December 23, 2025

กาตาร์ แอร์เวย์ส พันธมิตรสายการบินอย่างเป็นทางการของโครงการ The Royal Foundation โดยองค์กร United for Wildlife

เผยโครงการดักจับและกักเก็บคาร์บอนในสหรัฐฯ เริ่มเปิดดำเนินการแล้ว พร้อมเสริมแกร่งห่วงโซ่ธุรกิจกักเก็บพลังงาน

เอสซีจี ผู้นำด้านความยั่งยืน สะท้อนผ่าน 3 ดัชนีความยั่งยืนชั้นนำระดับโลก คะแนนสูงสุดจาก DJSI ในกลุ่มอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง Sustainalytics ได้ ESG Industry Top Rated ในกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรม และ MSCI ระดับ AA ในกลุ่มอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง เป็นผลจากการดำเนินงานตามกลยุทธ์ ESG 4 Plus นักลงทุนเชื่อมั่นองค์กรเติบโตยั่งยืน บริหารงานมาตรฐานสากล เสริมแกร่งธุรกิจด้วยนวัตกรรมโซลูชัน เทคโนโลยีดิจิทัลตอบโจทย์ลูกค้าสายกรีน มุ่งแก้วิกฤตโลกเดือด ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ปี 2593 ควบคู่ลดเหลื่อมล้ำในสังคม แก้จน สร้างอาชีพให้ชุมชน

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี กล่าวว่า “จากการดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์ ESG 4 Plus มุ่ง Net Zero – Go Green – Lean เหลื่อมล้ำ – ย้ำร่วมมือ ยึดหลักเชื่อมั่นและโปร่งใส เน้นสร้างธุรกิจเติบโตควบคู่กับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล ส่งผลให้เอสซีจีได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนชั้นนำของโลกรวม 3 ดัชนี คือ ดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices – DJSI) ได้คะแนนสูงสุดในกลุ่มอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง (Construction Materials) Sustainalytics ได้ ESG Risk Ratings ระดับ ESG Industry Top Rated ในกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรม (Industrial Conglomerates) และ Morgan Stanley Capital International (MSCI) ได้ระดับ AA (Leader) ในกลุ่มอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง (Construction Materials) ซึ่งนักลงทุนทั่วโลกใช้ทั้ง 3 ดัชนีความยั่งยืนนี้เป็นข้อมูลประกอบการลงทุนเพื่อสร้างความมั่นใจว่า ธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน บริหารงานตามมาตรฐานสากล ควบคู่กับการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ความสำเร็จดังกล่าวเกิดขึ้นจากความทุ่มเทของชาวเอสซีจีที่ร่วมกันพัฒนานวัตกรรมโซลูชัน เพื่อตอบความต้องการลูกค้าให้ได้รับความสะดวก ปลอดภัย คุ้มค่า และรักษ์โลก” 

นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี กล่าวว่า “เพื่อลดผลกระทบวิกฤตโลกเดือด เอสซีจีตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 ด้วยการเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดแทนการใช้พลังงานฟอสซิล อาทิ พลังงานแสงอาทิตย์ เชื้อเพลิงชีวมวล พร้อมเร่งหาแหล่งพลังงานสะอาดอื่น ๆ เช่น การปลูกหญ้าเนเปียร์ พืชให้พลังงานสูง 1,000 ไร่ ที่สระบุรีแซนด์บ็อกซ์ เมืองต้นแบบคาร์บอนต่ำแห่งแรกของไทย มุ่งเป้าปลูก 30,000 ไร่ในปี 2571 ขณะเดียวกันยังพัฒนานวัตกรรมกรีน ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการสูง ตอบเมกะเทรนด์โลก อาทิ SCG Cleanergy ธุรกิจพลังงานสะอาดครบวงจร สินค้าและโซลูชันรักษ์โลกภายใต้ฉลาก SCG Green Choice กว่า 250 รายการ อย่างปูนคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Cement) นวัตกรรมพลาสติกรักษ์โลก SCGC GREEN POLYMERTM บรรจุภัณฑ์รีไซเคิล SCG Air Scrubber โซลูชันเพื่ออาคารอากาศดี ประหยัดพลังงาน  นอกจากนั้นยังร่วมกับภาครัฐ เอกชน ประชาสังคมทั้งไทย อาเซียน และโลก ให้ดำเนินงานตามแนวทาง ESG เพื่อส่งต่อโลกที่ยั่งยืนให้คนรุ่นถัดไป เช่น จัดงาน ESG Symposium 2023 เพื่อเปลี่ยนไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ”  

