นายอิทธิพล เลิศศักดิ์ธนกุล รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และนายทิติพงษ์ จุลพรศิริดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (GPSC) ร่วมลงนามในสัญญาสนับสนุนทางการเงินของ EXIM BANK จำนวนรวม 1,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการลงทุนด้านพลังงานสะอาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ณ อาคารเอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ เมื่อเร็ว ๆ นี้
การสนับสนุนครั้งนี้ของ EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ มุ่งสู่บทบาท Green Development Bank เพื่อสร้างเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG Economy) สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์การเติบโตของ GPSC ซึ่งเป็นแกนนำนวัตกรรมธุรกิจพลังงานไฟฟ้าและพลังงานอัจฉริยะของกลุ่ม ปตท. โดยผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ไอน้ำเพื่ออุตสาหกรรมและสาธารณูปโภคต่าง ๆ มุ่งสู่การเป็น 1 ใน 3 ผู้นำด้านนวัตกรรมพลังงานเพื่อความยั่งยืนของอาเซียน มีแผนขยายการลงทุนด้านพลังงานสะอาดทั้งในและต่างประเทศ เพื่อขยายกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนให้เพิ่มขึ้น สอดรับกับแนวทางการเปลี่ยนแปลงทิศทางพลังงานโลกและแผนพลังงานชาติ (National Energy Plan) ของไทยสู่พลังงานสะอาด เดินหน้าสู่เป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ลดภาวะโลกร้อนและปัญหาสิ่งแวดล้อมที่รุนแรงมากขึ้น อีกทั้งยังสอดคล้องกับบทบาทในการ Decarbonization ให้กับกลุ่ม ปตท. พร้อมกับการเสริมสร้างเสถียรภาพ (Reliability) ด้านไฟฟ้าและสร้างโอกาสในการเติบโตของธุรกิจใหม่ ๆ ให้กับกลุ่ม ปตท.
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ EXIM BANK ที่ 'AAA(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 19 โดยอันดับเครดิตดังกล่าวเป็นอันดับเครดิตสูงที่สุด แสดงถึงโอกาสต่ำที่สุดในการผิดนัดชำระหนี้เมื่อเทียบกับธนาคารและบริษัทอื่นในประเทศ ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก ทั้งจากการชะลอตัวลงของภาคการส่งออกและอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงทั่วโลก นอกจากนี้ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ยังประกาศคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวที่ ‘BBB+’ โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) เทียบเท่าอันดับเครดิตของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 สะท้อนถึงบทบาทและภารกิจที่สำคัญของ EXIM BANK ในการเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่ผลักดันให้เกิดการค้าและการลงทุนที่สำคัญต่อการพัฒนาประเทศ มุ่งสู่บทบาท “Green Development Bank” ขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ระบุว่า EXIM BANK เป็นธนาคารเฉพาะกิจของรัฐที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ต่อการดำเนินนโยบายของภาครัฐในการส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศของไทย ขณะเดียวกัน EXIM BANK เป็นธนาคารเฉพาะกิจของรัฐเพียงแห่งเดียวที่ให้บริการประกันการส่งออกและการลงทุนระหว่างประเทศ เพื่อคุ้มครองผู้ส่งออกและนักลงทุนจากความเสี่ยงทางการค้าและการเมือง นอกจากนี้ การเพิ่มทุนล่าสุดในปี 2564 และ 2566 ได้เสริมความแข็งแกร่งให้แก่โครงสร้างเงินทุนของธนาคารและเตรียมพร้อมสำหรับการเติบโตในอนาคต
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) นำผู้บริหารและพนักงาน EXIM BANK มอบทุนการศึกษาด้านคอมพิวเตอร์เพื่อการประกอบอาชีพแก่เพื่อนผู้พิการผ่านมูลนิธิส่งเสริมและพัฒนาคนพิการ จังหวัดนนทบุรี จำนวน 10 ทุน เป็นเงิน 300,000 บาท ภายใต้โครงการ “EXIM เพื่อโอกาสในการประกอบอาชีพ” โดยมีนายธีรวัฒน์ ธัญลักษณ์ภาคย์ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ เป็นผู้รับมอบ เพื่อส่งเสริมให้ผู้พิการมีความรู้และทักษะด้านคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้อย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการด้านความรับผิดชอบต่อสังคมของ EXIM BANK เพื่อช่วยเหลือให้เพื่อนผู้พิการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาและการประกอบอาชีพ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ณ มูลนิธิส่งเสริมและพัฒนาคนพิการ จังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2567
