

ออเนอร์ (HONOR) ผู้ให้บริการอุปกรณ์อัจฉริยะชั้นนำระดับโลก เตรียมมอบประสบการณ์การใช้งานที่ไร้ขีดจำกัด พร้อมนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีทันสมัยผ่านสมาร์ตโฟนที่ตอบโจทย์ครบครันทุกด้าน ด้วยการเปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ HONOR X7b ภายใต้คอนเซปต์ “แบตใหญ่กว่า ถ่ายภาพสนุกทั้งวัน” ชูไฮไลต์เด่นด้วยแบตเตอรี่ซิลิคอนคาร์บอนใหญ่พิเศษและอึดที่สุด ความจุ 6000mAh น้ำหนักเพียง 199 กรัม และบางเพียง 8.24 มิลลิเมตร ใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 3 วัน พร้อมยกระดับการถ่ายภาพบนมือถือด้วยกล้องความละเอียดสูง 108 ล้านพิกเซล ที่ให้ภาพคมชัด สวยงาม ทำให้ผู้ใช้เพลิดเพลินกับการถ่ายภาพได้ทั้งวัน ตลอดจนสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับการรับชมคอนเทนต์ความบันเทิงที่แสนดื่มด่ำด้วยคุณภาพเสียงสุดล้ำจากลำโพงคู่ ระดับเสียงสเตอริโอ 200% เสมือนเสียงในโรงภาพยนตร์ เพื่อเติมเต็มอรรถรสและมอบช่วงเวลาที่ดีที่สุดให้กับทุกคน เตรียมพร้อมเปิดตัวในประเทศไทย 20 มีนาคมนี้ เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป
HONOR X7b สมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้น-กลางใหม่ล่าสุดจาก HONOR มาพร้อมดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ สีสันสดใส พกพาง่าย เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เน้นจับกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน และผู้ที่ชื่นชอบสร้างสรรค์คอนเทนต์ โดยรุ่นนี้อัดแน่นด้วยคุณสมบัติพรีเมียมมากมาย ชูจุดขายด้วยประสิทธิภาพแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ความจุ 6000mAh ที่มอบอายุการใช้งานแบตฯ ที่ดีที่สุดในสมาร์ตโฟน HONOR X series ทำให้ใช้งานต่อเนื่องยาวนานตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องกังวลว่าแบตฯ จะหมด อีกทั้งแบตเตอรี่ยังมีน้ำหนักเบาเพียง 199 กรัม และบางเพียง 8.24 มิลลิเมตร รองรับระบบชาร์จไว 35W ทำให้สมาร์ตโฟนพร้อมใช้งานได้ในทุกที่ทุกเวลา นอกจากนี้ยังเอาใจผู้ที่รักการถ่ายภาพบนมือถือด้วยกล้องความละเอียดสูง 108 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายภาพคมชัดได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ทั้งยังมีโหมดถ่ายภาพบุคคลที่รองรับซูม 2 เท่า และมีลูกเล่นให้เลือกใช้งานได้จุใจ เพื่อตอบโจทย์การถ่ายภาพที่หลากหลายและบันทึกช่วงเวลาที่ดีที่สุดได้อย่างน่าประทับใจ และอีกจุดไฮไลต์สำคัญอย่างลำโพงคู่คุณภาพสูง ที่มาพร้อม Extra volume 200% ทำให้เสียงมีความคมชัดและดังขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารหรือความบันเทิงต่าง ๆ ทำให้ผู้ใช้งานได้รับสุนทรียภาพด้านเสียงในการรับชมและฟังที่ยอดเยี่ยม

ห้ามพลาด! เตรียมสัมผัสประสบการณ์การใช้งานที่ยาวนานและถ่ายภาพสนุกตลอดทั้งวัน กับสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ HONOR X7b เริ่มวางจำหน่ายสินค้าที่ร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป พร้อมรับโปรโมชันสุดพิเศษมากมาย ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.hihonor.com/th หรือติดตามข่าวสารและกิจกรรมได้ที่เฟซบุ๊ก HONOR Thailand
นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า การประกอบธุรกิจประกันภัยต้องมีการวางหลักประกันและเงินสำรองประกันภัยให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกันชีวิต/ประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งกฎหมายกำหนดให้บริษัทประกันภัยต้องนำหลักทรัพย์มาวางไว้กับนายทะเบียน เพื่อเป็นหลักประกันในการประกอบธุรกิจ นอกจากนี้ กฎหมายยังกำหนดให้บริษัทประกันชีวิตต้องจัดสรรเงินสำรองประกันภัยสำหรับกรมธรรม์ประกันภัยที่ยังมีความผูกพันอยู่ และบริษัทประกันวินาศภัยต้องจัดสรรเงินสำรองสำหรับเบี้ยประกันภัยที่ยังไม่ตกเป็นรายได้ของบริษัท (Unearned Premium Reserve : UPR) ให้ครบถ้วนตามกฎหมายกำหนด โดยให้นำหลักทรัพย์ซึ่งคิดเป็นมูลค่าร้อยละ 25 ของส่วนที่จัดสรรแล้วนั้นมาวางไว้กับสำนักงาน คปภ.