นายชนะ ภูมี ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-การบริหารความยั่งยืน เอสซีจี กล่าวว่า “เอสซีจียังมุ่งลดความเหลื่อมล้ำในสังคมด้วยการพัฒนาทักษะอาชีพที่ตลาดต้องการ สร้างรายได้ให้ชุมชนและ SMEs เพิ่มโอกาสทางการศึกษาและสาธารณสุข รวม 50,000 คน ภายในปี 2573 เช่น อาชีพพนักงานขับรถบรรทุก โดยโรงเรียนทักษะพิพัฒน์ อาชีพช่างปรับปรุงบ้าน โดย Q-Chang (คิวช่าง) อาชีพแปรรูปผลิตภัณฑ์ และขายสินค้าออนไลน์และออฟไลน์ผ่านโครงการพลังชุมชน อาชีพผู้ช่วยพยาบาล ผู้ช่วยทันตแพทย์ นักบริบาลผู้สูงอายุ ผ่านทุนการศึกษาจากโครงการ Learn to Earn โดยมูลนิธิเอสซีจี”

ดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (DJSI) เป็นดัชนีวัดความยั่งยืน จัดโดย S&P Global ใช้ประเมินประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน เชิญบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ทั่วโลกกว่า 3,500 แห่งใน 60 อุตสาหกรรมเข้าร่วมการประเมิน ส่วน Morningstar Sustainalytics เป็นผู้นำการวิจัยด้านความยั่งยืนระดับโลกที่จัดอันดับ ESG Risk Ratings ในกองทุนหุ้นรายตัว ช่วยให้นักลงทุนทั่วโลกทราบว่า กองทุนที่ลงทุนมีความเสี่ยงด้าน ESG ทั้งสิ่งแวดล้อม สังคม บรรษัทภิบาล มากน้อยเพียงใด ในขณะที่ MSCI ESG Ratings จัดทำโดยบริษัท Morgan Stanley Capital International (MSCI) เป็นดัชนีอ้างอิง (Benchmark) มาตรฐานวัดผลตอบแทนจากการลงทุน โดย Sustainalytics และ MSCI ประเมินจากความสามารถในการบริหารความเสี่ยงด้าน ESG ที่องค์กรเผชิญ (Risk Exposure) และความพร้อมในการบริหารจัดการความเสี่ยงนั้น ๆ (Risk Management)

“พฤกษา โฮลดิ้ง” โชว์ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรก ปี 2566 ทำกำไรสุทธิ 2,082 ล้านบาท เติบโต 30% มีรายได้รวม 19,900 ล้านบาท เติบโต 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565

บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) หรือ LPN  จัดพิธีส่งมอบของแถม รถยนต์ไฟฟ้า Ora Good Cat 400 Pro ให้กับลูกบ้านที่โอนกรรมสิทธิ์บ้านพักอาศัยโครงการลุมพินี ทาวน์วิลล์ สายไหม 18 – พหลโยธิน ในแคมเปญ “ลดทุกวัน แจกทุกหลัง” ช่วงระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม - 30 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา โดยมี นางสาวเสาวณี อังกูรพิพัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท พรสันติ จำกัด เป็นตัวแทนส่งมอบรถ ณ โชว์รูมรถยนต์ GWM บางบัวทอง เมื่อวันวันที่ 28 ตุลาคม 2566

บริษัทฯขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับของแถม และลูกบ้านทุกท่านที่ได้ให้ความไว้วางใจโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพที่มาพร้อมกับความ #น่าอยู่ ในทุกมิติ เพื่อยกระดับรูปแบบการใช้ชีวิตที่ดีที่สุดมามากกว่า 34 ปี LPN ยังคงยึดมั่นในการให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพสินค้าและบริการ เพื่อส่งมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ความต้องการของทุกไลฟ์สไตล์ในทุกเจเนอเรชัน ตลอดจนเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าทุกคนทั้งในวันนี้และอนาคต สำหรับผู้ที่สนใจโครงการสามารถ ติดตามข่าวสาร และอัพเดทแคมเปญโปรโมชั่นพิเศษต่างๆ ภายใต้แบรนด์ บ้านลุมพินี, เวนู 24, และเฮ้าส์ 24 ผ่านช่องทางออนไลน์ Facebook : Baan Lumpini l บ้านลุมพินี หรือ Line OA @baanlumpini ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

