

ไทยเวียตเจ็ทประกาศให้สงขลาเป็นเมืองแห่งที่สามของกิจกรรมปลูกป่าเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายใต้โครงการ ‘Fly Green Metro Forest – Mangrove’ เชิญชวนผู้โดยสาร สมาชิก นักเรียนนักศึกษา และพนักงานของสายการบินฯ ร่วมกันปลูกป่าชายเลนจำนวน 10,000 ต้น ณ ทะเลสาบสงขลา บ้านหัวเขา จังหวัดสงขลา ในวันที่ 5 เมษายน 2567 ตั้งแต่เวลา 08:00 – 15:00 น.
โครงการ ‘ฟลายกรีน เมโทร ฟอร์เรสต์’ เกิดขึ้นภายใต้กองทุนฟลายกรีนฟันด์ ซึ่งเป็นกองทุนเพื่อสิ่งแวดล้อมของไทยเวียตเจ็ท ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2564 โดยมีเป้าหมายสูงสุดในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสนับสนุนความยั่งยืน
แนวคิดหลักของโครงการ ‘ฟลายกรีน เมโทร ฟอร์เรสต์’ คือ การมุ่งเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเขตเมืองของประเทศไทย หลังจากความสำเร็จของฟลายกรีน เมโทร ฟอร์เรสต์ในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ ในครั้งนี้ สายการบินฯ จะเดินหน้าโครงการครั้งที่สามไปยังสงขลา
นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยเวียตเจ็ท กล่าวว่า “ไทยเวียตเจ็ทยังคงดำเนินกิจกรรมที่อุทิศตนเพื่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน อาทิ การลดการปล่อยมลพิษจากการปฏิบัติการบิน รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ลดสาเหตุของภาวะโลกร้อนที่มนุษยชาติกำลังเผชิญอยู่ ด้วยความมุ่งมั่นในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเขตเมืองในประเทศไทย ครั้งนี้ เราจะเดินหน้าโครงการครั้งที่สามไปยังสงขลาซึ่งจะเป็นการปลูกป่าชายเลนแห่งแรกภายใต้โครงการฟลายกรีน เมโทร ฟอเรสต์”

สายการบินไทยเวียตเจ็ทได้ดำเนินโครงการและกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ก่อตั้งกองทุนฟลายกรีนฟันด์ อาทิ กิจกรรม ‘การ์เบจ ฮันเตอร์ (Garbage Hunter)’ ซึ่งเป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อกำจัดขยะจากสถานที่ต่าง ๆ ในประเทศไทย มุ่งสู่การลดปริมาณขยะเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมส่งเสริมความยั่งยืนต่อไป กิจกรรมกอล์ฟการกุศล ‘ฟลาย กรีน แชร์ริตี้ กอล์ฟ เดย์ (Fly Green Charity Golf Day)’ ซึ่งเป็นกิจกรรมแข่งขันกอล์ฟการกุศลครั้งแรกภายใต้กองทุนฟลายกรีนฟันด์ กิจกรรม ‘เมโทร ฟอร์เรสต์ (Metro Forest)’ ซึ่งเป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเขตเมืองของประเทศไทย และกิจกรรม ‘เวียตเจ็ท ฟลายกรีน แชริตี้คอนเสิร์ต (Vietjet Fly Green Charity Concert)’ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนให้กับแฟนเพลงและระดมทุนจากการจำหน่ายบัตรเข้าชมคอนเสิร์ตเพื่อสนับสนุนกิจกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