โดยข้อมูล ณ วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 บริษัทประกันภัย จำนวน 71 แห่ง ได้นำทรัพย์สินลงทุนของบริษัทประเภทพันธบัตรรัฐบาลไทย พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรของรัฐวิสาหกิจ ตั๋วเงินคลังของกระทรวงการคลัง ตราสารหนี้อื่นที่ออกโดยกระทรวงการคลัง หุ้นกู้รัฐวิสาหกิจ หุ้นกู้บริษัทจำกัด หุ้น ตั๋วสัญญาใช้เงิน ตั๋วแลกเงิน และเงินฝากประจำ มาวางเป็นหลักทรัพย์ประกันและเงินสำรองประกันภัยไว้กับสำนักงาน คปภ. รวมจำนวนทั้งสิ้น 849,280.98 ล้านบาท แต่เนื่องจากหลักทรัพย์ดังกล่าวมีมูลค่าสูงและมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประชาชนและบริษัทประกันภัย สำนักงาน คปภ. จึงต้องดูแลรักษาด้วยความเข้มงวดปลอดภัย ดังนั้น เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2567 สำนักงาน คปภ. ได้ตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนของหลักทรัพย์ประกันและเงินสำรองประกันภัยเป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงได้นำหลักทรัพย์ดังกล่าวไปฝากไว้กับธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้รับฝากทรัพย์สิน (Custodian) เป็นผู้จัดเก็บและดูแลรักษาหลักทรัพย์ดังกล่าวด้วยความมั่นคงและปลอดภัยต่อไป

เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า หลักทรัพย์หรือทรัพย์สินส่วนนี้สำนักงาน คปภ. จะรับวางเฉพาะทรัพย์สินที่มีสภาพคล่องค่อนข้างสูง โดยสำนักงาน คปภ. ได้ตรวจสอบมูลค่าของหลักทรัพย์อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้บริษัทวางเงินดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด
นายเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) นำทีมอาสาสมัครผู้บริหารชาวญี่ปุ่นและพนักงานร่วมกิจกรรมอนุรักษ์พัฒนาโบราณสถานและปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบ ณ วัดเชิงท่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่ออนุรักษ์มรดกทางประวัติศาสตร์ของประเทศให้ดำรงสืบไป โดยกรุงศรีได้กิจกรรมดังกล่าวต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 20
ให้แก่ตัวแทน – นายหน้าประกันภัย และเจ้าหนี้ตามสัญญาประกันภัย ประจำปี 2567 เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์เชิงรุกในการสร้างความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับบทบาท หน้าที่ และภารกิจของกองทุนประกันวินาศภัย และสร้างความเชื่อมั่นในระบบประกันภัย ให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการฯ

เมื่อเร็วๆ นี้ กองทุนประกันวินาศภัย (กปว.) จัดโครงการบรรยายความรู้เกี่ยวกับบทบาท หน้าที่ และภารกิจของ กปว. ปี 2 ให้แก่ตัวแทน – นายหน้าประกันภัย และเจ้าหนี้ตามสัญญาประกันภัย ประจำปี 2567 โดยร่วมบูรณาการกับกองทุนประกันชีวิตและสำนักงาน คปภ. ภาค 3 (ขอนแก่น) จังหวัดหนองคาย ณ โรงแรมพันล้าน บูติค รีสอร์ท จังหวัดหนองคาย