กวาดกำไรสุทธิ 1,304 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 61.8% ด้าน TIPH เดินหน้าเต็มสูบส่ง “Insurverse” ลุยประกันภัยออนไลน์

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และผู้บริหาร EXIM BANK ให้การต้อนรับและพบปะหารือกับนายยูอิจิ นิชิมุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ธนาคารซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น (Sumitomo Mitsui Banking Corporation : SMBC) เกี่ยวกับแนวทางขยายความร่วมมือระหว่างทั้งสองหน่วยงานเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับ ประเทศและภูมิภาคเอเชีย ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2566

บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต นำโดย คุณแซลลี่ โอฮาร่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (คนที่ 5 จากซ้าย) และคุณบุปผาวดี โอวรารินท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายทรัพยากรบุคคลและภาพลักษณ์องค์กรและการสื่อสารองค์กร (คนกลาง) จัดกิจกรรมใน “Week for Growth หรือ สัปดาห์แห่งการเรียนรู้” ภายใต้ธีม Embracing Change for a Thriving Future at AXA ให้แก่พนักงานในองค์กร ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้พนักงานสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกได้อย่างมั่นใจและพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ผ่าน 3 การเรียนรู้ ได้แก่ การเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ การเรียนรู้จากเพื่อนร่วมงาน และการเรียนรู้จากกิจกรรมต่างๆ ที่ส่งเสริมการพัฒนาตนเองทั้งในด้านส่วนบุคคลและการทำงานของพนักงาน โดยมีหัวข้อการเรียนรู้มากมาย อาทิ Employee's Story: Learn to be the best in AXA วิวัฒนาการของการจัดการข้อมูลของ กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จากอดีตสู่อนาคต เปลี่ยนจากผู้ใช้กลายเป็นผู้สร้างทักษะ (ไม่) ลับกับการสร้างวัฒนาธรรมที่ใครก็ทำได้ การตลาดแบบรู้ใจเพื่อเพิ่มยอดขายให้ปัง ทักษะในโลกอนาคตสู่ความสำเร็จในยุคดิจิทัล ทักษะที่จำเป็นแห่งโลกอนาคต วางแผนทางการเงินอย่างไรให้เอาตัวรอดได้หลังเกษียณ เปิดโลกโฆษณาออนไลน์ แห่งยุคดิจิทัลแพลตฟอร์มไหนใช้ยังไงให้ปัง และค้นหาสุดยอดผู้เชี่ยวชาญแห่งเทคโนโลยี

คณะศิลปะและการออกแบบดิจิทัล มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ร่วมกับ สมาคมเรือเยาวชนเอเซียอาคเนย์แห่งประเทศไทย ในการสนับสนุนของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) จัดพิธีมอบเกียรติบัตรและโล่รางวัล รอบชิงชนะเลิศ การประกวดวาดภาพระบายสีระดับมัธยมปลายและอาชีวะศึกษาทั่วประเทศ ในวันจันทร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2566 ณ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

ในการนี้ รองศาสตราจารย์ ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้กล่าวแสดงจุดยืนความเข้มแข็งของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยในการเป็นสถาบันการอุดมศึกษาเอกชนชั้นนำด้านธุรกิจการค้าจากการจัดโครงการดังกล่าวนี้ว่า “ในโอกาสที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ครบรอบ 60 ปีนี้ มหาวิทยาลัยยังคงมุ่งมั่นที่จะผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพเพื่อการรับใช้สังคมให้มีความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นการตอบรับและสอดคล้องกับนโยบายของสหประชาชาติที่จะมุ่งพัฒนาสังคมโลกให้มีเสถียรภาพและมีความมั่นคงอย่างยั่งยืนร่วมกันทั้งโลก ซึ่งกิจกรรม 60 ปี UTCC สาดสีสร้างฝัน รู้ทันอาชญากรรมข้ามชาติ นับว่ามีความสำคัญในการพัฒนาคน พัฒนาสังคม และพัฒนาชาติโดยใช้สื่อศิลปะสมัยใหม่มาเป็นเครื่องมือในการสื่อสารและส่งทอดจากคนรุ่นใหม่ไปสู่สังคมในรูปแบบที่เข้าถึงและเข้าใจได้ง่าย”