โครงการ ‘Fly Green Metro Forest – Mangrove’ จะจัดขึ้นในวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 ณ ทะเลสาบสงขลา บ้านหัวเขา จังหวัดสงขลา ในวันที่ 5 เมษายน 2567 ตั้งแต่เวลา 08:00 – 15:00 น. ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ www.vietjetair.com
อินฟลูเอ็นเชี่ยล แบรนด์ ประเทศสิงคโปร์ และ นิโอ ทาร์เก็ต ผู้นำด้านที่ปรึกษาสร้างชื่อเสียงองค์กรในประเทศไทย เตรียมค้นหาสุดยอดแบรนด์ ผู้บริหาร และผู้นำองค์กร เข้ารับรางวัล อินฟลูเอ็นเชี่ยล แบรนด์ อะวอร์ด ประจำปี 2566 โดยลงพื้นที่ทำวิจัยค้นหาสุดยอดแบรนด์ที่มีอิทธิพลสูงสุดต่อผู้บริโภค และเชิญชวนบริษัทฯ องค์กรรัฐและวิสาหกิจชั้นนำของไทย ร่วมส่งข้อมูลเพื่อชิงความเป็นที่สุดของแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจสูงสุดต่อเนื่อง ผู้บริหารและผู้นำธุรกิจที่โดดเด่นแห่งปี

มร.จอร์จ โรดิกัส กรรมการผู้จัดการ อินฟลูเอ็นเชี่ยล แบรนด์ ประเทศสิงคโปร์ กล่าวว่า “ในฐานะที่อินฟลูเอ็นเชี่ยล แบรนด์ เป็นองค์กรที่เชี่ยวชาญด้านความรู้ทางธุรกิจและการสร้างแบรนด์ในเอเชีย มายาวนานกว่า 20 ปี มีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศสิงคโปร์ และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นองค์กรที่ยกย่อง “สุดยอดองค์กรที่มีความเป็นเลิศ” และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างบริษัทชั้นนำในเอเชีย เราตระหนักถึงความเป็นเลิศทางธุรกิจและความสามารถในการปรับตัวของธุรกิจไทยในช่วงเวลาที่ท้าทายนี้ หลายปีที่ผ่านมาไม่ใช่เรื่องง่าย โดยสิ่งเหล่านี้ยังช่วยให้บริษัทต่างๆ มีโอกาสสร้างความแข็งแกร่งและพลิกโฉมธุรกิจของตน และเรามั่นใจว่าบริษัทไทยจะได้รับประโยชน์จากการแลกเปลี่ยนและสร้างเครือข่ายกับบริษัทที่ดีที่สุดในระดับเดียวกัน ผ่านเครือข่ายระดับโลก และระดับภูมิภาคที่ดีที่สุดของเรา”

นางวรรณี ลีลาเวชบุตร ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร บริษัท นิโอ ทาร์เก็ต จำกัด กล่าวว่า “ท่ามกลางความท้าทายการทำธุรกิจในโลกยุคใหม่ องค์กรต่างให้ความสำคัญในการสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์ ให้ได้รับการยอมรับ ยกย่องจากสังคม โดยเฉพาะสังคมที่มีผู้นำเป็นผู้ที่มีอิทธิพล นอกจากนี้ การเข้าใจพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคนี้ จะช่วยให้แบรนด์และสินค้าเป็นที่นิยมมากขึ้น สามารถครองใจผู้บริโภคได้อย่างยั่งยืน”
สำหรับรางวัลที่จะมอบในปีนี้ประกอบด้วย 4 ประเภท ได้แก่ รางวัลสำหรับองค์กรและสินค้ามี 2 ประเภท คือ Influential Brands และ Outstanding Brands และอีก 2 รางวัล สำหรับผู้บริหารองค์กรคือ Top CEOs และOutstanding Leaders โดยในช่วงไตรมาสสุดท้ายในปีที่ผ่านมา ได้มีการสำรวจผู้บริโภคกลุ่ม Gen Y และ Z ในประเทศไทย ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนการใช้จ่ายสูงสุดในประเทศไทยในปัจจุบัน โดยขนาดกลุ่มตัวอย่างให้ระดับความเชื่อมั่นอยู่ที่ 95% และ +/-5% ซึ่งสามารถสะท้อนถึงมุมมองและความพึงพอใจของแบรนด์ในประเทศไทย
