ปัจจุบัน อ้อม ทำงานอยู่ที่ โตโย บิซิเนส ในตำแหน่ง ผู้จัดการฝ่ายการเงิน แต่ก่อนที่จะได้มาทำงานที่นี่ เธอมีดีกรีเป็นถึงนักเรียนนอก ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก ABAC และไปเรียนต่อในระดับปริญญาโทที่ University of Wales Institute, Cardiff UK ในสาขา Major International Business Management หรือ IBM 

“ที่เลือกเรียนสาขานี้ เพราะได้ทราบข้อมูลมาว่า มหาวิทยาลัยที่จะไปเรียนมีเปิดสอนในหลักสูตร IBM ที่เน้นหนักไปในการเรียนรู้เกี่ยวกับการทำธุรกิจนำเข้า ส่งออก ซึ่งเป็นสาขาวิชาที่แตกต่างไปจากตอนที่เรียนในระดับปริญญาตรี เลยตัดสินใจเลือกเรียนเพื่อเป็นการต่อยอดความรู้ให้ตัวเองด้วย โดยการเริ่มเรียนนั่น ต้องบอกว่าอ้อมโชคดีมากที่ตอนเรียนปริญญาตรีได้เรียนที่ ABAC ซึ่งสอนเป็นภาษาอังกฤษอยู่แล้ว และเนื้อหาวิชาพื้นฐานก็ไม่ต่างกับที่ได้เรียนมาตอนปริญญาตรี ทำให้เราคุ้นเคย ไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก และต่อยอดสู่การเรียนรู้ใหม่ๆ ได้เร็ว” 

สำหรับการเรียนการสอนที่นั่น อ้อมเล่าให้ฟังว่า เธอประทับใจวิธีการสอนของอาจารย์ที่ไม่เน้นให้อ่านแต่หนังสืออย่างเดียว แต่จะมอบหมายงานเป็นหัวข้อให้ไปศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองแล้วเอามาส่งเป็นรายงาน โดยในการทำรายงานแต่ละหัวข้อมันบังคับให้อ้อมต้องอ่านและต้องค้นคว้าจากหนังสือไม่ใช่แค่เล่มเดียว แต่เป็นสิบๆ เล่ม เพื่อนำมาทำรายงานส่ง อาจเป็นแค่ 1-2 หน้าเอสี่เท่านั้น แต่ด้วยวิธีนั้น ทำให้เธอได้พัฒนาทักษะและมีความรู้เพิ่มเติมจากการศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเองอย่างมาก ขณะเดียวกัน ยังมีการทำรายงานกลุ่ม ซึ่งช่วยฝึกฝนทักษะการทำงานเป็นทีมให้อ้อมด้วย 

เมื่อเรียนจบและกลับมาประเทศไทย อ้อมก็เริ่มหางานทำ โดยได้ทำงานในบริษัทที่ปรึกษาด้านก่อสร้าง ประมาณ 2 ปี แล้วจึงย้ายมาทำที่โตโย บิซิเนส นี้ ในฝ่ายการเงิน จนถึงตอนนี้อ้อมทำงานที่นี่ได้ 2 ปีแล้ว ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการเงิน ที่มีหน้าที่ต้องควบคุมดูแลการเงิน ทั้งของบริษัทตัวเองและบริษัทลูกค้าหลายๆ บริษัท โดยอ้อมเล่าให้ฟังว่า เธอได้ประยุกต์ใช้ทักษะหลากหลายที่ได้เรียนรู้และร่ำเรียนมากับการทำงานครั้งนี้นี่เอง