ดร.ดิสพล จันศิริ  คณบดีคณะศิลปะและการออกแบบดิจิทัล คณะศิลปะและการออกแบบดิจิทัล มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า  คณะศิลปะและการออกแบบดิจิทัล มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในฐานะสถาบันการศึกษาที่ให้ความรู้ด้านศิลปะและการออกแบบ เพื่อใช้ในการสื่อสารด้วยวิธีการทางภาษาภาพที่มีลักษณะเฉพาะ สามารถสร้างการรับรู้และตระหนักรู้ให้กับสังคมในแง่มุมต่างๆ  ให้เข้าใจง่ายขึ้นได้เป็นอย่างดี จึงได้จัดโครงการ ‘ 60 ปี UTCC สาดสีสร้างฝัน รู้ทันอาชญากรรมข้ามชาติ ’  นี้ขึ้นเพื่อการมีส่วนร่วมสนับสนุนหน่วยงาน ‘ ยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ ( UNODC ) ’ ในการสร้างการตระหนักรู้เรื่องอาชญากรรมข้ามชาติ ให้เด็ก เยาวชน และประชาชนในพื้นที่เป้าหมาย ได้เข้าใจถึงภัยคุกคามที่เป็นเรื่องใกล้ตัว ซึ่งส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม พร้อมร่วมใจกันเป็นส่วนหนึ่งในสังคม ร่วมคอยสังเกต สอดส่อง ให้ข่าวและดูแลกันและกันร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลในการป้องปรามให้จำนวนเหยื่อของอาชญากรรมข้ามชาติลดลงและหมดไปจนเกิดความเข้มแข็งในสังคมอย่างยั่งยืนในที่สุด

อาจารย์จักรพันธ์ ธนธีรานนท์ เจ้าของโครงการฯ อาจารย์ประจำคณะศิลปะและการออกแบบดิจิทัล มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงสาระสำคัญของ โครงการ 60 ปี UTCC สาดสีสร้างฝัน รู้ทันอาชญากรรมข้ามชาติ” ว่า เป็นโครงการประกวดแข่งขันวาดภาพระบายสีที่เจาะกลุ่มเป้าหมายนักเรียนระดับมัธยมปลายและอาชีวะศึกษา อายุระหว่าง 15-18 ปี ที่อยากมีส่วนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความตระหนักรู้ให้กับชุมชน และคนในสังคมให้เกิดความเข้าใจ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสังคมในการป้องปรามให้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติลดลงและหมดไป ร่วมกันตีแผ่ให้เห็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติในแง่มุมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมโดยใช้ศิลปะและการออกแบบเป็นสื่อกลางในการประชาสัมพันธ์ความคิดของเยาวชนให้แผ่ขยายออกเป็นวงกว้าง แล้วยังมีกิจกรรมอื่น ๆ  อาทิ การให้ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติ การเข้าเยี่ยมคารวะบุคคลสำคัญ การทัศนศึกษาสถานที่สำคัญและการจัดนิทรรศการแสดงผลงานศิลปะ

เราจัดเป็นค่ายการประกวดแข่งขันวาดภาพระบายสีเทคนิคสีโปสเตอร์  ประกวดเพื่อคัดสรรผลงานที่จะใช้เป็นสื่อกลางในการสื่อสารให้คนรุ่นใหม่หันมาให้ความสำคัญกับงานศิลปะ ที่จะช่วยให้เราผ่านพ้นห่างไกลจากยาเสพติด และอาชญากรรม เป็นต้น โดยมีผมและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอีกหลายท่าน เช่น รองศาสตราจารย์ สรรณรงค์ สิงหเสนี ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะศิลปวิจิตร สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ / เรือเยาวชนเอเซียอาคเนย์รุ่น 7 (2523)  / ครูสังคม ทองมี ผู้อำนวยการศูนย์ศิลป์สิรินธร / เรือเยาวชนเอเซียอาคเนย์รุ่น 3 (2519) /  คุณสุชาญา โมกขเสน / ผมอาจารย์ จักรพันธ์ ธนธีรานนท์ และคุณ เฟลิเป้ เดอ ลาตอเร่ ผู้ประสานงานส่วนภูมิภาค (ด้านงานนโยบายและสัมพันธ์องค์กร) โครงการประสานงานชายแดน สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC)