นายชนะพล มหาวงษ์ ผู้จัดการกองทุนประกันวินาศภัย เป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อ “บทบาท หน้าที่ และภารกิจ ของ กปว.” พร้อมด้วยพนักงานกองทุนประกันวินาศภัย และได้รับเกียรติจากนางสาววิไลลักษณ์ ธรรมราช ผู้อำนวยการ สำนักงาน คปภ. จังหวัดหนองคาย และนายกฤติรัฐ วุฒิวงค์ ผู้อำนวยการ สำนักงาน คปภ. จังหวัดชัยภูมิ มาบรรยายในหัวข้อเกี่ยวกับการประกันภัย และวิธีการร้องเรียนบริษัทประกันภัย ในกรณีที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยการจัดโครงการฯ ในครั้งนี้เพื่อเป็นการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจให้แก่ตัวแทน – นายหน้าประกันภัย และเจ้าหนี้ตามสัญญาประกันภัย ซึ่งเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ความรู้และการเข้าถึงระบบประกันภัย เพื่อให้ประชาชนในทุกระดับมีความรู้ ความเข้าใจ และตระหนักถึงคุณค่า ความสำคัญในการสร้างหลักประกันความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สินรวมถึงปกป้องคุ้มครองสิทธิประโยชน์ประชาชนในฐานะผู้บริโภคได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งยังมีการตอบประเด็นข้อซักถามต่าง ๆ เพื่อรับของที่ระลึกภายในงานอีกด้วย
“บีเจซี” เผยผลประกอบการไตรมาสสุดท้าย ปี 2566 มีกำไรสุทธิรวม 1,638 ล้านบาท จากต้นทุนหลักของธุรกิจบรรจุภัณฑ์และธุรกิจอุปโภคบริโภคที่ปรับตัวลดลงและโครงการเพิ่มประสิทธิภาพลดต้นทุน รวมถึงยอดขายที่เติบโตขึ้นของกลุ่มค้าปลีกสมัยใหม่
บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือบีเจซี เปิดเผยรายได้จากการขายและบริการในไตรมาส 4 ปี 2566 เท่ากับ 39,850 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 721 ล้านบาท จากปีก่อน โดดเด่นมาจากกลุ่มสินค้าและบริการค้าปลีกสมัยใหม่ ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทในไตรมาส 4/66 เท่ากับ 1,638 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10 ล้านบาท จากปีก่อน
กลุ่มสินค้าและบริการทางบรรจุภัณฑ์ รายงานยอดขายในไตรมาส 4/2566 อยู่ที่ 6,650 ล้านบาท ยอดขายแก้วเติบโตขึ้น ส่วนยอดขายของกลุ่มบรรจุภัณฑ์กระป๋องลดลง โดยมีกำไรสุทธิรวมที่ 564 ล้านบาท เติบโตแข็งแกร่งจากปีก่อนจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นจากต้นทุนวัตถุดิบหลักที่ลดลงและโครงการลดต้นทุน
กลุ่มสินค้าและบริการทางอุปโภคบริโภค รายงานยอดขายในไตรมาส 4/2566 อยู่ที่ 5,346 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 381 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 151 ล้านบาท จากปีก่อน เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้นของทุกกลุ่มธุรกิจ สาเหตุหลักจากต้นทุนน้ำมันปาล์ม ต้นทุนเยื่อกระดาษ ต้นทุนสาธารณูปโภคและค่าขนส่งที่ลดลง รวมไปถึงการปรับราคาขายเพิ่มขึ้น
กลุ่มสินค้าและบริการทางเวชภัณฑ์และเทคนิค รายงานยอดขายในไตรมาส 4/2566 อยู่ที่ 2,158 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 816 ล้านบาท โดยกลุ่มสินค้าและบริการทางเวชภัณฑ์มียอดขายเพิ่มขึ้นจากสินค้ากลุ่มความงามและยาโรคไต และฝ่ายการแพทย์มียอดขายลดลงเนื่องจากได้รับผลกระทบโดยตรงจากปีงบประมาณที่ล่าช้า
