September 19, 2024

แกร็บ ประเทศไทย แพลตฟอร์มเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน ประกาศยกเครื่องบริการ “จองรถล่วงหน้า” (Advance Booking) หวังมัดใจผู้ใช้บริการและเหล่านักเดินทางด้วย 3 จุดเด่น ทั้งการจองรถล่วงหน้าได้สูงสุด 7 วันก่อนการเดินทาง เพิ่มระบบจัดสรรคนขับและดูแลลูกค้าเป็นพิเศษตลอด 24 ชั่วโมง และขยายวงเงินคุ้มครองประกันอุบัติเหตุสูงสุดถึง 800,000 บาท พร้อมส่งโปรโมชันพิเศษมอบส่วนลด 30% เพียงใส่โค้ด “ADVANCE” และแจกฟรีกางเกงช้างรุ่นลิมิเต็ดเอดิชันจากแกร็บ เมื่อเดินทางไป-กลับ สนามบินสุวรรณภูมิ


นางสาวเมธินี อนวัชกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจการเดินทางและบริหารพาร์ทเนอร์คนขับ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แกร็บมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเทคโนโลยีและบริการให้สามารถตอบสนองพฤติกรรมการเดินทางของผู้คนในปัจจุบัน ทั้งในด้านความสะดวกสบายและความปลอดภัย โดยหนึ่งในบริการที่แกร็บได้ริเริ่มและพัฒนาเพื่อแก้ pain point ของผู้ใช้บริการที่ต้องการเรียกรถเมื่อมีนัดหมายสำคัญหรือในช่วงเวลาเร่งด่วน คือ การจองรถล่วงหน้า (Advance Booking) ซึ่งได้รับความนิยมทั้งจากคนไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะการใช้บริการดังกล่าวเพื่อเดินทางไปยังสนามบิน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 40% และเพื่อเป็นการยกระดับประสบการณ์การเดินทางที่ดียิ่งขึ้น ในปีนี้เราจึงได้พัฒนาระบบและปรับปรุงบริการดังกล่าว เพื่อให้ผู้โดยสารเกิดความมั่นใจและอุ่นใจในการเดินทางไปถึงยังจุดหมายที่ตั้งใจได้อย่างไร้กังวล”

3 ไฮไลท์ของบริการเรียกรถล่วงหน้า (Advance Booking) โฉมใหม่ ได้แก่

⦁ ถูกใจ ด้วยการจองรถได้ล่วงหน้าถึง 7 วัน: เพื่อเพิ่มความสะดวกในการวางแผนการเดินทาง แกร็บเปิดให้ผู้ใช้บริการสามารถจองรถล่วงหน้าได้นานสูงสุดถึง 7 วัน หรืออย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง และสามารถเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกการเดินทางได้ภายในเวลา 1 ชั่วโมงก่อนการเดินทางโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งยังขยายเวลารอรับผู้โดยสารที่จุดรับนานถึง 15 นาทีเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผู้ใช้บริการ โดยบริการ Advance Booking ครอบคลุมประเภทรถที่หลากหลาย อาทิ JustGrab GrabCar GrabCar(Premium) GrabSUV GrabVan GrabCar Lady รวมถึงบริการคนขับมืออาชีพ GrabDriveYourCar

⦁ มั่นใจ ด้วยระบบจัดสรรคนขับและบริการดูแลลูกค้า 24 ชั่วโมง: เพื่อให้มั่นใจว่าคนขับจะมารับผู้โดยสารได้ตรงเวลาแกร็บได้พัฒนาระบบการจัดสรรงานที่จะล็อกเวลาพาร์ทเนอร์คนขับ 1 ชั่วโมงล่วงหน้าเพื่อให้เดินทางมาถึงยังจุดหมาย โดยผู้ใช้บริการสามารถสามารถตรวจสอบสถานะการจองและติดตามสถานะการเดินทางของคนขับได้แบบเรียลไทม์ผ่านแอปพลิเคชัน ทั้งยังสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ดูแลลูกค้าพิเศษซึ่งให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงผ่านช่องทาง Help Centre หากพบปัญหาในการจองรถ ทั้งนี้ ในกรณีที่เกิดเหตุสุดวิสัยจนคนขับไม่สามารถไปรับผู้โดยสารได้ แกร็บจะมอบคะแนน GrabRewards เพื่อชดเชยให้กับผู้ใช้บริการ