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และ ดร.สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (GUNKUL) ร่วมลงนามในสัญญาสนับสนุนทางการเงินของ EXIM BANK จำนวน 2,325 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการลงทุนของกลุ่มบริษัทฯ รวมถึงการลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนสำหรับการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Rooftop PV System) เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียวและการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมีนายบัณฑิต สะเพียรชัย ประธานกรรมการบริหาร EXIM BANK นายอิทธิพล เลิศศักดิ์ธนกุล รองกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร GUNKUL นางสาวนฤชล ดำรงปิยวุฒิ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจพลังงานและกลยุทธ์การลงทุน GUNKUL และนายฐิติพงษ์ เตชะรัตนยืนยง ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงินและบัญชี GUNKUL ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้
กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยว่า การสนับสนุนทางการเงินของ EXIM BANK ในครั้งนี้เป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Environmental, Social, and Governance : ESG) ต่อยอดการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายสู่อนาคต (Future Industries) ขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจสีเขียว (Greenomics) สอดคล้องกับบทบาทของ EXIM BANK สู่การเป็น Green Development Bank ขณะที่กลุ่มบริษัท GUNKUL ผู้นำด้านธุรกิจพลังงานทดแทนอย่างครบวงจรทั้งในประเทศและต่างประเทศ มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านพลังงานสะอาด เพื่อร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2573 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี 2593
“การสนับสนุนทางการเงินให้แก่กลุ่มบริษัท GUNKUL เป็นส่วนหนึ่งในการทำหน้าที่ธนาคารเพื่อการพัฒนาของ EXIM BANK มุ่งสนับสนุนบริการทางการเงินเพื่อเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนของธนาคารให้เป็น 50% ของพอร์ตสินเชื่อทั้งหมดภายในปี 2570 ต่อยอดการพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียวขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศไทยและโลกโดยรวม ทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม” ดร.รักษ์ กล่าว
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า EXIM BANK มีมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือของไทย ทั้งในส่วนของวงเงินกู้ระยะสั้นและวงเงินกู้ระยะยาว โดยเพิ่มวงเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้นชั่วคราวสูงสุด 20% ของวงเงินเดิม เปลี่ยนแปลงภาระหนี้ระยะสั้นเป็นภาระหนี้ระยะยาว ผ่อนชำระเงินกู้ระยะสั้นได้นานสูงสุด 3 ปี และระยะยาวสูงสุด 7 ปี ลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้ระยะยาว และพักชำระหนี้เงินต้นนานสูงสุด 1 ปี เพื่อให้ลูกค้าของ EXIM BANK สามารถดำเนินธุรกิจส่งออกหรือธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออกตลอดทั้ง Supply Chain ได้อย่างต่อเนื่อง
มาตรการช่วยเหลือสำหรับวงเงินกู้ระยะสั้น
มาตรการช่วยเหลือสำหรับวงเงินกู้ระยะยาว
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ย Prime Rate ปัจจุบันเท่ากับ 6.35% ต่อปี
EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐที่มุ่งดำเนินภารกิจ Green Development Bank พร้อมช่วยเหลือเยียวยาลูกค้าให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างไม่สะดุดและต่อเนื่องท่ามกลางปัญหาและปัจจัยท้าทายต่าง ๆ ลูกค้าสอบถามแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือได้โดยลงทะเบียนผ่าน www.exim.go.th สอบถาม EXIM Contact Center โทร. 0 2169 9999