October 16, 2024

ครั้งแรกในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย LPN จับมือ MAAI BY KTC (มาย บาย เคทีซี) เปิดประสบการณ์ใหม่ผ่านระบบดิจิตอล ลอยัลตี้ แพลทฟอร์ม ด้วยการมอบสิทธิพิเศษผ่านคะแนน MAAI สำหรับลูกค้า และพนักงานเพื่อใช้แลกสินค้าและบริการได้ตามความต้องการ ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ความ น่าอยู่

นางสาวมนพัทธ์ ศุภกิจจานุสันติ์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาแบรนด์ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาที่พักอาศัยคุณภาพที่มาพร้อมกับความน่าอยู่ในทุกมิติ เพื่อยกระดับรูปแบบการใช้ชีวิตที่ดีที่สุดมามากกว่า 34 ปี กล่าวว่า ปัจจุบัน LPN พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ทั้งสิ้นกว่า 140 โครงการ และมีจำนวนลูกบ้านประมาณ 125,000 ครอบครัว โดยในปี 2566 มีกำหนดเปิดโครงการใหม่อีก 17 โครงการทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 4 โครงการ โครงการบ้านพักอาศัย 13 โครงการ มูลค่ารวม 14,000 ล้านบาท ขณะเดียวกัน LPN ยังมุ่งมั่นที่จะส่งมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตที่น่าอยู่ (Livable Living Experience) และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ด้วยการมอบสิทธิพิเศษที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกัน จึงร่วมมือกับ MAAI BY KTC ผู้นำเรื่องคะแนนและสิทธิพิเศษที่ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์มากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ผ่านระบบการใช้คะแนน MAAI  ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าได้สะดวกสบายมากขึ้น และสามารถเลือกใช้บริการที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการ กิน ช้อป เที่ยว หรือความพิเศษต่างๆ

นางสาวอุษณีย์​ เลาหะวรนันท์ ผู้บริหารสูงสุดสายงานสื่อสารการตลาดและธุรกิจ MAAI​ BY KTCเคทีซีหรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า MAAI BY KTC (มาย บาย เคทีซี) คือผู้ให้บริการด้านดิจิตอล ลอยัลตี้ แพลทฟอร์ม (Digital Loyalty Platform) แบบครบวงจรในการบริหารจัดการคะแนนสะสม และสิทธิประโยชน์ด้านไลฟ์สไตล์ ทำให้ MAAI BY KTC สามารถตอบโจทย์ทุกธุรกิจที่มีความต้องการที่แตกต่างกัน ด้วยจุดแข็งของการแลกคะแนนที่มีครอบคลุมกว่า 1,800,000 ร้านค้าทั่วประเทศ สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของ LPN ที่จะต่อยอดและพัฒนาการทำ CRM ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ด้วยระบบดิจิตอล ลอยัลตี้ แพลทฟอร์ม โดยมีคะแนน MAAI เป็นเครื่องมือ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์แตกต่างกัน โดยการมอบคะแนนจะเริ่มต้นตั้งแต่การจอง ผ่อนดาวน์ โอน โครงการต่างๆ และการร่วมกิจกรรมต่างๆ ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย FB : LPN Connect

นอกจากนี้ สำหรับลูกค้าที่จอง และโอนคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่จาก LPN ในระหว่างวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 – วันที่ 20 ธันวาคม 2566 พบกับโปรโมชั่นพิเศษในแคมเปญ จองปั๊ป...รับมาก MAAI รับทันทีคะแนน MAAI สูงสุดถึง 40,000 คะแนน (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด)

สำหรับวิธีการใช้คะเเนน MAAI ลูกค้าสามารถดาวน์โหลด และลงทะเบียนบนแอปพลิเคชัน MAAI BY KTC ซึ่งจะสามารถใช้คะเเนน MAAI ที่ได้รับ นำมาแลกสิทธิพิเศษได้ทุกสิทธิ์ที่มีอยู่บนแอปพลิเคชัน ครอบคลุมทั้งร้านอาหาร /เครื่องดื่ม ช้อปปิ้ง ท่องเที่ยว เติมน้ำมัน และดูหนัง โดยคะแนนที่ได้รับจะมีอายุการใช้งาน 2 ปี

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  MAAI BY KTC โทรศัพท์ 02 123 5678  หรือ https://www.ktc.co.th/maai/crm

บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) หรือ LPN  จัดพิธีส่งมอบของแถม รถยนต์ไฟฟ้า Ora Good Cat 400 Pro ให้กับลูกบ้านที่โอนกรรมสิทธิ์บ้านพักอาศัยโครงการลุมพินี ทาวน์วิลล์ สายไหม 18 – พหลโยธิน ในแคมเปญ “ลดทุกวัน แจกทุกหลัง” ช่วงระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม - 30 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา โดยมี นางสาวเสาวณี อังกูรพิพัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท พรสันติ จำกัด เป็นตัวแทนส่งมอบรถ ณ โชว์รูมรถยนต์ GWM บางบัวทอง เมื่อวันวันที่ 28 ตุลาคม 2566

บริษัทฯขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับของแถม และลูกบ้านทุกท่านที่ได้ให้ความไว้วางใจโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพที่มาพร้อมกับความ #น่าอยู่ ในทุกมิติ เพื่อยกระดับรูปแบบการใช้ชีวิตที่ดีที่สุดมามากกว่า 34 ปี LPN ยังคงยึดมั่นในการให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพสินค้าและบริการ เพื่อส่งมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ความต้องการของทุกไลฟ์สไตล์ในทุกเจเนอเรชัน ตลอดจนเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าทุกคนทั้งในวันนี้และอนาคต สำหรับผู้ที่สนใจโครงการสามารถ ติดตามข่าวสาร และอัพเดทแคมเปญโปรโมชั่นพิเศษต่างๆ ภายใต้แบรนด์ บ้านลุมพินี, เวนู 24, และเฮ้าส์ 24 ผ่านช่องทางออนไลน์ Facebook : Baan Lumpini l บ้านลุมพินี หรือ Line OA @baanlumpini ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

“แอล ดับเบิลยู เอส” คาดผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เร่งเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ในไตรมาสสี่ ปี 2566 โดยคาดว่าจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่าประมาณ 140,000-150,000 ล้านบาท เป็นผลมาจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชะลอแผนการเปิดตัวโครงการในช่วงไตรมาสสาม เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่มีความชัดเจน

นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือบริษัท แอล พี เอ็น ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) กล่าวถึงแนวโน้มการเปิดตัวโครงการใหม่ของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาสสี่ปี 2566 ว่า เนื่องจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองหลังการเลือกตั้งทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชะลอแผนการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยในไตรมาสสามของปี 2566 ทำให้จำนวนโครงการและจำนวนหน่วยเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2565

โดยในเดือน มกราคม-กันยายน 2566 มีจำนวนโครงการเปิดตัวใหม่ในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ทั้งสิ้น 304 โครงการ จำนวน 67,772 หน่วย ลดลง 11% เมื่อเทียบกับจำนวนหน่วยเปิดตัว 76,346 หน่วย ในระยะเดียวกันของปี 2565  คิดเป็นมูลค่าเปิดตัวโครงการใหม่อยู่ที่ 338,655 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากมูลค่าเปิดตัวโครงการ 326,570 ล้านบาท ในระยะเดียวกันของปี 2565 จำนวนหน่วยเปิดตัวลดลงในขณะที่มูลค่าการเปิดตัวสูงขึ้นเนื่องจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ให้ความสำคัญกับการเปิดตัวที่อยู่อาศัยในระดับราคาเกิน 10 ล้านบาทต่อหน่วยเพิ่มขึ้นส่งผลให้มูลค่าการเปิดตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับจำนวนหน่วยเปิดตัวใหม่ที่ลดลง

การเปิดตัวโครงการใหม่ใน 9 เดือนแรกของปี 2566 จำนวน 304 โครงการ 67,772 หน่วย มูลค่า 338,655 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนของโครงการอาคารชุดพักอาศัย 61 โครงการ คิดเป็นจำนวนหน่วยเปิดตัวใหม่ 31,325 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 85,782 ล้านบาท ลดลง 21% และ 11% ตามลำดับเมื่อเทียบกับ จากจำนวนหน่วยเปิดตัว 39,421 หน่วย และมูลค่าเปิดตัว 96,836 ล้านบาท ในระยะเดียวกันของปี 2565 โดยมีอัตราการขาย ณ วันเปิดตัวที่ 27% ลดลงจากอัตราการขาย ณ วันเปิดตัวในระยะเดียวกันของปี 2565 ที่  31% โดยที่ราคาขายเฉลี่ยของอาคารชุดพักอาศัย ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 อยู่ที่ 2.73 ล้านบาทต่อหน่วย เพิ่มขึ้นจากราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยที่ 2.45 ล้านบาท ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565