⦁ อุ่นใจ ด้วยประกันอุบัติเหตุคุ้มครองตลอดทริป: เสริมความมั่นใจให้ผู้ใช้บริการด้วยการเพิ่มวงเงินประกันอุบัติเหตุที่มอบความคุ้มครองตลอดการเดินทาง โดยแกร็บได้ทำประกันอุบัติเหตุเพื่อให้ความคุ้มครองผู้ใช้บริการ Advance Booking เป็นพิเศษ ด้วยวงเงินคุ้มครองสูงสุด 800,000 บาท (จากปกติ 200,000 บาท) ในกรณีที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพจากอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง
นอกจากนี้ ผู้ใช้บริการ Advance Booking ยังสามารถรับส่วนลด 30% (สูงสุดไม่เกิน 80 บาท) เพียงใส่โค้ด ADVANCE ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ธันวาคม 2567 และพิเศษ! สำหรับผู้ใช้บริการ Advance Booking ที่เดินทางไป-กลับสนามบินสุวรรณภูมิ รับฟรี กางเกงช้างรุ่นลิมิเต็ดเอดิชันจาก Grab (มีจำนวนจำกัดเพียง 1,000 ตัวเท่านั้น) โดยรับได้ ณ ศูนย์บริการ Grab (จุดรับ-ส่งผู้โดยสาร ชั้น 1 ประตู 4) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

เคทีซีเผยพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ใช้บริการแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่มากขึ้น โดย 3 รูปแบบบริการที่สมาชิกเลือกใช้มากที่สุดคือ สั่งอาหาร / เรียกรถรับจ้างสาธารณะ และ สั่งซื้อสินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ต ส่งผลเดือนพฤษภาคม 2567 ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตบนแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่โต 15% มีสมาชิกบัตรฯ ใช้บริการเพิ่มขึ้น 10% ล่าสุดเดินหน้าจับมือพันธมิตร Grab และ LINE MAN จัดโปรโมชันมอบโค้ดส่วนลดบริการสั่งอาหารสำหรับสมาชิกตลอดปี 2567

นางสาววริษฐา พัฒนรัชต์ ผู้บริหารสูงสุด ฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันพฤติกรรมสมาชิกนิยมใช้บริการแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลายด้วยบริการที่หลากหลาย สอดรับกับทุกความต้องการของสมาชิก โดยการใช้บริการเดลิเวอรี่ที่สมาชิกฯ นิยมมากที่สุด ได้แก่ บริการสั่งอาหาร / บริการรถรับจ้างสาธารณะ และบริการสั่งสินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านสะดวกซื้อ ตามลำดับ โดยในช่วงเดือนพฤษภาคม 2567 มียอดการใช้จ่ายในหมวดเดลิเวอรี่เพิ่มขึ้น 15% และมีจำนวนสมาชิกบัตรฯ ใช้บริการเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เคทีซีพร้อมขยายฐานการให้บริการแก่สมาชิกเดินหน้าจับมือพันธมิตรแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่รายใหญ่ Grab และ LINE MAN มอบความสะดวกสบายด้วยสิทธิประโยชน์ในด้านบริการสั่งอาหาร โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. GrabFood: รับสิทธิพิเศษ 2 ต่อ 

ต่อที่ 1 ส่วนลดสูงสุด 80 บาท สำหรับการสั่งอาหารขั้นต่ำ 300 บาท (ไม่รวมค่าส่ง)

ลูกค้าใหม่รับส่วนลด 80 บาท รหัส KTCNEW และ ลูกค้าปัจจุบันรับส่วนลด 50 บาท รหัส KTCFOOD โดยสมาชิกสามารถกรอกรหัสส่วนลดก่อนการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตเคทีซีเมื่อสั่งอาหารผ่าน GrabFood เท่านั้น