การสำรวจนี้เป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยตลาดใน 6 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ สิงคโปร์ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม และจีน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อค้นหาแบรนด์ยอดนิยมในใจผู้บริโภคประจำปี 2566 ซึ่งประเภทของธุรกิจที่ทำการสำรวจ ได้แก่ ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า ช่องทางการตลาดออนไลน์ บริษัทประกันชีวิต ธนาคาร อสังหาริมทรัพย์ โรงแรม สายการบิน สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ผู้ให้บริการและแอพพลิเคชั่นสั่งอาหาร ร้านอาหาร เบเกอรี่เชน ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ รถหรู รถอีโค่คาร์ และผลิตภัณฑ์ในธุรกิจเอฟเอ็มซีจี เป็นต้น ซึ่งผลสำรวจได้แสดงให้เห็นว่าแบรนด์ใดเป็น แบรนด์ที่อยู่ในใจ และมีอิทธิพลต่อประชาชนสูงสุด
การประกาศผลผู้ชนะ และมอบรางวัลอย่างเป็นทางการ จะจัดขึ้นทั้งที่ประเทศสิงค์โปร์ และประเทศไทย ในช่วงกลางเดือนมีนาคม และต้นเดือนเมษายน 2567 สำหรับที่สิงคโปร์มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 400 คน จาก 6 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ สิงคโปร์ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม และจีน
แฟนๆ TECNO เตรียมเฮ! พบกับการเปิดตัวสุดยอดสมาร์ทโฟนแห่งปีอย่าง TECNO POVA 6 Pro 5G ที่จะมาเขย่าวงการมือถือไทยด้วยดีไซน์อันโดดเด่น ประสิทธิภาพเหนือชั้น และฟีเจอร์สุดล้ำ พร้อมมอบประสบการณ์การใช้งานที่เหนือระดับ ในราคาที่ใคร ๆ ก็เอื้อมถึง

สำหรับ TECNO POVA 6 Pro 5G เป็นสมาร์ทโฟนที่มุ่งเน้นการยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมและความบันเทิงแบบจัดเต็ม ตัวเครื่องมาพร้อมกับระบบพลังงาน Super-Endurance Power System ประกอบด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6000mAh และชาร์จเร็ว 70W Ultra Charge เทคโนโลยีแบบ Bypass Charge ช่วยให้เล่นเกมและใช้งานได้ยาวนานขึ้น ดีไซน์โดดเด่นด้วยองค์ประกอบ Dynamic-Tech พร้อมไฟ MiniLED ที่ปรับแต่งได้ เพิ่มเติมด้วยระบบเสียง Dolby Atmos เพื่อเสียงที่สมจริงและฟีเจอร์ต่างๆ สำหรับการเล่นเกมที่ดียิ่งขึ้น ประสิทธิภาพของโทรศัพท์ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ MediaTek Dimensity 6080 5G กับพื้นที่เก็บข้อมูล 256 ROM + 24 RAM ออกแบบมาเพื่อชาวเกมเมอร์ ด้วยเทคโนโลยีและฟีเจอร์ขั้นสูงของแบรนด์ TECNO

