ทั้งอาหารไทย-ขนมไทย-เครื่องดื่ม-ของใช้ เป็น Soft Power ของเมืองไทย รวมกว่า 1,000 รายการ ต่อยอดแคมเปญ “เสน่ห์อาหารไทย ที่ใครๆ ก็หลงรัก” ช่วยส่งเสริมสินค้า SME ไทยดังไกลไปทั่วโลก พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยอุดหนุนสินค้า SME
นายยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ กล่าวว่า เอสเอ็มอี ถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศที่บริษัทตระหนักถึงความสำคัญมาโดยตลอด พร้อมสนับสนุนภายใต้นโยบาย “SME โตไกลไปด้วยกัน” ตามกลยุทธ์ 3 ให้ ประกอบด้วย 1.ให้ช่องทางขาย 2.ให้ความรู้ และ 3.ให้การเชื่อมโยงเครือข่าย ล่าสุด ได้ดึงศิลปินดังระดับโลก “แจ็คสัน หวัง” ผู้ที่หลงรักในความเป็นไทยและอาหารไทย มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ร่วมสนับสนุนสินค้า SME ไทยกว่า 1,000 รายการ ภายใต้ 4 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.อาหารไทย 2.ขนมไทย 3.เครื่องดื่ม และ 4.ของใช้ ให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก
“สินค้า SME ไทยเป็นสินค้าที่มีคุณภาพและมีเอกลักษณ์ไม่แพ้ชาติใดในโลก ถือเป็น Soft Power ที่แข็งแกร่งของประเทศ สิ่งสำคัญที่จะทำให้สินค้า SME ไทยไปต่อได้ คือโอกาสในการได้รับการมองเห็นจากทั้งคนไทยและคนทั่วโลก เซเว่นฯในฐานะหน่วยงานที่ให้การสนับสนุน ส่งเสริมผู้ประกอบการ SME ในทุกมิติ จึงได้ดึง แจ็คสัน หวัง ซึ่งเป็นศิลปินระดับโลกที่มีแฟนคลับเหนียวแน่น มียอดผู้ติดตาม Instagram มากกว่า 31 ล้านคนทั่วโลก และชื่นชอบอาหารไทยมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้า SME ช่วยทำให้สินค้า SME ไทยเป็นที่รู้จักต่อสายตาชาวโลกเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด รองรับโอกาสนักท่องเที่ยวเดินทางกลับมาเที่ยวไทยอย่างเต็มรูปแบบในปีนี้” นายยุทธศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ แคมเปญดังกล่าวถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อน SME ด้านช่องทางขาย ช่วยทำให้ยอดขายของ SME เพิ่มขึ้น เพื่อสร้างรายได้กลับสู่ชุมชน ตามปณิธานของบริษัท “ร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสต่อกัน” และเป็นการต่อยอดจากแคมเปญ “เสน่ห์อาหารไทย ที่ใครๆ ก็หลงรัก” ที่ได้ปล่อยไปแล้วช่วงปลายเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา
นายยุทธศักดิ์ กล่าวอีกว่า เบื้องต้น จะมีการดำเนินการ 4 ด้านภายใต้แคมเปญใหม่นี้ ได้แก่ 1.การติดตั้งป้ายรูปแจ็คสัน หวัง พร้อมข้อความสั้นๆ โปรโมทสินค้า SME เช่น อร่อยมาก, ต้องลอง ตามจุดขายของสินค้า และสื่อสนับสนุนสินค้า SME ที่บริเวณ 7-Eleven SME Shelf ชั้นวางสินค้า SME โดยเฉพาะภายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น 2.เพิ่มจำนวน 7-Eleven SME Shelf อย่างต่อเนื่องเป็น 7,500 สาขา จาก 5,800 สาขาในปัจจุบัน พร้อมทั้งพัฒนา SME Shelf ในบางสาขาให้เหมาะกับแต่ละพื้นที่ เช่น สาขา Flagship สาขาสนามบินต่างๆ ให้อยู่ในรูปแบบของ Shelf SME ของฝากและของที่ระลึก 3.ดึงสินค้า SME มาร่วมโปรโมทในโฆษณาชุดต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และ 4.สนับสนุนและส่งเสริม SME ในทุกมิติ ผ่านศูนย์ 7-Eleven สนับสนุน SME ช่วยให้ผู้ประกอบการ SME เข้าถึงแหล่งข้อมูล ความรู้ งานวิจัย ตลอดจนเป็นสื่อกลางในการเชื่อมโยงเครือข่ายพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนในการสร้างการเติบโตให้ SME ไทยเปี่ยมศักยภาพเติบโตในเวทีการค้าโลกได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน
ด้าน นายก้องปพัฒน์ เรืองจินดาชัยกิจ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ เอช แอนด์ สโนว์ กรุ๊ป จำกัด SME คู่ค้าสำคัญของเซเว่น อีเลฟเว่น มากว่า 10 ปี ที่เติบโตจากแบรนด์ “แม่สุนีย์ ขนมไทย” ปัจจุบันผันตัวมาผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ EZY SWEET กล่าวว่า ปัจจุบัน ผลิตสินค้าขนมถ้วย ขนมตาล กล้วยปิ้ง วางจำหน่ายใน 7-Eleven และมีความยินดีอย่างยิ่งที่เป็นหนึ่งในสินค้ากว่า 1,000 รายการที่ได้เข้าร่วมแคมเปญนี้ เชื่อมั่นว่าผู้ประกอบการที่ได้เข้าร่วมแคมเปญจะได้รับประโยชน์อย่างแน่นอน เพราะแจ็คสัน หวัง เป็นศิลปินที่มีชื่อเสียง และชื่นชอบในขนมไทย ขณะที่ขนมไทยเองก็มีเอกลักษณ์ในความเป็นไทย ดังนั้นการได้พรีเซ็นเตอร์ระดับโลกมาช่วยโปรโมตสินค้าไทยจะทำให้ SME ที่ผลิตสินค้าจำหน่ายในเซเว่นฯ มีโอกาสการขายที่ยั่งยืน และพร้อมส่งต่อความยั่งยืนสู่ชุมชน
“สินค้าของเราเป็นสินค้าที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นเป็นหลัก และนำมาผ่านกระบวนการต่างๆ เพื่อให้ได้รสชาติดั้งเดิม ตามมาตรฐานของเซเว่นฯ เพราะการจะนำสินค้าเข้าจำหน่ายในร้านเซเว่นฯได้นั้น จะต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานอย่างเข้มงวดในระดับสากล ดังนั้นการได้ขายสินค้าในร้านเซเว่นฯ จึงเป็นเครื่องช่วยการันตีถึงคุณภาพสินค้าของเราว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน” นายก้องปพัฒน์ กล่าว
นายภาณุวัฒก์ เงินศรีสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีทีวาย ฟู้ด จำกัด SME ผู้ผลิตขนมไทย ภายใต้แบรนด์ “บ้านทองหยอด” และเป็นที่รู้จักมากว่า 40 ปี กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจอย่างมากที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในแคมแปญนี้ เพราะแคมเปญนี้เป็นแคมเปญใหญ่ที่มีพรีเซนเตอร์ระดับโลกมาช่วยโปรโมตให้ SME ที่เข้าร่วมแคมเปญ เพราะเซเว่นฯมีช่องทางการจำหน่ายทั่วประเทศ ที่ช่วยกระจายสินค้าเอสเอ็มอีไปทั่วทุกชุมชน ทำให้หาซื้อได้ง่าย ดังนั้นจึงเป็นช่องทางที่ช่วยให้เอสเอ็มอีเติบโตได้อย่างยั่งยืน