ต่อที่ 2 e-Coupon ส่วนลดเพิ่ม 50 บาท เมื่อใช้คะแนน KTC FOREVER 399 คะแนนแลกรับ โดยสามารถใช้เป็นส่วนลดเพิ่มร่วมกับโค้ดส่วนลดอื่นๆ หรือส่วนลดปกติ เมื่อมียอดสั่งอาหารขั้นต่ำ 200บาท (ไม่รวมค่าส่ง) โดยสมาชิกสามารถใส่รหัส e-Coupon ส่วนลดที่แลกมาจากแอป KTC Mobile และเลือกจ่ายผ่าน GrabPay ด้วยบัตรเครดิตเคทีซีก่อนสั่งซื้อเท่านั้น  สิทธิพิเศษนี้ ตั้งแต่ 1 เมษายน 2567- 31 มีนาคม 2568

2. LINE MAN: รับสิทธิพิเศษ 2 ต่อ

ต่อที่ 1 ส่วนลดสูงสุด 80 บาท สำหรับการสั่งอาหารผ่าน LINE MAN ลูกค้าใหม่รับส่วนลด 80 บาท รหัส KTCNEW80 เมื่อมียอดสั่งอาหารขั้นต่ำ 250 บาท

ลูกค้าปัจจุบัน รับส่วนลด 30 บาท รหัส KTC30 เมื่อมียอดสั่งอาหารขั้นต่ำ 180 บาท (เฉพาะค่าอาหารเท่านั้น) สมาชิกสามารถกรอกรหัสส่วนลดก่อนการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตเคทีซีบนแอพพลิเคชั่น LINE MAN เท่านั้น

พิเศษ! สำหรับลูกค้าใหม่ในต่างจังหวัด รับส่วนลด 80 บาท รหัส KTCUPC80 เมื่อมียอดสั่งอาหารขั้นต่ำเพียง 200 บาท (เฉพาะค่าอาหารเท่านั้น)

สิทธิพิเศษเฉพาะร้านอาหารในต่างจังหวัด ยกเว้น กรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม ในเขตอำเภอศาลายา สามพราน และ นครชัยศรี ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 – 28 กุมภาพันธ์ 2568

ต่อที่ 2 ส่วนลด 50 บาท เมื่อใช้ KTC FOREVER 399 คะแนนแลกรับ สำหรับยอดสั่งอาหารขั้นต่ำ 200 บาท โดยสมาชิกสามารถใส่รหัส e-Coupon ส่วนลดที่แลกมาจากแอป KTC Mobile และเลือกจ่ายด้วยบัตรเครดิตเคทีซีก่อนสั่งซื้อเท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2567 – 31 สิงหาคม 2567

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC PHONE โทรศัพท์ 02 123  5000 หรือติดตามโปรโมชันของเคทีซีได้ที่ ้ https://www.ktc.co.th/promotion/dining/food-delivery

สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี สามารถคลิกดูรายละเอียดได้ที่ลิงค์ https://ktc.today/apply-card หรือติดต่อศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ

มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตผู้คนและสิ่งแวดล้อมให้ดียิ่งขึ้น

แกร็บ ประเทศไทย เดินหน้ารุกตลาดควิกคอมเมิร์ส ประกาศปลดล็อกธุรกิจแกร็บมาร์ทด้วยการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่-ปรับระบบจัดการสินค้าหลังบ้านร่วมกับพันธมิตรค้าปลีกชั้นนำให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าประเภทของสด (เนื้อสัตว์ อาหารทะเล ผักและผลไม้) ประเภทชั่งน้ำหนักได้ ซึ่งช่วยเพิ่มจำนวนสินค้า (SKU) บนแพลตฟอร์มให้มีความหลากหลาย เล็งขยายจำนวนพาร์ทเนอร์ร้านค้าในกลุ่ม SME และตลาดสดเสริมพอร์ต ลุยส่งแคมเปญใหญ่ “GrabMart ที่สุดเรื่องสด” ตอกย้ำผู้นำตลาดที่มีสินค้าประเภทของสดให้เลือกมากที่สุดและจัดส่งไวที่สุดเพียง 25 นาที พร้อมมอบส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง 50%