กลุ่มสินค้าและบริการทางการค้าปลีกสมัยใหม่ รายงานรายได้รวมในไตรมาส 4/2566 อยู่ที่ 26,373 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 766 ล้านบาท โดยมาจากรายได้จากการขายสินค้าเท่ากับ 26,105 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 819 ล้านบาท จากปีก่อน เป็นผลมาจากการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้น และมีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 1,096 ล้านบาท จากการบริหารสต็อกสินค้าที่ดี และค่าใช้จ่ายในห่วงโซ่อุปทานที่ลดลงเนื่องจากการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการ
นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจยังเดินหน้าขยายสาขาทุกรูปแบบทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง และเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับแพลตฟอร์ม Omnichannel บริษัทได้ร่วมมือกับ Robinhood อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าจากร้านค้าบิ๊กซีใน Robinhood Mart พร้อมจัดส่งให้กับลูกค้าในกรุงเทพอีกด้วย
กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี มุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจอย่างมั่นคง ด้วยวิสัยทัศขององค์กรที่ตั้งเป้าหมาย เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่น่าเชื่อถือ เพื่อร่วมสร้างให้สังคมมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน เตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์เพื่อเติบโตต่อไปอย่างแข็งแกร่ง
มหกรรรมการเฉลิมฉลองอิตาเลียนดีไซน์เดย์ ครั้งที่ 8 หรือ Italian Design Day 2024 กำลังจะเกิดขึ้นทั่วโลก 14 มีนาคม ศกนี้ เพื่อเผยแพร่ให้เห็นความคิดสร้างสรรค์ความสง่างาม นวัตกรรมและความยั่งยืน ของผลิตภัณฑ์ “เมด อิน อิตาลี”โดยเป็นการจัดนิทรรศการยิ่งใหญ่ และกิจกรรมต่างๆในธีม "ManufacturingValue: Inclusivity, Innovation andSustainability" สะท้อนคุณค่าของการผลิตอันสมบูรณ์แบบสอดคล้องกับกระแสความตื่นตัวทั่วโลกที่มุ่งเน้นการออกแบบที่ใช้นวัตกรรมเพื่อเสริมความยั่งยืนและครอบคลุมมากยื่งขึ้น
Italian Design Day 2024 ในกรุงเทพฯจะจัดขึ้นโดยสถานเอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทยและสำนักงานพาณิชย์อิตาเลียนกรุงเทพฯ ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจทั่วกรุงเทพมหานคร ในรูปแบบนิทรรศการยิ่งใหญ่ รวมทั้ง "100 Italian Vases" ตั้งแต่วันที่ 12 ถึง18 มีนาคมที่ Gallery 2 ชั้น 2 ศูนย์การค้า EmSphereพร้อมการสาธิตการ "ขึ้นรูป" โดยศิลปินช่างปั้นจากภาควิชาเซรามิก คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากรควบคู่กับการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ดีไซน์หลากหลายอันเต็มเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของอิตาลีครอบคลุมตั้งแต่รถยนต์ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ โคมไฟ ของตกแต่งบ้านและสินค้าไลฟ์สไตล์ต่างๆ
