แต่จะต้องมีกลยุทธ์เสริมในการทำตลาดควบคู่กันไป เพื่อช่วยให้แบรนด์และสินค้าเป็นที่รู้จัก จนสามารถครองใจผู้บริโภคได้ ซึ่งกลยุทธ์เหล่านี้ผู้ประกอบการบางรายมักจะเก็บเป็นความลับ แต่สำหรับ “แข-รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น” เจ้าของแบรนด์ “บ๊วยรัศมีแข” และ “เบนซ์-ภเดช กันตจินดา” เจ้าของแบรนด์ “น้ำพริกคุณชาย” 2 ผู้ประกอบการ SME แบรนด์ดังใน เซเว่นฯ ได้มาร่วมเปิดกลยุทธ์ปั้นแบรนด์และสร้างสินค้าให้เป็นที่รู้จักแบบหมดเปลือกในงาน “SME ปี 2023 พฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนไป SME ยุคใหม่ต้องเปลี่ยนตาม” ซึ่งจัดโดย สมาคมผู้ดูแลเว็บไซต์และสื่อออนไลน์ไทย และ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)
“บ๊วยรัศมีแข” เมื่อความต้องการพุ่ง ต้องมุ่งโมเดิร์นเทรด
เริ่มเปิดวงเสวนาจากเจ้าของแบรนด์ “บ๊วยรัศมีแข” ที่ต้องขอบอกว่า สินค้าจากแบรนด์นี้เป็นที่รู้จักและขยายตัวอย่างรวดเร็ว เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น โดย รัศมีแข เล่าย้อนความให้ฟังว่า สินค้าเกิดขึ้นในปี 2561 เดินหน้าทำการตลาดจนสร้างชื่อเสียงเป็นที่รู้จักผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ต่างๆ และการบอกต่อของเหล่าเพื่อนดาราในวงการ
“ช่วงแรกแขทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ 100% เพราะคิดว่าพฤติกรรมผู้บริโภคส่วนใหญ่คือ นิยมซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ แต่ปรากฏว่าไม่ใช่ ลูกค้ากว่า 70% ถามว่ามีขายในเซเว่นฯด้วยไหม จากคำถามดังกล่าวนำมาสู่การปรับตัวครั้งใหญ่กับการเดินหน้านำสินค้าเข้าร้านเซเว่นฯ เพื่อกระจายสินค้าสู่มือผู้บริโภคให้ได้กว้างขึ้นและมากขึ้น สินค้าตัวแรกที่วางจำหน่ายคือ บ๊วย 3 รสแบบกระปุก ที่มีวางจำหน่ายในร้านเซเว่นฯ ตามปั๊มน้ำมัน (เฉพาะสาขาที่จำหน่าย)”
แม้จะมีสินค้าวางจำหน่ายในร้านเซเว่นฯ แล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีลูกค้าสอบถามเข้ามาอย่างต่อเนื่องว่า มีวางจำหน่ายในร้านเซเว่นฯทั่วไปด้วยไหม ทำให้ต้องขอเข้ารับคำปรึกษาจากทางเซเว่นฯ ซึ่งก็ได้รับคำแนะนำที่ดีจากทีมที่ปรึกษาของเซเว่นฯ ทั้งด้านการปรับเปลี่ยนแพ็กเก็จจิ้งและการเพิ่มสินค้าใหม่ ให้สอดรับกับกลุ่มลูกค้าของเซเว่นฯที่ชอบความสะดวกสบาย และความแปลกใหม่อยู่เสมอ จนได้ออกมาเป็น “บ๊วยรัศมีแข” ในรูปแบบซองที่จะวางจำหน่ายเร็วๆนี้ในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ทั่วประเทศ