นายจิรกิตต์ กว้างสุขสถิตย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจเดลิเวอรี แกร็บ ประเทศไทย เผยว่า “สินค้าประเภทของสด (Fresh Products) ถือเป็นหนึ่งในแคทิกอรีที่ใหญ่ที่สุดในตลาดควิกคอมเมิร์สและสร้างการเติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญให้กับบริการแกร็บมาร์ท ซึ่งครอบคลุมทั้งเนื้อสัตว์ อาหารทะเล รวมถึงผักสดและผลไม้ โดยในไตรมาสแรกที่ผ่านมาสินค้ากลุ่มนี้มีอัตราการเติบโตราว 15%[1] และแกร็บมาร์ทยังคงเป็นแพลตฟอร์มอันดับหนึ่งที่ครองใจผู้บริโภคที่ต้องการซื้่อของสดแบบจัดส่งได้ทันที โดยเฉพาะกลุ่ม Gen X และ Millennials ด้วยจำนวนสินค้าที่มีให้เลือกมากที่สุดจากพันธมิตรค้าปลีกชั้นนำที่มีสาขารวมกันมากกว่า 3,000 สาขาทั่วประเทศ ทั้งยังสามารถจัดส่งได้ภายในเวลาเพียง 25 นาทีเท่านั้น”

ทั้งนี้ ลูกค้าที่เลือกซื้อของสดผ่านแกร็บมาร์ทแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ๆ กลุ่มแรกคือ Meal Makers หรือคนที่ต้องเตรียมมื้ออาหารในทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นแม่บ้านยุคใหม่ที่ต้องทำอาหารสำหรับสมาชิกในครอบครัว หรือกลุ่ม Solo Living ที่อยู่คนเดียวและเน้นทำอาหารง่าย ๆ ด้วยตัวเอง กลุ่มที่สองคือ Healthy Habits สายรักสุขภาพที่ซื้อผักสดและผลไม้ไว้ติดตู้เย็นสำหรับทำสลัดหรือสมูทตี้ และกลุ่มสุดท้ายคือ Seasonal Cravings หรือคนที่ชอบบริโภคสินค้าตามฤดูกาลอย่างผลไม้หน้าร้อน 

“แม้ว่าควิกคอมเมิร์สจะตอบโจทย์ในเรื่องการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็วทันใจ แต่หนึ่งในข้อจำกัดที่ผู้บริโภคยังพบเจอจากการสั่งซื้อของสดผ่านแพลตฟอร์มเดลิเวอรีคือการมีสินค้าให้เลือกไม่มากนัก เนื่องจากข้อจำกัดในเชิงเทคนิค เพื่อแก้ pain point ดังกล่าว ล่าสุดแกร็บจึงได้พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ควบคู่ไปกับการปรับระบบจัดการสินค้าหลังบ้านร่วมกับพันธมิตรค้าปลีกชั้นนำอย่างท็อปส์ (Tops) บิ๊กซี (BigC) โลตัส (Lotus's) และกูร์เมต์ มาร์เก็ต (Gourmet Market) เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถสั่งซื้อของสดประเภทชั่งน้ำหนักได้ ทำให้มี SKU เพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นการปลดล็อคทางธุรกิจและตอบโจทย์ผู้บริโภคด้วยตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น นอกจากนี้ เรายังเล็งขยายพันธมิตรร้านค้าในกลุ่ม SME และตลาดสดเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ใช้บริการและสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการรายย่อย” นายจิรกิตต์ กล่าวเสริม

และเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดควิกคอมเมิร์สที่มีสินค้าประเภทของสดให้เลือกมากที่สุด แกร็บยังได้ส่งแคมเปญ “GrabMart ที่สุดเรื่องสด” มาเอาใจผู้ใช้บริการด้วยการมอบส่วนลดสูงสุดถึง 50% เมื่อสั่งซื้อสินค้าในหมวดของสดตั้งแต่ 2 ชิ้นขึ้นไป[2] พร้อมค่าส่ง 0 บาท เพียงใส่โค้ด “FREEDELI” ตั้งแต่วันนี้ถึง 28 กรกฎาคมนี้  

[1]  เปรียบเทียบยอดขายสินค้าประเภทของสดของบริการแกร็บมาร์ทระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม 2567 และเดือนมกราคม-มีนาคม 2566

[2]  เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

 

Page 3 of 8
X

Right Click

No right click