“จากที่เรียนมา เป็นองค์ความรู้ด้านบริหารธุรกิจในแนวทางตะวันตก แต่เมื่อได้มาทำงานในบริษัทญี่ปุ่น ซึ่งใช้แนวคิดบริหารแบบตะวันออก ทักษะหลักที่ต้องใช้คือการปรับตัว ซึ่งโชคดีที่อ้อมได้เรียนรู้การปรับตัวเข้ากับเพื่อนจากหลากหลายชาติ หลากหลายวัฒนธรรม มาตั้งแต่เรียนอยู่ที่อังกฤษ พอต้องมาทำงานในองค์กรญี่ปุ่น ก็เลยไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก และที่ผ่านมา อ้อมได้เรียนรู้ว่า วัฒนธรรมองค์กรญี่ปุ่น คือการรวมกัน ความสามัคคีกัน ช่วยเหลือกันในการทำงาน โดยเฉพาะที่โตโย จะเน้นสร้างความรู้สึกร่วมให้กับพนักงานในองค์กร ว่าการทำงานที่นี่ ต้องมีความเสียสละ ทำเพื่อสังคม และดูแลลูกค้าให้ดีที่สุด ซึ่งเจ้านายจะสอน ให้ข้อคิดพนักงานอยู่เสมอเกี่ยวกับ ความกตัญญู ความอดทน ตรงต่อเวลา รวมถึงความมีมารยาท เวลาลูกค้าหรือแขกมาก็ต้องลุกขึ้นยืนสวัสดีอย่างจริงใจ ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ทำให้องค์กรนี้น่ารักมากๆ ในความรู้สึกของอ้อม”

ถึงตอนนี้ ได้เวลาชวนอ้อมคุยต่อถึงงาน One Young World Summit 2015 ที่เธอได้ไปเป็นตัวแทนของบริษัท ในการกล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ Global Business Ethic หรือการทำธุรกิจในเชิงจริยธรรมระดับโลก ที่ต้องการสื่อว่า แม้ในโลกธุรกิจที่ทุกองค์กรต้องแข่งขันกัน ก็ต้องแข่งขันกันอย่างมีจริยธรรม มีศีลธรรม ให้ตระหนักไว้เสมอว่าเป็นคุณธรรมในการทำธุรกิจร่วมกัน โดยอ้อมบอกว่า หัวข้อในการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้เป็นแนวคิดที่ผู้บริหารของ โตโย บิซิเนส นำโดย ฮิเดโตชิ อุเมกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัท แนะนำให้เตรียมไปพูด เพื่อสื่อสารให้กับภายนอกได้เข้าใจ ถึงหลักการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนที่ โตโย บิซิเนส ยึดมั่น

“เพราะการทำธุรกิจไม่จำเป็นต้องมุ่งแต่จะทำผลกำไรให้บริษัทอย่างเดียว แม้ว่าผลลัพธ์ของการทำธุรกิจที่ทุกธุรกิจคาดหวังก็คือกำไร หากแต่อยากให้ทุกองค์กรมองในจุดประสงค์ของการทำธุรกิจ ไม่ได้มองแต่ผลลัพธ์ที่เป็นกำไรแต่อย่างเดียว ต้องคิดถึงการตอบแทนคืนกลับให้สังคมด้วย อ้อมเชื่อว่า คนเราทุกคนมีความโลภ แต่จะมากหรือจะน้อย แสดงออกได้จากเจตนาและการกระทำของตนเอง ถ้าเพียงแค่ในการทำอะไรก็แล้วแต่ เรารู้จักคำว่า พอเพียง อ้อมเชื่อว่าความสงบสุขมันจะเกิดขึ้นได้ทุกหนทุกแห่ง เกิดได้แม้แต่ในแวดวงธุรกิจที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด”

และเมื่อถามถึงความรู้สึกที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของงาน One Young World Summit 2015 อ้อมกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า เป็นความประทับใจและภาคภูมิใจมาก และจากงานนี้เธอได้มีโอกาสทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่มากมายจากทั่วโลก ได้ฟังแนวคิด มุมมองของเพื่อนแต่ละคน ซึ่งแตกต่างออกไป นับเป็นทัศนคติใหม่ๆ ที่น่าสนใจและสามารถนำมาปรับใช้ให้เป็นประโยชน์ในการดำเนินชีวิตได้ไม่ยาก