“ช่องทางโซเซียลมีเดียทำให้ทุกคนมีตลาด ที่เป็นของตัวเองอยู่แล้ว แขว่ามันเป็นเรื่องราวดีๆที่คนคนหนึ่งจะสร้างผลิตภัณฑ์หรือรายได้ขึ้นมา แขเชื่อว่าจะต้องมีไอเดียใหม่ๆ ผลิตภัณฑ์ใหม่เกิดขึ้นเสมอ แต่อีกช่องทางหนึ่งที่ลืมไม่ได้เมื่อสินค้าเป็นที่รู้จักแล้ว และเป็นที่ต้องการของตลาด ช่องทางโมเดิร์นเทรด ก็เป็นช่องทางที่สำคัญ ทำให้ผู้บริโภคเกิดความสะดวกสบายและง่ายต่อการซื้อหา แต่การเข้าโมเดิร์นเทรดเราต้องมีความพร้อมในทุกด้าน โดยเฉพาะการผลิต การสต๊อกสินค้า เพราะเมื่อไหร่ที่สินค้าวางจำหน่าย มีการโฆษณา ทำตลาดไปแล้ว และมีความต้องการซื้อ เราต้องผลิตให้เพียงพอ ถ้าคนซื้อไปหาซื้อแล้วบอกว่าไม่มีขาย หาซื้อไม่ได้ สิ่งที่เราทำการตลาดไปก็จะเป็นดาบสองคมกลับมาหาเรา” รัศมีแข กล่าวฝากทิ้งท้ายถึงผู้ประกอบการ
“น้ำพริกคุณชาย” สู้ศึกคนชอบความสะดวกด้วยแพ็กเก็จจิ้งใหม่
ตลาดน้ำพริกคลุกข้าวเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง การสร้างความแตกต่างให้กับตัวสินค้าจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะความต่างนี้เองจะสร้างการจดจำกลับมายังแบรนด์ของสินค้า เบนซ์-ภเดช เล่าให้ฟังว่า เดิมที “น้ำพริกคุณชาย” ผลิตและจำหน่ายในแบบ B2B และรับจ้างผลิต (OEM) ให้กับกลุ่มธุรกิจอาหารเป็นหลัก ตัวสินค้าจะบรรจุถุงมีขนาดมากกว่าครึ่งกิโลกรัม
แต่เมื่อคิดที่จะทำตลาดโมเดิร์นเทรด ซึ่งเป็นตลาดที่จะช่วยทำให้แบรนด์เติบโตได้อย่างมั่นคงและแข็งแรงในระยะยาว ก็จำเป็นต้องพร้อมในทุกด้าน น้ำพริกคุณชายปรับกระบวนการทำงานใหม่หมด ทั้งระบบหลังบ้านและหน้าบ้าน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยเปลี่ยนจากบรรจุถุงขนาดใหญ่มาเป็นแบบกระปุก 40 กรัมและซองซิปล็อค โดยศึกษาและพัฒนาร่วมกับทีมเซเว่น อีเลฟเว่น เป็นระยะเวลา 6 เดือน จึงได้สินค้าตัวแรกคือ น้ำพริกเห็ดกรอบขี้เมาเจ จำหน่ายในช่วงเทศกาลเจ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มาจนถึงปัจจุบัน
“พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ ชอบความใหม่ ความสะดวกสบาย และเข้าถึงได้ง่าย ดังนั้นเราจึงพัฒนาสิ่งใหม่อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นรสชาติ แพ็กเก็จจิ้ง พร้อมทั้งรักษามาตรฐานของตัวสินค้าไว้ให้ได้ น้ำพริกของเราจึงมีรสชาติกลมกล่อม ไม่เผ็ดโดด หวานโดด แพ็กเก็จจิ้งมีความสะดวก เก็บง่าย ช่วยรักษาคุณภาพสินค้าให้คงเดิม แม้จะทานไม่หมดก็ตาม และในปีที่ผ่านมาเรามีการลงทุนสร้างโรงงานและเครื่องจักรใหม่ เพื่อรองรับการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นจากการเติบโตในตลาดโมเดิร์นเทรด”
การศึกษาตลาดอย่างเข้าใจ เพื่อนำข้อมูลมาพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ถือเป็นหัวใจสำคัญในการเตรียมความพร้อมของธุรกิจให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และยังสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เช่น การปรับปรุงสูตรสินค้า การเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าและสร้างความได้เปรียบให้กับสินค้า