ฯพณฯ เอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย มร. เปาโล ดิโอนีซี กล่าวว่า"ผมมั่นใจว่าประชาชนคนไทยจะเพลิดเพลินไปกับนิทรรศการ '100 Italian Vases'พร้อมการสาธิตการขึ้นรูปงานปั้นเซรามิก ที่จัดแสดงที่ EmSphereตลอดจนกิจกรรมอื่นๆอีกมากมายที่จะจัดขึ้นร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจของเราในหลากหลายโชว์รูมเช่น Lamptitude, Lamborghini, EuroCreations, Seasons, ScintillaGioielli ซึ่งล้วนนำเสนอแบรนด์อิตาลีที่แข็งแกร่งและเลื่องลือระดับโลก"

ในโอกาสเดียวกัน มิสเปาลา กุยด้า ข้าหลวงพาณิชย์อิตาเลียนประจำประเทศไทยและเมียนมา กล่าวเสริมว่า “เรานำแรงบันดาลใจจากกิจกรรม ‘Fuori Salone’ ที่จัดขึ้นในงาน SaloneInternazionale del Mobileที่มิลานมาจุดประกายโครงการสร้างสรรค์ครั้งนี้เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมแก่ผู้ชม"
ขอเชิญผู้สนใจเข้าชมนิทรรศการและร่วมกิจกรรมในโชว์รูมของพันธมิตรผู้ร่วมจัดได้ฟรีทุกวันระหว่างเวลา 10.00 น.-22.น. ต้องการ ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถชมได้ที่ Facebook Page: ITA Bangkok
สำหรับวันสตรีสากล (International Women’s Day: IWD 2024) ปีนี้ จัดขึ้นภายใต้ธีม #InspireInclusion โดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจต่อสังคมเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมและบทบาทของสตรีในมิติต่างๆ ท่ามกลางอุปสรรคและข้อจำกัดทางเพศ รวมถึงส่งต่อเรื่องราวแห่งแรงบันดาลใจจากผู้หญิงถึงผู้หญิงด้วยกัน เพื่อสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน การมีส่วนร่วม และเสริมสร้างศักยภาพของสตรีด้วยกัน โดยมีเป้าหมายใหญ่เพื่อร่วมกันสร้างโลกให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น
ทรู คอร์ปอเรชั่น ขอนำเสนอเรื่องบันดาลใจของ 5 ผู้นำหญิงแห่งทรู คอร์ปอเรชั่น ประกอบด้วย 1. ศรินทร์รา วงศ์ศุภลักษณ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล 2. ยุภา ลีวงศ์เจริญ หัวหน้าคณะผู้บริหาร (ร่วม) ด้านการเงิน 3. ณัฏฐา พสุพัฒน์ หัวหน้าสายงานโมบายล์โพสต์เพย์ 4. อรอุมา วัฒนะสุข หัวหน้าสายงานสื่อสารองค์กรและการประชาสัมพันธ์ และ 5. ภรรททิยา โตธนะเกษม หัวหน้าฝ่าย Digital Growth Strategy บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด
ภายใต้เป้าหมายการเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่ Telco-Tech Company ผู้บริหารหญิงทั้ง 5 ท่านคือส่วนหนึ่งของบุคลากรในทรู คอร์ปอเรชั่น ที่มีบทบาทสำคัญต่อภารกิจดังกล่าว ทั้งการขับเคลื่อนผ่านวัฒนธรรมองค์กร การเตรียมความพร้อมทางการเงินและการลงทุน การนำทัพบุกตลาดเพื่อการเติบโต การสื่อสารเพื่อการเปลี่ยนแปลง และการสร้างกลไกการเติบโตใหม่ๆ บนสมรภูมิดิจิทัล
อย่างไรก็ตาม กว่าผู้บริหารหญิงเหล่านี้จะก้าวมาสู่แถวหน้า ขับเคลื่อนองค์กรและฝ่าวิกฤตต่างๆ ต้องผ่านร้อนผ่านหนาว และเผชิญกับอุปสรรคนานัปการ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลเกี่ยวเนื่องจากความไม่เท่าเทียมทางเพศที่ปรากฏขึ้นในสังคมแบบดั้งเดิม เช่น ข้อจำกัดทางเพศสภาพ อคติทางเพศ การเหมารวมทางเพศ และการคุกคามทางเพศ ฯลฯ
ทั้งนี้ จากเรื่องราวของผู้บริหารหญิงแกร่งท้ัง 5 ท่าน พบว่า กว่าจะประสบความสำเร็จ ขึ้นแท่นนักบริหารและได้รับความไว้วางใจทำหน้าที่แบกภาระอันใหญ่ยิ่ง พบจุดร่วมเชิงปัจเจกนิยมที่สำคัญ 3 ประการ ได้แก่
