×

Warning

JUser: :_load: Unable to load user with ID: 6855

นายสมพร เจิมพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ซีพีเอฟ

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ประกาศกลยุทธ์ใหม่ “CPF 2030 Sustainability in Action“ ขับเคลื่อนภารกิจ 9 ความมุ่งมั่น ภายใต้ 3 เสาหลัก อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน และ ดิน น้ำ ป่าคงอยู่  สร้างความมั่นคงทางอาหารบนพื้นฐานการผลิตเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมควบคู่ส่งเสริมสังคมเติบโตไปด้วยกัน ร่วมบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) หนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ  ( SDGs ) ครบ 17 เป้าหมาย  

นายวุฒิชัย  สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส  ด้านพัฒนาความยั่งยืนองค์กร ซีพีเอฟ  กล่าวว่า  กลยุทธ์ใหม่ 2030 Sustainability in Action เป็นการปฏิบัติการในช่วง 10 ปีข้างหน้า (ปี 2564 - ปี 2573)  เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของการตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental Social Governance :  ESG) โดยที่บริษัทฯยังคงให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจภายใต้ 3 เสาหลัก อาหารมั่นคง  สังคมพึ่งตน และดินน้ำป่าคงอยู่  สนับสนุนนโยบายของเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่มีเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ ภายในปี 2573 และสนับสนุนเป้าหมาย SDGs ทางตรงได้ครบทั้ง  17  เป้าหมาย      

"ภายหลังจากประสบความสำเร็จในการขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามเป้าหมายปี 2020  ในปีนี้เราได้กำหนดกลยุทธ์ขึ้นใหม่ เน้นการปฏิบัติอย่างจริงจัง  และมีเป้าหมายใหม่เพื่อสร้างผลเชิงบวกให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม  สอดรับกับเป้าหมายของสหประชาชาติ สู่ทศวรรษแห่งการลงมือทำ สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นให้โลก ขณะเดียวกันบริษัทฯจะส่งต่อความยั่งยืนในระดับบุคคลสู่พนักงานในองค์กรและภายนอก” นายวุฒิชัยกล่าว    

 

สำหรับเป้าหมายการดำเนินงาน 9 ความมุ่งมั่น ภายใต้กลยุทธ์ 3 เสาหลัก  ในด้านอาหารมั่นคง  เน้นสร้างความมั่นคงทางอาหารและคิดค้นนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภคด้วยผลิตภัณฑ์อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่ดีและเหมาะสมกับทุกช่วงวัย นำระบบดิจิทัลและหุ่นยนต์มาใช้ในกระบวนการผลิต ดำเนินการทางการตลาดด้วยความรับผิดชอบ ด้วยการให้ความรู้ด้านโภชนาการและอาหารเพื่อสุขภาพแก่ผู้บริโภค  ใส่ใจในกระบวนการเลี้ยงสัตว์ตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ (Animal WelFare) ภายใต้มาตรฐานสากล และนำเทคโนโลยีใช้ในการจัดการฟาร์มในรูปแบบ Smart Farm  โดยมีเป้าหมาย50% ของผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้รับการพัฒนาเพื่อสุขภาพที่ดีและมีคุณค่าทางโภชนาการที่มากขึ้น และเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำเป็น  40 % ของยอดขาย  เป็นต้น

ด้านสังคมพึ่งตน  ได้กำหนดเป้าหมายใหม่ คือ  สร้างผลลัพธ์เชิงบวกให้แก่พนักงานและคนในสังคมจำนวน 3 ล้านคน และเป้าหมายให้ความรู้พนักงานได้ครบ 3 ล้านชั่วโมง ด้วยการเคารพสิทธิมนุษยชน ดูแลพนักงานอย่างเท่าเทียม ส่งเสริมการเรียนรู้และประสบการณ์ทำงานที่ดีให้แก่พนักงานโดยมุ่งสู่เป้าหมายเป็น Learning Organization หรือ อิ่มรู้ (Lifelong Learning) เพื่อยกระดับคุณค่าของพนักงานทุกคนในองค์กรซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนด้านความยั่งยืน  และขยายสู่สังคมด้วยการสร้างอาชีพและรายได้ให้แก่เกษตรกรในโครงการคอนแทรคฟาร์มที่ดำเนินการมาแล้วมากกว่า 40 ปี จำนวนเกษตรกร ประมาณ 5,000 ราย ด้วยรูปแบบของเกษตรพันธสัญญา  การสนับสนุนองค์ความรู้แก่เกษตรกรผู้ปลูกพืชวัตถุดิบอาหารสัตว์ในโครงการเกษตรกรพึ่งตน ข้าวโพดยั่งยืน  โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน ที่ดำเนินการมามากกว่า 30 ปี  มีโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ ฯ 880 โรงเรียน ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตและทักษะอาชีพให้แก่เยาวชน สร้างการเข้าถึงอาหารโปรตีนคุณภาพ  และโครงการจ้างงานคนพิการ ฯลฯ        

