูกพันกันแล้ว การให้ "ความเป็นธรรม" ก็เกิดขึ้นได้ไม่ยาก จากความยุติธรรม มีความเท่าเทียมกัน ภายใต้กรอบวัฒนธรรมและกฎหมายของสังคม

ด้าน นายจอมกิตติ ศิริกุล กล่าวว่า ซีพีและซีพีเอฟ โดยมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ ให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 20 สำหรับโครงการฯในรุ่น 42 นี้ บริษัทมอบผลิตภัณฑ์อาหาร ไข่ไก่สดซีพี และข้าวตราฉัตร ให้แก่เยาวชนและพี่เลี้ยง จำนวน 350 คน สำหรับนำไปประกอบอาหารบริโภคตลอดช่วงที่พักอาศัยกับครอบครัวอุปถัมภ์  ในระหว่างวันที่ 17 เมษายน – 27 พฤษภาคม 2567 ตลอดระยะเวลาการจัดกิจกรรมเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการฯ จะได้ร่วมกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ ประสบการณ์ทักษะอาชีพ และได้พำนักกับครอบครัวอุปถัมภ์ ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียง ได้พัฒนาทัศนคติแนวคิด สู่การพัฒนาตนเองและครอบครัว เพื่อเป็นคนดีของสังคม พร้อมนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอดสร้างโอกาสทางการศึกษาต่อไปในอนาคต

ทางด้าน อาวาตีฟ โชติจันทร์ ตัวแทนเยาวชน กล่าวถึงสาเหตุที่ตัดสินใจสมัครเข้าร่วมโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” ว่าต้องการพัฒนาตนเอง และออกจากกรอบ ประกอบกับอยากลองทำสิ่งใหม่ๆ โดยหวังว่าจะได้นำประสบการณ์ที่ได้รับไปพัฒนาในด้านต่างๆ และโครงการฯ นี้ถือเป็นโอกาสที่ดีและเป็นประสบการณ์ที่ไม่อาจหาได้จากที่อื่น

กิจกรรมในครั้งนี้ เป็นการจัดในนาม มูลนิธิ “สานใจไทย สู่ใจใต้” เป็นครั้งแรก โดยมูลนิธิฯ มีเป้าหมาย สนับสนุนให้เยาวชนไทยได้เรียนรู้การอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมเดียวกัน มีความเป็นธรรม ความเป็นไทยเท่าเทียมกัน โดยโครงการ “สานใจไทย สู่ ใจใต้” เกิดขึ้นจากดำริของพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ

หัวเว่ยจัดงาน Digital Sustainable University Day อัพเดทเทรนด์เทคโนโลยีและโซลูชันไฮไลต์เพื่อการเตรียมพร้อมโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสำหรับปรับตัวในยุคดิจิทัลของสถานศึกษา โดยได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย และลานนาคอม จัดขึ้นเป็นครั้งแรก ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

นายวิลเลี่ยม จาง ประธานธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับภาคธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะหน่วยงานด้านการศึกษา ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาในทุกๆด้าน และยังมีแนวโน้มที่จะมีพัฒนาการด้านความอัจฉริยะมากขึ้นทั้งการเรียน การสอน การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนถึงการจัดการระบบ ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

กิจกรรมการเรียนการสอนได้เปลี่ยนจากการใช้กระดานดำแบบดั้งเดิมมาเป็นเครื่องมือมัลติมีเดีย จากการเรียนรู้เริ่มทำได้ไร้ข้อจำกัด และจากการบรรยายแบบทางเดียวไปสู่การเรียนรู้ที่เน้นนักเรียนเป็นศูนย์กลางมากขึ้นในฐานะผู้ให้บริการด้าน ICT ชั้นนํา หัวเว่ยมุ่งมั่นที่จะนําเครือข่ายแคมปัสอัจฉริยะ ศูนย์ข้อมูล การประมวลผลคลาวด์ ห้องเรียนอัจฉริยะ และเทคโนโลยีอื่น ๆ มาใช้ในการพัฒนาบุคลากรด้านนวัตกรรมในการศึกษาระดับอุดมศึกษาและอาชีวศึกษา เร่งให้เกิดนวัตกรรมในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล

โดยจากการจัดอันดับของ QS World University Rankings มหาวิทยาลัยกว่า 30 แห่งจาก 100 อันดับแรกของโลกได้เลือกให้หัวเว่ยเป็นพันธมิตรในการนำเทคโนโลยีเข้าไปประยุกต์ใช้เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในการปรับปรุงคุณภาพการศึกษา ประสิทธิภาพในการวิจัย และความสามารถด้านนวัตกรรม

"การจัดงานเทคโนโลยีในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นงานด้านเทคโนโลยีแบบฮาร์ดคอร์เท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้พบปะกันเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและรับฟังสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการจริงๆ เพื่อพัฒนาความร่วมมือให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ซึ่งเป็นสถานที่สําหรับการขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับแถวหน้าของโลก หากเราสามารถใช้ข้อได้เปรียบของเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อสร้างคุณค่ามากมาย"

ในโอกาสนี้ยังได้จัดให้มีพิธีลงนามความร่วมมือในโครงการหัวเว่ย ไอซีที อะคาเดมี่ (Huawei ICT Academy) เพื่อร่วมกันผลักดันการพัฒนาความรู้ความสามารถในด้านเทคโนโลยีขั้นสูง ตลอดจนเตรียมความพร้อมในเทคโนโลยีเฉพาะทาง เพื่อเป็นการบ่มเพาะบุคลากรในอนาคตให้มีทักษะความสามารถด้านดิจิทัลตรงกับความต้องการของอุตสาหกรรม

โดยผู้ที่ได้รับการฝึกอบรมผ่านโครงการหัวเว่ย ไอซีที อะคาเดมี่ จะได้รับประกาศนียบัตรมาตรฐานวิชาชีพของหัวเว่ย ซึ่งเป็นการรับรองที่ได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรมระดับโลก อีกทั้งยังช่วยเพิ่มโอกาสในการสมัครงานของนิสิตนักศึกษา รวมไปถึงโอกาสฝึกงานกับบริษัท หัวเว่ย ประเทศไทย ตลอดจนอาจได้เป็นพนักงานของหัวเว่ยหรือบริษัทในเครือพันธมิตร ซึ่งปัจจุบัน มีมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยเข้าร่วมในโครงการหัวเว่ย ไอซีที อะคาเดมี่แล้วมากกว่า 2,200 แห่งทั่วโลก

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศรชัย มุ่งไธสง อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย กล่าวว่า “มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับหัวเว่ย ซึ่งก็ถือเป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก เพื่อร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรมที่ไม่ได้โฟกัสเพียงเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะของบุคลากรและนักศึกษา รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาของมหาวิทยาลัยในการขับเคลื่อนสู่การเป็น CRRU Smart University อีกด้วย และเชื่อว่าความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนในยุคดิจิทัล และเกิดประโยชน์แก่ทั้งนักศึกษา อาจารย์ บุคลากร รวมถึงการให้บริการสังคมแก่พี่น้องประชาชนทุกคนอย่างแน่นอน”

X

Right Click

No right click