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาเชิงโครงสร้าง ยังพบปัญหาอีกหลายอย่างที่เกิดจากข้อจำกัดทางเพศ จากงานวิจัยของ Career after Babies ธุรกิจเพื่อสังคมสัญชาติอังกฤษ ได้จัดทำสำรวจความคิดเห็นของแม่ลูกอ่อนจำนวน 848 คนในอังกฤษ ในปี 2565 พบว่า
ขณะเดียวกัน องค์การอนามัยโลกและ UNICEF ได้ออกคำแนะนำเกี่ยวกับการให้นมบุตร โดยกำหนดให้เด็กควรได้รับนมแม่เพียงอย่างเดียวต่อเนื่องเป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน (Exclusive Breastfeeding) เพื่อส่งเสริมการพัฒนาทางสมองและการเจริญเติบโตของบุตร อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจของสถาบันแห่งชาติ เพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า เด็กไทยสัดส่วนน้อยกว่า 20% ได้รับนมแม่อย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งปัจจัยหลักมาจากการที่แม่ต้องกลับเข้าสู่การทำงาน และขาดการสนับสนุนพื้นที่จากองค์กรต่างๆ

ศรินทร์รา วงศ์ศุภลักษณ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ด้วยตระหนักถึงความสำคัญของสถาบันครอบครัว ความแตกต่างและข้อจำกัดของผู้หญิงต่อการเข้าสู่สนามการทำงาน ตลอดจนบทบาทของผู้หญิงต่อการพัฒนาองค์กรและสังคม ทรู คอร์ปอเรชั่น จึงกำหนดนโยบายและอำนวยความสะดวกในองค์ประกอบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องต่อการทำหน้าที่แม่ เพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ตลอดจนบทบาทสตรีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
นอกจากนี้ ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังได้กำหนดนโยบายให้ผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัทจะต้องมีสัดส่วนเป็นผู้หญิงอย่างน้อย 30% ขณะเดียวกัน ยังกำหนดให้การมีส่วนร่วมของผู้หญิงในองค์กรเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยสำคัญต่อการขับเคลื่อนโครงการต่างๆ ในองค์กรอีกด้วย
“ที่ทรู คอร์ปอเรชั่น เราเข้าใจถึงความต้องการของพนักงานในมิติต่างๆ รวมถึงพนักงานหญิงที่หลายคนต้องทำหน้าที่ทั้งแม่และพนักงาน ซึ่งถือเป็นภาระอันหนักหน่วง เราจึงกำหนดนโยบายและจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะลดอุปสรรคทางเพศให้ได้มากที่สุด เพราะเราเชื่อมั่นในศักยภาพของทุกคนที่จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรสู่ Telco-Tech Company และการพัฒนาประเทศชาติต่อไป” ศรินทร์รา กล่าว
พร้อมติดตามเรื่องราวชีวิตอันเข้มข้นผ่านเลนส์ 5 หญิงแกร่งแถวหน้า กว่าจะเป็นผู้นำในวันนี้ได้ ต้องเผชิญกับอุปสรรค การตัดสินใจ และแนวทางการใช้ชีวิตอย่างไร ติดตามได้ที่ True Blog ตลอดเดือนมีนาคมนี้
บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมเฉลิมฉลองวันสตรีสากล ผ่านการผลิตคลิปวิดีโอ TIP International Women's Day 2024 ที่ Generate ด้วย AI โดยทิพยประกันภัยเป็นบริษัทประกันภัยแห่งแรกที่สร้างสรรค์งานวิดีโอโดยการใช้เทคโนโลยี AI พร้อมสนับสนุนให้ผู้หญิงทุกคนมีพลังใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข โดยเนื้อหาของวิดีโอได้สะท้อนบทบาทและเชิดชูผู้หญิงยุคใหม่ที่มีความเก่ง แข็งแกร่ง และมีความสามารถเฉพาะตัว