ในขณะที่การเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 ส่วนที่เหลือเป็นส่วนของการเปิดตัวโครงการบ้านพักอาศัยราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาทจำนวน 164 โครงการ  จำนวน 31,345 หน่วย ลดลง 0.23% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2565 คิดเป็นมูลค่า 130,847 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.18% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2565 ที่มีจำนวนหน่วยเปิดตัว 31,418 หน่วย และมูลค่าเปิดตัว 128,047  ล้านบาท โดยมีอัตราการขาย ณ วันเปิดตัวโครงการที่ 8% ลดลงจากอัตราการขาย ณ วันเปิดตัวที่ 13% ของระยะเดียวกันของปี 2565 โดยมีราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยที่ 4.17 ล้านบาทต่อหน่วยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 เพิ่มขึ้นจากราคาขายเฉลี่ยที่ 4.07 บาทต่อหน่วย ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565  และเป็นการเปิดตัวโครงการบ้านพักอาศัยที่ระดับราคาเกิน 10 ล้านบาท จำนวน  79 โครงการ จำนวน 5,102 หน่วย ลดลง 7.18% เมื่อเทียบกับจำนวนหน่วยเปิดตัว 5,497 หน่วยในระยะเดียวกันของปี 2565 โดยมีมูลค่าการเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 ของบ้านพักอาศัยระดับราคาเกิน 10 ล้านบาทที่ 122,025 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 20% จากมูลค่าการเปิดตัวโครงการที่ 101,687 ล้านบาท โดยมีอัตราการขาย ณ วันเปิดตัวเฉลี่ยที่ 12% ลดลงจากอัตราการขายเฉลี่ยที่ 19% ในระยะเดียวกันของปี 2565 โดยที่ระดับราคาขายเฉลี่ยของบ้านระดับราคาเกิน 10 ล้านบาทอยู่ที่ 24.1 ล้านบาทต่อหน่วย เพิ่มขึ้นจากราคาเฉลี่ยที่ 19.2 ล้านบาทต่อหน่วย ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565

“จากการที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ชะลอแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงไตรมาสสามของปี 2566 ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มที่จะเร่งเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2566 โดยคาดว่าจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวนประมาณ 40,000-41,000 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 140,000-150,000 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นยอดขายและรับรู้รายได้ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี โดยคาดว่าจะเป็นการเปิดตัวโครงการบ้านพักอาศัยในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 70% ของจำนวนหน่วยเปิดตัวใหม่ทั้งหมดในช่วงไตรมาสสี่ของปี 2566 โดยเฉพาะบ้านพักอาศัยที่ระดับราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท ในส่วนของอาคารชุดพักอาศัยคาดว่าจะเปิดตัวประมาณ 30% ของจำนวนหน่วยเปิดตัวใหม่ทั้งหมดที่ระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท” นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าว

จากแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑลของผู้ประกอบการอสังหาฯ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 นายประพันธ์ศักดิ์ คาดว่าจะทำให้ภาพรวมการเปิดตัวโครงการใหม่ของที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลในปี 2566 จะใกล้เคียงกับปี 2565 หรือเติบโตไม่เกิน 5% โดยคาดว่าจะมีจำนวนหน่วยเปิดตัวใหม่ 105,000-108,000 หน่วย คิดเป็นมูลค่าประมาณ 474,000-488,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2565 ที่มีจำนวนการเปิดตัว 103,000 หน่วยคิดเป็นมูลค่า 457,000 ล้านบาท

ดึงอินไซต์จริงจากผู้อยู่อาศัยถ่ายทอดเรื่องราวผ่านภาพยนตร์โฆษณาชุดล่าสุด หวังครองใจลูกค้าทุกเจนเนเรชัน ชมพร้อมกันทั่วโลกแล้ววันนี้

บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) หรือ LPN นำโดย นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ ประธานคณะอนุกรรมการกำกับดูแลกิจการด้านความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม เป็นตัวแทนบริษัทฯ เข้าร่วมพิธีขอบคุณและมอบประกาศนียบัตรเครื่องหมายรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ประจำปี 2566  ซึ่งจัดโดย องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. โดยประเมินผลจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงานและกิจกรรมต่างๆของบริษัทตลอดทั้งปี มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดแนวทางการบริหารจัดการลดการใช้พลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร พร้อมทั้งเป็นการเปิดเผยข้อมูลและรายงานผลการดำเนินงานในมิติด้านสิ่งแวดล้อม ผ่านรายงาน 56-1 One Report อันเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนในการนำข้อมูลมาวิเคราะห์ เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนได้อย่างรอบด้าน และสิ่งสำคัญที่สุดคือการเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนและสนับสนุนนโยบายจากภาครัฐเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และลดอุณหภูมิโลก ตามพันธกิจของบริษัทฯ ซึ่งมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยมี นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน)  เป็นผู้มอบประกาศนียบัตร ณ ห้องอบรม องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) เมื่อวันก่อน

นอกจากนี้ LPN ยังมีแผนการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์อย่างจริงจังและต่อเนื่องในหลายมิติ อาทิ การติดตั้งแผง Solar Cell ที่สำนักงานขายทุกโครงการเพื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้า, ก่อตั้งโครงการ แยก แลก ตัง ร่วมกับ Wake Up Waste เพื่อบริหารจัดการขยะจากต้นทางถึงปลายทาง อีกทั้งยังช่วยสร้างรายได้ให้กับพนักงานจากการขายขยะรีไซเคิล และเข้าร่วมโครงการ Care The Bear และ Care The Whale ซึ่งสนับสนุนโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นต้น

X

Right Click

No right click