นอกจากการเล่นเกมและฟีเจอร์จัดเต็มเพื่อความบันเทิงที่สมจริงและประสิทธิภาพอันทรงพลังแล้ว TECNO POVA 6 Pro 5G ยังมาพร้อมกับกล้องถ่ายรูปความละเอียดสูง กล้องหลัก 108MP Ultra Vivid ที่รองรับการซูม 3 เท่า (ซูมดิจิทัลสูงสุด 10 เท่า) มีกล้องเสริม 2 ตัวคือเซ็นเซอร์ความลึก 2MP และ AI cam กล้องหน้า 32MP ถ่ายภาพและเซลฟี่ได้คมชัด หน้าจอ ขนาดใหญ่ หน้าจอ AMOLED FHD+ 6.78 นิ้ว สีสวยสมจริง อัตรารีเฟรช 120Hz ลื่นไหลไม่มีสะดุด ให้ภาพคมชัด สีสันสดใส ดีไซน์ ทันสมัย สวยงาม สะท้อนความเป็นตัวคุณได้อย่างลงตัว
ห้ามพลาด! กับการเป็นเจ้าของ TECNO POVA 6 Pro 5G สมาร์ทโฟนที่จะเปลี่ยนประสบการณ์การใช้งานของคุณไปตลอดกาล เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มีนาคม 2567 ในรุ่น RAM 8GB/256GB และรุ่น 12GB/256GB วางจำหน่ายแบบออนไลน์บน Shopee, Lazada และ TECNO TikTok Shop มากไปกว่านั้น เตรียมพบกับ Box Set สุดพิเศษออกมาวางจำหน่าย กับการคอลแลปส์ร่วมกับแบตเทิลรอยัลเกมดังอย่าง Free Fire ที่จะมาปลุกความเป็นนักสู้ในตัวคุณ
ติดตามข่าวสารอื่นๆ ของ TECNO ได้ที่ Facebook: www.facebook.com/tecnomobilethailand หรือเว็บไซต์ www.tecno-mobile.com/th/
บริษัท สเปซ วอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำดื่มแบรนด์ สเปซ วอเตอร์ (Space Water) เดินหน้าขยายพอร์ตโฟลิโอแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ “Space Flavored Water” น้ำดื่มผสมกลิ่น ที่มีรสชาติและสีใกล้เคียงน้ำเปล่ามากที่สุดในประเทศไทย พร้อมชูกลิ่นไฮไลท์ อุทัยสเปซ (UTAISPACE) น้ำกลิ่นสมุนไพรที่คุ้นเคย ดับกระหายคลายร้อน ปลุกคืนความสดชื่น หวังเจาะกลุ่มผู้บริโภคในตลาดน้ำดื่มบรรจุขวด สร้างมิติใหม่ในการดื่มน้ำช่วงซัมเมอร์
“Space Flavored Water” น้ำดื่มผสมกลิ่น เปิดตัวด้วยกลิ่น อุทัยสเปซ (UTAISPACE) น้ำกลิ่นสมุนไพร ซึ่งเป็นรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ในการใช้กลิ่นอุทัย ซึ่งเป็นกลิ่นยอดฮิตของสาวๆ ในยุค Y2K มาเป็นกลิ่นเรือธงของสินค้า ซึ่งพร้อมด้วยสรรพคุณที่ช่วยดับกระหาย คลายร้อน สร้างความสดชื่น และยังหอมกลิ่นสมุนไพรอ่อนๆ มีรสชาติใกล้เคียงกับน้ำเปล่ามากที่สุด โดยไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล ไม่ใส่วัตถุกันเสีย สามารถดื่มทดแทนน้ำเปล่าได้ ขณะเดียวกันยังถูกออกแบบมาให้เป็นเครื่องดื่มประเภท Functional Drink ที่มีส่วนผสมของ คอลลาเจน ซิงค์ และวิตามินบี 6 ที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย ขนาดบรรจุ 500 ml. มาพร้อมกับดีไซน์น่ารักพาสเทล ราคาเพียงขวดละ 10 บาท