ด้านดิน น้ำ ป่า คงอยู่  ซีพีเอฟนำหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาใช้บริหารทรัพยากรเกิดประโยชน์สูงสุด เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทน พัฒนาและออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การจัดหาวัตถุดิบด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม  ต่อต้านการตัดไม้ทำลายป่า 100 %  และตรวจสอบย้อนกลับได้ถึงแหล่งที่มาของวัตถุดิบ การสร้างคุณค่าปราศจากขยะ (Waste to Value) ทั้งจากบรรจุภัณฑ์และขยะอาหาร  โดยมีเป้าหมายลดขยะอาหารในกระบวนการดำเนินธุรกิจของบริษัทเป็นศูนย์ (Zero Food Waste)  ภายในปี  2573   การอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าบก ป่าชายเลน  และเพิ่มพื้นที่สีเขียวในสถานประกอบการ   ซึ่งดำเนินการไปแล้วรวมมากกว่า 1 หมื่นไร่ และมีแผนจะดำเนินการต่อเนื่อง ในระยะที่ 2 (ปี 2564-2568)   เพื่อสร้างสมดุลสิ่งแวดล้อมและปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ        

ภายใต้กลยุทธ์ใหม่ “CPF 2030 Sustainability in Action" ซีพีเอฟได้ออกแบบสัญลักษณ์  ด้วยการนำแนวคิด 3 เสาหลักเป็นสื่อสัญลักษณ์อยู่ภายในรูปหัวใจ แสดงถึงความมุ่งมั่นสร้างความมั่นคงทางอาหารเพื่อประชากรโลก สร้างสรรค์คุณค่าให้แก่สังคม คืนสมดุลทรัพยากรธรรมชาติ ก้าวสู่เป้าหมายการเป็นครัวของโลกที่ยั่งยืน 

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ผนึกกำลัง บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ แม็คโคร จัดแคมเปญ "สารทจีนนี้ เรื่องของไหว้ไว้ใจ CP" ตอกย้ำภาพลักษณ์เจ้าแห่งเทศกาล ยกขบวนสินค้าไหว้มงคลชั้นดี พร้อมโปรโมชั่นสุดคุ้ม ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่และขยายช่องทางออนไลน์

นายกฤษณ มรกต รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทฯ เล็งเห็นถึงความปลอดภัยและความสะดวกสบายของผู้บริโภคเป็นสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 เช่นนี้ จึงจัดทำแคมเปญของไหว้สารทจีน โดยสามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น เพื่อช่วยกระตุ้นสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมได้อีกระลอก เพราะการไหว้สารทจีน เป็นอีกเทศกาลสำคัญของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน ด้วยการยกทัพสินค้ามงคลชั้นดีที่ใช้ในการไหว้มาอย่างหลากหลาย โดยไฮไลท์ชุดของไหว้ในปีนี้ ได้แก่ "เกี๊ยวกุ้งจักรพรรดิ" โฉมใหม่! มีให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ เกี๊ยวกุ้งแพ็คสุดคุ้มและเกี๊ยวกุ้งดิบ อร่อยเต็มคำทำจากกุ้งทั้งตัว วางจำหน่ายที่แม็คโครเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมี “ไก่นางพญา” ไก่ต้มทั้งตัว เนื้อนุ่ม เพื่อความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน “เป็ดนางฟ้า” เป็ดพะโล้และเป็ดย่าง เสริมอำนาจและวาสนา มีเงินทองเหลือเก็บ “ขาหมูจักรพรรดิ” ขาหมูและคากิ เนื้อแน่น ถึงรสเครื่องพะโล้พร้อมน้ำจิ้มสูตรเด็ด เสริมความมั่งคั่งและความอุดมสมบูรณ์ รวมทั้งขาหมูเยอรมัน หมูดำ ซีพี-คูโรบูตะ เสริมความมั่นคง เงินทอง และสินค้าไหว้มงคลอื่นๆ อีกมากมาย ตามความเชื่อที่ว่าไหว้ของดีชีวิตเป็นมงคล