ทิพยประกันภัย ขอมีส่วนร่วมในการดูแลผู้หญิงทุกคน หากต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน โดยจะมีบริการต่าง ๆ ที่มาช่วยคลายความกังวลเมื่อเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด อาทิ TIP Smart Assist ทีมสำรวจภัยยุคดิจิทัลที่เป็นมากกว่าพนักงานสำรวจภัยและจิตอาสาช่วยเหลือแก่ลูกค้าทั่วประเทศ รวมถึง TIP CAT ที่ให้การช่วยเหลือดูแลด้านการเคลม ตั้งแต่ต้นจนจบ ให้มั่นใจไร้กังวลเรื่องซ่อม ช่วยจบปัญหาด้านการเคลม เปรียบเสมือนมีเลขาส่วนตัวที่พร้อมดูแลตลอด 24 ชั่วโมง และช่วยจัดการกับปัญหาต่างๆ ให้ผู้หญิงได้มีเวลาสำหรับใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเพิ่มขึ้น
ทิพยประกันภัย ขอเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้ผู้หญิงทุกคนมีพลัง พร้อมใช้ชีวิตในทุก ๆ วันอย่างดีที่สุด สามารถรับชมผลงาน วิดีโอ #TIPInspireInclusion ได้ที่ https://fb.watch/qFppiIw5TR/
บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ DMHT ผู้นำด้านเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นำเข้าพรีเมียมระดับโลก จับมือ สมาคมโรงแรมไทย จัดโครงการ “Diageo Bar Academy for Women” โครงการอบรมเพื่อส่งเสริมศักยภาพและทักษะที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างมืออาชีพและมีความรับผิดชอบให้กับบาร์เทนเดอร์หญิงในประเทศไทย เพื่อร่วมยกระดับความสามารถของบาร์เทนเดอร์หญิง และเพิ่มโอกาสการทำงานในวงการท่องเที่ยวและการบริการ โดยเฉพาะในสายอาชีพบาร์เทนเดอร์ ซึ่งเป็นสายอาชีพที่มีสัดส่วนผู้หญิงอยู่น้อยและกำลังเป็นที่ต้องการของตลาด สอดคล้องกับการท่องเที่ยวไทยที่บูมขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าสนับสนุนความเท่าเทียมในสายอาชีพบาร์เทนเดอร์ไทย เนื่องในวันสตรีสากลประจำปี 2567

ดร. เก่งการ เหล่าวิโรจนกุล ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ DMHT กล่าวว่า “ดิอาจิโอมีนโยบายด้านการส่งเสริมความหลากหลายและความเท่าเทียมในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักภายใต้แผนงานด้านความยั่งยืนที่เรียกว่า SOCIETY 2030: SPIRIT OF PROGRESS ของเรา เราจึงพยายามส่งเสริมความหลากหลายในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม และอาชีพบาร์เทนเดอร์ก็เป็นหนึ่งในนั้น หากดูจากสถิติและภาพรวมของบุคลากรที่ประกอบอาชีพบาร์เทนเดอร์ในประเทศไทย จะเห็นว่าบาร์เทนเดอร์ส่วนมากจะเป็นผู้ชาย ด้วยเหตุนี้ DMHT จึงริเริ่มโครงการอบรม Diageo Bar Academy for Women ขึ้นในปีนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับ พัฒนาทักษะ และช่วยให้ผู้หญิงสามารถเอาชนะความท้าทายในสายอาชีพบาร์เทนเดอร์ ซึ่งนอกจากจะเป็นการสนับสนุนให้เกิดความหลากหลายและความเท่าเทียมในสายอาชีพนี้แล้ว โครงการนี้ยังมีวัตถุประสงค์ในการช่วยยกระดับมาตรฐานทักษะของบาร์เทนเดอร์ไทย และการท่องเที่ยวการบริการในภาพรวมอีกด้วย”

คุณมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า “บาร์เทนเดอร์นับเป็นอีกหนึ่งในฟันเฟืองที่สำคัญ เพราะเป็นกลุ่มอาชีพที่จะสร้างประสบการณ์อันน่าประทับใจผ่านเครื่องดื่มและการบริการให้กับนักท่องเที่ยวโดยตรง ดังนั้น เมื่อถึงวันสตรีสากล สมาคมโรงแรมไทย ในฐานะศูนย์กลางในการสร้างความร่วมมือและโอกาสทางการค้าให้กับโรงแรมสมาชิก จึงได้ร่วมมือกับ Diageo Bar Academy เพื่อสร้างพื้นที่ให้พนักงานหญิงของโรงแรมสมาชิกของเราได้มีโอกาสในการพัฒนาทักษะในสายอาชีพ ผ่านการเรียนรู้จากทีมงานที่มีประสบการณ์ในการจัดอบรมและจัดการแข่งขันบาร์เทนเดอร์ในระดับประเทศ เชื่อว่าผู้เข้าร่วมการอบรมในครั้งนี้จะได้ความรู้และประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ที่จะนำไปต่อยอดในการประกอบอาชีพ และสามารถมอบประสบการณ์ในการท่องเที่ยวที่ดีให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งจะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวมต่อไป”

คุณณัฐชา ค้ำชู บาร์เทนเดอร์ จากแผนก Food & Beverage Service จากโรงแรมคอร์ทยาร์ด บาย แมริออท กรุงเทพฯ สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ท หนึ่งในผู้เข้าร่วมโครงการฯ กล่าวว่า “ส่วนตัวเป็นคนชอบทำเครื่องดื่มอยู่แล้ว รู้สึกสนุกที่ได้ผสมและตกแต่งแก้วเครื่องดื่มให้สวยงาม แม้ในบางครั้งจะรู้สึกน้อยใจจากการโดนเปรียบเทียบกับบาร์เทนเดอร์ชายในเรื่องความสามารถ พอเห็นว่ามีการฝึกอบรมบาร์เทนเดอร์หญิงจึงตัดสินใจเข้าร่วม ซึ่งประทับใจโครงการฯ เป็นอย่างมาก เพราะมีการสอนตั้งแต่พื้นฐาน ความรู้เกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่ละชนิด กระบวนการผลิต ตลอดจนวิธีการเสิร์ฟที่สมบูรณ์แบบและรับผิดชอบ อีกทั้งบรรยากาศของการฝึกอบรมที่ช่วยตอกย้ำให้มั่นใจว่า ผู้หญิงเองก็สามารถเป็นบาร์เทนเดอร์ที่เก่งได้ ต่อจากนี้จะส่งต่อความรู้ไปยังรุ่นน้องที่เข้ามาใหม่ และยังคงพัฒนาทักษะการให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อไป เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้เกิดความเท่าเทียมในวงการบาร์เทนเดอร์หญิงผ่านการแสดงศักยภาพให้ทุกคนได้รับรู้”
โครงการ Diageo Bar Academy for Women คือโครงการอบรมบาร์เทนเดอร์หญิง ภายใต้หลักสูตร Diageo Bar Academy ซึ่งเป็นหลักสูตรระดับโลกของดิอาจิโอที่ส่งเสริมการเรียนรู้ที่ผ่านการพัฒนาศักยภาพและทักษะที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างมืออาชีพ โดยจะมีการจัดอบรมให้กับผู้ที่สนใจในอุตสาหกรรมการบริการและโรงแรมต่างๆ ด้วยความเชื่อว่าการพัฒนาทักษะในด้านดังกล่าวจะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับบุคลากรที่ทำงานในด้านการบริการและการท่องเที่ยว และจะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไทยให้ทัดเทียมประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค สำหรับโครงการ Diageo Bar Academy for Women มีบาร์เทนเดอร์หญิงจำนวน 40 คนจากโรงแรมสมาชิกของสมาคมโรงแรมไทยเข้าร่วมรับการอบรม ณ ห้องประชุมชั้น 3 สมาคมโรงแรมไทย