นอกจากนี้ ยังมีอีก 2 กลิ่นแนะนำ ซอฟพีช (Soft Peach) น้ำกลิ่นพีช และซอฟไรซ์ (Soft Rice) น้ำกลิ่นข้าวหอม ที่มีแผนทำการตลาดต่อจากกลิ่นอุทัยสเปซ โดยช่องทางการจัดจำหน่ายขณะนี้ สามารถสั่งซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่าย ร้านค้าขายส่ง และช่องทางออนไลน์ Shopee: https://shopee.co.th/spaceflavoredwater และ Lazada: https://www.lazada.co.th/shop/space-flavored-water
และในช่วงเทศกาลสงกรานต์ร่วมชิม Space Flavored Water ผลิตภัณฑ์น้ำดื่มผสมกลิ่นอุทัยสเปซ (UTAISPACE) ได้ที่บูธกิจกรรมของ Space Water ทั่วกรุงเทพฯ สามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวและกิจกรรมของ Space Water ได้ที่ www.spacewaterfactory.com และ Facebook: SPACE Flavored Water
นิทรรศการ “100 Italian Vases” จัดแสดงอย่างยิ่งใหญ่คู่ขนานกันไปกับผลิตภัณฑ์นวัตกรรมขั้นสูง ณ Sphere Gallery 2 ศูนย์การค้า EmSphere กรุงเทพฯ เป็นไฮไลต์ของมหกรรรมเฉลิมฉลองงานดีไซน์สไตล์อิตาลี หรือ อิตาเลียนดีไซน์เดย์ 2024 โดยได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ เอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย มร. เปาโล ดีโอนีซี เป็นประธานในพิธี เมื่อเร็วๆนี้

นิทรรศการ “100 Italian Vases” นำเสนอความงดงามเชิงช่างของเครื่องกระเบื้องแบรนด์ Ginori 1735 ที่มีชื่อเสียงยาวนานถึง 289 ปี สะท้อนความยั่งยืน และ "ความพิเศษเฉพาะของอิตาลี " ในการออกแบบ เป็นโครงการที่ริเริ่มโดยกระทรวงการต่างประเทศของอิตาลี่ดำเนินการจัดทำนิทรรศการเคลื่อนที่นี้ เพื่อทำหน้าที่เป็นสื่อที่เหมาะสมและคุ้มค่าในการส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านการออกแบบของอิตาลีได้ตลอดทั้งปี ภายใต้การดูแลของ Marco Meneguzzo และ Enrico Morteo เป็นรูปแบบนิทรรศการสัญจรจัดแสดงประวัติศาสตร์และความสำคัญของแจกันอิตาลีในศตวรรษที่ 20

นอกจากนี้ โครงการ "100 Italian Vases" ยังมุ่งหวังที่จะเป็นตัวกระตุ้นดึงดูดสาธารณชนที่หลากหลายให้เข้ามาร่วมสัมผัสและแบ่งปันประสบการณ์กัน ไม่ว่าจะเป็นผู้ค้า ผู้นำเข้าสินค้าที่มีดีไซน์ บุคลากรในแวดวงพิพิธภัณฑ์ และสถาบันต่างๆ ทั่วโลก ด้วยสาระที่ครอบคลุมและลุ่มลึกทางประวัติศาสตร์ โครงการ "100 Italian Vases" จะเป็นรากฐานสำคัญของภูมิทัศน์ การออกแบบระดับสากล ที่สะท้อนให้เห็นถึง มรดกทางความคิดสร้างสรรค์และงานฝีมือของอิตาลีที่สืบทอดมายาวนาน
มหกรรรมเฉลิมฉลองงานดีไซน์สไตล์อิตาลี หรือ อิตาเลียนดีไซน์เดย์ 2024 ยังมีหลากหลายกิจกรรม ที่จัดทำร่วมกันกับพันธมิตรทางธุรกิจในโชวฺ์รูมต่างๅ ทั้งเรื่องการชิมไวน์ การสาธิตทำอาหารอิตาเลียน ชมแฟชั่น หรือการสัมมนาเรื่องไฟตกแต่งและส่องสว่าง ซึ่งจัดขึ้นโดยความร่วมมือของหลากหลายแบรนด์ ทั้ง Lamborghini EmSphere, Lamptitude, Seasons, Scintilla Gioielli and Euro Creations, Ducati, Ferrari and Vespa, Alist, ItalAsia, Lamptitude, Lightsculptures, Motif and Seasons.