โดยเมื่อกันยายนที่ผ่านมา เป็นรูปแบบของค่ายภูมิภาค รอบคัดเลือกครั้งที่หนึ่ง ภาคกลางและภาคตะวันตก ณ จังหวัดกาญจนบุรี กลางเดือนกันยายนเป็นค่ายภูมิภาครอบคัดเลือกครั้งที่สอง ภาคเหนือ ณ จังหวัดเชียงราย ต้นเดือนตุลาคมเป็นค่ายภูมิภาครอบคัดเลือกครั้งที่สาม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ จังหวัดอุบลราชธานี และรอบคัดเลือกครั้งที่สี่ภาคใต้ จังหวัดสงขลา จนมาถึงเดือนตุลาคมเราจึงประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่ค่ายการประกวดรอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ และเดือนพฤศจิกายนนี้เป็นค่ายการประกวดรอบชิงชนะเลิศระดับประเทศที่กรุงเทพมหานครและจัดนิทรรศการแสดงผลงานผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศ มีพิธีมอบรางวัล ณ สหประชาชาติ กรุงเทพฯ เมื่อถึงสิ้นปีเราจะจัดพิมพ์ ปฏิทินปี 2567 โดยใช้ผลงานจากการประกวดของโครงการและจัดส่งปฏิทินของโครงการให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ ถือเป็นของขวัญปีใหม่ได้ด้วยจากผลงานศิลปะและการออกแบบที่ถูกใช้เป็นสื่อกลางในการประชาสัมพันธ์ความคิดของเยาวชนให้แผ่ขยายออกเป็นวงกว้างเพราะผมเชื่อว่าศิลปะเป็นเครื่องมือที่จะช่วยขัดเกลาจิตใจผู้คนให้ละเอียดอ่อนและช่วยบำบัดจิตใจในยามท้อแท้หรือแม้แต่ในยามที่เรามีความสุข ศิลปะก็เป็นสิ่งช่วยสร้างสีสันสร้างชีวิตชีวาให้กับชีวิตมนุษย์ สังคมและโลกใบนี้ให้มีความสวยงามและห่างไกลจากสิ่งเลวร้าย อบายมุขได้อย่างเห็นผล”

ทั้งนี้ รางวัลการประกวดแบ่งออกเป็น รางวัลชนะเลิศ รางวัลเงินสด 30,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ จำนวน 1 รางวัล รางวัลยอดเยี่ยม รางวัลเงินสด 20,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ จำนวน 1 รางวัล รางวัลดีเด่น รางวัลเงินสด 10,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศจำนวน 1 รางวัลรางวัลชมเชย รางวัลเงินสด 5,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ จำนวน 1 รางวัล รางวัลขวัญใจออนไลน์ รางวัลเงินสด 5,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศจำนวน 1 รางวัล ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคนได้รับเกียรติบัตรการเข้าร่วมค่ายแข่งขันทั้งสองรอบ

โดยรายนามผู้ได้รับรางวัลเงินสดและโล่เกียรติยศ 5 รางวัล

ลำดับที่ 1 รางวัลชนะเลิศ รางวัลเงินสด 30,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ จำนวน 1 รางวัล

            ได้แก่ นางสาวพิชญาพร  เมืองใจ จาก โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์

ลำดับที่ 2 รางวัลยอดเยี่ยม รางวัลเงินสด 20,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ จำนวน 1 รางวัล

            ได้แก่ นายธราธิป แสงวิเชียร  จาก โรงเรียนวัดสุทธิวราราม

ลำดับที่ 3 รางวัลดีเด่น รางวัลเงินสด 10,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ จำนวน 1 รางวัล

            ได้แก่ นางสาวสิริรัช รัตตมณี จาก โรงเรียนสภาราชินี

ลำดับที่ 4 รางวัลชมเชย รางวัลเงินสด 5,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ จำนวน 1 รางวัล

            ได้แก่ นายจินดิต ยางสวย จาก โรงเรียนรัตนราษฎร์บำรุง

ลำดับที่ 5 รางวัลขวัญใจออนไลน์ รางวัลเงินสด 5,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ จำนวน 1 รางวัล

            ได้แก่ นายวีระเดช งามสามพราน จาก โรงเรียนวัดไร่ขิงวิทยา

ผู้สนใจ สามารถชมนิทรรศการผลงานจาก โครงการ “60 ปี UTCC สาดสีสร้างฝัน รู้ทันอาชญากรรมข้ามชาติ” ในรอบชิงชนะเลิศทุกชิ้นได้ ณ โถงนิทรรศการชั้น 3 ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ กรุงเทพมหานคร โดยจะจัดแสดงระหว่างวันที่ 14 - 20 พฤศจิกายน 2566