"สถานการณ์โควิด-19 และการล็อกดาวน์อีกหลายพื้นที่ในขณะนี้ อาจกระทบกับพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค ดังนั้น สินค้าที่สด สะอาด ปลอดภัยได้มาตรฐาน ในราคาเหมาะสมและถูกต้องตามประเพณีของชาวไทยเชื้อสายจีนที่สืบทอดต่อกันมายาวนานเป็นสิ่งสำคัญ ซีพีเอฟ จึงผลิตและพัฒนาสินค้าแช่แข็ง ในแพ็คที่บรรจุอย่างดี ปิดสนิท สะอาด ง่ายต่อการซื้อหาไว้ล่วงหน้า สามารถแช่แข็งไว้ได้โดยที่ยังคงคุณภาพที่ดี คงคุณค่าทางโภชนาการ และยังเตรียมสะดวกด้วยรูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่สามารถต้มในน้ำเดือดได้ (Boiled-in Bag) ทำให้ง่ายต่อการปรุงและเตรียมของไหว้ ลดภาระและความยุ่งยากให้กับผู้บริโภค โดยเพิ่มทางเลือกด้วยการเปิดจองและจำหน่ายผ่านทุกช่องทาง ที่เน้นความสะดวก รวดเร็ว และครบครัน” นายกฤษณ กล่าว

สำหรับโปรโมชั่นพิเศษที่ห้างแม็คโคร เพียงซื้อชุดไหว้ครบ 999 บาท รับฟรี! กระเป๋าเก็บความเย็น มูลค่า 399 บาท หากซื้อครบ 1,500 บาท รับอั่งเปาส่วนลด 80 บาท และโปรโมชั่น ซื้อหมูกรอบชาชู พิเศษจากราคา 259 บาท ลดเหลือ 249 บาท เมื่อซื้อ 1 แพ็ค แถมกระเป๋าคล้องแขน 1 ใบ มูลค่า 129 บาท เริ่มตั้งแต่วันนี้ จนถึง 21 สิงหาคม 2564 หรือจนกว่าของแถมจะหมด เฉพาะสาขาที่ร่วมกิจกรรมเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีส่วนลดในช่องทางออนไลน์ ซื้อของไหว้ครบ 990 บาท รับส่วนลดทันที 80 บาท ติดตามได้ที่ Makro Click : https://www.makroclick.com/th/campaign/cpf 

นอกจากนี้ ยังสามารถหาซื้อได้ที่ CP FreshMart โลตัส ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์ และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ พร้อมโปรโมชั่นพิเศษรับสารทจีนนี้เท่านั้น

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ต่อยอดความสำเร็จมาตรฐาน "Greenfarm"

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดทำอาหารปรุงพิเศษจากอาหารส่วนเกิน (Food Surplus) กว่า 7,600 ชุด ส่งถึงมือศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ผู้ยากไร้และผู้ได้รับกระทบจากวิกฤตโควิด 19 สร้างความมั่นคงทางอาหารและโอกาสในการเข้าถึงอาหารอย่างเท่าเทียมกัน

นายวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซีพีเอฟ ในฐานะบริษัทผู้รับผิดชอบโครงการฯ กล่าวว่า ระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซีพีเอฟ มูลนิธิสโกลาร์ส ออฟ ซัสทีแนนซ์ หรือ SOS และบริษัท จีอีพีพี สะอาด จำกัด หรือ GEPP ส่งมอบอาหารในโครงการ “Circular Meal...มื้อนี้เปลี่ยนโลก” กว่า 7,600 ชุด ให้กับมูลนิธิเด็ก ผู้ยากไร้ ผู้มีรายได้น้อยและผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิค 19 จำนวน 6 แห่ง มีสมาชิกกว่า 5,000 คน ประกอบด้วย ชุมชนอ่อนนุช 14 ไร่ ชุมชนคลองส้มป่อย ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กชุมชนมักกะสัน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กชุมชนสวนรื่น ศูนย์สร้างโอกาสพระราม 8 และมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก เพื่อส่งต่อให้กับชุมชนดวงแข ตรอกสลักหิน  รวมทั้งชุมชนกลุ่มเปราะบางที่มีรายได้น้อยอีก 7 ชุมชน ผ่านการปรุงอาหารจากครัวรักษ์อาหาร เพื่อมอบให้แก่ชุมชนบ้านครัวเหนือ ชุมชนคลองส้มป่อย ครัววัดแข ครัววัดโสม ครัววัดภาชี ชุมชนจักรพรรดิพงศ์ และชุมชนมาชิม ซึ่งเป็นการนำอาหารส่วนเกินไปสร้างสรรค์เมนูที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนต่อการบริโภค บนพื้นฐานมาตรฐานความปลอดภัยทางอาหาร ถูกหลักอนามัย