การศึกษาของลูกเป็นเป้าหมายสำคัญของครอบครัว พ่อแม่ควรจะวางแผนเตรียมแนวทางและความพร้อมไว้ให้ลูกแต่เนิ่นๆ การวางแผนการศึกษาให้ลูกเปรียบเหมือนบันไดที่จะนำลูกก้าวสู่อนาคตตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ บันได 4 ขั้นเพื่อการวางแผนการศึกษาของลูกรักทำได้ดังนี้
บันไดขั้นแรก: เป็นบันไดขั้นแรกเป็นขั้นที่สำคัญที่สุด เริ่มจากการเลือกแนวทางการศึกษาสำหรับอนาคตที่เหมาะสำหรับลูก ปัจจุบันการศึกษามีหลากหลายแนวทางให้เลือก ตั้งแต่ โรงเรียนรัฐบาล โรงเรียนเอกชน โรงเรียนสองภาษา โรงเรียนทางเลือก หรือ โรงเรียนนานาชาติ ซึ่งแต่ละแนวทางมีระบบการศึกษาที่แตกต่างกันออกไป แต่ละครอบครัวอาจเลือกแนวทางการศึกษาที่แตกต่างกันตามปัจจัยและองค์ประกอบของครอบครัว นอกจากนี้การวางแผนการศึกษาที่ดีควรวางแผนไปจนถึงการระดับการศึกษาสูงสุด รวมถึงการเตรียมทักษะเพื่ออนาคตด้านอื่นๆ ทั้งทักษะด้านสารสนเทศและเทคโนโลยี ทักษะชีวิตและอาชีพ เช่น ความเป็นผู้นำ ความใช้ชีวิตในสังคม เป็นต้น
ขั้นที่สอง: ประมาณการค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษา เมื่อพ่อแม่เลือกแนวทางการศึกษาที่เหมาะสำหรับลูกได้แล้ว ลองวางแผนคำนวณค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ทั้งค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นแน่นอน เช่น ค่าเล่าเรียน ค่าชุดนักเรียน ค่าหนังสือและอุปกรณ์การเรียน ค่ากิจกรรมและการเรียน จึงควรหาข้อมูลของโรงเรียนที่เปิดการสอนในแนวทางที่เราสนใจเพื่อพิจารณาและนำรายละเอียดมาพิจารณา ค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษายังปรับเพิ่มขึ้นตามช่วงเวลา จึงควรคำนวณอัตราเพิ่มขึ้นของการศึกษาไว้ด้วย อาจใช้ค่าเฉลี่ยการเพิ่มค่าใช้จ่าย 5% เป็นเกณฑ์เบื้องต้น เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีเงินทุนเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายการศึกษา
ขั้นที่สาม: วางแผนการออมเงินระยะยาว ค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในช่วงแรกของการศึกษา มักเป็นเงินที่มาจากการบริหารรายรับรายจ่ายของครอบครัวเพื่อจัดสรรเงินสำหรับค่าใช้จ่ายของลูก เนื่องจากพ่อแม่มักมีเวลาการเตรียมพร้อมที่ค่อนข้างสั้น การเก็บออมเงินเพื่อการศึกษาจึงมักเป็นการออมเงินสำหรับค่าใช้จ่ายในระดับการศึกษามัธยมศึกษา หรือระดับปริญญา แต่แม้เราจะมีการเก็บออมอยู่แล้ว หากไม่ได้แยกเงินออมสำหรับเป้าหมายการศึกษาออกมากให้ชัดเจนก็อาจทำให้แผนการเงินไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ การออมเพื่อการศึกษาเป็นหนึ่งเป้าหมายการเงินที่สำคัญและมีระยะเวลาที่ยาวนานจึงควรกำหนดเป็นเป้าหมายเฉพาะและชัดเจน ที่สำคัญจะต้องมีวินัยในการออมและไม่นำเงินก้อนนี้ไปใช้เพื่อการอื่นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