LINE SHOPPING ผู้ให้บริการโซเชียลคอมเมิร์ซของไทย ขยายช่องทางการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ประกันที่ง่ายและสะดวกกว่าเดิม จับมือ TQM Insurance Broker ส่งผลิตภัณฑ์ประกันทั้ง ประกันรถยนต์ ประกันเดินทาง และประกันสุขภาพ ให้ผู้ใช้ LINE ได้เลือกเทียบราคาง่าย ได้แผนตรงใจ พร้อมมอบความคุ้มครองสุดคุ้มค่าเมื่อซื้อผ่าน LINE SHOPPING รับ LINE POINTS คืนสูงสุด 5% พิเศษวันนี้ - 31 มกราคม 2567 

นายเลอทัด ศุภดิลก ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจอีคอมเมิร์ช LINE ประเทศไทย กล่าวว่า “ปัจจุบันคนไทยสนใจการบริหารความเสี่ยงในชีวิตมากขึ้น และนิยมซื้อประกันผ่านช่องทางออนไลน์ เพราะสะดวก รวดเร็ว มีความคุ้มค่า ราคาไม่แพง และสามารถเลือกซื้อได้ด้วยตัวเอง เราในฐานะผู้ให้บริการโซเชียลคอมเมิร์ซของไทยมุ่งมั่นเติมเต็มประสบการณ์แก่ผู้บริโภคในทุกมิติ ซึ่งความร่วมมือกับ TQM Insurance Broker โบรคเกอร์ประกันที่มีพันธมิตรบริษัทประกันชั้นนำกว่า 50 แห่ง ในครั้งนี้ นับว่าเป็นการช่วยให้คนไทยสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ประกันได้ง่าย สะดวก ปลอดภัย และเชื่อถือได้ ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันที่หลากหลายจาก TQM ต่อผู้ใช้ LINE ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่อยู่ในไลฟ์สไตล์ผู้ใช้คนไทยตลอดมา การจับมือกันครั้งนี้จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ และตอบรับเทรนด์ดิจิทัลที่คนไทยเลือกมองหาผลิตภัณฑ์ประกันผ่านออนไลน์มากขึ้นในปัจจุบัน”

ความร่วมมือกับ TQM Insurance Broker ในครั้งนี้ LINE SHOPPING มุ่งตอบโจทย์ความต้องการเรื่องความคุ้มครองที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของคนไทย โดยคัดเลือกผลิตภัณฑ์ประกัน 3 ประเภท ได้แก่ ประกันรถยนต์ ประกันเดินทาง และประกันสุขภาพ ให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อประกันได้ทุกที่ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง อย่างสะดวก ปลอดภัย และเชื่อถือได้ พร้อมเปรียบเทียบราคาและความคุ้มครองที่ต้องการได้อย่างเหมาะสม ซึ่งนอกจากจะได้แผนประกันตรงใจในราคาสบายกระเป๋าแล้ว LINE SHOPPING ยังมอบความคุ้มค่าที่มากกว่าให้กับลูกค้าด้วยสิทธิพิเศษ ได้แก่ รับทันที LINE POINTS 5% พิเศษถึง 31 มกราคม 2567 เท่านั้น จากนั้นรับ LINE POINTS 3% ทุก ๆ การซื้อประกันจาก TQM เพื่อใช้เป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าบน LINE SHOPPING หรือใช้เป็นส่วนลดแทนเงินสดเมื่อใช้จ่ายผ่าน LINE Pay 

ด้าน ดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบันในประเทศไทยยังมีกรมธรรม์ต่อประชากรในระดับที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับประเทศกลุ่มพัฒนาแล้วที่มีจำนวนกรมธรรม์เกือบ 100% ของจำนวนประชากร ซึ่งความร่วมมือทางธุรกิจกับ LINE SHOPPING ในครั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับผู้บริโภคทั่วไป และฐานลูกค้า LINE SHOPPING ให้เข้าถึงประกันภัยผ่านช่องทางการบริการที่ใช้งานง่าย และสะดวกมากยิ่งขึ้น อีกทั้ง TQM ต้องการเพิ่มช่องทางเข้าถึงการประกันของผู้บริโภค ให้ครบวงจรครอบคลุมทุกความต้องการลูกค้ามากขึ้น จึงได้จัดช่องทางการนำเสนอประกันทางออนไลน์ที่เหมาะสม และหวังว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้งาน”

เลือกซื้อประกันที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการอย่างรอบด้านกับ LINE SHOPPING และ TQM ได้แล้ววันนี้ เพียงเข้า Wallet กด LINE SHOPPING พร้อมดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง LINE OA : @lineshoppingth

X

Right Click

No right click