นอกจากนี้ โครงการฯ ยังให้ความสำคัญกับการรณรงค์ให้องค์กรพันธมิตรและผู้บริโภคเก็บและคัดแยกบรรจุภัณฑ์ เช่น ถุงพลาสติกจากการมอบอาหารของโครงการฯ แล้วกว่า 3,000 ชิ้น ซึ่ง GEPP เป็นผู้รับผิดชอบนำไปส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สู่การบริหารจัดการตามหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน อาทิ การนำไปสร้างประโยชน์ใหม่ (Upcycling) รวมทั้งการนำไปใช้เป็นพลังงาน เพื่อตัดวงจรขยะลงสู่หลุมฝังกลบ ตามเป้าหมายของโครงการฯ ที่มุ่งเน้นลดผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมและใช้ทรัพยากรเกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งโครงการฯสามารถลดขยะอาหารสู่หลุมฝังกลบได้มากกว่า 1.8 ตัน ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 3,441 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

นายวุฒิชัย กล่าวว่า ซีพีเอฟ มุ่งมั่นสนับสนุนการนำอาหารส่วนเกินไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและชุมชน ด้วยการบริหารจัดการอาหารส่วนเกิน (Food Surplus Management)) สอดคล้องกับเป้าหมายของ ซีพีเอฟ ที่มุ่งมั่นลดขยะอาหารเป็นศูนย์ในปี 2573 (Zero Waste to Landfill) ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก จากขยะอาหารและบรรจุภัณฑ์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนสภาพภูมิอากาศ อีกทั้งยังเป็นการสร้างโอกาสในการเข้าถึงอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการเพื่อความมั่นคงทางอาหารให้กับคนทุกกลุ่ม ซึ่งโครงการนี้ มีเป้าหมายส่งมอบอาหารตลอดปี 2564 จำนวน 10,000 ชุด ให้กับผู้ด้อยโอกาสและขาดแคลนอาหารในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

“ในฐานะผู้ผลิตอาหารชั้นนำ ซีพีเอฟ ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการห่วงโซ่การผลิตที่ยั่งยืนและการบริโภคด้วยความรับผิดชอบ เพื่อร่วมมือกับประชาคมโลกในการขจัดความหิวโหย การขาดแคลนอาหาร และสร้างสมดุลธรรมชาติให้คืนกลับมา จากการบริโภคอย่างรู้คุณค่าโดยไม่เหลือเป็นขยะอาหารหรืออาหารส่วนเกิน” นายวุฒิชัย กล่าว

โครงการ “Circular Meal…มื้อนี้เปลี่ยนโลก” เป็นหนึ่งในกิจกรรมภายใต้กลยุทธ์ความยั่งยืน 3 เสาหลัก ประกอบด้วย อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน และดินน้ำป่าคงอยู่ เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงอาหารทุกสถานการณ์ สอดคล้องตามเป้าหมายการสร้างความมั่นคงทางอาหาร ที่ซีพีเอฟให้ความสำคัญมาโดยตลอด โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด 19 บริษัทฯมีการดำเนินงานควบคู่ไปกับกิจกรรมการส่งมอบอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและปลอดภัย ในโครงการ “CPF ส่งอาหารจากใจ ร่วมต้านภัยโควิด-19”  ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ต้นปี 2563 ตามนโยบายของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ภายใต้โครงการ "ซีพีร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด-19" ร่วมรับผิดชอบสังคมและสนับสนุนการทำงานของบุคลากร อาทิ บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อาสาสมัครสาธารณสุข ที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลรัฐและภาคสนาม

ภายใต้โครงการ “CPF ส่งอาหารจากใจ ร่วมต้านภัยโควิด-19” ยังได้ส่งอาหารให้แก่ผู้กักตัว ผู้ป่วย กลุ่มที่ต้องเฝ้าระวัง รวมส่งอาหารไปแล้วหลายล้านแพ็ค และทำโครงการ “ลดจริง..ไม่ทิ้งกัน” โดยร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ ลดราคาสินค้าอาหารและจำหน่ายข้าวกล่องๆ ละ 20 บาท จำนวน 1 ล้านกล่อง  โครงการ Food Truck นำข้าวกล่องไปแจกเป็นอาหารกลางวันให้กับชุมชนต่างๆ ในเขตกรุงเทพมหานคร เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ นอกจากนี้ ซีพีเอฟ ดูแลส่งอาหารให้แก่โรงพยาบาลสนาม ศูนย์ฉีดวัคซีน กลุ่มเปราะบาง จุดตรวจโควิด และหน่วยงานต่างๆมากกว่า 500 แห่งทั่วประเทศ

X

Right Click

No right click