ขั้นที่สี่: ป้องกันความเสี่ยง แม้การออมเงินจะเป็นวิธีที่จะไปถึงเป้าหมายการออม เราควรป้องกันความเสี่ยงหากเกิดอะไรขึ้นกับเราด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าแผนการศึกษาของลูกจะเป็นไปตามเป้าหมาย แม้จะเกิดอะไรขึ้นกับเราก่อนบรรลุเป้าหมายการเงิน

บันได 2 ขั้นแรกเป็นบันไดขั้นที่สำคัญมากในการวางแผนการศึกษา เพราะเป็นการเลือกเส้นทางในการเดินสู่อนาคตให้กับลูกของเรา ที่สำคัญเราควรสังเกตว่าลูกของเรามีความถนัดหรือมีความเหมาะสมกับแนวทางการศึกษาที่เราเลือกด้วยหรือไม่ เราสามารถหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ รวมถึงการไปเยี่ยมชมโรงเรียนที่เราสนใจ หรือปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาเพื่อให้ได้ข้อมูลสำหรับใช้วางแผน
สำหรับบันไดขั้นที่ 3 และ 4 เป็นขั้นตอนที่จะทำให้ลูกของเราเดินไปบนเส้นทางที่เลือกและบรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจอย่างแน่นอน การวางแผนการเงินเป็นหัวใจสำคัญสำหรับบันไดสองขั้นนี้ เนื่องจากเป้าหมายการศึกษาเป็นเป้าหมายที่มีความสำคัญสำหรับครอบครัว การเลือกผลิตภัณฑ์การเงินสำหรับเป้าหมายที่สำคัญมักเน้นสัดส่วนของการออมไปทางผลิตภัณฑ์การเงินที่มีความเสี่ยงไม่สูงนักและได้รับผลตอบแทนที่เพียงพอ เพื่อป้องกันไม่ให้เงินที่ออมได้รับความเสี่ยงจากการลงทุนที่ไม่เป็นไปตามแผนจนส่งผลกระทบต่อเป้าหมายที่ตั้ง วินัยในการออมเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราออมไปตลอดระยะเวลาของแผนการเงินที่วางไว้เช่นเดียวกัน
ประกันชีวิตเป็นผลิตภัณฑ์การเงินที่สามารถป้องกันเงินออม ช่วยสร้างวินัยทางการเงินจากเบี้ยประกันที่ต้องชำระอย่างต่อเนื่อง และประกันชีวิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่ป้องกันความเสี่ยงระยะยาว แผนทางเลือกต่างๆ ที่มีทำให้เราสามารถเลือกระยะเวลาการออม ระยะเวลาความคุ้มครอง ให้เหมาะสมกับเป้าหมายการเงินและความพร้อมในการออมของเรา ยังสามารถใช้ประโยชน์ด้านสิทธิลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย การเลือกประกันชีวิตเป็นส่วนหนึ่งในการออมเพื่อการศึกษาระยะยาวจึงช่วยสร้างความมั่นใจว่าแผนการเงินของเราสามารถไปถึงเป้าหมายได้อย่างมั่นคง
กรุงเทพสมาร์ทคิดส์ จาก กรุงเทพประกันชีวิต เป็นแบบประกันสะสมทรัพย์ที่มีระยะเวลาคุ้มครอง 15 ปี 18 ปี และ 21 ปี มีระยะเวลาการออมที่ยาวถึง 15 ปี จึงช่วยให้เรามีวินัยการออมไปตลอดระยะเวลา และยังมีความคุ้มครองหากเสียชีวิตหรือสูญเสียอวัยวะและสายตาเนื่องจากอุบัติเหตุ รวมถึงค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุ จึงเป็นทางเลือกสำหรับการวางแผนการศึกษาของลูก ผู้ที่สนใจสามารถสมัครทำประกันได้ผ่านตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน กรุงเทพประกันชีวิต และดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์กรุงเทพประกันชีวิต www.bangkoklife.com หรือติดต่อ Call Center โทร. 02-777-8888